บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: เส้นชีวิต ดำเนินไป ที่ 22, มิถุนายน, 2562, 09:32:56 AM



หัวข้อ: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: เส้นชีวิต ดำเนินไป ที่ 22, มิถุนายน, 2562, 09:32:56 AM
(https://i.ibb.co/NSCPr54/1236176508.jpg) (https://imgbb.com/)



ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง

คุณครูถามนักเรียนว่า
"ถ้าเรามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อขนม 3 บาท จะได้รับเงินทอนเท่าไร"

หลายคนอาจมีคำตอบอยู่ในใจแล้วใช่ไหมครับ "คือตอบว่า 7" บาท
และแน่นอนนั้นก็เป็นคำตอบที่ถูกต้อง

แต่มีนักเรียนอยู่ 2 คนที่ตอบไม่เหมือนกับเพื่อนคนอื่น

คือคนหนึ่งตอบว่า "2 บาท" และอีกคนหนึ่งตอบว่า "ไม่ต้องทอน"

1. คำตอบของน้องคนแรกคือ "เงิน 10 บาท เป็นเหรียญห้า 2 เหรียญ
ซื้อขนม 3 บาทให้เหรียญห้า 1 เหรียญ จึงได้เงินทอน 2 บาท"

2. คำตอบของน้องอีกคนคือ "เงิน 10 บาท เป็นเหรียญบาท 10 เหรียญ
ซื้อขนม 3 บาทให้เหรียญบาท 3 เหรียญ ดังนั้นจึงไม่ต้องทอน"

โลกในห้องเรียนกับโลกแห่งความเป็นจริงแตกต่างกัน
โลกในห้องเรียนทุกคำถามส่วนใหญ่มีเพียง 1 คำตอบ
แต่โลกแห่งความเป็นจริง อาจมีมากกว่า 1 คำตอบ

ขอบคุณ "คิดนอกกรอบ"



หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 24, มิถุนายน, 2562, 09:41:12 PM



คำถาม A  ถ้าเรามีเงินอยู่ 10 บาทซื้อขนม 3 บาท เราจะเหลือเงินเท่าไหร่  ?

ก.เหลือ 3 บาท          ข.  เหลือ 5  บาท
ค.เหลือ 7 บาท          ง.  เหลือ 10 บาท


คำถาม B  ถ้าเรามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อขนม 3 บาท เราจะได้รับเงินทอนเท่าไหร่ ?

ก. 1  บาท               ข.  2  บาท
ค. 7  บาท               ง.    ถูกทุกข้อ

ทั้งสองคำถามนี้คล้ายกันมาก  แต่ก็มีต่างกันนิดหน่อย  ทำให้คำตอบที่ถูกต้องต่างกัน
เรื่องนี้ เป็นแง่มุมของภาษา หรือที่เรียกว่า เล่ห์ลิ้น ที่อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ง่ายๆ
เหมือนอย่าง ในหนังไทย ที่ผู้ร้ายจับคนเป็นตัวประกัน
เมื่อตัวประกันให้คนเอาเงินมาให้ โดยขอให้ผู้ร้ายให้สัญญาว่าจะปล่อยตัว
ซึ่งผู้ร้ายก็รับปากว่า ข้าจะปล่อยเอ็ง
แต่พอถึงเวลาที่เอาเงินมาให้จริงๆ ตัวประกันก็ถูกลูกสมุนของผู้ร้ายฆ่าตาย
แล้วผู้ร้ายก็พูดขึ้นว่า ข้าสัญญาว่าจะปล่อยเอ็งจริง แต่ไม่ได้บอกว่า ลูกสมุนข้าจะปล่อยเอ็งไปด้วย
ดังนั้น ข้าจึงไม่ได้เสียสัจจะ
เรื่องการใช้เล่ห์ลิ้น ทำให้เข้าใจผิดเช่น มักมีการใช้บ่อยๆ ในการต่อสู้คดีความกันในศาล
หรือการเขียนสัญญากันต่างๆ  ก่อนเซ็นสัญญาอะไรไปต้องอ่านทบทวนให้ดี
และพิจารณาให้ละเอียดทุกถ่อยคำ มิฉะนั้น อาจจะเสียรู้อื่นได้






หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 25, มิถุนายน, 2562, 01:22:12 AM

ประเด็นคืออะไร กรณีของบทความต้นกระทู้ สื่อถึงอะไร ชัดเจนอยู่แล้ว
ไม่ได้มีสิ่งใดเล่นเล่ห์ลิ้นเคลือบแฝง ไม่ว่าคำตอบไหน ก็ถูกก็ได้ทั้งนั้น
เพราะยืนอยู่บนเหตุผลความจริงที่รับได้ เพราะไม่ได้แฝงเล่ห์ ทั้งผู้ถามและผู้ตอบ
จุดหมายของตัวละครในเรื่อง ผู้ถามและผู้ตอบ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เพียงสื่อถึงวิธีคิดหาคำตอบแต่ละมุมที่เป็นไปได้ทั้งหมดเท่านั้น
เหตุผลของคำถามและนักเรียนสองคนก็ยืนอยู่บนความชัดเจนบนเรื่องราวเหตุผลดังกล่าว
ที่จะสื่อถึงสิ่งที่ต้องการสื่อออกมาในบทความนั้น ๆ ที่สรุปตบท้ายเรื่อง

     แต่ถ้าหากเป็นอีกเรื่องที่ว่า ครูสอนนักเรียนว่า 1+1 = 2 นะ
เพราะการบวกคือการเอามารวมกัน มีอยู่ 1 เอามารวมกับอีก 1 ก็จะได้ 2
     แล้วนักเรียนคนหนึ่งบอกว่า 1+1 ก็เท่ากับ 1 ได้
เพราะว่า อย่างมีกองทราย 1 กอง เอามารวมกับอีก 1 กอง มันก็เป็น 1 ไง
เพราะการบวกคือการเอามารวมกัน

แล้วมาสรุปตบท้ายเรื่องว่า คำถามนี้มีคำตอบมากกว่าหนึ่งคำตอบ ฯลฯ
แบบนี้สิ ที่เรียกว่า การเล่นเล่ห์ทางภาษา เพราะเหตุผลมันไม่ใช่
ถึงแม้สิ่งที่ยกมาจะเป็นจริงก็ตาม (การรวมกองทราย)


เช่นกับบทความคิดเห็นที่คุณนำมาผูกโยงกับบทความข้างต้น
ซึ่งตัวละครในเรื่องแฝงไว้ซึ่งเจตนาร้ายเด่นชัดเจนเพียงในมุมของตนอยู่แล้ว

มันคนละประเด็น  คนละเรื่องกัน
สิ่งที่คุณสื่อมาในเนื้อหา เรื่องราวของโจร  และการต่อสู้ต่าง ๆ ในศาลของคุณนั้น
ว่าคือการเล่นลิ้นเล่นเล่ห์ทางภาษา ก็ถูกต้องตามเนื้อหาที่นำเสนอมา
เพราะแต่ละฝ่ายมุ่งให้ถึงซึ่งเจตนาอันดึงดันของตน (โจรและทนาย)  
เช่นทนาย แม้รู้ว่าลูกความของตนผิด แต่ก็มุ่งแก้ต่างให้ถูกและชนะอยู่แล้ว
โดยงัดทุกเล่ห์กลของช่องว่างต่าง ๆ มาใช้

เพียงแต่การคิดผูกโยงกับเรื่องนักเรียนข้างต้นนี่สิ  ที่มันไม่ใช่ มันเหมือนทุรังเกินไป

การขบเคี้ยวทางความคิดเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องยืนอยู่บนการตรองและการแยกแยะ
เพราะบางสิ่งบางอย่างมันถูกย่อยออกมาให้ชัดเจนง่าย ๆ อยู่แล้ว
มองประเด็น ภาพรวม ของเรื่องราวที่สื่อ มิเพียงจับเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมา
มิฉะนั้นจะกลายเป็นการจับแพะชนแกะไปเรื่อยเท่านั้นเอง


หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 25, มิถุนายน, 2562, 08:00:06 AM

ประเด็นคืออะไร กรณีของบทความต้นกระทู้ สื่อถึงอะไร ชัดเจนอยู่แล้ว
ไม่ได้มีสิ่งใดเล่นเล่ห์ลิ้นเคลือบแฝง ไม่ว่าคำตอบไหน ก็ถูกก็ได้ทั้งนั้น
เพราะยืนอยู่บนเหตุผลความจริงที่รับได้ เพราะไม่ได้แฝงเล่ห์ ทั้งผู้ถามและผู้ตอบ
จุดหมายของตัวละครในเรื่อง ผู้ถามและผู้ตอบ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
เพียงสื่อถึงวิธีคิดหาคำตอบแต่ละมุมที่เป็นไปได้ทั้งหมดเท่านั้น
เหตุผลของคำถามและนักเรียนสองคนก็ยืนอยู่บนความชัดเจนบนเรื่องราวเหตุผลดังกล่าว
ที่จะสื่อถึงสิ่งที่ต้องการสื่อออกมาในบทความนั้น ๆ ที่สรุปตบท้ายเรื่อง

     แต่ถ้าหากเป็นอีกเรื่องที่ว่า ครูสอนนักเรียนว่า 1+1 = 2 นะ
เพราะการบวกคือการเอามารวมกัน มีอยู่ 1 เอามารวมกับอีก 1 ก็จะได้ 2
     แล้วนักเรียนคนหนึ่งบอกว่า 1+1 ก็เท่ากับ 1 ได้
เพราะว่า อย่างมีกองทราย 1 กอง เอามารวมกับอีก 1 กอง มันก็เป็น 1 ไง
เพราะการบวกคือการเอามารวมกัน

แล้วมาสรุปตบท้ายเรื่องว่า คำถามนี้มีคำตอบมากกว่าหนึ่งคำตอบ ฯลฯ
แบบนี้สิ ที่เรียกว่า การเล่นเล่ห์ทางภาษา เพราะเหตุผลมันไม่ใช่
ถึงแม้สิ่งที่ยกมาจะเป็นจริงก็ตาม (การรวมกองทราย)


เช่นกับบทความคิดเห็นที่คุณนำมาผูกโยงกับบทความข้างต้น
ซึ่งตัวละครในเรื่องแฝงไว้ซึ่งเจตนาร้ายเด่นชัดเจนเพียงในมุมของตนอยู่แล้ว

มันคนละประเด็น  คนละเรื่องกัน
สิ่งที่คุณสื่อมาในเนื้อหา เรื่องราวของโจร  และการต่อสู้ต่าง ๆ ในศาลของคุณนั้น
ว่าคือการเล่นลิ้นเล่นเล่ห์ทางภาษา ก็ถูกต้องตามเนื้อหาที่นำเสนอมา
เพราะแต่ละฝ่ายมุ่งให้ถึงซึ่งเจตนาอันดึงดันของตน (โจรและทนาย)  
เช่นทนาย แม้รู้ว่าลูกความของตนผิด แต่ก็มุ่งแก้ต่างให้ถูกและชนะอยู่แล้ว
โดยงัดทุกเล่ห์กลของช่องว่างต่าง ๆ มาใช้

เพียงแต่การคิดผูกโยงกับเรื่องนักเรียนข้างต้นนี่สิ  ที่มันไม่ใช่ มันเหมือนทุรังเกินไป

การขบเคี้ยวทางความคิดเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องยืนอยู่บนการตรองและการแยกแยะ
เพราะบางสิ่งบางอย่างมันถูกย่อยออกมาให้ชัดเจนง่าย ๆ อยู่แล้ว
มองประเด็น ภาพรวม ของเรื่องราวที่สื่อ มิเพียงจับเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งมา
มิฉะนั้นจะกลายเป็นการจับแพะชนแกะไปเรื่อยเท่านั้นเอง



ไม่ทราบว่าคุณ Black Sword เป็นอะไรมากหรือเปล่า
ถ้าหากว่า นี่เป็นกระทู้ของคุณ ผมก็ต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ที่เข้ามาตอบและทำให้คุณเสียอารมณ์
แต่สิ่งที่ผมอยากจะเรียนให้ทราบก็คือว่า
    ๑. ผมไม่ได้มีเจตนาเข้ามาก่อกวน หรือเข้ามาตำหนิติติงใดๆ ทั้งในเนื้อหาของบทความ ทั้งตัวผู้เขียน
        ตลอดถึงตัวเจ้าของกระทู้  ผมไม่ได้นึก และไม่ได้กล่าวตำหนิติเตียนใดๆทั้งสิ้น
    ๒. การที่ผมเข้ามาตอบกระทู้ มีเจตนา เพียงแค่ ต้องการอธิบายให้ผู้อ่านทราบว่า เพราะเหตุไร
        เมื่ออ่านคำถามในกระทู้เป็นครั้งแรก คนส่วนมาก จึงมักจะเลือกตอบว่า ทอนเงิน 7 บาท(ตามความเข้าใจ
        ของผม)  แต่บางที อาจเป็นเพราะผมอธิบายไม่เก่ง พิมพ์ไม่ดี สื่อสารเรื่องราวไม่ดี จึงอาจทำให้
        มีบางคนเข้าใจเจตนาผมผิด

สิ่งที่ผมพยายามจะให้ผู้อ่านเข้าใจก็คือ ตัวคำถามนี้
"ถ้าเรามีเงินอยู่ 10 บาท ซื้อขนม 3 บาท เราจะได้รับเงินทอนเท่าไหร่ ?"
ซึ่งเป็นคำถามที่มีกับดักหรือกลลวงอยู่ถึงสามจุดด้วยกัน(แต่อาจจะเป็นความผิดของผมเอง
ที่ไปเลือกใช้คำว่า เล่ห์ลิ้น)
กลลวงแรกก็คือ"ถ้าเรามีเงินอยู่ 10 บาท" คำพูดนี้ ทำให้คนส่วนมากนึกไปถึงภาพเหรียญ 10 บาททันที
กลลวงที่สอง คือ "ถ้าซื้อขนม 3 บาท"  คำพูดนี้ทำให้คนนึกเรื่องบวกลบคูณหาร แล้วหันไปคิดเรื่องตัวเลข
แทนเรื่องการหยิบเงินส่งให้แม่ค้า เมื่อการซื้อของกลายเป็นการคิดเลข คนก็จะคิดว่าซื้อ 3 ก็เท่ากับลบ 3
เพราะฉะนั้นเงินที่เหลือคือ 7  แทนที่จะไปคิดว่า เราควรจะส่งเงินไปให้แม่ค้าเท่าไหร่ดี  ดังนั้น
ทุกคนจึงมีคำตอบแรก 7 อยู่ก่อนแล้ว
กลลวงที่สามก็คือ "ได้รับเงินทอนเท่าไหร่"  ซึ่งกลลวงนี้เพื่อให้สับสนกับคำว่า"เหลือเงินอยู่เท่าไหร่"
ดังนั้น  คนส่วนใหญ่ที่ยังไม่ทันพิจารณาไตราตรองให้ถ้วนถี่ ระหว่างคำว่า "เหลือเงินอยู่เท่าไหร่"
กับ"ได้รับเงินทอนเท่าไหร่" จึงมักจะตอบว่า 7 บาท
แต่เมื่อย้อนกลับทบทวนคำถามโดยละเอียดจึงจะพบว่า ที่ตอบไปนั้น ยังไม่ใช่

สำหรับคำถามนี้ มันก็เป็นการใช้แง่มุมของภาษานั่นเอง
คำถามนี้ ถ้าเป็นคำถามแบบ อัตนัย การเลือกตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง  ไม่ว่าจะเป็น ทอน 7 บาท
ทอน 2 บาท  หรือไม่ต้องทอน  ก็ถือว่าถูก แต่ไม่ทั้งหมด ถ้าจะให้ถูกทั้งหมด จะต้องยกขึ้นมาอธิบาย
ทีละข้อๆ เพราะเหตุไรจึง ทอน 7 บาท 2 บาท หรือไม่ต้องทอนเลย
แต่ถ้าคำถามนี้เป็นแบบปรนัย การเลือกเพียงข้อใดข้อหนึ่ง จะถือไม่ถูก  เพราะคำตอบที่ถูกต้องคือ ถูกทุกข้อ

จริงๆแล้ว คำถามนี้ มีกับดักกลลวงหรือไม่ คนที่คิดคำถามนี้ขึ้นมานั่นแหละที่รู้ดีที่สุด
แต่ทั้งนี้ ก็ไม่ใช่ว่า ผมจะไปตำหนิติเตียนว่าดีเลวอย่างไร  เป็นแค่เพียงการอธิบายความจริงให้ทราบ
ถ้ายังไม่เข้าใจ หรือยังไม่ถูกใจ หรือยังตีเจตนาเป็นอย่างอื่น ผมก็จนปัญญา .






หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 25, มิถุนายน, 2562, 10:51:24 AM


เรื่องดราม่า ผมจะข้ามไป เอาแต่เรื่องหลัก

พอได้อ่านความเห็นนี้ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกปกติ
และยืนยันในสิ่งที่เขียนไปก่อนหน้านี้ขึ้นอีก

คุณอธิบายยืดยาว ว่า ประเด็นที่ต้องการสื่อคืออย่างนี้อย่างนั้นนะ บลา ๆๆ
เพื่อให้ผมหรือใครเข้าใจยิ่งขึ้น ในสิ่งที่เขียนไปก่อนหน้านี้

แต่ถ้าย้อนไปอ่านความเห็นผมก่อนหน้านี้
จะเห็นว่า ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณต้องการสื่อนะ
(ไม่ว่าจะใช้คำว่าเล่ห์ลิ้น จะกับดัก หรือกลลวงหรืออะไรก็เถอะ)
ยังบอกเลยว่า ตัวอย่างเรื่องโจรหรือทนายที่คุณนำมาประกอบนั้น ใช่อยู่


แต่สิ่งที่ผมสื่อ และก็บอกคุณก่อนหน้านี้คืออะไร
การโยงเรื่องต้นกระทู้มาสู่เรื่องของคุณต่างหาก
ที่มันคนละประเด็นกันเลย ผมว่าเขียนบอกสรุปไปชัดเจนแล้วนะ


และ  ที่ตรงนี้  คุณพยายามอธิบายให้เข้าใจในสิ่งที่คุณสื่อ

แต่  ก่อนหน้านี้

คุณทำความเข้าใจเนื้อหาและประเด็นที่เรื่องราวต้นเรื่องที่เขาต้องการสื่อหรือเปล่า
ว่า เขาสื่ออะไร มันถูกสรุปอยู่ในตอนท้ายอย่างที่บอก ถ้าอ่านจนจบ

ส่วนเรื่องเงิน 10 บาท 7 บาทหรือกี่บาท มันไม่ใช่ประเด็นหลัก
มันเป็นเพียงเรื่องราวที่ถูกนำมาให้ประกอบเห็นภาพเท่านั้น

แต่คุณก็จับตรงนั้นมาเป็นประเด็น
โดยไม่สนใจว่าเนื้อหาของเขา ว่าต้องการสื่ออะไร
โยงเข้ากับอะไรต่ออะไรอย่างที่บอก

... คุณเป็นอะไรมากหรือเปล่า …



หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 25, มิถุนายน, 2562, 12:24:25 PM


เหอะๆๆๆ  เออแน่ะ คนเราหนอ
ข้างบนนั้นก็บอกอยู่ชัดเจนว่า "แต่โลกแห่งความเป็นจริง อาจมีมากกว่า 1 คำตอบ"
แต่พอมีคนแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างก็กลับเป็นฟืนเป็นไฟ  คล้ายกับว่า ในที่แห่งนี้
ใครจะแสดงความคิดเห็นไม่ได้  ขอแนะนำว่า ถ้าไม่ต้องการให้ใครเขาแสดงความคิดเห็น
ก็เขียนหมายเหตุบอกไปเลยว่า "อย่าแสดงความคิดเห็น" หรือไม่เช่นนั้น ก็ล็อกกระทู้ไปเลย
จะได้ไม่มีใครเข้ามาคอมเม้นต์



หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 25, มิถุนายน, 2562, 09:49:28 PM
 :t17:
มาบอกแนะนำเรื่องห้ามแสดงความเห็น
เออะน่ะ ทำเป็นเด็กน้อยงอแงถูกขัดใจดิ้นปั้ด ๆ ไปได้

ระหว่าง ความเห็นต่าง กับ ตะแบง มันต่างกัน

บอกไปแม่บ ๆ เรื่องเนื้อหา เรื่องประเด็น
แล้วจะเห็นคล้อยหรือเห็นต่างก็เป็นอีกเรื่อง

อย่าง ถ้าหากบอกว่า ไม่หรอกนะ เรื่องแบบนี้ขึ้นกับว่า........  ที่แท้ควรเป็นอย่างนี้ ........
หรือ  ไม่ใช่หรอก มันควรมีแค่คำตอบเดียว เพราะว่า........

การคิดต่างถึงจะแย้งไม่เห็นด้วย แต่ก็อยุ่ในประเด็นให้ถกกันได้
และอาจแตกประเด็นไปได้อีกยาวเลย 

แต่ของคุณ คืออะไร ก็อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นนั่นแหละ

ยกคำว่า “โลกแห่งความจริง อาจมีมากกว่า 1 คำตอบ”
แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นประเด็นความเห็นในเรื่องที่ว่าเลย
ไม่ว่าจะเป็น ความเห็นคล้อย หรือ ความเห็นต่าง

เห็นแต่สิ่งที่อธิบายไปข้างต้นน่ะแหละ

แนะนำให้เรียบเรียงสตินะครับ


หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 25, มิถุนายน, 2562, 11:50:42 PM
:t17:
มาบอกแนะนำเรื่องห้ามแสดงความเห็น
เออะน่ะ ทำเป็นเด็กน้อยงอแงถูกขัดใจดิ้นปั้ด ๆ ไปได้

ระหว่าง ความเห็นต่าง กับ ตะแบง มันต่างกัน

บอกไปแม่บ ๆ เรื่องเนื้อหา เรื่องประเด็น
แล้วจะเห็นคล้อยหรือเห็นต่างก็เป็นอีกเรื่อง

อย่าง ถ้าหากบอกว่า ไม่หรอกนะ เรื่องแบบนี้ขึ้นกับว่า........  ที่แท้ควรเป็นอย่างนี้ ........
หรือ  ไม่ใช่หรอก มันควรมีแค่คำตอบเดียว เพราะว่า........

การคิดต่างถึงจะแย้งไม่เห็นด้วย แต่ก็อยุ่ในประเด็นให้ถกกันได้
และอาจแตกประเด็นไปได้อีกยาวเลย  

แต่ของคุณ คืออะไร ก็อย่างที่บอกไปแล้วข้างต้นนั่นแหละ

ยกคำว่า “โลกแห่งความจริง อาจมีมากกว่า 1 คำตอบ”
แต่ที่ผ่านมายังไม่เห็นประเด็นความเห็นในเรื่องที่ว่าเลย
ไม่ว่าจะเป็น ความเห็นคล้อย หรือ ความเห็นต่าง

เห็นแต่สิ่งที่อธิบายไปข้างต้นน่ะแหละ

แนะนำให้เรียบเรียงสตินะครับ


ขอถามตรงๆเลยดีกว่าว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้ของคุณ และคุณมีความประสงค์ ไม่ต้องการให้ใครก็ตาม
เข้ามาแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ใช่หรือไม่ ?  ถ้าใช่ ผมต้องขออภัยเป็นอย่างมาก ที่เข้ามาแสดง
ความคิดเห็นในกระทู้นี้โดย พละการ และไม่ได้รับเชิญ
แต่ถ้าไม่ใช่  ผมคิดว่า ในฐานะที่คุณเป็นระดับผู้บริหารเว็บ  คุณสมควรต้องทบทวนบทบาทของตัวเอง
ในการปฏิบัติต่อสมาชิกคนอื่นๆภายในเว็บหน่อยดีไหม
อีกอย่างหนึ่ง ผมได้เขียนคำขออภัย ไปสองครั้งแล้ว  หวังว่าเรื่องราวคงจะไม่เกิดประเด็นดราม่า
ให้ยืดเยื้อจนเกินไปนะครับ  




หัวข้อ: Re: ถามไป-ตอบมา
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 26, มิถุนายน, 2562, 01:01:45 AM
ตอบคำถามครับ

นี่ไม่ใช่กระทู้ผม
ส่วนเรื่องการแสดงความเห็น ไม่ได้มีการห้าม
ไม่ว่าใครก็แสดงได้ตามปกติครับ
(ไม่งั้นคงล็อคกระทู้หรือบอกห้ามไปแล้ว)

เรื่องบทบาทว่าเป็นผู้บริหารเว็บ  
เพราะเป็นผู้ดูแลและสมาชิกคนหนึ่งไงครับ จึงแสดงความคิดเห็น

ส่วนการปฏิบัติกับสมาชิกในเว็ป
ผมว่า ผมไม่เคยคิดว่าตนเองเป้นผู้บริหารอะไรด้วยซ้ำ
ไม่เฉพาะผม ผู้ดูแลคนอื่น ๆ ก็เช่นกัน
อยู่อย่างคนปกติเหมือน ๆ กับสมาชิกทั่วไป ไม่มีอะไรพิเศษกว่าคนอื่นเลย
ไม่เคยจะวางอำนาจอะไรด้วยซ้ำ

ถ้าสังเกตุ
ที่นี่ ทุกคนอยู่กันอย่างเสมอภาค ไม่มีใครคิดว่าใครเหนือกว่าใคร
เล่นกันอย่างพี่อย่างเพื่อนอย่างน้องมาตลอด

ส่วนในกรณีนี้ ก็ไม่ได้ใช้อำนาจอะไร หรือข่มขี่อย่างไร
การแสดงความเห็น ก็เนื่องด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วเบื้องต้น
แสดงอย่างสมาชิกคนหนึ่ง
 
ลองทบทวนดูครับ