หัวข้อ: นักเลงกลอน เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 05, มีนาคม, 2562, 04:17:13 PM นักเลงกลอน เป็นนักเลงหัวร้อนเขียนกลอนรัก ยากยิ่งนักจะหวานซ่านใจสาว มักกระโชกโฮกฮากว๊ากบางคราว เพราะความห้าวเกินขีดรีดออกโชว์ มิใช่คนใจไม้ใส่ระกำ สิ่งที่ทำเปลือกนอกหรอกนะโถ... ไยถือสาหาความลามใหญ่โต คำว่อนโวเพียงแสร้งแสดงไป แต่ตัวจริงนั้นลองมองให้ซึ้ง จะเห็นถึงเรื่องราวที่ขาวใส ว่ามิมีเล่ห์ฉลพ่นพิษภัย ดังที่ใครขานข่าวให้ร้าวราน เป็นนักกลอนหน้าซื่อยึดถือสัตย์ ผลงานมีชี้ชัดบรรทัดฐาน ใช่คนโฉดโหดร้ายคล้ายซาตาน เพียงรักกานท์กาพย์ฉันท์วรรณนา แม้นพูดคุยไม่หวานซ่านรูหู อาจฟังดูเฟ้อฟุ้งมุ่งหรรษา จักมิดีที่ใดไร้มารยา ก็เพียงคนธรรมดาที่บ้ากลอน... สริญ สิริรัฐ :new10: หัวข้อ: Re: นักเลงกลอน เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 06, มีนาคม, 2562, 11:23:03 AM อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว ถึงลับตัวแต่ก็ชื่อขาลือฉาว เป็นอาลักษณ์นักเลงทำเพลงยาว เขมรลาวลือเลื่องถึงเมืองนครฯ ---สุนทรภู่--- จากบทกลอนนี้ แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่สมควรจะได้ชื่อว่า เป็นศิษย์ของสุนทรภู่นั้น ต้องเป็นนักเลง หรือมีนิสัยนักเลงด้วย ต้องห้าว ไม่กลัวใคร(ในเรื่องเจ้าบทเจ้ากลอน) เพราะว่า สุนทรภู่ ท่านระบุชัด ว่าท่านเป็นนักเลง(กลอน) ฉะนั้น ลูกศิษย์ของท่านจึงต้องเป็นนักเลง(กลอน)ตาม :a016: :new10: :048: :048: :048: :055: หัวข้อ: Re: นักเลงกลอน เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 16, พฤษภาคม, 2562, 09:07:34 AM อ้างจาก แม้นพูดคุยไม่หวานซ่านรูหู อาจฟังดูเฟ้อฟุ้งมุ่งหรรษา จักมิดีที่ใดไร้มารยา ก็เพียงคนธรรมดาที่บ้ากลอน... ----------------------------------- หากเลิกบ้าวันไหนไม่บอกกล่าว จะเก็บข้าวเก็บของกองไว้ก่อน อาจไม่มีอำลาให้อาวรณ์ จะจากจรโดยสงบ ไม่รบกวน แต่วันนี้ยังอยู่คู่กับเจ้า กลอนโศกเศร้าโอดโอยยังโหยหวน กลอนทะลึ่งตึงตังยังคร่ำครวญ คงไม่ด่วนเร้นกายหายจากไป. สริญ สิริรัฐ :040 |