บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: rattanatrai rattanajan ที่ 27, พฤศจิกายน, 2561, 10:45:26 AM



หัวข้อ: ครอบครัวของผมโดยสังเขป
เริ่มหัวข้อโดย: rattanatrai rattanajan ที่ 27, พฤศจิกายน, 2561, 10:45:26 AM
(https://i.ibb.co/CH6yDPg/2.jpg) (https://imgbb.com/)

เป็นเวลานานพอสมควรที่ผมไม่ได้เข้าเยี่ยมเยียน บ้านกลอนน้อย เพราะมีปัญหามากมายที่ประดังเข้ามา เป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ผมยังมีอายุน้อยๆอยู่ ตอนผมอายุยังน้อยอยู่ผมพบเจอกับอะไรบ้าง ผมจะเล่าให้อ่านพอเป็นสังเขป โปรดติดตามอ่านได้นะครับ

ครอบครัวของผมโดยสังเขป

นายรุ่ง รัตน์จันทร์ (สุกลเดิมรัตนจันทร์) แต่งงานกับนางจ้อย มาจุรินทร์ (หลังจากจดทะเบียนกันนางจ้อยก็มาใช้นามสกุลรัตน์จันทร์ตามสามี) ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ยากจน นายรุ่งเองก็เดินอยู่บนเส้นทางของนักเลงอันธพาล อุกปล้น วัวควายชาวบ้านอยู่เนืองๆ นายรุ่งมักจะทุบตีนางจ้อยให้ได้รับความเจ็บปวดอยู่เป็นประจำ นางจ้อยจะเป็นผู้รองรับอารมณ์ของนายรุ่งอยู่เสมอๆ ท้ายที่สุดเมื่ออายุได้ ๕๗ ปีนายรุ่งก็โดนพวกนักเลงอันธพาลด้วยกันฆ่าตาย ครอบครัวนี้ มีลูกด้วยกัน ๖ คน ใช้สกุล “รัตน์จันทร์” ทั้งหมด

คนที่ ๑ ชื่อสุวรรณ เสียชีวิตตอนอายุได้ ๗ ขวบ

คนที่ ๒ ชื่อร่วม ตัวข้าพเจ้าเอง ตอนหลังมาเปลี่ยนชื่อเป็น รัตนตรัย ซึ่งเป็นคนที่ครอบครัวนี้เกลียดชังมากที่สุดและเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัวนี้มากที่สุด เช่นกัน อายุได้ ๖ ขวบ เริ่มจำความได้มากมาย จะถูกนายรุ่งบังคับให้ทำงานบ้านหลายๆอย่าง ถ้าทำแล้วไม่ได้ดั่งใจ ก็จะโดนเฆี่ยนด้วยไม้กระดูกไก่ (ซึ่งเป็นไม้ที่มีความเหนียวมาก คนสมัยก่อนเขาจะเอาทำคันแร้วดักสัตว์) จนแตกละเอียด แล้วนำโซ่ตรวนที่เป็นเหล็กน้ำหนักไม่น้อยกว่า ๓ กิโล มาผูกล่ามไว้กับคอและล๊อกด้วยกุญแจทองเหลือ แล้วนำไปผูกล่ามไว้กับเสาบ้านซึ่งเป็นใต้ถุน (เป็นบ้านสูงมีใต้ถุน) และจะไม่ให้กินเข้ากินน้ำ และนอนบนพื้นดินโดยไม่มีผ้าห่มคลุมกายสักผืน มีแต่จนกว่าจะพอใจ จึงปลดโซ่ตรวนออกให้ โดยเฉลี่ยแล้วผมได้ถูกกระทำเช่นนี้ เดือนละไม่น้อยกว่า ๒๐ ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี จนอายุผมได้ ๑๖ ปี คืนนั้นนายรุ่งได้ปลดโซ่ตรวนออกให้ ผมขึ้นไปนอนอยู่บนบ้านในที่ๆผมเคยนอน ทุกคนหลับนอนกันอย่างมีความสุข แต่ผมกลับนอนไม่หลับ คิดอะไรๆเสียมากมาย ในที่สุดก็พบกับทางออก คือ ผมต้องไปหาพระที่วัดใดวัดหนึ่ง แต่ด้วยความที่เราไม่เคยออกจากบ้านเราจะไปวัดไหนดีและวัดนั้นอยู่ที่ไหน แต่อย่างไรคืนนี้ก็ต้องไปจากที่นี่ให้ได้ เวลาประมาณ ๐๕.๐๐ นาฬิกาเศษๆ ผมลงจากบ้านโดยมีกางเกงและเสื้อเก่าๆที่ปะแล้วปะอีกทั้งใส่ทำงานใส่นุ่งนอน เพราะมีอยู่ชุดเดียว ผมเดินทางฝ่าความมืดไปยังสถานีรถไฟพรุใหญ่และไปลงรถไฟที่สถานีนาป้อ เวลาเช้าพอดี ผมจึงเดินไปถามชาวบ้านแถวนั้นว่า “แถวนี้มีวัดที่ไหนบ้าง” ชาวบ้านแถวนั้นเขาก็บอกให้ ผมเดินทางไปถึงวัด ชื่อว่า “วัดสาลิการาม” ผมไปถึงพระกำลังฉันข้าวเช้าอยู่ ผมเดินไปนั่งอยู่ที่บันไดศาลาที่พระฉันข้าว มีพระมีพระและสามเณรหลายองค์ชำเลืองดูผม พระสามเณรฉันข้าวเสร็จก็เดินกลับกุฏิไป มีพระแก่ๆองค์หนึ่งเดินมาทีผมนั่งและถามว่า “มาจากไหน” ผมก็บอกตามตรงท่านบอกว่าไปกินข้าสิ กินเสร็จล้างบาตรเอาไปไว้ที่กุฏิด้วย กินข้าวเสร็จก็ไปหาท่านๆถามผมก็เล่าให้ฟัง จนในที่สุดท่านก็ให้ผมเรียนบวช ๑ เดือนต่อมาผมก็ได้อุปสมบทเป็นสามเณร ความทุกข์ของผมก็หมดไป

คนที่ ๓ ชื่อจรูญ ซึ่งเป็นคนพิเศษของครอบครัวนี้ดูแลเอาอกเอาใจทุกอย่างยิ่งกว่าไข่ในหิน เลี้ยง วัว ควาย หมู ไก่ เป็นของจรูญทั้งหมด ถึงเวลากินข้าวทีไรนายรุ่งจะพูดว่า “ถ้าไม่มีควายของจรูญ ทุกคนจะไม่มีข้าวกิน” วันไหนขายหมู ขายไก่ได้ ก็จะบอกเป็นเงินจรูญ “ที่ได้ซื้อกินอยู่ทุกวันนี้ถ้าไม่มี หมู ไก่ ของจรูญ ก็อดตายกันหมดแล้ว” นั้นเป็นคำพูดของนายรุ่ง

คนที่ ๔ ชื่อ ชรา ตอนหลังเป็นชื่อเป็น “ธัญวลัย” เป็นลูกผู้หญิงและไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวนี้เท่าใดนัก

คนที่ ๕ ชื่อ จรึก เป็นที่โปรดปรานของครอบครัวนี้มาก จรึกคนเจ้าเล่ห์ เพทุบาย ฉ้อโกง ทุกอย่างถ้ามีโอกาส เลือกทหารจับได้ใบแดง แต่ไม่ได้รับราชการทหหาร

คนที่ ๖ ชื่อ วันดี ตอนหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “วิศวดี” เป็นลูกคนเล็กที่รักใคร่ของของครอบครัวนี้มาก เป็นคนเจ้าเล่ห์ เพทุบาย เหมือนกับจรึก นายรุ่งเองก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ เพทุบายเหมือนกับลูกๆ ๒ คนนี้ นางจ้อยกับนายรุ่งออกไปทำไร่ทำนาผมช่วยไถนา คลาดนา อยู่บ้านก็ต้อง ตำข้าว (ตำด้วยครก) หุงข้าว ทำแกง เลี้ยวน้อง ๒ คนด้วย จรึกกับวันดีแทบจะไม่มีเวลาได้พักผ่อนเลย ถ้าน้อง ๒ คนนี้ไปวิ่งซนจนหกล้มตะลอกปอกเปิด คนที่รับกรรมคือผม จะต้องถูกเฆี่ยนและล่ามคอด้วยโซ่ตรวนเหมือนเช่นเดิมและให้อดข้าวอดน้ำด้วย ถ้าผมไม่ต้องการเจ็บตัวก็ต้องดูแลน้อง ๒ คนนี้อย่างไม่คลาดสายตาทั้งที่ต้องทำไร่ทำนาและทำงานบ้านไปด้วย ต่อมาเมื่อวันดีอายุได้ ๑ ขวบกว่าๆ นางจ้อยถูกนายรุ่งทำร้ายร่างกายจนต้องหนีออกจากบ้านพร้อมกับวันดีและนางจ้อยได้ชวนผมไปด้วย โดยไปอาศัยอยู่กับญาติที่ชื่อนางคิ่น ที่ตำบลบางหมาก นางจ้อยและผมตั้งไปรับจ้างกรีดยางพารา เพื่อหาเงินมาเลี้ยงวันดี ผมต้องทำงานทั้งกลางวันกลางคืนๆกรีดยางกลางวันเก็บผักที่ขึ้นตามธรรมชาติไปขาย เพื่อวันดีคนเดียวเพราะเขายังเล็ก ต้องกินนมด้วยและก็ต้องดูแลวันดี ด้วยการ อาบน้ำ ป้อนข้าว ทุกอย่างยิ่งไปกว่าแม่ของวันดีเสียอีก ในเวลาต่อมานายรุ่งก็ไปหานางจ้อยและขอร้องให้กลับมาอยู่ด้วยกันและรับปากว่าจะไม่มีพฤติกรรมเดิมอีกแล้ว นางจ้อย วันดี ผม ก็เดินทางกลับบ้าน เมื่อมาถึงผมก็โดนจนได้ โดยนายรุ่งกล่าวหาว่าผมเป็นคนออกอุบายให้นางจ้อยหนีออกจากบ้าน ผมต้องถูกเฆี่ยนและโดนล่ามคอโดยโซ่ตรวนอีกครั้ง จนผมต้องออกจากบ้านไปบวชเป็นสามเณร และตอนนี้ได้เกิดปัญหาเรื่องมรดก จรึกกับวันดี (วิศวดี) ตามล่าตัวผมอยู่ โดยให้คนดักทำร้าย จนผมต้องหนีไปอยู่จังหวัดสุพรรณบุรี และแจ้งความตำรวจว่าผมค้ายาเสพติด จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาค้นบ้านผมหลายนาย และตอนนี้หาวิธีการเพื่อจะฆ่าผมให้ตาย วันดีหรือวิศวดีได้แต่งงานกับนายสาคร เขียวสิน บุคคลนี้เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งเรื่องมรดกทั้งหมด ผมเลี้ยงน้องมา ๓ คนจนตัวเป็นเกลียว แต่ท้ายที่สุดผมโดนน้อง ๒ คน เนรคุณผมจนได้ นี้คือครอบครัวของผม ตอนนี้ผมกำลังจะเขียนเกี่ยวกับประวัติของตัวเองอยู่ ท่านที่สนใจจะอ่านประวัติตั้งแต่ผมเกิดมาจนถึงปัจจุบันว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับผมบ้าง รอติดตามอ่านได้ครับ

ผมทำบุญทุกครั้งขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลและตรวจน้ำคว่ำขันขอให้หมดเวรหมดกรรมอย่าได้มีเวรมีกรรมกันไปในทุกๆชาติและขอให้ดวงวิญญานของพวกเขาจงไปสู่สัมปรายภพ สิ่งที่ผมเคย อุ้ม ป้อนน้ำ ป้อนข้าว ดูแลทุกๆอย่าง ผมไม่ขอเป็นบุญคุณใดๆทั้งสิ้น

หมายเหตู:ถ้าหากผมถูกกระทำต่อร่างกาย ไม่ว่าจะถึงแก่กรรมหรือทุพลภาพ ก็ไม่ต้องสงสัยบุคคลอื่นๆให้เสียเวลา คนที่ปองร้ายผมอยู่มีแค่เพียง ๔ คนเท่านั้น



หัวข้อ: Re: ครอบครัวของผมโดยสังเขป
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 28, พฤศจิกายน, 2561, 12:05:59 PM

เป็นกำลังใจให้นะคะ
ขอพรคุณพระคุ้มครองค่ะ

 :y1:


หัวข้อ: Re: ครอบครัวของผมโดยสังเขป
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 28, พฤศจิกายน, 2561, 03:01:41 PM

ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีครับผม

(https://i.ibb.co/qRv2VP8/558cd45a3a5e9.jpg) (https://imgbb.com/)