บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

ห้องเรียน => ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย => ข้อความที่เริ่มโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2558, 05:40:34 PM



หัวข้อ: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2558, 05:40:34 PM


(https://i.ibb.co/xGH8VXj/ckddt.jpg) (https://imgbb.com/)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)

๏ นิราศร้างห่างไกลอาลัยสมร
ไปกรุงเก่าเศร้าอุราให้อาวรณ์
จะจำจรจากงามเมื่อยามเย็น

เสียดายดวงพวงกลิ่นประทิ่นทิพย์      
จะลอยลิบลับไปมิได้เห็น
เมื่อวันออกนาวาน้ำตากระเด็น
แต่จำเป็นจำไปอาลัยลาน

เฝ้าแลเหลียวเสียวทรวงเป็นห่วงหลัง      
ไม่ทันสั่งวรนุชสุดสงสาร
นิจจาเอ๋ยเคยยลวิมลมาลย์
แต่นี้นานไหนจะเห็นเหมือนเช่นเคย

เมื่อยามแนบมิได้แนบแอบถนอม
เมื่อยามหอมกลิ่นอายจะหายระเหย
ไปต้องน้ำค้างพรมเมื่อลมเชย
จะแนบเขนยนอนหนาวทุกเช้าเย็น ฯ

(https://i.ibb.co/VMcxG8w/bar-129.gif) (https://imgbb.com/)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2558, 05:47:20 PM

๏ พี่จากมิตรก็เพราะคิดถึงคุณป้า
อยู่เคหาต่างเมืองได้เคืองเข็ญ
ด้วยทุกข์โศกโรคชราน้ำตากระเด็น
ฉันนี้เป็นหลานขวัญกตัญญู

แต่น้อยน้อยท่านถนอมได้กล่อมเกลี้ยง
รักฉันเพียงโอรสไม่อดสู
พระคุณท่านอุปถัมภ์ที่ค้ำชู
เป็นไม่รู้จะประมาณว่าปานใด

เหมือนชนนีที่ประเสริฐบังเกิดเกล้า      
เมื่อแก่เฒ่าหมายว่าจะอาศัย
ฉันเหมือนชั่วหัวอกมาตกไกล
มิได้ไปปฏิบัติเพราะขัดแคลน

ครั้นได้ข่าวราวเรื่องว่าเคืองเข็ญ
ก็ยิ่งเป็นทุกข์ทรวงเพราะห่วงแสน
จึงจำพรากจากนางไปต่างแดน      
หมายทดแทนคุณท่านที่กรุณา

พี่ละโลมโฉมฉายแต่กลายเปล่า
ใจยังเนาแนบชิดขนิษฐา
แต่ขัดสนจนใจมิได้ลา
ตอบแต่ตาต่างถ้อยไว้หน่อยเดียว ฯ

(https://i.ibb.co/4dRNrrc/2201761-1.png) (https://imgbb.com/)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2558, 05:59:21 PM

๏ พอนาวาคลาคล่องออกคลองน้อย
แล้วเคลื่อนคล้อยคลองใหญ่อาลัยเหลียว
จะร้างรักหักใจไม่ไหวเจียว
แลยิ่งเปลี่ยวเปล่ากายในสายชล

พอโพล้เพล้เพลาฟ้าละห้อย
น้ำค้างย้อยหยาดเย็นทุกเส้นขน
โอ้หนาวใจไหนจะซ้ำต้องจำทน
เพราะยามจนจากเจ้าจึ่งเศร้าโทรม

โอ้พระพายชายชวนให้หวนหา      
จวนเวลาค่ำคืนเคยชื่นโฉม
แสนวิตกอกเอ๋ยจะเลยโลม
แลโพยมคลุ้มคล้ำช้ำวิญญาณ์

เหลือบเห็นบ้านดอกไม้อาลัยนัก
นึกถึงพักตร์พุ่มพวงดวงยิหวา
เมื่อน้องน้อยลอยกระทงในคงคา      
จุดบุปผาเทียนสว่างกระจ่างนวล

ดูปรางน้องยองใดประไพพริ้ม
ช่างจิ้มลิ้มเหลืองามทรามสงวน
เมื่อจากนุชดุจเราเจ้ากระบวน      
มิได้ชวนโฉมงามติดตามมา ฯ

(http://upic.me/i/05/umxgb10gd5.gif) (http://upic.me/show/41969034)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2558, 08:36:59 PM

๏ ถึงเขาทองตรองคะนึงถึงพระบาท
บรมนาถนั่งเกล้าเจ้าเกศา
แต่คราวครั้งยังมีพระชนมา      
ทรงอุตสาหะสร้างเป็นด้างเดิม

ไม่ทันเสร็จก็เสด็จสู่สวรรค์      
พระทรงธรรม์ทุกพระองค์ก็ทรงเสริม
ไม่เสร็จงานการก่อที่ต่อเติม      
ได้พูนเพิ่มพอเป็นที่เจดีย์ทอง

โอ้แต่พระสถูปรูปคำนับ
ยังอาภัพมิได้เสร็จสำเร็จฉลอง
ดูเจดีย์เหมือนจะมีน้ำใจตรอง
ยังมัวหมองรั้งรกตกตระตรำ

เหมือนตัวเราวาสนานั้นหาไม่      
ไม่มีใครชูชุบอุปถัมภ์
จนยากยับคับแค้นแสนระกำ
เหลือจะปล้ำปลุกตนให้พ้นอาย

เพราะโง่เง่าเต่าตุ่นพ่อคุณเอ๋ย
ผู้ใดเลยจะประสงค์จำนงหมาย
ซึ่งเล่าเรียนเพียรพากมามากมาย
ขอถวายพระกุศลวิมลมาลย์

ให้พระองค์ทรงเสวยสวัสดิสุข
จนสิ้นทุกข์ถึงวิมุติสุดสงสาร
หวนคะนึงถึงอนงค์เมื่อสงกรานต์      
เคยพบพานโฉมเฉลาที่เขาทอง

ชวนเข้าถ้ำคลำพุ่มประทุมทิพย์
พลางกระซิบมิให้นางแม่หมางหมอง
มาจากชื่นคืนค่ำให้ตรำตรอง
แลดูท้องฟ้าเกลื่อนด้วยเดือนดาว

ออกคลองบางลำพูดูวะวับ
หิ่งห้อยจับพฤกษ์แจ่มแอร่มหาว
เหมือนแหวนเพชรเม็ดพร่างสว่างวาว
ของเจ้าสาวแน่งน้อยสอดก้อยกร

ให้ช้ำชอกออกลำแม่น้ำกว้าง
ดูอ้างว้าวหวั่นไหวฤทัยถอน
มาว้าเหว่เอกาในสาคร      
สายสมรเนาหลังจะยังไร

ดูหนุ่มสาวชาวแพยังแซ่เสียง      
โคมตะเกียงแก้วกระจ่างสว่างไสว
ล้วนเคียงคู่ชูชื่นรื่นฤทัย      
น่าน้อยใจชาวแพไม่แลเพลิน ฯ

(http://upic.me/i/np/kapook_30491.gif) (http://upic.me/show/35202694)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2558, 08:42:14 PM

๏ บางขุนพรหมโอ้บรมพรหเมศร์      
ขอพระเดชเสด็จทรงบนหงส์เหิน
ไปเกลี้ยกล่อมจอมขวัญว่าฉันเชิญ
ให้มาเทอญเรียมจะคอยอย่าน้อยใจ

ไม่เห็นพรหมกุมหน้าน้ำตาตก      
อกเอ๋ยอกโอ้กรรมจะทำไฉน
เห็นโรงเหล้าเศร้าหมองตรึกตรองไป
อันนิสัยเมาเหล้าเราไม่เคย

โอ้บาปกรรมน้ำกรดก็อดสิ้น
ด้วยไม่กินก็ไม่เมาน้ำเหล้าเอ๋ย
แต่น้ำรักหักใจไม่ไหวเลย
ถึงนอนเฉยอยู่เปล่าเปล่าก็เมามาย ฯ

(http://upic.me/i/14/e2vg1.jpg) (http://upic.me/show/36311303)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2558, 12:22:57 PM


๏ ถึงบางปูนปูนนี้ก็ลี้ลับ      
ช่างอาภัพจริงนะปูนมักสูญหาย
แต่หมากพลูชูชื่อฦๅขจาย
ปูนไม่วายอดสูด้วยดูเบา

เหมือนนิยมสมญามหาฤกษ์      
ไม่เอิกเกริกชื่อบ้างเหมือนอย่างเขา
ด้วยคนดีฝีปากมากกว่าเรา
จึงอับเฉาชั่วชื่อไม่ฦๅชา

ทั้งรู้น้อยถ้อยคำไม่ล้ำลึก
จะไปนึกน้อยใจอย่างไรจ๋า
ต้องเจียมตัวกลัวมนุษย์อยุทธยา
สู้ก้มหน้านิ่งลับอัประมาณ ฯ

(http://upic.me/i/jp/40873_1.gif) (http://upic.me/show/29934172)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2558, 12:43:59 PM

๏ ถึงบ้านลานลานตะลึงคะนึงโฉม
พี่ลอบโลมลานจิตคิดสงสาร
เมื่อมาจากฝากใจอาลัยลาน      
มาดูบ้านลานไม่อาลัยเลย

ถึงบางจากจากบางไม่หมางจิต
ด้วยจากสถิตอยู่กะที่เจ้าพี่เอ๋ย
พี่จากชื่นจากโฉมประโลมเชย
ทั้งจากเสบยจากบ้านมาย่านบาง

ถึงเสาหินสิ้นแดนแสนระทด
แต่โศกสลดมิได้สิ้นมลทินหมาง
เพราะลับโลมโฉมแฉล้มมาแรมทาง
ยังจะร้างเริศระคายไปหลายคืน

โอ้หินหลักปักแดนแน่นถนัด      
ถึงลมพัดพานพาไม่ฝ่าฝืน
ขอใจเจ้าเนาหลังให้ยั่งยืน
อย่ารู้ลื่นลิ้นลมคารมพาล

นิสัยใจพกนุ่นไม่อุ่นจิต      
ถึงเป็นมิตรก็ไม่รักสมัครสมาน
เป็นรักกัดขัดแค้นแสนรำคาญ      
พอลมพานเข้าสักหน่อยก็คอยบิน

สุดาใดใจน้องแม่ครองรัก
ถ้าแน่นหนักในอกเหมือนพกหิน
ถึงรูปชั่วตัวดำดั่งน้ำนิล      
ไม่ขอสิ้นสุดรักภัคินี ฯ

(http://upic.me/i/e5/linie-0250.png) (http://upic.me/show/37752896)
 
นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 28, กุมภาพันธ์, 2558, 07:48:53 PM

๏ ถึงบางพลูพลูเจ้าเอ๋ยเคยสงวน      
จีบแต่ล้วนใบเหลืองเมลืองศรี
หมากดิบเจียนจำปาสุมาลี      
ทั้งบุหรี่ใบจากมาฝากเรียม

อนาโถโอ้อกมาตกยาก      
กินแต่หมากพลูใบน่าอายเหนียม
ถึงบางพลัดพลัดนามตามธรรมเนียม
บางไม่เทียมทุกข์ข้าดอกหนาบาง

พี่พลัดพรายสายสุดามาปรารภ
ยังซ้ำพบบางพลัดให้ขัดขวาง
ถึงทุกข์ใครได้แค้นสักแสนปาง
ไม่เหมือนอย่างทุกข์พี่ครั้งนี้เลย

จะเหลียวกลับลับน้องไม่มองเห็น      
ยิ่งเยือกเย็นในอุรานิจจาเอ๋ย
หนาวน้ำค้างพร่างพรายพระพายเชย
คิดถึงเคยแนบเนื้อเหลืออาลัย ฯ

(http://upic.me/i/3e/lty27.png) (http://upic.me/show/44003723)


นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 28, กุมภาพันธ์, 2558, 07:59:42 PM

๏ ถึงบางซื่อชื่อเพราะเสนาะพริ้ง      
จะซื่อจริงเหมือนกะชื่อฤๅไฉน
แต่ชื่อบางอย่างจะเห็นไม่เป็นไร
เว้นแต่ใจของมนุษย์ฉันสุดแล

มีแต่ชื่อซื่อตรงให้หลงรัก      
ใจนั้นมักคดคิดปกปิดแผล
ที่หงิมหงิมยิ้มแผยะแปะแปะแบ
แม้หยิบแต่ละอันมันไม่วาย

เหมือนตัวน้องของฉันทุกวันนี้      
ได้พาทีไว้กะปากก็มากหลาย
จะสัตย์ซื่อฤๅจะกลับให้อับอาย
สุดจะหมายจิตหวังว่ายั่งยืน

ถึงบางซ่อนซ่อนอะไรขอไต่ถาม
ไม่บอกความเรื่องระหัสเฝ้าขัดขืน
เหมือนน้องรักรักฉันต่างกลั้นกลืน
ซ่อนคนอื่นมิให้อึงคะนึงไป

อันซ่อนอื่นหมื่นพันฉันไม่ว่า      
ขออย่าซ่อนความกลทนไม่ไหว
ยิ่งซ่อนเงื่อนเอื้อนอำแล้วช้ำใจ      
จะแก้ไขพันผูกไม่ถูกเลย

เหมือนโฉมฉนกินรีศรีสมร      
หล่อนงามงอนเหลือดีเจ้าพี่เอ๋ย
ทำรักซ้อนซ่อนเงื่อนเหมือนไม่เคย
พี่หลงเชยหมายจะแน่ไม่แปรปรวน

เมื่ออยู่วังยังแอบมาแนบเคล้า
เดี๋ยวนี้เจ้าจืดจางห่างสงวน
ไปอยู่อื่นคืนครองเป็นของควร      
นี่ฤๅนวลว่าจะรักประจักษ์จริง

ไม่มีผิดพบพักตร์ยังควักค้อน
ให้เรียมร้อนใจระริกเหมือนพริกขิง
นิจจาเอ๋ยเคยจรมาวอนวิง      
ยังทอดทิ้งทำเล่นไม่เห็นงาม ฯ

(http://upic.me/i/7a/j2wuu.gif) (http://upic.me/show/46398040)


นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 03, มีนาคม, 2558, 01:29:38 PM

๏ แลเห็นวัดสร้อยทองมองชม้อย
หมายว่าสร้อยทองประดับไว้วับหวาม
ไม่เหมือนสายสร้อยทองของนงราม
ชมแต่นามวัดเปล่าเศร้าอุรา

ถึงบางเขนอกใจให้ไหลเลื่อน
คิดถึงเพื่อนพูเอกเมขลา
เจ้าจากวังจากพี่หลายปีมา      
ได้ภรรยาบางเขนเป็นแดนเกลอ

ข่าวว่าผัววายปราณโอ้ป่านนี้
จะอยู่นี่ฤๅจะไปข้างไหนเหนอ
พี่ผันแปรและเลอะไม่เจอะเจอ      
จะแก้เก้อแก้เผ็ดให้เข็ดมือ

ไม่เห็นนวลหวนถึงนุชสุดสงสาร
มาถึงบ้านตลาดแก้วเข้าแล้วฤๅ
ไม่เห็นแก้วแววฟ้าจะหารือ      
ว่าจะซื้อสิ่งใดไปไว้ชม

นิจจาเอ๋ยเคยอยู่เคยดูเล่น      
เวลาเย็นเจ้าไปจ่ายท้ายสนม
ได้พบหน้าตาชม้ายดูคายคม
เคยหยุดร่มเฟี้ยมแฝงกำแพงเมือง

ได้ตอบคำสำนวนแล้วสรวลสันต์      
ทั้งหอมจันทน์เจือประทิ่นขมิ้นเหลือง
โอ้แสนยากจากกรุงที่รุ่งเรือง
มาดูเครื่องตลาดแก้วไม่แผ้วตา

ยิ่งดึกดื่นโดยดิ้นถวิลหวัง      
ดูสองฝั่งก็แต่ล้วนสวนพฤกษา
น้ำค้างชุ่มพุ่มพวงดวงผกา
พระพายพาหอมหวนมารวนรวย

(http://upic.me/i/td/ak_08.gif) (http://upic.me/show/2520804)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 03, มีนาคม, 2558, 01:33:20 PM

เหมือนหนึ่งเนื้อเจือประทิ่นกลิ่นตระหลบ
สไบอบร่ำโรยโหยระหวย
โอ้เคยหอมถนอมชมเมื่อลมชวย
แสนระทวยระทดถึงคำนึงนวล

แม้มาด้วยจะได้วอนให้หล่อนว่า
สักวาดอกสร้อยละห้อยหวน
ให้หอมเนื้อเจือจันทน์ที่รัญจวน
จะชักชวนเชยชิมอิ่มกมล

สุดเสียแล้วแก้วตาไม่มาด้วย      
ใครจะช่วยปฏิบัติเห็นขัดสน
เจ้างามรื่นชื่นใจของคนจน
มาวายยลวายชื่นสะอื้นโอย

ไม่หลับไหลไสยาสน์อนาถเหลือ
หาเพื่อนเรือก็ไม่ได้ยิ่งไห้โหย
เขาแจวจรอ่อนจิตดูอิดโรย
ฤดูโดยน้ำลงกะพงแรง

จะแลเหลียวเปลี่ยวใจฤทัยทอด
จึ่งให้จอดแอบบังเข้าฝั่งแฝง
เขาเหนื่อยอ่อนนอนรายหงายตะแคง      
จนสิ้นแสงจันทร์ดับลับอัมพร

เสียงเรไรไก่ขันจักจั่นแจ้ว
ให้แว่วแว่วว่าเสียงสำเนียงสมร
จนแสงทองส่องสีรวีวร
เด็กยังนอนทนเนื้อเป็นเหยื่อยุง

ปลุกให้ตื่นฟื้นพลางแล้วล้างหน้า
คนหนึ่งหาไฟก่อตั้งหม้อหุง
ให้ออกเรือรีบไปยังไกลกรุง
เห็นหมอฟุ้งฝั่งชลดูวนเวียน

(http://upic.me/i/ci/1228402436.gif) (http://upic.me/show/35202690)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 03, มีนาคม, 2558, 01:36:55 PM

ชมพฤกษาหน้าฤดูก็ชูช่อ      
ทุกก้านกอกิ่งใบเหมือนไม้เขียน
เห็นรักต้อนหล่นกลาดดูดาษเดียร
คิดถึงเพียรผูกรักอยู่ปลักปลอม

ครั้นผลิดอกออกผลหล่นไปอื่น
แต้กล้ำกลืนกรมใจจนไผ่ผอม
กลับเป็นเตยหนามหนาระอาออม
จนหายหอมแห้งกรอบทุกดอกดวง

เสียดายด้วนดอกฟ้ามณฑาทิพย์
มาลอยลิบแล้วก็กลับไปลับสรวง
หอมละห้อยลอยฟ้ามายาทรวง      
เหมือนล่อลวงภุมรินให้บินโบย

โอ้ยี่สุ่นจัณจันทน์อำพันเอ๋ย      
เคยชื่นเชยชักชวนให้หวนโหย
ยังหอมหวนทวนลมมาชมโชย
ช่างรีบโรยร้างรักหักอาลัย

ไม่มีเยื่อเหลือหลอสักกอกิ่ง
มาทอดทิ้งภุมราน้ำตาไหล
แต่ดอกสละระกำที่ช้ำใจ      
ไม่ใกล้ไกลเตร็ดเตร่ทุกเวลา ฯ

(http://upic.me/i/4b/wr113.gif) (http://upic.me/show/10252357)


นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 25, มีนาคม, 2558, 09:46:57 AM

๏ มาถึงบ้านตลาดขวัญสำคัญแน่
มีเรือแพเรียงรันน่าหรรษา
ขายผ้าแพรผ้าลายพะพรายตา      
คิดขาวม้านวลลออเจ้าทอฟืม

แล้วชุบหอมย้อมเปลี่ยนแพรเลี่ยนหลิน
ยังหอมกลิ่นชวนฉมน่าดมดื่ม
เมื่อขวัญตามาตลาดคาดจะยืม
ก็หลงลืมเสียมิทันเมื่อวันมา

เวลาด่วนจวนมาถึงหน้าวัด
เขาจอดจัดเพียญชนังแลมังสา
เสร็จรับประทานเอมโอชโภชนา
ดูแม่ค้าชาวสวนล้วนขาวเนื้อ

คอนเรือรายกรายใกล้มาให้เห็น
ดูเครื่องเล่นโตใหญ่วิไลเหลือ
บ้างจอดเทียบเลียบเคียงมาเรียงเรือ      
ทำฟั่นเฝืออยากจะขายชม้ายมอง

พวกเด็กเราเฝ้าเคาะหัวเราะร่า
เขาพูดจาแต่อุบายจะขายของ
ทุเรียนฉันมีชื่อเชิญซื้อลอง      
กลัวจะต้องติดใจเวียนไปมา

(http://upic.me/i/ff/s8102.png) (http://upic.me/show/44003721)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 25, มีนาคม, 2558, 09:51:44 AM

พี่ฟังคำจำสนองเพราะต้องหู
ฉันชอบพูโยใหญ่เนื้อในหนา
แม้พูลีบตีบแกนแสนระอา
เป็นปลาร้าแล้วกระดากไม่อยากเชย

เขาจึงว่าถ้ากระนั้นฉันไม่ขืน
ถึงจะคืนก็ไม่ว่าเจ้าข้าเอ๋ย
ไม่ดูเนื้อดูหนังเขาบ้างเลย
ฤๅนายเคยแต่จะอมขนมปลากริม

ฉันตอบว่าหนาเนื้อไม่เชื่อดอก
ด้วยภายนอกฉันดูเห็นพูหลิม
ถ้ากระนั้นฉันไม่ต่อจะขอชิม      
เขาแย้มยิ้มเยื้อนแก้เป็นแง่งอน

ฉันกลัวสางบางกอกมาหลอกลิ้ม
นายเคยชิมก็ไปชมขนมบ่อน
อันของสวนล้วนฦๅชื่อขจร
จะชิมก่อนนั้นนะนายอย่าหมายอม

ฉันสุดแก้แพ้มือต้องซื้อเขา      
พวกเด็กเราเริงร่าฮาประสม
เกี้ยวแม่ค้าพาทีตีคารม      
พอวายตรมตรอมทุกข์สนุกครัน

(http://upic.me/i/f2/aln-6.png) (http://upic.me/show/43196646)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 25, มีนาคม, 2558, 09:56:19 AM

กษัตริย์บ้านเมืองดีกระนี้ฤๅ
มิให้ชื่อชลมารถตลาดขวัญ
ออกนาวาอาลัยรีบไปพลัน
ดูตะวันหมดเมฆวิเวกโพยม

หอมดอกไม้ในสวนให้ชวนชื่น
รวยระรื่นรินรินเหมือนกลิ่นโฉม
โอ้ยามนี้มิได้กลิ่นประทินชโลม
มาทราบโทรมแต่บุปผาสุมาลี

แมงภู่เชยเหมือนพี่เคยประคองเคล้า
ดอกไม้เศร้าเหมือนกะน้องแม่หมองศรี
เห็นจากต้นปนสละสุดทวี      
เหมือนตัวพี่จากละสละไกล

เห็นโศกแซมแกมระกำช้ำละห้อย      
ยิ่งโศกสร้อยอุราน้ำตาไหล
โอ้โศกต้นไม่วิโยคเหมือนโศกใจ
ระกำไม่เหมือนระกำที่ช้ำมา ฯ

(http://upic.me/i/dv/linie-0020.png) (http://upic.me/show/44003078)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)
                                                                     ต่อไป  >>> (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5451.15)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 04, พฤษภาคม, 2558, 09:15:25 AM


๏ ถึงบ้านบางธรณีไม่มีชื่น      
โอ้ภาคพื้นแผ่นไผทก็ใหญ่หนา
เรายามจนอ้นอั้นเหลือปัญญา      
สุดจะอาศัยดินสิ้นทั้งปวง

ถึงภาษีตีฆ้องร้องเอิกเกริก      
จะคอยเบิกของไปเข้าในหลวง
พี่ทุกข์โศกโรครักเหลือตักตวง      
อยู่ในทรวงพี่จะเพิกไม่เบิกเลย

ทั้งด่านดักกักเรือไว้เหลือแหล่
เขาแลแลดูเราแล้วเขาเฉย
เหมือนจะรู้ดูใจว่าไม่เสบย      
โอ้อกเอ๋ยอายจิตอนิจจา

เข้าคลองเกร็ดเกร็ดตรองให้หมองจิต      
เหมือนไร้มิตรเตร็ดเตร่ร่อนเร่หา
เห็นมอญนุ่งถุงเดินดำเนินมา      
ดูยวนตาแลโปร่งกว่าโจงกระเบน

(http://upic.me/i/an/de09lird5e2.gif) (http://upic.me/show/38620789)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 04, พฤษภาคม, 2558, 09:20:00 AM

โอ้รามัญนั้นก็งามไปตามเขา      
มีเรือนเหย้าวัดวามหาเถร
จนออกจากปากคลองพอน้องเพล      
ดูไม้เอนอ่อนระงมด้วยลมปลิว

ทั้งสามชายท้ายหน้าอัชฌาสัย      
เขาคลี่ใบกางเรื่อยแล่นเฉื่อยฉิว
ดูเพื่อนเรือเหนือใต้ไปเป็นทิว      
บ้างก็ผิวปากพร้องร้องระงม

พอน้ำใหญ่ไหลหลั่งขึ้นบ้างแล้ว      
เขาหยุดแจวพูดจ้อหัวร่อขรม
เรือเป็ดสามแจวเพรียวดูเกลียวกลม      
ได้น้ำลมแล่นเหลือจนเรือเอียง ฯ

(http://upic.me/i/7a/j2wuu.gif) (http://upic.me/show/46398040)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 16, พฤษภาคม, 2558, 04:06:54 AM

๏ ถึงบางพูดพี่แลเห็นแต่ตลิ่ง      
ไม่พูดจริงเหมือนกะฦๅซึ่งชื่อเสียง
ไม่เหมือนน้องพร้องเสนาะเพราะสำเนียง      
ทั้งกลมเกลี้ยงฉ่ำชื่นเหมือนกลืนเดือน

แต่จริงจังยังไม่ได้พิสูจน์      
จะเหมือนพูดกันไว้ฤๅไม่เหมือน
ด้วยเคยเห็นเช่นจริตมักบิดเบือน      
แม้เล่นเพื่อนพูดหลงแล้วคงเลว

ด้วยมนุษย์พูดกันทุกวันนี้
ไม่มีที่ยึดหน่วงเหมือนห้วงเหว
ไม่มีรสหมดเนื้อเหลือแต่เปลว      
พูดเหลวเหลวมีมากไม่อยากฟัง

แต่รักกันสัญญาสารพัด      
ยังทิ้งสัตย์เสียไพล่ไปใช้ถัง
เมื่อต่อหน้าว่าดีไม่มีชัง      
ไปลับหลังแล้วก็ว่าสารพัน

เคยพบเห็นเช่นนี้มีมามาก      
พูดเขายากยอมกลัวแล้วตัวฉัน
แต่พระนอนวัดโพธิ์โตไม่บัน      
คนทุกวันเขายังอมละลมละลาย ฯ

(http://upic.me/i/7q/w2nm3.gif) (http://upic.me/show/37080035)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)




หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 18, พฤษภาคม, 2558, 05:10:57 AM

๏ ถึงบางพังพังจำเพาะน้ำเซาะตลิ่ง      
ทรวงพี่ยิ่งกว่าฝั่งพังสลาย
ด้วยโศกเซาะเราะอุรังซังกะตาย      
มาถึงท้ายย่านทางบางโควัด

โอ้โคทรงองค์ศุลีนี่ฤๅหนอ      
ฉันจะขอพรพระองค์ทรงสวัสดิ์
ไม่เห็นเคลื่อนเลื่อนโพยมโทมนัส      
เห็นแต่มัดอ้อยสล้างเขาวางราย

โอ้อ้อยเอ๋ยเคยกลืนชื่นคอหอย
หวานอร่อยรสชาติประหลาดหลาย
ข้างต้นหวานพานจะชืดไปจืดปลาย      
เหมือนหญิงชายใจจางหมางอารมณ์

เมื่อแรกรักน้ำผักก็ว่าหวาน      
ครั้นเนิ่นนานน้ำอ้อยก็กร่อยขม
เหมือนคำพาลหวานนักมักเป็นลม      
แต่เขาชมกันว่าดีนี่กระไร

บอระเพ็ดนั้นเป็นยารักษาโรค      
แต่ความโลกเขาว่าขมหาชมไม่
เหมือนคนซื่อพูดจาประสาใจ      
ไม่มีใครชมปากมิอยากยิน

เหมือนตัวเราเล่าก็วาสนาน้อย      
จะกล่าวถ้อยท่านบเชื่อเหลือถวิล
จะตกปลาปลาไซร้ก็ไม่กิน      
เพราะว่าชิ้นเหยื่อประกอบไม่ชอบปลา ฯ

(http://upic.me/i/ae/mdmu-9.png) (http://upic.me/show/53373970)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)




หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 21, พฤษภาคม, 2558, 05:40:54 AM

๏ ถึงบ้านใหม่ใครเล่าเป็นเจ้าของ      
เขาตรึกตรองหาใหม่ยังได้หนา
แต่เราหนอทรมานก็นานมา      
จะตรองหาบ้านใหม่ไม่ได้เลย

โอ้บุญน้อยน้อยน่าน้ำตาตก      
สงสารอกอนาโถพุทโธ่เอ๋ย
มาถึงโคกช้าพลูไม่สู้เสบย      
พี่แหงนเงยดูโคกยิ่งโศกใจ

หมายว่ามีช้าพลูดูก็เปล่า      
เห็นแค่เค้าโคกหญ้าน้ำตาไหล
เหมือนแนะนำน้ำจิตให้คิดไป      
เหลืออาลัยลับโคกยิ่งโศกทรวง

ถึงบางหลวงเชิงรากยิ่งยากนัก
เหมือนราครักรึงใจเป็นใหญ่หลวง
นึกถึงเล่ห์เสน่หาสุดาดวง      
เชิงเจ้าล่วงรู้ใจพี่ในเชิง

ตะวันแจ๊ดแดดจัดกำดัดร้อน      
ทินกรบ่ายคล้อยดูลอยเหลิง
โอ้ร้อนไฟไหม้กลับยังดับเพลิง      
แต่ร้อนเริงราคขับไม่ดับลง ฯ

(http://upic.me/i/zo/oop146.png) (http://upic.me/show/44003095)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 24, พฤษภาคม, 2558, 07:46:31 PM

๏ ถึงสามโคกโคกใครที่ไหนนี่      
ถึงสามสี่แสนละโมบด้วยโลภหลง
แต่โคกเดียวเจียวนะเราเฝ้าจำนง      
สุดประสงค์ที่จะเสาะเที่ยวเกาะกุม

อันชื่อสามโคกนี้มีแต่ก่อน      
ประชากรเก็บบัวมามั่วสุม
จึงเปลี่ยนชื่อฦๅเลื่องเมืองปทุม      
เพราะบัวชุมเดือนสิบเอ็ดเสด็จมา

แต่ก่อนนี้เล่าก็มีอยู่บ่อยบ่อย      
เดี๋ยวนี้คอยดูเล่นไม่เห็นหนา
โอ้เยี่ยงอย่างปางหลังแล้วยังซา      
วาสนาจะมิตกเล่าอกเรา

นามปทุมคิดปทุมที่พุ่มถัน      
แต่ละอันเต่งลออเหมือนหล่อเหลา
นิจจาเอ๋ยเคยพึ่งเจ้าคลึงเคล้า      
มาจากเจ้าพุ่มพวงเพียงทรวงฟก

(http://upic.me/i/30/1115023nhxhf2sc0s.png) (http://upic.me/show/44003036)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 28, พฤษภาคม, 2558, 08:22:49 AM

๏ ถึงบ้านงิ้วหวิวจิตให้คิดขาม      
แต่เห็นหนามเข้าประเดี๋ยวยังเสียวอก
ให้พรั่นใจไหวหวิวถึงงิ้วนรก      
แม้นไปตกแล้วก็หนามคงตำตีน

เพราะรูปาวจรหล่อนทำเข็ญ      
ใครเกิดเป็นบุรุษวิสุทธิ์ศีล
เห็นสาวสาวเข้าไม่ได้เหมือนใจจีน      
จะพ้นปีนงิ้วนี้สักกี่คน

อันห้ามอื่นหมื่นมากพอหากห้าม
แต่ห้ามความปฏิพัทธ์เห็นขัดสน
แต่ก่อนนั้นเราก็พานจะซุกซน      
ยังจะพ้นฤๅไฉนไม่รู้เลย ฯ

(http://upic.me/i/5a/0sda4ctzrd3.gif) (http://upic.me/show/43938134)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 30, พฤษภาคม, 2558, 12:07:19 PM

๏ บางกระบือรื้อคะนึงถึงกาสร      
มาต้องตอนเวทนานิจจาเอ๋ย
ถ้าเราขืนตื่นอยากมักมากเชย      
จะต้องเสวยทุกข์บ้างเหมือนอย่างควาย

อันกาเมสุมิจฉานี้สาหัส      
จะฝากวัดไว้กะพระสละถวาย
อันคู่เขาเราหนอไม่ขอกราย      
แต่แม่ม่ายจำจะคิดสิทธิ์แก่ตัว

ถึงคุ้งเคี้ยวเลี้ยวลับลมอับแล้ว      
เขาจับแจวจ้วงกรายทั้งท้ายหัว
ต่างพูดจาฮากันสนั่นนัว      
แต่พี่มัวหมองช้ำระกำกาย

ถึงมามากจากเจ้าแล้วเปล่าเปลี่ยว      
เหมือนมาเดียวดั่งจะให้น้ำใจหาย
โอ้ยามเข็ญแลเห็นแต่เพื่อนชาย      
แม่เพื่อนตายมิได้มาอานุกูล

ที่เคยชื่นเคยชมกลับกรมทุกข์      
ที่เคยสุขเคยสบายก็หายสูญ
ถึงเกาะใหญ่ในอุราพี่อาดูร      
เป็นเกาะพูนขึ้นเพราะดินนั้นภิญโญ

จนพฤกษาคากกขึ้นรกที่      
เหมือนทรวงพี่เกิดรักขึ้นอักโข
จนทุกข์โศกโรคภัยเกิดใหญ่โต      
หัวอกโอ้เหลือจะรับอัประมาณ

(http://upic.me/i/i6/2201761.png) (http://upic.me/show/44002816)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)




หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 01, มิถุนายน, 2558, 09:51:19 AM

ยิ่งครวญคร่ำร่ำมาในนาเวศ      
จนสุดเขตเกาะใหญ่อันไพศาล
พอได้ลมระดมแล่นแสนสำราญ      
ถึงบ้านลานเทถวิลในวิญญาณ์

โอ้ลายเอ๋ยเคยเทอย่าเหหัน      
วานช่วยเททุกข์ฉันสักหน่อยหนา
ด้วยนางเททอดใจอาลัยมา      
เหลืออุราแล้วจึงวานบ้านลานเท

เห็นลานเฉยพี่ก็เลยลานถวิล      
ฤดีดิ้นแดรนระหนระเห
แม่น้ำกว้างว้างวุ้งทุ่งทำเล      
เหลือคะเนแลหมายสุดสายตา

หัวอกโอ้อ้างว้างมาทางเปลี่ยว      
จะแลเหลียวลิบลิ่วทิวพฤกษา
แสนกันดารบ้านช่องล้วนท้องนา      
ทั้งกุมภิลาพาลจะร้ายในสายชล

จนชาวเรือเหลือระอาที่ค้าขาย      
ทั้งผู้ร้ายเร้นแฝงทุกแห่งหน
พอรอนรอนอ่อนแสงพระสุริยน      
เห็นหมอมนเวหาดูน่ากลัว

ฝูงปักษาพาเพื่อนเที่ยวเกลื่อนกลุ้ม      
นกตะกรุมหัวล้านประจานหัว
อีโก้งกางยางกรอกนกดอกบัว      
กระเต็นกระตั้วบินเตี้ยเรี่ยเรี่ยดิน

ช้อนหอยหาปลามองตามท้องทุ่ง      
นกกระทุงลอยแพกระแสสินธุ์
ฝูงวิหคนกกาเที่ยวหากิน      
บ้างโบกบินคาบเหยื่อไปเผื่อเมีย

โอ้ตัวเราเล่าก็อกเหมือนนกผู้      
ถ้าคงคู่แล้วก็คงจะส่งเสีย
น่าอายนกอกใจเหมือนไฟเลีย      
จะได้เคลียคลอนางเมื่อปางใด

(http://upic.me/i/eo/ai691.gif) (http://upic.me/show/21651556)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 07, มิถุนายน, 2558, 12:30:16 PM

พระสุริยงเย็นระย่อลงยอแสง      
ดูฟ้าแดงดั่งจะพาเลือดตาไหล
ค่อยคล้อยคล้อยลอยต่ำลงรำไร      
เหมือนอาลัยโลกาจะลาจร

แต่ใจนางปางจะหน่ายกระไรนัก      
มาร้างรักรีบรุดจนหลุดถอน
ไม่รอรั้งสั่งใจอาลัยวอน      
ให้เร่าร้อนใจเจ็บทั้งเหน็บแนม

เสียดายเหลือเรื้อรังไปทั้งหมด      
ต้องแรมรสรักรามาป่าแขม
ฟ้าสลัวมัวมนเป็นฝนแกม      
พอเลี้ยวแหลมบางไทรก็ใจมา

ไทรนี้ฤๅคือเทพยสิงสู่      
ที่อุ้มชูอนิรุทธสมอุสสา
ช่วยอุ้มพาข้าไปชมสมสุดา      
พอดับอาดูรฉันให้บรรเทา

วอนเทพใดเทพไทไม่รับขวัญ      
ฤๅเห็นฉันอนาถายิ่งกว่าเขา
แต่น้ำตาข้าไหลก็ไม่เบา      
พอสรงเท้าท่านให้สร่างสว่างแด

พิไรทางพลางแลตลิ่งข้าม      
เป็นสองง่ามสงแยกฉะแวกแฉว
แม่น้ำเดียวเจียวยังต้องเป็นสองแคว      
ใจมนุษย์ฤๅจะแน่เป็นหนึ่งใจ

จึงเจ็บอกฟกช้ำระยำยอก      
ล้วนนมหลอกล่อหลงให้สงสัย
เห็นฝนชอุ่มคลุ้มคล้ำช้ำฤทัย      
นภาลัยแล่นแลบวะแวบแวว

(http://upic.me/i/2k/1492713xc2fsmiz6j1.png) (http://upic.me/show/36146938)
นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 09, มิถุนายน, 2558, 10:32:26 AM

เพื่อนเรือด่วนชวนกันกันเข้าฝั่ง      
จอดที่บังลมต้องเป็นถ่องแถว
พอเรือเราเข้าจอดเขาถอดแจว      
ไม่ทันแล้วฝนลมระดมกราว

บ้างลงหลักชักขยาบขึ้นทาบพาด      
พิรุณสาดแสนเข็ญยิ่งเย็นหนาว
ดูเมฆมัวทั่วทิศมิดเดือนดาว      
มาปะคราวเคราะห์กรรมจะทำกระไร

เห็นฟ้าคลุ้มพี่ยิ่งกลุ้มในทรวงอก      
เห็นฝนตกก็ยิ่งพาน้ำตาไหล
เสียงฟ้าครวญพี่ยิ่งครวญป่วนฤทัย      
ทั้งหนาวใจหนาวฝนเหลือทนจริง

ถึงจะระดมห่มนวมฤๅสวมเสื้อ      
ไม่อุ่นเนื้อเหมือนหนึ่งกอดแม่ยอดหญิง
มาไกลต้องต้องนอนกับหมอนอิง      
มิได้พิงพึ่งนางให้หมางมัว

พอฝนฟ้าซาเม็ดสักเจ็ดทุ่ม      
เดือนยังคลุ้มมิใคร่สุกขมุกขมัว
ทั้งเพื่อนเรือเขาจะไปเขาไม่กลัว      
ต่างแต่งตัวเคลื่อนคล้านาวาเมื้อ

มีเพื่อนสองลำพอได้คลอเคล้า      
สงัดเหงาเงียบทั่วน่ากลัวเหลือ
ทั้งเงาไผ่พุ่มไม้ออกครุมเครือ      
เห็นแต่เรืออ้ายขโมยเที่ยวโชยชาย

ข้างพวกเราเพื่อนเรือก็เหลือพรั่น      
แต่ตัวฉันภาวนาให้ซาหาย
ผลเดชเมตตารักษากาย      
มันผันผายไปเงียบไม่เลียบเคียง

(http://upic.me/i/dv/linie-0020.png) (http://upic.me/show/44003078)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านกลอนน้อย ที่ 15, มิถุนายน, 2558, 04:41:57 AM

ฟังเสียงเอียดเขียดกบมันขบเคี้ยว      
กระกรอดเกรี้ยวกรีดกราดไม่ขาดเสียง
เหมือนรุกรุยรุงรังที่วังเวียง      
ทำสำเนียงหวาดหวีดดิ้นดีดดี

ที่กิ่งไม้เรไรระหริ่งเรื่อย      
จักจั่นเจื้อยจังหรีดดังดีดสี
โอ้ยามเฟือนเหมือนกะฟังดั่งดนตรี      
กล่อมฤดีตามประสาเวลาจน

ที่ไม้เรียงเสียงบุหรงพะวงหวาด      
ในอากาศกระเรียนร้องกึกก้องหน
แว่วสำเนียงว่าเสียงนฤมล      
โอ้ลมบนหอบมาฤๅว่ากระไร

ครั้นฟังไปใช่เสียงสำเนียงน้อง      
ยิ่งมัวหมองวายวับไม่หลับไหล
ถึงเกาะเกิดเกิดขวางหนทางไป      
โอ้ไฉนจึงจำเพาะเป็นเกาะกลาง

คิดถึงรักหนักหน่วงเพียงทรวงซ้ำ      
จนเกิดกรรมเกิดเคราะห์เหมือนเกาะขวาง
มิได้แอบแนบประคองกับน้องนาง      
ต้องแรมทางถึงทวาราวดี

พอเมฆเกลื่อนเดือนหงายดูฉายช่วง      
คิดถึงดวงพักตรานราศรี
ผ่องประไพไฝฝ้าไม่ราคี      
เดือนยังมีเงากระต่ายอยู่พรายพร้อย

โอ้กระต่ายหมายบุหลันถึงชั้นฟ้า      
จันทร์ยังว่ามีกะจิตให้ติดสอย
สู้รับเงาเข้าผนิดติดเป็นรอย      
มิให้น้อยใจกระต่ายที่หมายเชย

(http://upic.me/i/rb/009_linie024.png) (http://upic.me/show/36147058)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 16, มิถุนายน, 2558, 05:22:52 AM


แต่ใจมนุษย์สุดดำด้วยน้ำรัก      
เห็นต่ำศักดิ์แล้วก็เบือนทำเชือนเฉย
ให้เจ็บช้ำคำประเทียบนั้นเปรียบเปรย      
ไม่สิ้นเลยลมลวงให้ง่วงงม

โอ้ใจจือมืดเหมือนเดือนพยับ      
ทำลับลับแล้วก็ล่อเล่นพอถล่ม
เสาวคนธ์มณฑายอดยาดม      
ไม่ลอยลมลิ่วฟ้าลงมาเลย

ส่งแต่กลิ่นรินรื่นทุกคืนค่ำ      
ให้ระกำโลกานิจจาเอ๋ย
แมงภู่ผอมตรอมใจไม่เสบย      
มิได้เชยดอกฟ้าที่ยาใจ

แสนวิตกด้วยเจ้านกกะลิงพี่      
โอ้ป่านนี้ขวัญอ่อนจะนอนไหน
ฤๅลมพัดซัดนกไปตกไกล      
ชมมิ่งไม้ป่าเขาลำเนาเนิน

น้ำค้างพรมลมว่าวจะหนาวอก      
สงสารนกร่างน้อยเที่ยวลอยเหิน
ฤๅได้เพื่อนเยือนกอดจะพลอดเพลิน      
ไม่เห็นเกริ่นกลับหลังมารังเลย

เคยซับทราบอาบละอองที่ผ่องแผ้ว      
ลืมเสียแล้วฤๅกะลิงจึงนิ่งเฉย
เรียมถวิลกินใจไม่เสบย      
คิดถึงเคยเสนหาน้ำตาคลอ

(http://upic.me/i/s9/pj383.png) (http://upic.me/show/55875076)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 18, มิถุนายน, 2558, 09:16:28 AM

มาสุดเกาะก็จำเพาะน้ำลงเชี่ยว      
คนแจวเหนี่ยวเหนื่อยใจกระไรหนอ
ทั้งเพื่อนเรือเหลือระอาต่างรารอ      
จอดเข้าพอพักผ่อนที่อ่อนโรย

จนดาวเดือนเคลื่อนดับลงลับเมฆ      
ยิ่งวิเวกมัวมนกระหนโหย
เสียงเค้ากู่ภูระโดกโหวกโหวกโวย      
พระพายโชยเฉื่อนหนาวกระส่าวซึม

ดูทุ่งทางกว้างซึ้งยิ่งลึงโลด      
เสียงโขมดนางไม้ให้กระหึม
ตามสุมทุมพุ่มพฤกษ์ดูครึกครึ้ม      
สงัดงึมเหงาใจไม่สบาย

จนจวนรุ่งรางรางน้ำค้างหยาด      
บุปผชาติชื่นแช่มแย้มขยาย
หอมผกาเกสรขจรขจาย      
เหมือนหล่อนสายสมรมิตรแม่ติดมา

โอ้ยามนี้มิได้เชยเหมือนเคยชื่น      
มาหอมรื่นแต่ลำดวนยิ่งหวนหา
ให้วาบวับจับใจเมื่อไสยา      
หนาวน้ำฟ้าเย็นเนื้อจนเหลือทน

สกุโณโกกิลากาไก่แก้ว      
จะเจื้อยแจ้วขานขันสนั่นหน
จนแสงทองส่องสางสว่างบน      
พระสุริยนแย้มเยี่ยมโพยมมาน

ต่างก็ออกนาวาเวลารุ่ง      
เขารีบหุงเสร็จหากระยาหาร
แต่ฉันหนอคอแค้นแสนสำราญ      
จะรับประทานแต่ละคำต้องน้ำเจือ

(http://upic.me/i/46/1228403483.gif) (http://upic.me/show/35354996)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 18, มิถุนายน, 2558, 09:18:56 AM


คิดถึงเจ้าเคี้ยวข้าวก็เป็นแป้ง      
เคี้ยวปลาแห้งก็เป็นผงลุ่มหลงเหลือ
แม้ได้เจ้าดวงใจมาในเรือ      
ข้าวกับเกลือก็จะกลืนไม่ขื่นเค็ม

สงสารเจ้าเยาวมาลย์โอ้ป่านนี้      
จะม้วนบุหรี่ฤๅจะเย็บตะเข็บเข็ม
จะจีบพลูเจียนตองสอดซองเต็ม      
ฤๅจะเล็มเลือกหามาลากรอง

ฤๅจะอ่านสารศรีที่พี่ให้      
ฤๅดวงใจคิดเพียรเขียนสนอง
จะอบน้ำฤๅจะทำประทิ่นทอง      
ฤๅนวลน้องนอนนั่งตั้งคะนึง

โอ้บุญเหลือเนื้อทองแม่น้องแก้ว      
จะรู้แล้วฤๅว่าจิตพี่คิดถึง
มิตรจิตขอให้มิตรใจตรึง      
ให้เหมือนหนึ่งน้ำฟ้ามายาทรวง ฯ

(http://upic.me/i/30/1115023nhxhf2sc0s.png) (http://upic.me/show/44003036)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)

<<< ก่อนหน้า (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5451.0)                 ต่อไป  >>>
 (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5451.30)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 29, มิถุนายน, 2558, 07:54:48 AM

๏ ถึงเกาะบางนางอินถวิลหวัง      
เป็นที่วังงดงามอารามหลวง
ดูครึ้มครึกพฤกษาลดาดวง      
ทรงผลพวงมาลีน่าปรีดิ์เปรม

มีทั้งสระปทุมาชลาสินธุ์      
เหมือนมุจลินท์ที่ลงแห่งหงส์เหม
แมลงภู่หมู่ภมรประอรเอม      
โสรจเกษมเสาวมาลย์เบิกบานผจง

ฝูกปักษากาแกก็แซ่เสียง      
ทำรังเรียงรุกข์ร่มชมรมระหง
เห็นนกขมิ้นเหลืองอ่อนเจ้าร่อนลง      
เหมือนอนงค์ทาประทิ่นขมิ้นนวล

เห็นโนรีนกสีชมพูแผด      
เหมือนสีแสดนุชย้อมทั้งหอมหวน
เห็นนกแก้วจับแก้วแจ้วจรรจวน      
เหมือนสำนวนน้องแก้วแจ้วเจรจา

จากพรากเหมือนพี่จากสมรแม่      
กระสาแซ่เหมือนกะฉันกระสันหา
เห็นนกฝูงข้ามฝั่งไปกลางนา      
พี่โศกาก่นดั่งร้องสั่งตาม

ว่านกเอ๋ยเจ้าจะบินไปถิ่นไหน      
ขอเชิญไปถึงอนงค์หล่อนคงถาม
จงบอกมิตรขนิษฐาพะงางาม      
ให้ทราบความนะว่าเรียมนี้เตรียมตรม

นกไปหน่อยแล้วก็ลอยมากลางหาว      
ไม่บอกข่าวเรื่องความเจ้างามสม
เรียมยิ่งแสนแค้นในฤทัยระทม      
ให้ปรารมภ์ถึงสมรยิ่งร้อนแรง ฯ

(http://upic.me/i/9z/owjh030.gif) (http://upic.me/show/54476969)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 01, กรกฎาคม, 2558, 10:32:52 AM


๏ ถึงเกาะพระไม่เห็นพระเป็นไฉน      
พระจึงไม่แย้มเยี่ยมเผ้าเฟี้ยมแฝง
เห็นแต่ไร่ใบผักแลฟักแฟง      
ทั้งเต้าแตงพริกมะเขือดูเหลือตรา

นางสาวสาวเจ้าของเขาร้องขาย      
พูดไม่อายอือเออกะเหนอกะหนา
พี่พิศดูสาวสาวพวกชาวนา      
ดูหน้าตาดำด่อนไม่อ่อนโยน

แต่ทาสีที่ในวังรังกะตุ๋ย      
ยังหอมฉุยโฉมสะอาดดูผาดโผน
แต่พวกเราเขาว่าประสาโลน      
ดำเหมือนโคลนก็ไม่ว่าดอกหนาเรา

ตำราจีนเขาว่ากินซึ่งปลายอ้อย      
ยังอร่อยมากมากกว่าปากเปล่า
ถึงรูปชั่วตัวดำก็ทำเนา      
เหมือนอดข้าวกินมันพอกันตาย ฯ

(http://upic.me/i/6e/linie-0033.png) (http://upic.me/show/44003083)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 13, กรกฎาคม, 2558, 11:15:13 AM

๏ ถึงบ้านมอญก่อนเกาะตะเภาล่ม      
เภตราจมอยู่ในแควกระแสสาย
โอ้ว่าเรือเหลือประทังกำลังกาย      
ต้องทำลายล่มลงในคงคา

อันตัวเราเล่าก็เหลือเหมือนเรือเพียบ      
มาเหงาเงียบโดยประดาษพาสนา
นับจะจมล่มชื่อไม่ฦๅชา      
สุดจะกู้แก้หน้าให้นวลพราย

เหลือบเขม้นเห็นผลต้นมะกล่ำ      
ฉันนี้คำนึงไปแล้วใจหาย
นิสัยปราชญ์ชาติเชื้อปรีชาชาย      
ย่อมมาดหมายมอบตนกับคนดี

แม้เอาเทียบเปรียบพาลสันดานเขลา      
ย่อมโศกเศร้าสารพัดจะบัดสี
เหมือนน้ำเนื้อนพมาศชาติชาตรี      
ถึงใครตีด้วยฆ้องประคองดัง

ไม่เจ็บเท่าเอาเปรียบเทียบมะกล่ำ      
ปราชญ์จึงทำกิริยาเหมือนบ้าหลัง
แม้ท่านที่มีพระคุณจะกรุณัง      
ขออย่าชั่งกับมะกล่ำให้ช้ำใจ

พอเรือมาหน้าโบสถ์วัดโปรดสัตว์      
เห็นพุทธรัตนยอกรขึ้นวอนไหว้
โอ้ตูข้าสารพัดจะขัดใน      
ขอโปรดให้ฟื้นบ้างเถิดครั้งนี้ ฯ

(http://upic.me/i/av/9btvg.gif) (http://upic.me/show/56164886)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 18, กรกฎาคม, 2558, 03:14:07 PM

๏ ถึงตะเกี่ยก่อนเก่าฟังเขาว่า      
ว่าศาสนาพวกตะเกี่ยเดียรถีย์
เขาทำบุญของเขาเข้ากระฎี      
แม้ถูกที่พวกพ้องพี่น้องกัน

ย่อมปรีดาปราโมทย์พระโปรดช่วย      
ถึงมอดม้วยก็คงได้ไปสวรรค์
ศาสนาผาสุกสนุกครัน      
ให้ผลทันใจอยากไม่ยากเย็น

จะจริงจังอย่างไรไฉนหนา      
เขาเล่ามาเล่าก็มากนึกอยากเห็น
แม้อย่างเราเขาจะให้เข้าไปเป็น      
จะทำเช่นนั้นกระดากเห็นยากใจ

มาเข้าช่องคลองตะเคียนเจียนฉงน      
ไม่เห็นต้นตะเคียนมีอยู่ที่ไหน
หมายจะบวงสรวงสางแม่นางไม้      
ให้ช่วยไปเชิญขวัญกัลยา

มาร่วมเขนยเชยชิมให้อิ่มรัก      
ไม่พบพักตร์นางไม้พิไรหา
เห็นแต่แขกแปลกชาติอนาถตา      
ส่งภาษาแสบหูไม่รู้ความ

มาออกจากปากคลองตะเคียนแล้ว      
ยิ่งไกลแก้วกลอยใจฤทัยหวาม
ถึงสวนมะม่วงเห็นมะม่วงเป็นพวงงาม      
ที่หอมห่ามมดแดงเข้าแฝงตอม

ไม่รู้รสมดเอ๋ยมาเชยเฝ้า      
แต่รักเขาข้างเดียวเทียวถนอม
เหมือนชายเฉาเฝ้ารสจนอดออม      
เขามิยอมก็ยังวอนชะอ้อนคำ

เหมือนเราไซร้ใครฤๅเขาถือศักดิ์      
ถึงแสนรักก็ไม่รอที่ตอคร่ำ
ถ้าใครรักรักตอบให้ชอบธรรม      
ไม่ขอช้ำใจเป็นเหมือนเช่นมด

(http://upic.me/i/7a/j2wuu.gif) (http://upic.me/show/46398040)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 24, กรกฎาคม, 2558, 05:13:36 AM

พิไรพลางทางมุ่งดูกรุงเก่า      
ให้แสนเศร้าโศกในฤทัยสลด
ดูภูมิฐานบ้านเมืองรุ่งเรืองยศ      
ควรฤๅลดลงเป็นป่าน่าเสียดาย

ดูวัดวาอารามงามสล้าง      
บ้างรกร้างโรยราน่าใจหาย
เมื่อครั้งกรุงยังสนุกสุขสบาย      
ได้ยินฝ่ายผู้เฒ่าเขาเล่ามา

ว่าเศรษฐีมีทรัพย์ไม่นับได้      
สร้างวัดให้ลูกรักนั้นหนักหนา
ถ้าบุตรใครไม่มีซึ่งวัดวา      
ไปเล่นอารามเขาเศร้าฤทัย

เจ้าของเขาเฝ้าเปรยเยาะเย้ยหยอก      
กลับมาบอกบิดาน้ำตาไหล
พ่อก็สร้างอารามให้ตามใจ      
วัดจึงได้เกลื่อนกลาดดูดาษดา

อันเมืองนี้เล่าก็มีแม่น้ำรอบ      
เป็นคูขอบเขื่อนขัณฑ์ก็หนั่นหนา
กษัตริย์สืบสุริย์วงศ์ทุกองค์มา      
ก็ย่อมปรากฏเดชทุกเขตแดน

แต่องค์หลังครั้งเมืองจะเคืองเข็ญ      
เผอิญเป็นรักงามหลงห้ามแหน
ถ้าโปรดใครก็ประทานว่าการแทน      
จึ่งคับแค้นไพร่ฟ้าประชาชน

(http://upic.me/i/22/yzsjy.gif) (http://upic.me/show/55127995)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 01, สิงหาคม, 2558, 01:46:58 PM

ไม่เลี้ยงดูผู้ทหารชาญฉลาด      
โปรดแต่ชาติพาลเผ่าเฉาฉงน
จนผู้ที่ปรีชาปัญญายล      
ต่างเอาตนออกหากจากราชการ

ครั้นศึกพม่ามาประชิดติดกรุงศรี      
จึงไม่มีใครจะมาอาสาหาญ
เมืองจึงแตกแยกยับอัประมาณ      
นึกสงสารคราน้ำตากระเด็น

ถ้าเจ้านายเลี้ยงชายปรีชากล้า      
อ้าหม่าไหนจะย่ำมาทำเข็ญ
แม้บ้านเมืองเฟื่องฟูยังอยู่เย็น      
เราก็เป็นชาวกรุงที่รุ่งเรือง

โอ้กรุงยับอัปราเป็นป่ารก      
เราก็ตกอับปางแทบคางเหลือง
ต้องจำจากรากเหง้าที่ชาวเมือง      
ไปเป็นเครื่องชาวบางกอกเขาหลอกกิน

คิดถึงยามสำราญอยู่บ้านช่อง      
เล่นเขาทองแล้วมิหนำซ้ำกฐิน
ออกไปอยู่กรุงเทพเสพเพชรนิล      
แต่ปัดหินก็มิใคร่จะได้ชม

อยากพากเพียรเรียนวิชาเอาหน้าชื่อ      
เขากลับฤๅอนาถาก็สาสม
ไม่เจียมพุงกรุงเก่าโง่เง่างม      
จนตกตมเต็มมิดเหมือนติดดัง ฯ

(http://upic.me/i/ye/line70.gif) (http://upic.me/show/43024979)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 06, สิงหาคม, 2558, 06:35:23 PM

๏ ถึงอารามงามล้ำเคยสำเหนียก      
เดิมนั้นเรียกธรรมาเหมือนว่าหวัง
คนมาเรียกธารมาดูน่าชัง      
นึกก็สังเวชใจอาลัยตรอง

ถึงมาตรว่าอารามจะงามฤๅ      
ถ้าออกชื่อธารมาก็พาหมอง
เหมือนพากเพียรเรียนรู้ต่อครูครอง      
ดั่งเรือนทองเพชรประดับสำหรับใจ

แม้ชื่อเสียงเอียงอับใครนับถือ      
ถ้าออกชื่อเข้าก็หมองไม่ผ่องใส
จะจงรักภักดีนารีใด      
เขาก็ไม่รักแทนน่าแค้นเคือง

ถึงสามแยกแฉกแฉไปแควเหนือ      
แลลิ่วเหลือสุดหล้าดูฟ้าเหลือง
พอรามรามข้ามคล่องเข้าครองเมือง      
ดูแน่นเนืองเรือแพออกแซ่เซ็ง

แต่ก่อนกว้างขวางดีเดี๋ยวนี้แคบ      
ต้องแจวแอบโดนดังกันปังเป้ง
โอ้หัวแหลมแหลมแต่ชื่อไม่ฦๅเลง      
ไม่แหลมเก่งเหมือนกะว่านัยน์ตาค้อน

อันคมตามาเหน็บแล้วเจ็บนัก      
ดั่งศรปักทรวงฉุดไม่หลุดถอน
ถึงบ้านท่าหลวงนานึกอาวรณ์      
ด้วยปางก่อนรักใคร่เคยไปมา

ต้องแวะเยือนเหมือนกะท่านเป็นฉันญาติ      
ให้ยกถาดกระท้อนห่อไปต่อหน้า
หลายสิบผลคนธรสโอชา      
ขึ้นไปหาให้ท่านโดยกันเอง

(http://upic.me/i/i6/2201761.png) (http://upic.me/show/44002816)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 08, สิงหาคม, 2558, 01:24:13 PM

ท่านให้ก้านฟักทองสนองตอบ      
ยังนึกขอบใจเจาะด้วยเหมาะเหม็ง
นิสัยท่านนั้นก็รักข้างนักเลง      
พูดแต่เพลงกาพย์กลอนจนอ่อนระอา

พอพลบค่ำอำลาออกนาเวศ      
อนาถเนตรนึกนวลให้หวนหา
ดูชาวแพชาวบ้านนานนานมา      
ให้แปลกตามิรู้ว่าผู้ใด

ถึงแพผ้าหน้าแพก็แลเงียบ      
ค่อยลอยเลียบเลงหลงคิดสงสัย
ร้องเรียกผ้าข้าคนก็จนใจ      
ไม่มีใครขานรับอัประมาณ

แต่พี่น้องของเราเขาไม่รู้      
ยังซ้ำขู่ใครหนามาว่าขาน
คุณป้าขายให้กะข้ามาช้านาน      
พอทราบสารแสบในน้ำใจเจือ

น้ำตาหลั่งพรั่งพรูเพราะรู้แน่      
ว่าพ่วงแพป้าขายเสียดายเหลือ
จึ่งให้ถอยคล้อยเคลื่อนเลื่อนลำเรือ      
ไปแพเหนือรอราคอยหารือ

พอหลานเฟื่องเยื้องหน้าออกมาเห็น      
มองเขม้นถามว่าคุณอาหรือ
พอรับคำเขาก็ก้มพนมมือ      
ยังนับถือนอบไหว้ขอบใจครัน

แล้วร้องเกริ่นเชิญอาขึ้นมานี่      
ขอบไมตรีพจมานของหลานขวัญ
ฉันมีของสิ่งใดก็ให้ปัน      
แล้วจึ่งฉันจรดลขึ้นบนแพ

(http://upic.me/i/5a/0sda4ctzrd3.gif) (http://upic.me/show/43938134)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 16, สิงหาคม, 2558, 09:22:55 AM

เขาเล่าถึงคุณป้าน่าสงสาร      
เพราะนางหลานชาติชั่วตัวตอแหล
ทิ้งป้าอยู่คนเดียวไม่เหลียวแล      
ไปเล่นแต่โปถั่วทั้งผัวเมีย

ป้าจนจิตคิดขามเหลือห้ามหวง      
แทบแพพ่วงจะทลายต้องขายเสีย
แล้วหลบหลีกปลีกตัวไม่ปัวเปีย      
กลัวนางเหี้ยซ่อนตนอยู่บนเรือน

ท่านบ่นหาคุณอาทุกเช้าค่ำ      
ฉันฟังคำเสียใจใครจะเหมือน
จึงวอนวานหลานขวัญโดยฟั่นเฟือน      
พาไปเยือนเยี่ยมป้าด้วยอาลัย

พอพบป้าอาดูรพูนเทวษ      
แสนสมเพชประหนึ่งว่าน้ำตาไหล
ป้าเห็นฉันอัญชลีก็ดีใจ      
พลางพิไรโศกศัลย์พรรณนา

ฉันนบนอบปลอบพลางทางคำนับ      
หลานจะรับป้าไปเลี้ยงไม่เดียงสา
จะแทนคุณกว่าจะตายวายชีวา      
มิให้ป้าอับอายระคายเคือง

ซึ่งหลานสาวเขาชั่วก็ตัวเขา      
ป้าอย่าเฝ้าทุกข์ตรอมให้ผอมเหลือง
พูดแล้วลาป้าพลางค่อยย่างเยื้อง      
แต่หลานเฟื่องฝากรักเฝ้าชักจูง

(http://upic.me/i/pd/2igb4.gif) (http://upic.me/show/910015)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 09:44:13 AM

เสียงออกจ้าว่าอามาถึงบ้าน      
ล้วนน้องหลานนั่งเล่นอยู่เป็นฝูง
มันเห็นอาดุจกาเข้าแกมยูง      
ศักดิ์มันสูงมิได้ทักแต่สักคน

ที่แก่เฒ่ากว่าเราก็ไม่เห็น      
นี่ล้วนเป็นหลานน้องยังพองขน
มันประมาทคาดหน้าว่าอาจน      
สู้นิ่งทนเดินมาตามหน้าโรง

ญาติเราฤๅถือตัวว่าบริสุทธิ์      
เป็นสัปปุรุษโด่งดังทั้งโขยง
เราคนเดียวเจียวเขาว่าเราโกง      
วิ่งตะโพงผ่าเหล่ามาเล่าเรียน

ที่จริงไซ้ใครซื่อฤๅมุสา      
เทพยดารู้หมดคงจดเขียน
ที่เขาถือซื่อตรงจำนงเนียร      
เห็นแต่เบียนมิตรญาติฉลาดดี

เอาเนื้อเขาเข้ามาเจือเป็นเนื้อตัว      
สู่ลูกผัวกินสบายไม่หน่ายหนี
ซ้ำเกิดเคราะห์เพราะพวกกาลกิณี      
ยุยงพี่ผู้ตายให้หน่ายเรา

คบคิดกันกลัวฉันเอามรดก      
ไปโกหกมิให้ข้าขึ้นมาเผา
ยังน้าฉันอีกคนจนไม่เบา      
มันฉ้อเอาทรัพย์ท่านจนบรรลัย

น้าแช่งชักหักกระดูกก็ถูกที่      
กรรมอันนี้มันจะล้างไปข้างไหน
จะร่ำเรื่องก็ขี้คร้านรำคาญใจ      
โคของใครก็คงเข้าคอกเขาเอง ฯ

(http://upic.me/i/ld/oop141.png) (http://upic.me/show/44003094)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 09:47:05 AM

๏ แล้วลงเรือเหลือโศกวิโยคยิ่ง      
อนาถนิ่งเหนื่อยอ่อนลงนอนเขลง
เสียงไก่แก้วแจ้วขันออกบรรเลง      
ให้วังเวงอารมณ์เมื่อลมพัด

โอ้ค่ำคืนชื่นฉ่ำแต่น้ำค้าง      
มิได้นางนฤมลมาปรนนิบัติ
ครั้นรุ่งสรางสร่างโพยมโทมนัส      
ข้ามไปวัดเชิงท่าด้วยอาลัย

เที่ยวดำเนินเดินยืนตามพื้นล่าง      
เห็นที่ร้างเราเอ๋ยเคยอาศัย
กระฎีคร่ำชำรุดเขารื้อไป      
ไม่มีใครอุปถัมภ์มานำพา

เหลือแต่ที่เปล่าเปล่ายิ่งเศร้าโศก      
ยังเห็นโคกปลูกผลต้นพฤกษา
แสนคะนึงถึงพระคุณมุลิกา      
โอ้พระอาจารย์ฉันที่บรรลัย

ท่านเป็นที่วินัยธรรมล่ำลือชื่อ      
บอกหนังสือปรีชาจะหาไหน
เทศนาก็เสนาะเพราะจับใจ      
คนเลื่อมใสศรัทธาเป็นอาจิณ

ฉันเป็นศิษย์สัตยาสามิภักดิ์      
ท่านแสนรักราวกะบุตรสุดถวิล
ที่ตื้นลึกศึกษาไม่ราคิน      
อยากให้ภิญโญยศปรากฏนาน

จึงอุตส่าห์พามุ่งไปกรุงเทพ      
หวังให้เสพวิทยาที่กล้าหาญ
ลูกกลับจนทนทุกข์ทรมาน      
พระอาจารย์เล่าก็มาพิราลัย

(http://upic.me/i/aa/oop147.png) (http://upic.me/show/37570201)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 09:50:18 AM

ถ้ายังเป็นเห็นหน้าลูกยานี้      
ก็น่าที่จะโศกาน้ำตาไหล
ท่านไม่รู้การหน้าว่ากระไร      
หวังจะให้ลูกเปรื่องรุ่งเรืองรอง

ไม่สมคิดซ้ำปลิดชีวาทิ้ง      
ให้ลูกกลิ้งเกลือกตนอยู่หม่นหมอง
พระคุณแม้นเหมือนชนกที่ปกครอง      
มิทันฉลองคุณยิ่งสักสิ่งอัน

สิ่งใดใดฉันได้สร้างกุศล      
ขอแผ่ผลส่งให้ท่านไปสวรรค์
แม้เกิดไหนให้พบประสบกัน      
กว่าจะหันพักตร์ถึงซึ่งนิพพาน

กราบกราบแล้วก็ลาน้ำตาไหล      
เดินเข้าในลานโขดโบสถ์วิหาร
พลางยอบย่อยอหัตถ์นมัสการ      
อธิษฐานในใจถึงใหญ่โต

ข้าคับแค้นแสนประดาษในชาตินี้      
ไม่มีที่พึ่งพาอนาโถ
ทั้งสิ้นทุนสูญขาดญาติโย      
เที่ยวเซโซบัดสีนี่กระไร

ยังมิหนำซ้ำมากำพร้ามิตร      
มิรู้คิดปลงลงที่ตรงไหน
จะหารักสักคนก็จนใจ      
ที่ฝากผีฝากไข้ไม่มีเลย

ไปชาติหน้าอย่าเป็นเหมือนเช่นนี้      
ให้มั่งมีวาสนานิจจาเอ๋ย
อย่ารู้ญาติขาดมิตรที่ชิดเชย      
ที่ใครเคยวาสนาบารมี

ขอกุศลผลช่วยอำนวยชัก      
ให้สมรักกว่าจะตายอย่าหน่ายหนี
หนึ่งชายโหดโฉดช้าหญิงกาลี      
อีกทั้งขี้หึงสาอย่ามาระคน

จะรักใครขอให้ได้ดังใจรัก      
อย่าให้พักวุ่นวายเที่ยวขวายขวน
สำเร็จกิจอธิษฐานบานกมล      
จรดลชมวัดทัศนา

(http://upic.me/i/zn/linie-0187.png) (http://upic.me/show/44003084)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 09:52:17 AM

พิหารมีสี่มุขทั้งสี่ด้าน      
ดูโอฬารลดหลั่นน่าหรรษา
เหมือนปราสาทราชวังอลังการ์      
มุขเด็จหน้าดั่งหนึ่งท้องพระโรงทรง

ที่ท่ามกลางมีพระปรางค์เป็นองค์ปลอด      
ดูใหญ่ยอดสูงเฉิดระเหิดระหง
ที่เชิงปรางค์ข้างต่ำมีถ้ำลง      
เขาว่าตรงออกช่องคลองสระประทุม

ผู้ใหญ่เขาเล่ามาก็น่าเชื่อ      
ว่าครั้งเมื่อเมืองสนุกยังสุขสุม
มีเศรษฐีมีมั่งตั้งรวบรุม      
เงินตวงตุ่มเหลือล้นพ้นประมาณ

มีบุตรสาวเล่าก็ไม่ให้ใครเห็น      
จึ่งสร้างเป็นปรางค์มาศราชฐาน
อันนี้ไว้ให้ธิดาอยู่มานาน      
แต่หญิงพาลตามชายสูญหายไป

เศรษฐีแสนแค้นคะนึงถึงลูกสาว      
ไม่ได้ข่าวคอยท่าน้ำตาไหล
จึงอุทิศปรางค์มาศปราสาทชัย      
อันนี้ให้เป็นวิหารทำทานทุน

ให้เรียกวัดค่อยท่ามาชัดชัด      
กลับเป็นวัดเลิงท่านึกน่าหุน
จริงไฉนก็ไม่ทราบทำบาปบุญ      
ยังหมกมุ่นหมองหมางระคางแคลง

ว่าตามเขาเล่ามาตาไม่เห็น      
มิได้เป็นผลประโยชน์โทษแถลง
ที่ตามจริงสิ่งดีของชี้แจง      
ให้ท่านแจ้งประโยชน์ผลทุกคนไป

พระปรางค์นี้มีพระสารีริกธาตุ      
บรมศาสดาน่าเลื่อมใส
ถึงวันดีคืนดีมีเมื่อใด      
ท่านเคยได้เสด็จออกนอกพระปรางค์

แล้วบันดาลปาฏิหาริย์เป็นมหันต์      
เปล่งฉัพพรรณรัศมีสีสว่าง
ดูร่วงรุ้งรุ่งโรจน์โชตินภางค์      
เปรียบเหมือนอย่างพระศรีสรรเพชญ์เสด็จมา

เป็นสัตย์ธรรมมั่นคงอย่าสงสัย      
คนที่ได้เห็นประจักษ์ก็หนักหนา
ครั้งหนึ่งนั้นฉันยังเยาวพา      
ได้เห็นกะตาจริงชัดจำรัสเรือง

(http://upic.me/i/fq/pcp_downloadphp1.jpg) (http://upic.me/show/42802340)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)



หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 09:54:15 AM

ไม่มุสาพาหยาบกลัวบาปเหลือ      
ใครไม่เชื่อหนังสือที่ลือเลื่อง
จงสืบความถามข่าวตามชาวเมือง      
คงรู้เรื่องราวชัดที่สัจจัง

รำพันพลางทางถอนฤทัยทุกข์      
เห็นหน้ามุขคร่ำคร่าทั้งฝาผนัง
บ้างชำรุกทรุดปรักบ้างหักพัง      
ด้วยแต่ครั้งโบราณมานานนม

นึกโทมนัสศรัทธาดอกข้านี้      
แม้มั่งมีก็จะสร้างอย่างปฐม
นี่คับแค้นแสนวิตกหัวอกกรม      
ได้แต่ชมเชยทำด้วยคำกลอน

ท่านผู้ใดได้ฟังซึ่งหนังสือ      
แม้เชื่อถือแน่ตระหนักในอักษร
ที่มีทรัพย์ศรัทธาสถาวร      
ขอเชิญปฏิสังขรณ์ให้งดงาม

เสียแรงพบสบพระพุทธศาสนา      
ได้ศรัทธาเลิศแล้วในแก้วสาม
เพราะมีทุนบุญหลังมาคั่งคาม      
ควรอุตส่าห์พยายามให้ยิ่งยง

อันเงินทองของหวงทั้งปวงนี้      
แม้ตระหนี่เก็บไว้เหมือนใหลหลง
จะเป็นของเขาอื่นไม่คืนคง      
เพราะปลดปลงก็มิได้เอาไปเชย

อนัตตาก็ใช่ว่าของตนแท้      
คงก็แต่บาปบุญเจ้าคุณเอ๋ย
ชีวิตนี้ก็ไม่มีประกันเลย      
อย่าเฉยเมยหมั่นคิดอนิจจัง

แม้มิได้ก่อสร้างทางกุศล      
ครั้นวายชนม์ก็ไม่มีที่จะหวัง
จนสิ้นกัปนับกัลป์อนันตัง      
จะพบพระแต่ละครั้งเห็นเต็มประดา

แม้ผู้ใดได้สร้างพระปรางค์ลุ      
ที่บรรจุบรมธาตุสืบศาสนา
ทั้งมนุษย์เทพไทได้บูชา      
คงมีอานิสงส์นั้นพันทวี

จะพาตนพ้นอบายในภายหน้า      
เมื่อวาสนาพบพระชินศรี
จะตัดห่วงบ่วงมารการโลกีย์      
เพราะบุญที่ซ่อมอแลงตกแต่งเติม

(http://upic.me/i/ff/s8102.png) (http://upic.me/show/44003721)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 01:43:03 PM

ขอเดชะเทวฤทธิ์ทุกทิศา      
ช่วยชักพาที่ผู้จะชูเฉลิม
มาก่อสร้างปรางค์พิหารเหมือนฐานเดิม      
ได้ส่งเสริมศรัทธาสาธุชน

แต่นี้ไปแม้ใครมาสร้างสรรค์      
อย่าลืมฉันผู้แสดงแต่งนุสนธิ์
ขอแบ่งบุญกรุณังบ้างสักคน      
ให้ได้ผลอานิสงส์เหมือนจงใจ

เดชะคำทำกลอนอักษรสนอง      
ที่ยกย่องศาสนาพาเลื่อมใส
บูชาบุญคุณพระรัตนตรัย      
ขอจงได้ลุถึงซึ่งนิพพาน

อย่าขัดเข็ญเป็นสุขทุกทุกชาติ      
ให้ผุดผาดผิวพรรณทรงสัณฐาน
ทั้งปราชญ์เปรื่องเรืองวิชาปัญญาญาณ      
คิดเพลงการมธุรสทุกบทกลอน

ให้เร็วไวไพเราะเสนาะขลัง      
ใครได้ฟังออกชื่อฦๅสยอน
แม้หญิงใดได้สดับลืมหลับนอน      
ให้กอดหมอนนึกถึงฉันทุกวันคืน

ที่สาวแส้แม่หม้ายทั้งหลายนั้น      
คนไหนฉันชอบใจอย่าได้ขืน
ถูกเพลงยาวเข้าก็ปลื้มเหมือนลืมกลืน      
ให้แตกตื่นพัลวันตามฉันมา

ในชาตินี้ที่ใครเขาไม่รัก      
ขอบุญชักเชยสวาทในชาติหน้า
ให้รักเราเฝ้าวอนจนอ่อนระอา      
จึงจะสาน้ำใจไม่ไมตรี

แม้นได้ชมสมรักแต่สักนิด      
ให้ต้องจิตจนตายอย่าหน่ายหนี
ใครเคยชมสมสวาทในชาตินี้      
ให้เร็วรี่รวยรื่นรีบคืนมา

อธิษฐานอย่างนี้ดีไฉน      
ที่จริงใจฉันไม่นึกจะตรึกหา
ถึงรูปโฉมโลมจิตก็อนิจจา      
จะปรารถนาโพธิญาณสถานเดียว

มิว่าบ้างผู้ฟังก็อุตริ      
มักจะติเสียว่าดาดไม่บาดเสียว
จึ่งเสแสร้งแต่งใส่เหมือนไข่เจียว      
พอกล่อมเกี้ยวผู้ฟังให้ตั้งใจ

แล้วไหว้พระละลามาท่าน้ำ      
เห็นโรงธรรมศาลาน้ำตาไหล
ด้วยของนี้พี่ฉันที่บรรลัย      
ได้สร้างไว้งดงามอร่ามตา

มิทันฉลองก็มาต้องสิ้นชีวิต      
ฉันจึ่งคิดสมเพชกับเชษฐา
ส่วนข้าพเจ้าเข้าด้วยถึงตำลึงตรา      
ปรารถนาจะขอพบประสบกัน

บรรดาวงศ์พงศ์เผ่าเราก็หนัก      
แต่ไม่รักอารีเหมือนพี่ฉัน
ย่อมนับถือซื่อตรงต่อพงศ์พันธุ์      
อายุสั้นเสียเพราะกรรมก็จำจน ฯ

(http://upic.me/i/3e/lty27.png) (http://upic.me/show/44003723)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)

<<< ก่อนหน้า (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5451.15)                 ต่อไป  >>>
 (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5451.45)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 01:45:26 PM

๏ แล้วลงเรือข้ามกลับมารับป้า      
จอดที่หน้าแพหลานลานฉงน
คุณป้ารู้มิได้รอรีบจรดล      
ให้เขาขนของส่งมาลงเรือ

อันญาติเราเขาก็ไม่ปราศรัยสาร      
เว้นแต่หลานเราไว้อาลัยเหลือ
ทั้งพี่สะใภ้ใจดีมีข้าวเกลือ      
ผักปลาเผื่อแผ่ปันให้ฉันมา

แต่ยามนี้มิได้มีสิ่งทำขวัญ      
ขอรำพันอวยพรไว้ก่อนหนา
จงสุขีศรีสวัสดิ์เถิดนัดดา      
แล้วอำลาล่องเรือเหลือเสียดาย

โอ้บ้านเกิดเมืองเก่าของเราก่อน      
จะจำจรจากไปน่าใจหาย
เมื่อยังอยู่ดูก็สุขสนุกสบาย      
เคยเที่ยวพายนาวาเมื่อหน้าน้ำ

ไปเล่นทุ่งมุ่งชมกระจับจอก      
เก็บบัวปอกป้อนชิมไม่อิ่มหนำ
หอมกระถินกลิ่นมะปรางเอวบางระบำ      
โอ้จะจำจากลับจะนับไกล

ถึงมานี่ที่จะไปก็ไม่เห็น      
ให้แสนเข็ญคิดน่าน้ำตาไหล
ด้วยราชกิจติดตนก็จนใจ      
แต่นี้ไหนจะได้มาเห็นหน้าเมือง

จะนับปีลี้ลับอัปยศ      
ไม่มียศมีชื่อที่ลือเลือง
วาสนาอายุก็ปรุเปลือง      
จะร่ำเรื่องไปก็ใครไม่พุทโธ

อันบุปผาส่าหรีที่มีกลิ่น      
เขาไม่กินเหมือนมะกอกดอกโสน
แต่ก่อนน้ำว้าถูกลูกโตโต      
เดี๋ยวนี้โอ้น้ำว้าราคาแพง

จึ่งจดจำคำเพียรทั้งเขียนคิด      
โอ้ญาติมิตรทั้งหลายอย่าหน่ายแหนง
ไว้ต่างคนจนตายเหมือนลายแทง      
ได้จำแจ้งจดจิตไม่ปลิดปลิว

(http://upic.me/i/vf/06h57.gif) (http://upic.me/show/44003059)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 01:47:52 PM

ดูสาวสาวชาวแพพวกแม่ค้า      
แต่ละหน้านวลละอองผุดผ่องผิว
ไม่ถูมิฐานการกิจไม่บิดพลิ้ว      
ไม่กรีดนิ้วเหมือนกะสาวชาวบุรี

เราไม่พรากจากนี่แล้วที่ไหน      
ก็พอได้นั่งแพขายแพรสี
นี่พลัดไพล่ไปปองซึ่งของดี      
พบที่ที่เอวฉะอ้อนอ่อนระทวย

แม่รุกรุยรุงรังข้างบางกอก      
มักปอกลอกเล็งเห็นแต่เล่นหวย
ที่การงานคร้านทำแต่สำรวย      
รูปสวยสวยเข้าบ่อนอยากนอนกิน

บุญไม่เคยเลยแล้วจึ่งแคล้วคลาด      
ที่มุ่งมาดมิได้ชมสมถวิล
จะก้มหน้าไปบางกอกดมดอกดิน      
มิได้กลิ่นดาวเรืองที่เมืองกรุง

เราก็เหมือนเถื่อนอุทามที่ตามต่อ      
ถูกพังล่อลมลวงถอนงวงผลุง
โอ้หลายปีมิได้พบน้ำอบปรุง      
จนคล้ำคลุ้งไคลเหงื่อทั้งเนื้อตัว

โอ้ยามนี้ที่ว่ามาแต่นึก      
จะวายตรึกตรมกริ่มจะยิ้มหัว
นี่นึกเปล่าเฝ้าตรองยิ่งหมองมัว      
เพราะแม่บัวใบบังไม่หวังยล

เขานั่งแพแต่เรานี้เร่าร้อน      
เที่ยวเร่คอนขายรักไม่พักผล
ไม่มีใครซื้อรักแต่สักคน      
เป็นรักจนจำลาแล้วหนาเรา

มาวันครึ่งถึงกรุงเทพสถาน      
ยังไม่พานพบประโลมโฉมเฉลา
จึงเขียนกลอนข้อคำเป็นสำเนา      
ไว้เพื่อนเจ้าจงฟังสิ้นทั้งเพ

(http://upic.me/i/79/2oik8.gif) (http://upic.me/show/1166706)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 01:49:43 PM


โอ้คิดไปใจหายเสียดายนัก      
ที่เคยลักลอบชวนเคยสรวลเส
เจ้าปลิดปลื้มลืมหลังไปลังเล      
จงคะเนน้ำใจเถิดในกลอน

แต่น้องพี่ที่หวังยังไฉน      
ไม่เห็นใจจริงรักในอักษร
เฝ้าหนักหน่วงหวงหึงตะบึงตะบอน      
ไม่โอนอ่อนรุมเร้าพอเคล้าคลึง

พี่ไปเมืองเคืองเข็ญไม่เป็นสุข      
สู้อุ้มทุกข์เหลือทนมาจนถึง
ได้ดูงามตามวิถีก็มีอึง      
ไม่เหมือนหนึ่งมิ่งมิตรที่ติดพัน

พี่จากไปได้แต่รักมาฟักฝาก      
ขอพบปากงามสรรพพอรับขวัญ
ถึงเงินทองของใครจะให้ปัน      
ไม่เหมือนกันกะเจ้ามีไมตรีเรียม

เสียแรงหวังตั้งหน้าสามิภักดิ์      
ขอฝากรักโฉมฉายอย่าอายเหนียม
พอเหือดหายคลายระทมที่ตรมเตรียม      
ไม่โลมเลียมลวงเล่นเหมือนเช่นพาล

แต่จริงใจสุดนิสัยจะหยิบยก      
ถ้าเห็นอกแล้วก็คงจะสงสาร
แม้ครั้งนี้มิได้โฉมประโลมลาน      
ไหนจะทานทุกข์ทนเห็นจนจริง

ด้วยยากไร้ได้แต่หมอนมานอนกก      
เมื่อหนาวอกก็อาศัยแต่ไฟผิง
จงเห็นทุกข์สุขบ้างอย่าชังชิง      
ขอพึ่งพิงพอเป็นยาอายุยืน

ด้วยแสนโศกโรคภัยไม่ไข้เจ็บ      
แต่หนาวเหน็บในอุราไม่ฝ่าฝืน
ถ้าแม้ได้ยาดมชมสักคืน      
เห็นจะชื่นแช่มสบายไปหลายปี

(http://upic.me/i/ai/xzv23.gif) (http://upic.me/show/38694263)

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)


หัวข้อ: Re: นิราศทวาราวดี
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 22, สิงหาคม, 2558, 01:54:06 PM

พี่ตกถังยังมีแต่ฝีปาก      
เป็นขันหมากมาโลมแม่โฉมศรี
นิราศเรื่องเมืองทวาราวดี      
ของเรานี้นึกความเล่นตามสบาย

ใช่มักมากราครนมาบ่นบ้า      
อย่านึกราคีฉันท่านทั้งหลาย
เพราะหากลอนผ่อนผันบรรยาย      
มิใช่ง่ายเหมือนกะเช่นที่เป็นเอง

ก็ย่อมรู้อยู่กระนั้นด้วยกันหมด      
ว่าต้องปดจึงจะเพราะจะเหมาะเหมง
แต่นิสัยใจรักข้างนักเลง      
ย่อมอดเพลงมิใคร่ได้แต่ไรมา

ซึ่งครวญคร่ำทำทีอย่างนี้ไซร้      
เป็นนิสัยนักกลอนแต่ก่อนหนา
ต้องติดบ้างสังวาสชาติโอชา      
เหมือนสังขยาต้องใส่ไข่น้ำตาล

ไว้อ่านเล่นเป็นแต่พอแก้โงก      
ของโลมโลกพาหลงในสงสาร
อย่าควรจำคำคะนองเป็นของพาล      
ที่แก่นสารถ้อยคำจึ่งจำไว้

บรรดาบาปหยาบช้าแล้วอย่าชอบ      
จงประกอบก็แต่ผลกุศลสมัย
มล้างเกลศเลศล้ำในน้ำใจ      
ให้ผ่องใสสิ้นขุ่นจึ่งบุญแรง

เป็นจบเรื่องเมืองเก่าแต่เท่านี้      
มิสู้ดีบลบาทปราชญ์อย่าแหนง
เห็นผิดชอบชั่วดีช่วยชี้แจง      
เพราะฉันแต่งตามประสาปัญญาทุย

ใช่ประกวดอวดรู้กับผู้ปราชญ์      
ถ้าพลั้งพลาดรับประทานวานอย่ากุ๋ย
กลัวแต่ศักดิ์นักเลงเล่นเพลงคุย      
เที่ยวรำซุยนอกม่านสงสารครัน

เห็นใครดีอยู่มิได้แคะไค้บ่น      
เฝ้ายกตนข่มเขายิ้นเย้าหยัน
ไม่บัดสีที่ท่านได้เห็นไรฟัน      
ทำเช่นนั้นชูชื่ออยู่ฤๅเอย ฯ

นิราศทวาราวดี
ผู้แต่ง : หลวงจักรปาณี (มหาฤกษ์)

จบนิราศทวาราวดี

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

<<< ก่อนหน้า (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=5451.30)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6682.msg22935#msg22935)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)