หัวข้อ: นิทาน : เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 31, กรกฎาคม, 2563, 08:56:42 PM
(https://i.ibb.co/CWRYFn7/Do-Lyiif-Uc-AAKZh-W.jpg) (https://imgbb.com/)
นิทาน : เด็กขายไม้ขีดไฟ นิทานก่อนนอน
หนาวเหลือเกิน หิมะกำลังตก และราตรีกำลังคืบคลานเข้ามาถึง วันนี้เป็น วันสุดท้ายของปี วันส่งท้ายปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่ ในความหนาวเยียบเย็น และมืดมัวนั้น ในถนนสายหนึ่งมีผู้คนมากมาย ออกมาเดินเลือกซื้อของขวัญกันด้วยหน้าตาที่สดชื่น เพราะวันนี้เป็นคืนวันสิ้นปี
และในท่ามกลางความขวักไขว่ของผู้คนเหล่านั้น ได้มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เก่าและสกปรกคนหนึ่ง เดินไปตามถนนสายนั้นเพื่อขายไม้ขีดไฟ ซึ่งเป็นอาชีพของเธอนั่นเอง เธอห่อไม้ขีดไฟไว้ในผ้ากันเปื้อน และถือไว้ในมืออีกกำใหญ่
เด็กน้อยเดินตะโกนร้องขายไม้ขีดไฟไปเรื่อย ๆ " มีใครต้องการไม้ขีดไฟบ้างไหมคะ...ไม้ขีดไฟค่ะ... ไม้ขีดไฟ"
(https://i.ibb.co/XWcFW2z/images-2.jpg) (https://imgbb.com/)
" คุณป้าขา...ช่วยกรุณาเมตตาซื้อไม้ขีดของหนูหน่อยสิคะ " เธอร้องบอก ขายกับสองแม่ลูกคู่หนึ่งที่เดินผ่านมา ด้วยหวังว่าสองแม่ลูกคู่นี้ดูท่าทางจะเป็นคนใจดี ไม่แน่หรอกบางทีเธออาจจะได้รับความเมตตาบ้างก็อาจเป็นได้
" ไม้ขีดไฟที่บ้านมีอยู่แล้วมากมาย...ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดสักที ไม่เอาหรอกจ๊ะ ลองไปถามขายคนอื่นดูเถอะ "
ไม่มีใครซื้อไม้ขีดจากเธอเลยตลอดทั้งวัน และไม่มีใครให้ทานเธอเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว หนูน้อยที่น่าสงสารเดินคอตกหนาวสั่นและหิวโหยน่าเวทนายิ่งนัก เกล็ดหิมะเกาะกรังเป็นปุยอยู่บนผมสีทองยาวสลวยประบ่าของเธอ แน่นอน แม่หนูไม่ได้คิดอาลัยไยดีในสารรูปของตัวเองเลยสักนิด
เธอพยายามที่จะขายไม้ขีดไฟให้ได้ เพราะถ้าวันนี้เธอขายไม้ขีดไม่ได้เลยสักกำ หรือไม่ได้เงินเลยแม้สักชิลลิ่งหนึ่งแล้ว เมื่อกลับบ้านไปโดยมือเปล่า เธอจะต้องถูกพ่อซึ่งเป็นคนขี้เมาตบตีเอาอย่างทารุณ เด็กหญิงตัวน้อย ๆ คนนี้ จึงพยายามเดินขายไม้ขีดไฟของเธอไปเรื่อย ๆ อย่างใจลอย
(https://i.ibb.co/XpN7LKN/unnamed-32.jpg) (https://imgbb.com/)
และขณะที่เธอกำลังจะข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งนั้น ก็ได้มีรถเกวียนแล่นผ่านมาด้วยความเร็วสูง เธอจึงกระโดดหลบ มันทำให้ร้องเท้าคู่เก่า ๆ ที่เธอใส่มานั้นต้องกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง
เธอตกใจมาก แต่ก็ร้องห่วงรองเท้าของเธอขึ้นด้วย เสียง อันดังว่า
" โอ๊ะ รองเท้า "
เด็กน้อยผู้น่าสงสารมองตามรองเท้าที่กระเด็นไปนั้นอย่างนึกเสียดาย เพราะถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่รองเท้าคู่เก่า ๆ ที่ใหญ่เกิดขนาดเท้าของเธออย่างมากก็ตาม แต่มันเป็นรองเท้าของแม่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วของเธอ และเป็นรองเท้าคู่ที่เธอมีไว้สวมใส่ออกไปข้างนอกในหน้าหนาว เพื่อประทังความหนาวเย็นให้เพียงคู่เดียวเท่านั้น แรงกระโดดด้วยความลนลานทำให้รองเท้าข้างหนึ่งกระเด็นหายไปไหนไม่รู้
(https://i.ibb.co/C2zRL2M/small.jpg) (https://imgbb.com/)
ด้วยเหตุนี้ แม่หนูน้อยจึงต้องเดินด้วยเท้าเปล่าที่แดงคล้ำ ช้ำไปเพราะความหนาวไปตามถนน เธอรวบรวมเก็บไม้ขีดไฟที่ตกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาดไปหมดนั้นอย่างเศร้าหมอง
" ไม้ขีดพวกนี้คงจะนำมาขายเป็นสินค้าไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว นี่ถ้ากลับไปบ้าน เราจะต้องโดนพ่อดุด่าทุบตีมากมายขนาดไหนนะ "
เธอคิดอย่างเลื่อนลอย แล้วเธอก็ออกเดินต่อไปอย่างไรจุดหมายปลายทาง เท้าเล็ก ๆ คู่นั้น บอบช้ำจนเขียวเพราะความเย็นของหิมะ โธ่..เวรกรรมอะไรของเธอนะ ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเสียเหลือเกิน....
(https://i.ibb.co/D1SXdYw/little-match-girl-2.jpg) (https://imgbb.com/)
มีแสงสว่างส่องออกมาจากหน้าต่างตามบ้านทุกบาน และมีกลิ่นหอมหวนของห่านอบโชยกรุ่นออกมาสู่ถนน
ใช่สิ วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าเพื่อต้อนรับปีใหม่
หนูน้อยพร่ำรำพึงกับตัวเองตลอดเวลา เสียงหัวเราะต่อกระซิก และเริงร่าอย่างมีความสุขของคนในบ้านเหล่านั้น เรียกร้องให้เธอไปหยุดและแอบมองดู ในที่สุดก็ถึงวันสิ้นปีแล้วสินะ เรื่องนี้ต่างหาก ที่อยู่ในความคิดของเธอ
วูปหนึ่งที่เธอคิดอิจฉาพวกเขาเหล่านั้น พลันน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอย่างสุดจะกลั้น มันไหลเป็นทางลงมาเป็นสายไม่ยอมหยุด
เธอนึกถึงแม่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะเมื่อตอนที่แม่ยังมีชีวิตอยู่ แม่ก็มักจะจัดงานเลี้ยงฉลอง และทำอาหารเพื่อขอบคุณพระเจ้าในวันคริสต์มาส ให้กับเธอและครอบครัวเสมอ แต่ตอนนี้ไม่มีแม่เสียแล้ว
(https://i.ibb.co/MBpzhff/d5eb988b9bd.jpg) (https://imgbb.com/)
เธอเห็นพวกคนในบ้าน กำลังมอบห่อของขวัญให้กับพวกลูก ๆ ของเขา เด็ก ๆ รีบแกะห่อของขวัญกันอย่างดีใจ ช่างน่าอิจฉาความโชคดีของพวกเขาเหล่านั้นเสียเหลือเกิน เธอแอบมองความสุขของพวกเขาเหล่านั้นอยู่นานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และเธอมารู้สึกตัวเอาก็ต่อเมื่อไฟที่สว่างไสวในบ้านหลังนั้นได้ถูกดับลง ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพที่เงียบเหงาและเวิ้งว้างอย่างเก่าของมันไปทั่วทั้งบริเวณนั้นอีกครั้งหนึ่ง
(https://i.ibb.co/FghZSN4/18e08b.jpg) (https://imgbb.com/)
หิมะยังคงตกลงมาเป็นระยะ ๆ เด็กหญิงยังคงเดินต่อมาอีกเรื่อย ๆ และเพราะความหนาวและอ่อนเพลีย เธอจึงเดินไปล้มตัวลงนั่งหลบอยู่ที่บันไดบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีชายคายื่นออกมาน้อยนิด แต่คงพอช่วยที่จะใช้หลบหิมะได้บ้าง
เธอนั่งห่อตัวให้เล็กลง เพื่อหวังจะให้อุ่นขึ้นเพื่อคลายความหนาว แต่มันก็ไม่สามารถที่จะช่วยให้เธอหายหนาวได้เลยสักน้อยนิด เธอไม่กล้ากลับไปที่บ้าน ด้วยเพราะกลัวพ่อมาก พ่อจะโหดร้ายกับเธอเสมอเวลาที่พ่อเมา เธอกลัวเหลือเกิน
(https://i.ibb.co/1nw9qhZ/images.jpg) (https://imgbb.com/)
เด็กน้อยหนาวจนสั่นเทาไปทั้งตัว มือของเธอเย็นเฉียบจนเกือบจะเป็นน้ำแข็ง เธอพยายามหดตัวให้เล็กลงไปอีก แต่เธอก็ยังคงหนาวอยู่อย่างนั้น เธอไม่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลยจริง ๆ
มือเล็ก ๆ ทั้งสองของแม่หนูเย็นเฉียบชืดชาไปหมดด้วยความหนาวเหน็บ อา...ไม้ขีดไฟก้านเล็ก ๆ นี้สักก้าน อาจจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น หากเธอจะกล้าดึงเอามันออกมาจากมัดเพียงก้านเดียวเท่านั้น แล้วขีดเข้ากับกำแพง เพื่ออังนิ้วของตัวเองให้อุ่นขึ้น
แล้วในที่สุดแม่หนูน้อยก็ดึงไม้ขีดออกมาหนึ่งก้าน
(https://i.ibb.co/DW05MPh/sdsdgg.jpg) (https://imgbb.com/)
" แชะ "
เกิดประกายวาบ แล้วก็ลุกโพลงขึ้น มันเป็นเปลวอันแสนสดใสและอบอุ่นคล้ายดวงเทียนเล่มเล็ก ๆ หนูน้อยเอามือขึ้นป้องมันไว้ เป็นดวงประทีปที่แสนวิเศษ
(https://i.ibb.co/26s4yGH/unnamed-33.jpg) (https://imgbb.com/)
หนูน้อยเคลิ้มไปว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ที่หน้าเตาผิง ที่มีประตูและลูกบิดเป็นทองเหลืองขนาดใหญ่ ไฟกำลังลุกโพลง และแสนจะอบอุ่น
วิเศษ แม่หนูยื่นเท้าออกไปเพื่อจะอังให้มันอุ่นขึ้น แต่ เปลวไฟก็ดับวูบลง เตาผิงก็ได้หายวับไป
(https://i.ibb.co/4p7X1Zt/unnamed-34.jpg) (https://imgbb.com/)
หนูน้อยนั่งถือก้านไม้ขีดไฟที่ไหม้แล้วค้างอยู่ในมือ ไม้ขีดไฟก้านใหม่ถูกจุดขึ้นมาอีก มันไหม้โพลง สว่างไสว คราวนี้ผนังตึกซึ่งแสงสว่างฉาบฉายไปกระทบนั้น กลายเป็นโปร่งใสคล้ายเยื่อไม้อันบางเบา หนูน้อยสามารถมองทะลุเข้าไปภายในห้อง เห็นโต๊ะลาดปูด้วยผ้าขาวสะอาด มีจานเคลือบวางอยู่ บนจานนั้นมีห่านย่างยัดใส้ และลูกพรุนควันกรุ่นน่าเอร็ดอร่อย และวิเศษยิ่งไปกว่านั้น เจ้าห่านย่างยังกระโดดออกมาจากจาน แล้วยังเดินเตาะแตะไปตามพื้น มีดกับส้อมสำหรับตัดปักอยู่ติดหลัง มันเดินตรงเข้ามาหาแม่หนูน้อยผู้ยากไร้ และแล้วพลัน ไฟก็ดับวูบลงอีก มองไม่เห็นอะไรอื่นเลยนอกจากผนังตึกที่ทึมทึบเท่านั้น
(https://i.ibb.co/m5v1673/1294201204.jpg) (https://imgbb.com/)
หนูน้อยจุดไม้ขีดขึ้นอีก คราวนี้เธอเห็นตัวของเธอเองนั่งอยู่ใต้ต้นคริสต์มาสที่เป็นต้นที่สูงกว่า และตกแต่งมากมายกว่าต้นที่เธอเคยมองผ่านกระจกเข้าไปเห็นที่บ้านพ่อค้าผู้มั่งคั่ง ในวันคริสต์มาสปีที่แล้วมากมายนัก ดวงเทียนนับพันจุดสว่างไสวอยู่กับกิ่งอันเขียวขจี ภาพพิมพ์สีสวยสด คล้ายที่เคยเห็นประดับประดาอยู่ตามตู้กระจกหน้าร้านกำลังมองลงมาดูเธอ
หนูน้อยยื่นมือทั้งสองออกไปไขว่คว้า
(https://i.ibb.co/LNTBgR7/images-1.jpg) (https://imgbb.com/)
เทียนบนต้นคริสต์มาสค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น...ลอยสูงขึ้น...จนแม่หนูเห็นว่า มันก็คือดวงดาวที่เปล่งแสงอยู่บนท้องฟ้านั่นเอง
" โอ...ช่างสวยงามเสียจริง ๆ"
เด็กน้อยรำพึง พวกเทียนนับพันเล่มเหล่านั้น ตั้งระดับแถวเรียงกัน แล้วลอยสูงขึ้น ๆ ไปสู่ท้องฟ้า พวกเทียนเหล่านั้นได้กลายเป็นดวงดาว มันจึงทำให้ทั่วผืนฟ้ามีแสงสว่างทั่วไปทั้งหมด
เด็กน้อยพยายามยื่นมือทั้งสองข้างออกไปไขว่คว้า
(https://i.ibb.co/t26BzSZ/unnamed-30.jpg) (https://imgbb.com/)
แต่แล้วไม้ขีดไฟในมือก็ดับวูบลง ดาวดวงหนึ่งหล่นวูบเป็นทางยาวแดงเป็นไฟตกลงมาจากฟ้า
" คน ๆ หนึ่งกำลังจะตาย "
หนูน้อยละเมอ คุณยายผู้ชราและเป็นที่รักของแม่หนู และเป็นผู้เดียวที่ให้ความการุณต่อเธอ แต่ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว ได้เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อใดที่มีดาวตก เมื่อนั้นจะต้องมีดวงวิญญาณดวงหนึ่งลอยขึ้นไปสู่สวรรค์
หนูน้อยขีดไม้ขีดกับกำแพงอีกก้านหนึ่ง แสงสว่างส่องไปโดยรอบท่ามกลางแสงเรืองรองนั้น คุณยายผู้ชราของเธอยืนอยู่ มองดูแสนผ่องแผ้วสดใส และ เปี่ยมล้นไปด้วยความเมตตาอารี
(https://i.ibb.co/p4jTX5B/Do-L1-Doq-Vs-Ac53-VJ.jpg) (https://imgbb.com/)
" คุณยายขา...ยายจริง ๆด้วย "
หนูน้อยร้องด้วยความดีใจอย่างที่สุด เธอรีบวิ่งเข้าไปสู่อ้อมแขนของยายที่กางออกมารอรับ
" ยาย จ๋า...หนูคิดถึงยายเหลือเกิน "
เด็กหญิงกอดยายไว้แน่นเหมือนไม่อยากให้ยายจากหายไปจากเธออีก เด็กน้อยร้องให้ฟูมฟายบอกกับยายว่า
" ยายจ๋า...ทำไมยายถึงด่วนจากไป และทิ้งหนูไว้คนเดียวเล่าคะ? ยายจ๋า..ให้หนูไปอยู่กับยายด้วยคนนะจ๊ะ อย่าจากหนูไปที่ไหนอีกเลย...ฮือ ๆๆ "
ยายมองเด็กหญิงด้วยใบหน้าที่เปี่ยมและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ยายก็ไม่พูดตอบว่าอะไร ได้แต่โอบกอดเธอไว้เหมือนปลอบใจ
แล้วในขณะนั้น เด็กน้อยเหลือบไปมองเห็นไฟที่ไม้ขีดที่เธอกำลังถืออยู่นั้น ว่ามันกำลังจะดับลง ดังนั้นเด็กน้อยยิ่งพยายามกอดยายไว้จนแน่น
" ได้โปรดเอาหนูไปอยู่กับยายเถิดค่ะ หนูรู้ว่าคุณยายจะต้องหายไปพร้อมกับไม้ขีดที่มอดไหม้ หายไปเหมือน ๆ กับเตาผิงอันอบอุ่น ห่านย่างที่น่าเอร็ดอร่อย และต้นคริสต์มาสที่ใหญ่โตน่าอัศจรรย์ต้นนั้น "
แล้วแม่หนูก็รีบตะลีตะลานจุดไม้ขีดไฟที่เหลืออยู่ในมัดขึ้นทั้งหมด เพียงเพราะเธอต้องการให้คุณยายอยู่กับเธอ ไม้ขีดไฟส่องประกายวูบวาบ จนกลายเป็นแสงสว่าง เจิดจ้ามากกว่าแสงแห่งกลางวัน
(https://i.ibb.co/ykRyNmW/unnamed-35.jpg) (https://imgbb.com/)
ไม่เคยเลยในชีวิต ที่จะเห็นคุณยายทั้งสวยทั้งสูงเช่นนี้ คุณยายโอบอุ้มเอาหลานน้อยเข้าไว้ในอ้อมแขน ท่ามกลางรัศมีที่สว่างไสวและน่าชื่นใจ
แล้วทั้งคู่ก็ค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น สูงขึ้น ลอยไปสู่ที่ที่ซึ่งไม่มีความหนาวเย็น ไม่มีความหิวโหย ไม่มีความหวาดกลัวและโหดร้าย ทั้งสองได้ไปถึงที่สุคติแล้ว ไปอยู่กับพระเจ้าที่บนสวรรค์
" ยายจ๋า...ยายจะพาหนูไปที่ไหน? หรือคะ..."
" ไปอยู่กับพระเจ้าด้วยกันนะลูก"
ยายหันมาตอบเด็กหญิงด้วยเสียงใจดี แล้วยายยังบอกอีกว่า เมื่อไปถึงที่บนสวรรค์แล้ว เธอก็จะได้พบกับแม่ของเธอด้วย ตอนนี้แม่ของเธอคงกำลังเตรียมทำอาหารเพื่อขอบคุณพระเจ้า ในวันคริสต์มาสไว้ต้อนรับการมาของเธอ เด็กหญิงยิ้มรับและหัวเราะระรื่นจนแก้มน้อย ๆ เป็นสีชมพู ด้วยใบหน้าที่สุข สมหวัง และมีความสุขเป็นอย่างที่สุด
(https://i.ibb.co/5TmGZbC/unnamed-36.jpg) (https://imgbb.com/)
ในเช้าตรู่อันเยียบเย็นของวันรุ่งขึ้น หนูน้อยนั่งคุดคู้ ซุกตัวอยู่ในระหว่างซอกบ้านในชายคาเล็ก ๆ ของบ้านสองหลัง
แก้มของเธอยังเป็นสีชมพู รอยยิ้มก็ยังแย้มอยู่บนริมฝีปาก แต่ตัวของหนูน้อยนั้น เย็นจนเป็นน้ำแข็ง
เธอสิ้นใจตายเสียแล้ว ในคืนวันสุดท้ายของปีเก่านั้นเอง
พวกผู้คนที่เดินผ่านมาและมองเห็นเธอ เขาทั้งหลายตกใจและตะโกนร้องขึ้น "เร็ว ๆ แย่แล้ว....ทำไมมีเด็กตัวเล็ก ๆ มานอนอยู่ตรงนี้.. เร็ว รีบไปตามหมอมาดูเธอหน่อยเร็ว ๆ "
แต่พวกเขาทั้งหลายไม่รู้หรอกว่า มันสายไปเสียแล้ว...
เมื่อหมอเดินทางมาถึง และจับไปที่ทีพจรของเด็กหญิงคนนั้น
" เธอตายมานานแล้วหละ สายไปเสียแล้ว ที่จะช่วยเธอ โถ...ช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน "
ผู้คนที่พบเธอและหมอต่างเสียใจ เพราะเมื่อพวกเขามองไปที่มือของเด็กคนนั้น ก็ได้เห็นว่า เธอได้กำไม้ขีดไฟที่ถูกจุดแล้วไว้ในกำมือนั้นจนแน่น
" โถ ๆๆ นี่ คงจะหนาวมากสินะ แต่ไม้ขีดไฟน้อยนิด แค่กำมือเดียวนี้ มันไม่ได้ช่วยให้เธออุ่นขึ้นมาได้เลย ช่างน่าสงสารเหลือเกิน "
มีผู้คนมากมายเข้ามาล้อมรอบดูเด็กหญิงผู้น่าสงสาร ในจำนวนนั้นมีแม่ลูกคู่ที่เด็กหญิงไปร้องขายไม้ขีดให้ แต่ได้บอกปฏิเสธที่จะซื้อ ผู้เป็นแม่จำเด็กหญิงได้ นางน้ำตาร่วงพรูด้วยความรู้สึกเวทนาเด็กน้อยอย่างที่สุด นางเข้าไปกอดร่างของเด็กน้อยเอาไว้
(https://i.ibb.co/KwQnVy7/3-1-11-59-500.jpg) (https://imgbb.com/)
" โธ่...น่า สงสารเหลือเกินแม่หนูน้อย นี่ถ้าฉันรู้ว่าเธอไม่มีบ้านที่จะกลับอย่างนี้แล้วละก็ ฉันจะไม่ใจร้ายบอกปฏิเสธการซื้อไม้ขีดไฟของเธอเลยจริง ๆ ฮื่อ ๆๆ ช่างเป็นเด็กน้อยที่น่าสงสารเสียเหลือเกิน...."
ผู้คนในเมืองได้ช่วยและพร้อมใจกันพาร่างที่ไร้วิญญาณของเด็กหญิงไปทำพิธีให้ที่โบสถ์ ผู้คนพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่า เด็กน้อยคงพยายามอังตัวให้อุ่นด้วยไม้ขีดไฟ
แต่ทุกคนไม่มีใครรู้หรอกว่า แม่หนูน้อยได้พบเห็นสิ่งที่สวยสดงดงามมากเพียงไร และสิ่งที่แสนปิติยินดีเพียงไร ที่ได้ล่องลอยไปกับคุณยายผู้ชราที่แสนรัก ไปหาความสงบแห่งปีใหม่ในภพหน้า
.......................................
เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ เป็นนิทานเรื่องสั้นของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1845 เป็นภาษาเดนมาร์ก ในหนังสือชื่อ Dansk Folkekalender for 1846 ดัดแปลงมาจากผลงานภาพพิมพ์ของภาษาเดนมาร์ก ในหนังสือชื่อ Dansk Folkekalender for 1846 ดัดแปลงมาจากผลงานภาพพิมพ์ของ พี่น้องตระกูลกริมม์
|
|