หัวข้อ: - ทำไม ๑๗ มกราคม จึงเป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช - เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อยฯ ที่ 16, มกราคม, 2563, 10:41:02 PM (https://i.ibb.co/0VdgqDW/1024px-201312131040a-HL-ps-Sukothai-King-Ramkhamhaeng-Monument.jpg) (https://imgbb.com/) ภาพนูนต่ำที่แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช แผ่นที่ ๓ "พ่อขุนรามคำแหงชนช้างกับขุนสามชน" - ทำไม ๑๗ มกราคม จึงเป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช - เป็นที่ยอมรับของคนไทยส่วนมากว่า "กรุงสุโขไท" เป็นราชธานีแห่งแรกของคนไทยในดินแดนสุวรรณภูมิ (แหลมทอง) นี้ มีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ในช่วงปีพุทธศักราช ๑๘๐๐-๑๙๘๑ เริ่มตั้งแต่ขุนผาเมืองเจ้าเมืองราดอภิเศกขุนบางกลางท่าว (หรือกลางหาว) ให้ครองนครสุโขไท พร้อมมอบพระขรรค์ชัยศรีและพระนาม "ศรีอินทรปตินทราทิตย์" (ต่อมาเรียกศรีอินทราทิตย์) เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วง กรุงสุโขไทเจริญรุ่งเรืองและดำรงอยู่มาจนถึงรัชสมัยสมเด็จมหาธรรมราชาบรมปาล จึงสิ้นสุดลงโดยถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรีอยุธยา ในช่วงที่กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรือง แล้วเสื่อมสลายลง เกิดกรุงธนบุรี และกรุงเทพมหานครฯ นั้น ความเป็นกรุงสุโขทัยค่อย ๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของคนไทย พระนามของกษัตริย์กรุงสุโขไททุกระองค์ไม่มีใครรู้จักแล้ว คนรุ่นหลัง ๆ รู้จักชื่อสุโขทัยจากนิทานโบราณคดี เช่นเรื่องนางนพมาศ เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เป็นต้น กษัตริย์แห่งสุโขทัยก็รู้จักกันแต่ในนาม "พระร่วงเจ้า "ผู้มีความขลังความศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ไม่มีใครรู้จักพระนาม "พ่อขุนรามคำแหง" หรือ "ขุนรามราช" เลย ต่อเมื่อลุถึงปีพุทธศักราช ๒๓๗๖ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ (ร. ๔) ในขณะดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฏและทรงพระผนวชเป็นภิกษุุอยู่ ณ วัดราชาธิวาส นั้น ได้เสด็จไปมณฑลพิษณุโลก แล้วเลยไปถึงเมืองเก่าสุโขทัย ซึ่งมีสภาพเป็นป่ารกร้าง ทรงพบพระแท่นมนังศิลาบาตร กับหลักศิลาจารึก ถูกทอดทิ้งไว้ในบริเวณโคกปราสาทร้าง จึงนำลงมากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๑๓๗๖ ต่อมาทรงย้ายไปประทับ ณ วัดบวรนิเวศฯ ทรงพยายามอ่านลายสือ (อักษร) บนหลักศิลานั้น จนทรงอ่านได้ความว่า "พ่อกูชื่อศรีอินทราทิตย์ แม่กูชื่อนางเสือง......" ไปจนจบสิ้นทั้ง ๔ ด้านของหลักศิลานั้น มีข้อความสำคัญเกี่ยวกับพระนามของพ่อขุนรามคำแหงปรากฏในบรรทัดที่ ๓- ๑๐ ด้านที่ ๑ ว่า ".....เมื่อกูขึ้นใหญ่ได้สิบเก้าเข้า ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดมาท่เมืองตาก พ่อกูไปรบขุนสามชนหัวซ้าย ขุนสามชนขับมาหัวขวา ขุนสามชนเกลื่อนเข้าไพร่ฟาหน้าใส พ่อกูหนีญญ่ายพายจแจ้น กูบ่อหนี กูขี่ช้างเบกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู กูต่อช้างด้วยขุนสามชน ตนกูพุ่งช้างขุนสามชนตัวชื่อมาสเมืองแพ้ ขุนสามชนพ่ายหนี พ่อกูจึงขึ้นชื่อกู ชื่อพระรามคำแหง เพื่อกููพุ่งช้างขุนสาม....." สรุปความได้ว่า เดิมพระองค์มีพระนามว่า เจ้าราม ครั้นเมื่อรบกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดจนถึงขั้นขนช้างกันแล้ว เจ้ารามชนะ ขุนศรีอินทราทิตย์จึงยกย่องขึ้นเป็น "พระรามคำแหง" ทางจังหวัดสุโขทัยเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้กำหนด "วันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช" ขึ้น ทางรัฐบาลได้มอบหมายให้นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์โบราณคดีช่วยกันค้นหาวันที่เหมาะสม ที่จะกำหนดให้เป็นวันพ่อขุนรามคำแหง นักประวัติศาสตร์โบราณดีค้นหาแล้วไม่พบว่า พ่อขุนรามคำแหงทรงพระราชสมภพวันใด ชนช้างชนะขุนสามชนจนพระพระนามรามคำแหงวันใด ไม่ปรากฏแน่ชัด และสวรรคตวันใดก็ไม่ปรากฏ ทราบแต่เพียงปีพุทธศักราชเท่านั้น จึงลงความเห็นกันว่าให้ถือเอา วันที่่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงพบศิลาจารึกหลักที่ ๑ ซึ่งเป็นจารึกที่ปรากฏพระนาม "รามคำแหง" เป็นครั้งแรก ให้เป็นวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช นั่นคือ ๑๗ มกราคม ของทุกปี นี่คือที่มาของวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระองค์ผู้ทรงเป็นปฐมมหาราชแห่งชาติไทยครับ อภินันท์ นาคเกษม ๑๗ มกราคม ๒๐๑๔ ขอบคุณเจ้าของภาพจาก Internet |