บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: นักเลงกลอน ที่ 02, ตุลาคม, 2561, 07:03:01 PM



หัวข้อ: ดูไปแล้ว ต้องคิด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 02, ตุลาคม, 2561, 07:03:01 PM


https://www.youtube.com/watch?v=Y4mj2PUws3s


การบรรยายพิเศษสุดฮา โดย "ผู้ช่วยศาสตราจารย์เกียรติศักดิ์ รักษาสัตย์" ณ ม.ราชภัฏนครราชสีมา


คำโบราณเขาผูกไว้ว่า

"สองคนยลตามช่อง  คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม
อีกคนตาแหลมคม    มองเห็นดาวสกาวตา"



กลอนนี้พูดถึงคนสองคนที่มองในจุดเดียวกัน  แต่คนหนึ่งมองเห็นแค่โคลนตม

ส่วนอีกคนกลับมองเห็นภาพเงาสะท้อนของดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า

ประโยคที่ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคนหลังฉลาดกว่าคนแรกก็คือประโยคว่า"อีกคนตาแหลมคม"

ซึ่งถ้าคนหลงเชื่อในประโยคนี้จนคิดว่าคนแรกคือคือโง่ หรือคิดอะไรไม่รอบคอบละก็

คุณก็จะกลายเป็นบุคคลแรกในกลอนนี้ทันที....    :a016:

เพราะอะไร  ?  เพราะที่แท้จริงแล้วคนแรกไม่ได้แย่อย่างที่คิด   การมองเห็นโคลนตม

คือการมองเห็นความจริงที่เกิดอยู่ตรงหน้า  โคลนตมเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง  อยู่ใกล้ตัว และเอื้อมมือสัมผัสได้

หยิบจับขึ้นมาได้   หากลุยลงไป ย่อมเลอะเทอเปรอะเปื้อนได้จริง

ในขณะที่ภาพสะท้อนของดวงดาวมันก็มีอยู่จริงเหมือนกัน  แต่ทว่ามันเป็นสิ่งที่ไกลตัวจนเกินไป

จับต้องไม่ได้  สัมผัสไม่ได้เลย  เป็นเหมือนเพียงภาพมายาฉากหนึ่งเท่านั้น

ถ้าในชีวิตจริง คุณมองเห็นแต่สิ่งไกลตัวจนเกินไป จับต้องไม่ได้  สัมผัสไม่ได้

คุณย่อมกลายเป็นคนที่เห็นแต่เพียงภาพมายา  ไม่เห็นความจริงของชีวิตท่เกิดขึ้นจริงๆ

ดังนั้น หากคนเชื่อตามบทกลอนว่า  คนแรกไม่ลึกซึ้ง  ส่วนคนหลังคือคนที่ลึกซึ้ง

คุณก็จะกลายเป็นคนแรกในบทกลอนทันที เพราะถูกประโยคที่ว่า"อีกคนตาแหลมคม"นั้นหลอกให้เชื่อ

กลายเป็นคนที่มองอะไรง่ายๆ  บทกลอนบอกยังไงก็เชื่อไปตามนั้น  ไม่คิดย้อนกลับให้ลึกซึ้ง...

สรูป  บทกลอนนี้ สะท้อนตัวตนของผู้อ่านได้ด้วย  

บทกลอนนี้ก็เหมือนกับโคลนตมนั่นเอง

อ่านแล้วเชื่อทันที  ก็จะเหมือนกับคนแรก  แค่เชื่อในสิ่งที่ตาเห็น หรือเชื่อในสิ่งที่เขาบอก

อ่านแล้วคิดย้อนกลับ  ก็จะเหมือนกับคนที่สอง  ที่ไม่เชื่อแค่สิ่งที่เห็น หรือแค่ที่เขาบอกเท่านั้น








หัวข้อ: Re: ดูไปแล้ว ต้องคิด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 03, ตุลาคม, 2561, 05:38:19 PM


https://www.youtube.com/watch?v=3sOy7kuAYII


ร่างทรงพระแม่กวนอิม  ปางปราบบีฟักโกสต์    :a016:



"เรื่องราวอิทธิปาฏีหาริย์นั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรจะนำมาโอ้อวด

เพราะว่า  คนที่เชื่อก็จะหลงเชื่อแบบงมงายไม่ลืมหูลืมตา

คนที่ไม่เชื่อ ก็จะเยาะเย้ยถากถาง  ท้าทายให้พิสูจน์

ครั้นเมื่อพิสูจน์ไม่ได้  ก็กลายเป็นการโกหกหลอกลวง

ถูกกล่าวหาว่า อยากเด่น อยากดัง

เมื่อใดก็ตาม  ที่มนุษย์มองปาฏีหาริย์เป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนเช่นการกดรีโมททีวี

เมื่อนั้น ปาฏีหาริย์ก็สมควรนำมากล่าวได้ เพราะแสดงให้เห็นว่า มนุษย์นั้น เป็นผู้เจริญแล้ว"










หัวข้อ: Re: ดูไปแล้ว ต้องคิด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 04, ตุลาคม, 2561, 12:47:59 PM



https://www.youtube.com/watch?v=jWGWFG5Z2ho

สวยผู้หญิงอาย! หมอทอฟฟี่ นายแพทย์สุดสวย ผอ ร พ


ภายหลังจากที่ทำการผ่าตัดแปลงเพศเรียบร้อยแล้ว คุณหมอเขาอาจจะไปฝึกคัมภีร์ทานตะวันด้วย  

กลายเป็น ตงฟางตุ๊ดป้าย  เดชคัมภีร์เทวดา
:020:



ละทิ้งความเป็นชายไป  เพื่อกลายเป็นผู้หญิง  เสร็จก็มาหลงรักผู้ชายซึ่งเป็นเพศที่ตนเองละทิ้งอีก

เหตุใดจึงไม่เอาจุดเริ่มต้นและจุดปลายทางมาไว้ในที่เดียวกัน

ในเมื่อชอบผู้ชาย ก็ได่อยู่ในร่างผู้ชายแล้วไง   เหตุใดจึงละทิ้ง




หัวข้อ: Re: ดูไปแล้ว ต้องคิด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 06, ตุลาคม, 2561, 01:58:24 AM


https://www.youtube.com/watch?v=oQhZz3bRdwQ

กรรมตามสนอง! เอาผิดเจ้าของห้องและผู้เช่าคอนโดหรู จ่อโดนไล่ออกนอกประเทศ เซ่นร้องเรียนวัดตีระฆัง

ดูข่าวนี้แล้วนึกถึงคำพูดในภาพยนต์เเรื่องฟงอวิ๋น  ธุลีดินกล่าวเอาไว้ว่า

"มีกำลังอย่าใช้หมด  ไล่หมาอย่าจนตรอก   หากหนทางสิ้นวาสนาจะสิ้นตาม"

เราไม่ว่าจะชาวพุทธหรือสาสนาใดๆก็ตาม อย่าคิดว่า เมื่อมีกฏหมายคอยให้ท้ายแล้ว

จะทำอะไรก้ได้ทั้งหมด โดยที่ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของคนอื่น แม้จะเป็นเพียงเสียงส่วนน้อยก็ตาม

เพราะการที่เราทำอะไรที่สุดๆจนเกินไป อาจเกิดปฏิกริยาสะท้อนกลับ

เหมือนเช่นวันนี้ กฏหมายอาจอยู่ข้างเรา   แต่พรุ่งนี้จะมีใครรับรองได้ว่า จะไม่มีการแก้กฏหมายใหม่

้เพื่อบังคัะบให้วัดวาต่างๆ ต้องตีระฆังอย่างแผ่วเบาเพื่ไม่ให้ไปรบกวนชาวบ้าน

หรือชุมชนใกล้วัด  เมื่อถึงวันนั้น เราจะมาโอดโอยก็คงไม่ได้แล้ว ที่สำคัญคือ

ยุคนี้ อะไรๆก็สามารถมาเกิดขึ้นได้ง่าย  ประเด็นน้ำผึ้งหยดเดียวจึงไม่สมควร

ทำให้มันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต  ทุกฝ่ายควรอยู่ด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย

มีความเมตตา และเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน  ยอมถอยกันคนละก้าว

ดีกว่า จะชนกันให้ย่อยยับลงไปข้างหนึ่ง