บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: บ้านกลอนน้อยฯ ที่ 14, พฤศจิกายน, 2562, 10:25:15 PM



หัวข้อ: - หลวงพ่อคูณที่เคยได้สัมผัส -
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อยฯ ที่ 14, พฤศจิกายน, 2562, 10:25:15 PM
(http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/0X.jpg) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1236)

- หลวงพ่อคูณที่เคยได้สัมผัส -

          สมัยที่ข้าพเจ้าเป็นพระภิกษุ  มีสมณะศักดิ์เป็นพระปลัดฐานนานุกรมเจ้าคณะอำเภอแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด  ลาออกจากตำแหน่งการบริหารงานคณะสงฆ์เข้ามาอยู่ในสำนักวัดใหม่อมตรส (บางขุนพรหม)  ซึ่งในสำนักวัดนี้  มีพระภิกษุสามเณรจากจังหวัดนครราชสีมาเข้ามาอยู่มาก  เจ้าอาวาสคือ  พระครูบริหารคุณวัตร (ชม)  เป็นชาวอำเภอโนนไทย  มีสหธรรมิก (เพื่อนพระด้วยกัน) องค์หนึ่ง  กำลังมีชื่อเสียงดังในวงการ  “เกจิอาจารย์”  คือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ  เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่  อำเภอด่านขุนทด  ท่านสนิทสนมคุ้นเคย  ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ

          ปี พ.ศ. ๒๕๑๗  ท่านพระครูบริหารคุณวัตร (ชม)  มีโครงการหาเงินเป็นทุนก่อสร้างเสนาสนะสงฆ์วัดใหม่อมตรส  จึงจัดสร้างวัตถุมงคล  เป็นพระผงพิมพ์สมเด็จตามแบบพระสมเด็จบางขุนพรหม  ที่ได้จากกรุของวัดนี้  ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายให้ควบคุมดูแลในการจัดสร้างพระพิมพ์ดังกล่าว  ครั้นจัดสร้างเสร็จแล้วจึงกำหนดทำพิธีพุทธาภิเษกขึ้นในปีเดียวกันนั้น

          ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายจากเจ้าอาวาส  ให้เป็นผู้ปฏิสันถาร (ต้อนรับ) พระเกจิอาจารย์ที่รับนิมนต์มานั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคล  โดยจัดทำพิธีกันในโรงอุโบสถของวัดใหม่อมตรส  มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสนมาเถระ)  สมเด็จพระสังฆราช  วัดราชบพิตร  เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธี  ข้าพเจ้าจัดปูลาดอาสนะให้หลวงปู่โต๊ะ  วัดประดู่ฉิมพลี  กับ หลวงพ่อคูณ  วัดบ้านไร่  นั่งหันหน้าตรงกัน

          สมเด็จพระสังฆราชเสด็จมาประทับนั่งรอจะประกอบพิธีในโรงอุโบสถ  บรรดาพระเกจิอาจารย์เข้านั่งประจำที่เรียบร้อยแล้ว  ยังขาดอยู่แต่หลวงพ่อคูณองค์เดียว  พระครูเจ้าอาวาสให้ข้าพเจ้าไปตามหลวงพ่อคูณที่นั่งดู “มวยตู้”  (มวยไทยทางโทรทัศน์) อยู่องค์เดียว  ข้าพเจ้าเข้าไปกราบเรียนท่านว่า  ได้เวลาทำพิธีพุทธาภิเษก  และสมเด็จพระสังฆราชมานั่งรออยู่แล้ว  ท่านตอบว่า    “เวลาปลุกเสกทำเมื่อไหร่ก็ได้  ใครจะรอคอยกูก็ช่างมัน  กูจะดูมวย “    ว่าแล้วท่านก็นั่งดูมวยต่อไป

          ข้าพเจ้ากลับไปเรียนให้เจ้าอาวาสทราบ  ท่านบอกให้อ้อมไปทางหลังกุฏิเจ้าอาวาส  แล้วปลดสวิสต์ไฟฟ้าให้ไฟในกุฏิดับเสีย  ข้าพเจ้ากลับไปทำตามสั่ง  พอไฟฟ้าดับหลวงพ่อคูณก็ลุกขึ้นห่มจีวร  บ่นว่า    “มันแกล้งกูนี่หว่า”    แล้วเดินลงจากกุฏิเข้าอุโบสถ  ข้าพเจ้านำไปนั่งบนอาสนะที่จัดไว้สำหรับท่าน  พิธีพุทธาภิเษกจึงดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย

          ก่อนกลับวัดบ้านไร่  ข้าพเจ้าเข้าไปกราบขอโทษท่าน  ที่ขัดขวางการดูมวยตู้ของท่าน  ท่านก็มิได้ติดใจเอาความอะไร  ซ้ำยังมอบเหรียญรูปเหมือนของท่านให้ข้าพเจ้าจำนวนหนึ่ง (เต็มกำมือ)  และพูดว่า   “ไปเที่ยววัดกูบ้างเด้อ”

          นี่เป็นการสัมผัสหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ  ครั้งแรกของข้าพเจ้า


          หลังจากนั้นข้าพเจ้าได้ลาสิกขา  ออกมาใช้ชีวิตฆราวาส (เขาว่ากันว่า “หมดบุญ”)  ยึดอาชีพเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์  ทำหน้าที่สื่อข่าวการเมืองและข่าวบันเทิงของหนังสือพิมพ์รายวัน  อยู่จนถึงปลายปี ๒๕๑๙  เกิดพลิกผันในชีวิตหนังสือพิมพ์ที่สังกัดถูกปิด  ตกงานอยู่ระยะหนึ่ง  เพื่อนชักชวนขึ้นไปอยู่จังหวัดสุโขทัย  โดยทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น  และสื่อข่าวให้หนังสือพิมพ์รายวันส่วนกลางหลายฉบับ  และมีครอบครัว  ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่สุโขทัย

          ปี พ.ศ. ๒๕๓๖  โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม  มีอายุครบ ๑๐๐ ปี  ทางศิษย์เก่าและคณาจารย์โรงเรียนมีมติให้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกขึ้น  ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการให้ดำเนินการนิมนต์พระเกจิอาจารย์  และนำแผ่นทองไปขอให้พระเกจิอาจารย์ลงยันต์ปลุกเสกให้  ข้าพเจ้าพาคณะเข้าเฝ้าขอพระฤกษ์พิธีพุทธาภิเษกจากสมเด็จพระญาณสังวร  สมเด็จพระสังฆราช  และอาราธนาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสนเถระ) วัดสระเกศฯ ไปเป็นประธานในพิธี  ท่านเจ้าประคุณเมตตารับอาราธนา  ด้วยความยินดี

          สุดท้ายคณะกรรมการขอ (แกมบังคับ) ให้ข้าพเจ้านำแผ่นทองไปให้หลวงพ่อคูณวัดบ้านไร่  ซึ่งในช่วงเวลานั้นท่านงดรับนิมนต์ไปนั่งปลุกเสกในพิธีทั่วไปแล้ว  ข้าพเจ้าจึงพาคณะกรรมการส่วนหนึ่งเดินทางไป

          วันนั้น  มีคนไปกราบไหว้หลวงพ่อคูณเต็มศาลาวัด  ข้าพเจ้าคิดว่าคงไม่มีโอกาสเข้าถึงตัวหลวงพ่อคูณแล้ว  ขณะที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่กลางศาลานั้น  เห็นหลวงพ่อคูณเดินออกจากกุฏิมองมาในศาลา  แล้วหันกลับไปทางห้องนอน  พูดกับศิษย์ในห้องพร้อมชี้มือมาทางข้าพเจ้า  ศิษย์คนนั้นจึงเดินจากห้องมาหาข้าพเจ้า

           “หลวงพ่อบอกให้ท่านเข้าไปหาที่ห้องครับ”

          ข้าพเจ้าดีใจมาก  จึงชวนประธานกรรมการจัดงานฯ เดินตามเข้าไปด้วย  หลวงพ่อคูณกลับเข้าไปนั่งข้างเตียงนอนของท่าน  ข้าพเจ้ากราบแล้วมองสำรวจดูภายในห้องซึ่งไม่กว้างขวางนัก  มีข้าวของวางเกะกะเต็มไปหมด  เตียงนอนแคบ ๆ ไม่มีฟูกปูนอน  มีมุ้งกางคลุมเตียงไว้

           “เป็นไง ท่านชมสบายดีนิ”

          ท่านถามขึ้นในขณะที่ข้าพเจ้านั่งงงอยู่  คำว่า  ”ท่านชม”  ที่หลวงพ่อถามถึงนั้นหมายถึง   “พระครูบริหารคุณวัตร”   เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส  สหายธรรมของท่าน  ข้าพเจ้าตอบแบบอ้อมแอ้มว่า  สบายดี   แล้วย้อนถามว่า    “หลวงพ่อจำผมได้หรือครับ”   ท่านหัวเราะก่อนตอบว่า   “ได้ซี  กูจำมึงแม่น  เพราะมึงแกล้งปิดทีวี  ไม่ให้กูดูมวย  กูจำหน้ามึงได้  แต่ชื่อกูไม่ได้จำ”

          ข้าพเจ้ากราบลงไปที่หัวเข้าท่านอีกครั้งหนึ่ง    “ต้องกราบขออภัยอีกครั้งหนึ่งนะครับ”    ท่านเอามือลูบหัวข้าพเจ้า จากนั้นก็สนทนากัน  ท่านเป็นฝ่ายซักถาม  เช่นว่า   “มึงสึกไปตั้งแต่เมื่อไหร่  ทำงานอะไร  มีเมีย  มีลูกอย่างไร”

(http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/BJ.jpg) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1237)

          หลังจากสนทนากันพอสมควรแล้ว  ข้าพเจ้าก็เข้าเรื่องที่มาหาท่าน  ท่านรับแผ่นทองไปลงยันต์  เสร็จแล้วปลุกเสกให้ตามต้องการ  และยังบอกว่า   “กูเสียดายที่ไปร่วมพิธีปลุกเสกให้มึงไม่ได้  ขอให้งานสำเร็จด้วยดีเด้อ”

          ใช้เวลาอยู่กับท่านนานเกือบ ๒ ชั่วโมง  จึงกราบลา  ก่อนออกพ้นประตูห้อง  ท่านเอาจีวรครึ่งผื่นยื่นให้    “เอ้ามึงเอาไป”

          ข้าพเจ้าอิดออดไม่รับ  ถามว่า   “เอาไปทำอะไรหรือครับ”   ท่านยิ้มด้วยความเมตตา    “เอาไปเถอะ”    ข้าพเจ้ารับมาด้วยอาการงง ๆ   พอเดินออกมากลางศาลา  คนที่เห็นเหตุการณ์  ก็พากันเข้ามาขอฉีกแบ่งจีวรไป  ข้าพเจ้าจึงยกให้ไปทั้งหมด  บอกให้เขาฉีกแบ่งกันเอาเอง

          และนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสสัมผัสหลวงพ่อคูณ  ปริสุทโธ   มีสมณะศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ  แต่ทำตนเป็นพระหลวงตาธรรมดา  พระผู้เปี่ยมด้วยเมตตา  บำเพ็ญทานบารมีมาตั้งแต่อุปสมบทจนถึงวาระสุดท้ายแห่งชีวิต  ไม่ยึดติดในโลกธรรม

          ขอน้อมส่งท่านไปยังสวรรค์ชั้นพรหมโลกด้วยความเคารพยิ่ง.

เต็ม อภินันท์
๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘ / ๑๒.๑๕ น.