บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม => ข้อความที่เริ่มโดย: ลายเมฆ ที่ 09, พฤศจิกายน, 2563, 03:20:35 AM



หัวข้อ: ...เพราะมี...
เริ่มหัวข้อโดย: ลายเมฆ ที่ 09, พฤศจิกายน, 2563, 03:20:35 AM
(https://i.ibb.co/2ss6WGY/auto-3370706-480.jpg) (https://ibb.co/k99y5N6)


โอนี่หนอ..เพราะมีสุขมีทุกข์อยู่
จึงมิรู้จักพ้นด้วยกลไหน
รุ่มรนฤทธิ์แรงโลกย์โยนโยกใจ
แกว่งกวัดไกวพลัดพล่านแต่นานเนา

เออหนอ..เมื่อทุกข์แลสุขมิอาจพราก
ซ้ำเทียมลากโลกธรรมย่ำจิตเขลา
มิมียามผ่อนพักทั้งหนักเบา
ปรารถนาเอาแค่สุขแต่ทุกข์เคียง

นี่สิหนอ..เพราะมีสุขจึงทุกข์อยู่
ต่อเมื่อรู้ปลงใจมิบ่ายเบี่ยง
วางสุขคืนให้ทุกข์ได้ร้อยเรียง
เถอะใจเพียงวางภพสงบเย็น
.................................


ลายเมฆ..เขียนคำ


 


หัวข้อ: Re: ...เพราะมี...
เริ่มหัวข้อโดย: ลายเมฆ ที่ 28, พฤศจิกายน, 2563, 03:23:59 PM
(https://i.ibb.co/fvZMqzG/wintry-2014228-480.webp) (https://ibb.co/vYf1V6v)



นิ่งน้อมแน่วนัยพระไตรลักษณ์
ประจักษ์แจ้งจิตพินิจเห็น
ธรรมดาธรรมชาติมิอาจเป็น-
ดังเช่นมาดหมายดอกใจเอย

ไม่เที่ยง เกินทน ที่ตนถือ
ยุดยื้อ พลัดพราก โอ!ยากเฉย
ดิ้นรน คับแค้น กี่แสนเคย
ผ่านเลยผ่านล่วงมิท้วงติง

สุขทุกข์เวียนวารแต่กาลไหน
เป็นไปนั้นเอง..สรรพสิ่ง
ชราพยาธิ สิประวิง
เชิดชิงได้ฤๅจึงถือตน

แบกหามอัตตา..ข้องคาโลกย์
ทุกข์โศก..ละเร้นมิเห็นหน
ติดสุข..ลุ่มหลงเวียนวกวน
ยากพ้นสงสารเนิ่นนานยาว

เพียงพลอยคำความไม่งามนัก
จำหลักประสมกับลมหนาว
เติมรสปรุงแต่งด้วยแสงดาว
แลกราวน้ำค้างที่พร่างพรู

ประจงถนอมด้วยอ้อมอุ่น
ละมุนอวลอาบกำซาบสู่
หว่างทรวงผู้เลิศเถอะเชิดชู
ตื่นรู้รูปนามตามสัจธรรม


ลายเมฆ..เขียนคำ



หัวข้อ: Re: ...เพราะมี...
เริ่มหัวข้อโดย: ลายเมฆ ที่ 28, พฤศจิกายน, 2563, 09:29:17 PM
(https://i.ibb.co/th8gGg7/75b9116abb35aa3afd3039670b23d44c.jpg) (https://imgbb.com/)



.....รวมไว้ให้อ่านง่าย...


โอ!..เพราะมีสุขมีทุกข์อยู่
มิรู้จักพ้นด้วยกลไหน
รุ่มฤทธิ์แรงโลกย์โยนโยกใจ
แกว่งไกวพลัดพล่านแต่นานเนา

เมื่อทุกข์แลสุขมิอาจพราก
เทียมลากโลกธรรมย่ำจิตเขลา
มิมีผ่อนพักทั้งหนักเบา
หมายเอาแค่สุขแต่ทุกข์เคียง

สิหนอ..เพราะสุขจึงทุกข์อยู่
ต่อรู้ปลงใจมิบ่ายเบี่ยง
วางสุขคืนทุกข์ได้ร้อยเรียง
ใจเพียงวางภพสงบเย็น

นิ่งน้อมแน่วนัยพระไตรลักษณ์
ประจักษ์แจ้งจิตพินิจเห็น
ธรรมดาธรรมชาติมิอาจเป็น-
ดังเช่นมาดหมายดอกใจเอย

ไม่เที่ยง เกินทน ที่ตนถือ
ยุดยื้อ พลัดพราก โอ!ยากเฉย
ดิ้นรน คับแค้น กี่แสนเคย
ผ่านเลยผ่านล่วงมิท้วงติง

สุขทุกข์เวียนวารแต่กาลไหน
เป็นไปนั้นเอง..สรรพสิ่ง
ชราพยาธิ สิระวิง
เชิดชิงได้ฤๅจึงถือตน

แบกหามอัตตา..ข้องคาโลกย์
ทุกข์โศก..ละเร้นมิเห็นหน
ติดสุข..ลุ่มหลงเวียนวกวน
ยากพ้นสงสารเนิ่นนานยาว
..............................................
เพียงพลอยคำความไม่งามนัก
จำหลักประสมกับลมหนาว
เติมรสปรุงแต่งด้วยแสงดาว
แลกราวน้ำค้างที่พร่างพรู

ประจงถนอมด้วยอ้อมอุ่น
ละมุนอวลอาบกำซาบสู่
กลางทรวงผู้เลิศเถอะเชิดชู
ตื่นรู้รูปนามตามสัจธรรม

ลายเมฆ..เขียนคำ