บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 31, กรกฎาคม, 2563, 08:56:42 PM



หัวข้อ: นิทาน : เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 31, กรกฎาคม, 2563, 08:56:42 PM

(https://i.ibb.co/CWRYFn7/Do-Lyiif-Uc-AAKZh-W.jpg) (https://imgbb.com/)

นิทาน : เด็กขายไม้ขีดไฟ
นิทานก่อนนอน

หนาวเหลือเกิน หิมะกำลังตก และราตรีกำลังคืบคลานเข้ามาถึง
วันนี้เป็น วันสุดท้ายของปี วันส่งท้ายปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่
ในความหนาวเยียบเย็น และมืดมัวนั้น ในถนนสายหนึ่งมีผู้คนมากมาย
ออกมาเดินเลือกซื้อของขวัญกันด้วยหน้าตาที่สดชื่น  เพราะวันนี้เป็นคืนวันสิ้นปี

และในท่ามกลางความขวักไขว่ของผู้คนเหล่านั้น
ได้มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เก่าและสกปรกคนหนึ่ง
เดินไปตามถนนสายนั้นเพื่อขายไม้ขีดไฟ  ซึ่งเป็นอาชีพของเธอนั่นเอง
เธอห่อไม้ขีดไฟไว้ในผ้ากันเปื้อน และถือไว้ในมืออีกกำใหญ่

เด็กน้อยเดินตะโกนร้องขายไม้ขีดไฟไปเรื่อย ๆ
" มีใครต้องการไม้ขีดไฟบ้างไหมคะ...ไม้ขีดไฟค่ะ... ไม้ขีดไฟ"

(https://i.ibb.co/XWcFW2z/images-2.jpg) (https://imgbb.com/)

" คุณป้าขา...ช่วยกรุณาเมตตาซื้อไม้ขีดของหนูหน่อยสิคะ "
เธอร้องบอก ขายกับสองแม่ลูกคู่หนึ่งที่เดินผ่านมา
ด้วยหวังว่าสองแม่ลูกคู่นี้ดูท่าทางจะเป็นคนใจดี
ไม่แน่หรอกบางทีเธออาจจะได้รับความเมตตาบ้างก็อาจเป็นได้

" ไม้ขีดไฟที่บ้านมีอยู่แล้วมากมาย...ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที ไม่เอาหรอกจ๊ะ
ลองไปถามขายคนอื่นดูเถอะ "

ไม่มีใครซื้อไม้ขีดจากเธอเลยตลอดทั้งวัน
และไม่มีใครให้ทานเธอเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
หนูน้อยที่น่าสงสารเดินคอตกหนาวสั่นและหิวโหยน่าเวทนายิ่งนัก
เกล็ดหิมะเกาะกรังเป็นปุยอยู่บนผมสีทองยาวสลวยประบ่าของเธอ
แน่นอน แม่หนูไม่ได้คิดอาลัยไยดีในสารรูปของตัวเองเลยสักนิด

เธอพยายามที่จะขายไม้ขีดไฟให้ได้
เพราะถ้าวันนี้เธอขายไม้ขีดไม่ได้เลยสักกำ  หรือไม่ได้เงินเลยแม้สักชิลลิ่งหนึ่งแล้ว
เมื่อกลับบ้านไปโดยมือเปล่า เธอจะต้องถูกพ่อซึ่งเป็นคนขี้เมาตบตีเอาอย่างทารุณ
เด็กหญิงตัวน้อย ๆ คนนี้ จึงพยายามเดินขายไม้ขีดไฟของเธอไปเรื่อย ๆ อย่างใจลอย

(https://i.ibb.co/XpN7LKN/unnamed-32.jpg) (https://imgbb.com/)

และขณะที่เธอกำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งนั้น
ก็ได้มีรถเกวียนแล่นผ่านมาด้วยความเร็วสูง เธอจึงกระโดดหลบ
มันทำให้ร้องเท้าคู่เก่า ๆ ที่เธอใส่มานั้นต้องกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง

เธอตกใจมาก  แต่ก็ร้องห่วงรองเท้าของเธอขึ้นด้วย เสียง อันดังว่า

" โอ๊ะ รองเท้า "

เด็กน้อยผู้น่าสงสารมองตามรองเท้าที่กระเด็นไปนั้นอย่างนึกเสียดาย
เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่รองเท้าคู่เก่า ๆ ที่ใหญ่เกิดขนาดเท้าของเธออย่างมากก็ตาม
แต่มันเป็นรองเท้าของแม่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วของเธอ
และเป็นรองเท้าคู่ที่เธอมีไว้สวมใส่ออกไปข้างนอกในหน้าหนาว
เพื่อประทังความหนาวเย็นให้เพียงคู่เดียวเท่านั้น
แรงกระโดดด้วยความลนลานทำให้รองเท้าข้างหนึ่งกระเด็นหายไปไหนไม่รู้

(https://i.ibb.co/C2zRL2M/small.jpg) (https://imgbb.com/)

ด้วยเหตุนี้ แม่หนูน้อยจึงต้องเดินด้วยเท้าเปล่าที่แดงคล้ำ ช้ำไปเพราะความหนาวไปตามถนน
เธอรวบรวมเก็บไม้ขีดไฟที่ตกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดไปหมดนั้นอย่างเศร้าหมอง

" ไม้ขีดพวกนี้คงจะนำมาขายเป็นสินค้าไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว
นี่ถ้ากลับไปบ้าน  เราจะต้องโดนพ่อดุด่าทุบตีมากมายขนาดไหนนะ "


เธอคิดอย่างเลื่อนลอย แล้วเธอก็ออกเดินต่อไปอย่างไรจุดหมายปลายทาง
เท้าเล็ก ๆ คู่นั้น บอบช้ำจนเขียวเพราะความเย็นของหิมะ
โธ่..เวรกรรมอะไรของเธอนะ  ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเสียเหลือเกิน....

(https://i.ibb.co/D1SXdYw/little-match-girl-2.jpg) (https://imgbb.com/)

มีแสงสว่างส่องออกมาจากหน้าต่างตามบ้านทุกบาน
และมีกลิ่นหอมหวนของห่านอบโชยกรุ่นออกมาสู่ถนน

ใช่สิ  วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่

หนูน้อยพร่ำรำพึงกับตัวเองตลอดเวลา เสียงหัวเราะต่อกระซิก
และเริงร่าอย่างมีความสุขของคนในบ้านเหล่านั้น เรียกร้องให้เธอไปหยุดและแอบมองดู
 
ในที่สุดก็ถึงวันสิ้นปีแล้วสินะ เรื่องนี้ต่างหาก ที่อยู่ในความคิดของเธอ

วูปหนึ่งที่เธอคิดอิจฉาพวกเขาเหล่านั้น
พลันน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอย่างสุดจะกลั้น
มันไหลเป็นทางลงมาเป็นสายไม่ยอมหยุด

เธอนึกถึงแม่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  เพราะเมื่อตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่
แม่ก็มักจะจัดงานเลี้ยงฉลอง และทำอาหารเพื่อขอบคุณพระเจ้าในวันคริสต์มาส
ให้กับเธอและครอบครัวเสมอ  แต่ตอนนี้ไม่มีแม่เสียแล้ว

(https://i.ibb.co/MBpzhff/d5eb988b9bd.jpg) (https://imgbb.com/)

เธอเห็นพวกคนในบ้าน กำลังมอบห่อของขวัญให้กับพวกลูก ๆ ของเขา
เด็ก ๆ รีบแกะห่อของขวัญกันอย่างดีใจ
ช่างน่าอิจฉาความโชคดีของพวกเขาเหล่านั้นเสียเหลือเกิน
เธอแอบมองความสุขของพวกเขาเหล่านั้นอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้
และเธอมารู้สึกตัวเอาก็ต่อเมื่อไฟที่สว่างไสวในบ้านหลังนั้นได้ถูกดับลง
ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพที่เงียบเหงาและเวิ้งว้างอย่างเก่าของมันไปทั่วทั้งบริเวณนั้นอีกครั้งหนึ่ง

(https://i.ibb.co/FghZSN4/18e08b.jpg) (https://imgbb.com/)

หิมะยังคงตกลงมาเป็นระยะ ๆ เด็กหญิงยังคงเดินต่อมาอีกเรื่อย ๆ
และเพราะความหนาวและอ่อนเพลีย เธอจึงเดินไปล้มตัวลงนั่งหลบอยู่ที่บันไดบ้านหลังหนึ่ง
ซึ่งมีชายคายื่นออกมาน้อยนิด  แต่คงพอช่วยที่จะใช้หลบหิมะได้บ้าง

เธอนั่งห่อตัวให้เล็กลง เพื่อหวังจะให้อุ่นขึ้นเพื่อคลายความหนาว
แต่มันก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้เธอหายหนาวได้เลยสักน้อยนิด
เธอไม่กล้ากลับไปที่บ้าน ด้วยเพราะกลัวพ่อมาก
พ่อจะโหดร้ายกับเธอเสมอเวลาที่พ่อเมา  เธอกลัวเหลือเกิน

(https://i.ibb.co/1nw9qhZ/images.jpg) (https://imgbb.com/)

เด็กน้อยหนาวจนสั่นเทาไปทั้งตัว มือของเธอเย็นเฉียบจนเกือบจะเป็นน้ำแข็ง
เธอพยายามหดตัวให้เล็กลงไปอีก แต่เธอก็ยังคงหนาวอยู่อย่างนั้น
เธอไม่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลยจริง ๆ

มือเล็ก ๆ ทั้งสองของแม่หนูเย็นเฉียบชืดชาไปหมดด้วยความหนาวเหน็บ
อา...ไม้ขีดไฟก้านเล็ก ๆ นี้สักก้าน  อาจจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น
หากเธอจะกล้าดึงเอามันออกมาจากมัดเพียงก้านเดียวเท่านั้น
แล้วขีดเข้ากับกำแพง เพื่ออังนิ้วของตัวเองให้อุ่นขึ้น

แล้วในที่สุดแม่หนูน้อยก็ดึงไม้ขีดออกมาหนึ่งก้าน

(https://i.ibb.co/DW05MPh/sdsdgg.jpg) (https://imgbb.com/)

" แชะ "

เกิดประกายวาบ  แล้วก็ลุกโพลงขึ้น
มันเป็นเปลวอันแสนสดใสและอบอุ่นคล้ายดวงเทียนเล่มเล็ก ๆ
หนูน้อยเอามือขึ้นป้องมันไว้ เป็นดวงประทีปที่แสนวิเศษ

(https://i.ibb.co/26s4yGH/unnamed-33.jpg) (https://imgbb.com/)

หนูน้อยเคลิ้มไปว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ที่หน้าเตาผิง
ที่มีประตูและลูกบิดเป็นทองเหลืองขนาดใหญ่
ไฟกำลังลุกโพลง  และแสนจะอบอุ่น

วิเศษ   แม่หนูยื่นเท้าออกไปเพื่อจะอังให้มันอุ่นขึ้น
แต่  เปลวไฟก็ดับวูบลง เตาผิงก็ได้หายวับไป

(https://i.ibb.co/4p7X1Zt/unnamed-34.jpg) (https://imgbb.com/)

หนูน้อยนั่งถือก้านไม้ขีดไฟที่ไหม้แล้วค้างอยู่ในมือ
ไม้ขีดไฟก้านใหม่ถูกจุดขึ้นมาอีก มันไหม้โพลง สว่างไสว
คราวนี้ผนังตึกซึ่งแสงสว่างฉาบฉายไปกระทบนั้น  กลายเป็นโปร่งใสคล้ายเยื่อไม้อันบางเบา
หนูน้อยสามารถมองทะลุเข้าไปภายในห้อง  เห็นโต๊ะลาดปูด้วยผ้าขาวสะอาด
มีจานเคลือบวางอยู่  บนจานนั้นมีห่านย่างยัดใส้ และลูกพรุนควันกรุ่นน่าเอร็ดอร่อย
และวิเศษยิ่งไปกว่านั้น เจ้าห่านย่างยังกระโดดออกมาจากจาน แล้วยังเดินเตาะแตะไปตามพื้น
มีดกับส้อมสำหรับตัดปักอยู่ติดหลัง มันเดินตรงเข้ามาหาแม่หนูน้อยผู้ยากไร้
 
และแล้วพลัน ไฟก็ดับวูบลงอีก
มองไม่เห็นอะไรอื่นเลยนอกจากผนังตึกที่ทึมทึบเท่านั้น

(https://i.ibb.co/m5v1673/1294201204.jpg) (https://imgbb.com/)

หนูน้อยจุดไม้ขีดขึ้นอีก
คราวนี้เธอเห็นตัวของเธอเองนั่งอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสที่เป็นต้นที่สูงกว่า
และตกแต่งมากมายกว่าต้นที่เธอเคยมองผ่านกระจกเข้าไปเห็นที่บ้านพ่อค้าผู้มั่งคั่ง
ในวันคริสต์มาสปีที่แล้วมากมายนัก
ดวงเทียนนับพันจุดสว่างไสวอยู่กับกิ่งอันเขียวขจี
ภาพพิมพ์สีสวยสด  คล้ายที่เคยเห็นประดับประดาอยู่ตามตู้กระจกหน้าร้านกำลังมองลงมาดูเธอ

หนูน้อยยื่นมือทั้งสองออกไปไขว่คว้า

(https://i.ibb.co/LNTBgR7/images-1.jpg) (https://imgbb.com/)

เทียนบนต้นคริสต์มาสค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น...ลอยสูงขึ้น...จนแม่หนูเห็นว่า
มันก็คือดวงดาวที่เปล่งแสงอยู่บนท้องฟ้านั่นเอง

" โอ...ช่างสวยงามเสียจริง ๆ"

เด็กน้อยรำพึง พวกเทียนนับพันเล่มเหล่านั้น ตั้งระดับแถวเรียงกัน
แล้วลอยสูงขึ้น ๆ ไปสู่ท้องฟ้า
พวกเทียนเหล่านั้นได้กลายเป็นดวงดาว มันจึงทำให้ทั่วผืนฟ้ามีแสงสว่างทั่วไปทั้งหมด

เด็กน้อยพยายามยื่นมือทั้งสองข้างออกไปไขว่คว้า

(https://i.ibb.co/t26BzSZ/unnamed-30.jpg) (https://imgbb.com/)

แต่แล้วไม้ขีดไฟในมือก็ดับวูบลง
ดาวดวงหนึ่งหล่นวูบเป็นทางยาวแดงเป็นไฟตกลงมาจากฟ้า

" คน ๆ หนึ่งกำลังจะตาย "

หนูน้อยละเมอ
คุณยายผู้ชราและเป็นที่รักของแม่หนู และเป็นผู้เดียวที่ให้ความการุณต่อเธอ
แต่ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว  ได้เคยเล่าให้ฟังว่า
เมื่อใดที่มีดาวตก เมื่อนั้นจะต้องมีดวงวิญญาณดวงหนึ่งลอยขึ้นไปสู่สวรรค์

หนูน้อยขีดไม้ขีดกับกำแพงอีกก้านหนึ่ง
แสงสว่างส่องไปโดยรอบท่ามกลางแสงเรืองรองนั้น
คุณยายผู้ชราของเธอยืนอยู่ มองดูแสนผ่องแผ้วสดใส
และ เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาอารี

(https://i.ibb.co/p4jTX5B/Do-L1-Doq-Vs-Ac53-VJ.jpg) (https://imgbb.com/)

" คุณยายขา...ยายจริง ๆด้วย "

หนูน้อยร้องด้วยความดีใจอย่างที่สุด
เธอรีบวิ่งเข้าไปสู่อ้อมแขนของยายที่กางออกมารอรับ

" ยาย จ๋า...หนูคิดถึงยายเหลือเกิน "

เด็กหญิงกอดยายไว้แน่นเหมือนไม่อยากให้ยายจากหายไปจากเธออีก
เด็กน้อยร้องให้ฟูมฟายบอกกับยายว่า

" ยายจ๋า...ทำไมยายถึงด่วนจากไป
และทิ้งหนูไว้คนเดียวเล่าคะ? ยายจ๋า..ให้หนูไปอยู่กับยายด้วยคนนะจ๊ะ
อย่าจากหนูไปที่ไหนอีกเลย...ฮือ ๆๆ "


ยายมองเด็กหญิงด้วยใบหน้าที่เปี่ยมและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แต่ยายก็ไม่พูดตอบว่าอะไร  ได้แต่โอบกอดเธอไว้เหมือนปลอบใจ

แล้วในขณะนั้น  เด็กน้อยเหลือบไปมองเห็นไฟที่ไม้ขีดที่เธอกำลังถืออยู่นั้น
ว่ามันกำลังจะดับลง ดังนั้นเด็กน้อยยิ่งพยายามกอดยายไว้จนแน่น

" ได้โปรดเอาหนูไปอยู่กับยายเถิดค่ะ
หนูรู้ว่าคุณยายจะต้องหายไปพร้อมกับไม้ขีดที่มอดไหม้
หายไปเหมือน ๆ กับเตาผิงอันอบอุ่น ห่านย่างที่น่าเอร็ดอร่อย
และต้นคริสต์มาสที่ใหญ่โตน่าอัศจรรย์ต้นนั้น "


แล้วแม่หนูก็รีบตะลีตะลานจุดไม้ขีดไฟที่เหลืออยู่ในมัดขึ้นทั้งหมด
เพียงเพราะเธอต้องการให้คุณยายอยู่กับเธอ
ไม้ขีดไฟส่องประกายวูบวาบ
จนกลายเป็นแสงสว่าง เจิดจ้ามากกว่าแสงแห่งกลางวัน

(https://i.ibb.co/ykRyNmW/unnamed-35.jpg) (https://imgbb.com/)

ไม่เคยเลยในชีวิต ที่จะเห็นคุณยายทั้งสวยทั้งสูงเช่นนี้
คุณยายโอบอุ้มเอาหลานน้อยเข้าไว้ในอ้อมแขน ท่ามกลางรัศมีที่สว่างไสวและน่าชื่นใจ

แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น สูงขึ้น
ลอยไปสู่ที่ที่ซึ่งไม่มีความหนาวเย็น ไม่มีความหิวโหย
ไม่มีความหวาดกลัวและโหดร้าย
ทั้งสองได้ไปถึงที่สุคติแล้ว  ไปอยู่กับพระเจ้าที่บนสวรรค์

" ยายจ๋า...ยายจะพาหนูไปที่ไหน? หรือคะ..."

" ไปอยู่กับพระเจ้าด้วยกันนะลูก"

ยายหันมาตอบเด็กหญิงด้วยเสียงใจดี
แล้วยายยังบอกอีกว่า เมื่อไปถึงที่บนสวรรค์แล้ว เธอก็จะได้พบกับแม่ของเธอด้วย
ตอนนี้แม่ของเธอคงกำลังเตรียมทำอาหารเพื่อขอบคุณพระเจ้า
ในวันคริสต์มาสไว้ต้อนรับการมาของเธอ
เด็กหญิงยิ้มรับและหัวเราะระรื่นจนแก้มน้อย ๆ เป็นสีชมพู
ด้วยใบหน้าที่สุข สมหวัง และมีความสุขเป็นอย่างที่สุด

(https://i.ibb.co/5TmGZbC/unnamed-36.jpg) (https://imgbb.com/)

ในเช้าตรู่อันเยียบเย็นของวันรุ่งขึ้น
หนูน้อยนั่งคุดคู้  ซุกตัวอยู่ในระหว่างซอกบ้านในชายคาเล็ก ๆ ของบ้านสองหลัง

แก้มของเธอยังเป็นสีชมพู รอยยิ้มก็ยังแย้มอยู่บนริมฝีปาก
แต่ตัวของหนูน้อยนั้น  เย็นจนเป็นน้ำแข็ง

เธอสิ้นใจตายเสียแล้ว ในคืนวันสุดท้ายของปีเก่านั้นเอง  

พวกผู้คนที่เดินผ่านมาและมองเห็นเธอ เขาทั้งหลายตกใจและตะโกนร้องขึ้น
 
"เร็ว ๆ แย่แล้ว....ทำไมมีเด็กตัวเล็ก ๆ มานอนอยู่ตรงนี้..
เร็ว รีบไปตามหมอมาดูเธอหน่อยเร็ว ๆ "


แต่พวกเขาทั้งหลายไม่รู้หรอกว่า มันสายไปเสียแล้ว...

เมื่อหมอเดินทางมาถึง และจับไปที่ทีพจรของเด็กหญิงคนนั้น

" เธอตายมานานแล้วหละ สายไปเสียแล้ว ที่จะช่วยเธอ
โถ...ช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน "


ผู้คนที่พบเธอและหมอต่างเสียใจ
เพราะเมื่อพวกเขามองไปที่มือของเด็กคนนั้น
ก็ได้เห็นว่า เธอได้กำไม้ขีดไฟที่ถูกจุดแล้วไว้ในกำมือนั้นจนแน่น

" โถ ๆๆ นี่ คงจะหนาวมากสินะ แต่ไม้ขีดไฟน้อยนิด แค่กำมือเดียวนี้
มันไม่ได้ช่วยให้เธออุ่นขึ้นมาได้เลย ช่างน่าสงสารเหลือเกิน "


มีผู้คนมากมายเข้ามาล้อมรอบดูเด็กหญิงผู้น่าสงสาร
ในจำนวนนั้นมีแม่ลูกคู่ที่เด็กหญิงไปร้องขายไม้ขีดให้ แต่ได้บอกปฏิเสธที่จะซื้อ
ผู้เป็นแม่จำเด็กหญิงได้ นางน้ำตาร่วงพรูด้วยความรู้สึกเวทนาเด็กน้อยอย่างที่สุด
นางเข้าไปกอดร่างของเด็กน้อยเอาไว้

(https://i.ibb.co/KwQnVy7/3-1-11-59-500.jpg) (https://imgbb.com/)

" โธ่...น่า สงสารเหลือเกินแม่หนูน้อย
นี่ถ้าฉันรู้ว่าเธอไม่มีบ้านที่จะกลับอย่างนี้แล้วละก็
ฉันจะไม่ใจร้ายบอกปฏิเสธการซื้อไม้ขีดไฟของเธอเลยจริง ๆ ฮื่อ ๆๆ
ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเสียเหลือเกิน...."


ผู้คนในเมืองได้ช่วยและพร้อมใจกันพาร่างที่ไร้วิญญาณของเด็กหญิงไปทำพิธีให้ที่โบสถ์
ผู้คนพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า เด็กน้อยคงพยายามอังตัวให้อุ่นด้วยไม้ขีดไฟ

แต่ทุกคนไม่มีใครรู้หรอกว่า แม่หนูน้อยได้พบเห็นสิ่งที่สวยสดงดงามมากเพียงไร
และสิ่งที่แสนปิติยินดีเพียงไร  ที่ได้ล่องลอยไปกับคุณยายผู้ชราที่แสนรัก
ไปหาความสงบแห่งปีใหม่ในภพหน้า

.......................................

เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ เป็นนิทานเรื่องสั้นของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน
ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1845 เป็นภาษาเดนมาร์ก
ในหนังสือชื่อ Dansk Folkekalender for 1846
ดัดแปลงมาจากผลงานภาพพิมพ์ของภาษาเดนมาร์ก
ในหนังสือชื่อ Dansk Folkekalender for 1846
ดัดแปลงมาจากผลงานภาพพิมพ์ของ พี่น้องตระกูลกริมม์