บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

ห้องเรียน => ห้องหนังสือ บ้านกลอนน้อย => ข้อความที่เริ่มโดย: Black Sword ที่ 24, กันยายน, 2558, 01:42:05 AM



หัวข้อ: อุณรุทร้อยเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 24, กันยายน, 2558, 01:42:05 AM
(https://i.ibb.co/99z3nTp/5f00ef89-1.jpg) (https://imgbb.com/)
ขอขอบคุณรูปภาพจาก Internet

อุณรุทร้อยเรื่อง
ผู้แต่ง : คุณสุวรรณ


ประวัติ
               อุณรุทร้อยเรื่อง เป็นกลอนบทละครที่แต่งด้วยอารมณ์ขัน ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้แต่งละครจริง ๆ กวีได้นำตัวละครร้อยกว่าชื่อจากวรรณคดีเรื่องต่าง ๆ มาร้อยโยงเป็นเรื่องเดียวกัน โดยใช้สำนวนภาษาที่ไพเราะ เป็นที่รู้จักและท่องจำกันอย่างแพร่หลายในยุคที่แต่งนั้น ทว่าเวลาที่แต่งเรื่องไม่ปรากฏหลักฐาน แต่เชื่อกันว่าน่าจะแต่งในสมัยรัชกาลที่ 4 ช่วงต้นรัชกาล

               เหตุที่เรียกวรรณคดีเรื่องนี้ว่า อุณรุทร้อยเรื่อง เพราะวรรณคดีเรื่องนี้ขึ้นต้นด้วยตัวละครชื่อ อุณรุท และมีการเอ่ยถึงตัวละครจากวรรณคดีจำนวนมาก โดยมีตัวละครนับได้ 144 ตัว และมาจากวรรณคดีเรื่องต่างๆ ถึง 51 เรื่อง โดยมากเป็นตัวละครจากเรื่องที่คุ้นเคยกันดีในเวลานั้น เช่น จากเรื่อง พระอภัยมณี รามเกียรติ์ อิเหนา ไกรทอง เป็นต้น

อุณรุทร้อยเรื่อง : วิกิพีเดียคลิก (https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87)



อธิบายเรื่องบทละครของคุณสุวรรณ

          มีผู้ได้ไต่ถามแลเตือนมาเนือง ๆ ว่าเหตุใดหอพระสมุดฯ จึงไม่พิมพ์บทละครของคุณสุวรรณ เหตุนั้นก็บอกได้โดยง่ายว่า เพราะหอพระสมุด ฯ หาฉบับยังไม่ได้ จึงมิได้พิมพ์ มาบัดนี้หาฉบับได้ หอพระสมุด ฯ จึงพิมพ์บทละครของคุณสุวรรณทั้ง ๒ เรื่อง** ไว้ในสมุดเล่มนี้  ให้ได้อ่านกันตามปรารถนา

          แต่ผู้ที่ยังไม่ทราบเค้ามูลเรื่องบทละครของคุณสุวรรณเห็นจะมีในชั้นนี้มากด้วยกัน ถ้าไม่อธิบายให้ทราบ น่าจะพากันเห็นเป็นการแปลกประหลาด ที่หอพระสมุด ฯ เอาหนังสือเช่นนี้มาพิมพ์ เพราะที่แท้เป็นบทบ้าแต่งมิใช่บทละครอย่างปรกติ เพราะฉะนั้น จำต้องแจงชี้ให้ทราบเรื่องเดิมและข้อขำของบทละครคุณสุวรรณเสียก่อน

          คุณสุวรรณผู้แต่งบทละครนี้ เป็นธิดาพระยาอุไทยธรรม (กลาง) ราชินิกุลบางช้าง มีอุปนิสัยใจรักการแต่งกลอนมาแต่ยังเด็ก ได้ถวายตัวทำราชการฝ่ายในตามเหล่าสกุลเมื่อในรัชกาลที่ ๓ อยู่ที่ตำหนักพระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ในชั้นนั้น คุณสุวรรณได้แต่งกลอนเพลงยาวเป็นนิราศ เรื่องกรมหมื่นอัปสร ฯ ประชวร ยังปรากฏอยู่เรื่อง ๑ นอกจากเพลงยาวนิราศแลบทละครที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ กลอนของคุณสุวรรณคงมีเรื่องอื่นอีก แต่ยังหาพบไม่ เมื่อกรมหมื่นอัปสร ฯ  สิ้นพระชนม์แล้ว คุณสุวรรณก็อยู่ในพระราชวังต่อมา แต่ไม่ปรากฏว่าทำราชการในตำแหน่งพนักงานใด

          คุณสุวรรณมามีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อรัชกาลที่ ๔ เหตุด้วยเสียจริต แต่ไม่คลั่งไคล้อันใด เป็นแต่ฟุ้งไปในกระบวนแต่งกลอน จึงแต่งบทละคร ๒ เรื่อง ที่พิมพ์ในสมุดเล่มนี้ เรียกกันว่า เรื่องพระมะเหลเถไถคลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6659.0)เรื่อง ๑ กับอุณรุทร้อยเรื่องอีกเรื่อง ๑ เล่ากันมาว่า คุณสุวรรณอยู่เรือนที่แถวนอก ใครไปหาถ้าบอกว่าอยากจะฟังบทละครที่แต่งใหม่ คุณสุวรรณก็ว่าบทละคร ๒ เรื่องนี้ให้ฟังโดยจำไว้ได้แม่นยำ ผู้ที่ได้ฟังเห็นขบขันก็พากันชอบ ที่จำได้บ้างก็มาว่าให้ผู้อื่นฟังต่อ ๆ มา เพราะฉะนั้น บทละครของคุณสุวรรณจึงแพร่หลาย พวกผู้ดีชาววังจำกันได้ มากบ้างน้อยบ้างแทบจะไม่เว้นตัว แต่ที่ได้จดไว้เป็นตัวอักษรนั้นน้อยแห่ง ครั้นนานมาจึงหาฉบับยาก

          คุณสุวรรณถึงแก่กรรมเมื่อต้นรัชกาลที่ ๕ แต่บทละครของคุณสุวรรณยังมีผู้จำได้เป็นตอน ๆ แลว่าให้กันฟังสืบต่อมา พึ่งพบฉบับที่เขียนไว้ ที่ได้มาพิมพ์ในสมุดเล่มนี้

          บทละครของคุณสุวรรณที่เป็นของแปลกนั้น คือ :- บทละครเรื่องพระมะเหลเถไถคลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6659.0)  คุณสุวรรณแต่งเป็นภาษาบ้าง ไม่เป็นภาษาบ้างปะปนกันไปแต่ต้นจนปลาย แต่ใครอ่านก็ได้ใจความได้ตลอดเรื่อง ความขบขันอยู่ที่ตรงข้อนี้ ส่วนบทละครอุณรุทร้อยเรื่องนั้น คุณสุวรรณเกณฑ์ให้ตัวบทในละครเรื่องต่าง ๆ มารวมกันอยู่ในเรื่องเดียว ถ้าดูโดยกระบวนความอยู่ข้างจะเลอะ แต่ไปดีทางสำนวนกลอนกับแสดงความรู้เรื่องละครต่าง ๆ กว้างขวาง เพราะในสมัยนั้นบทละครยังมิได้พิมพ์ คุณสุวรรณคงต้องพยายามมากทีเดียวจึงได้รู้เรื่องละครต่าง ๆ มากถึงเพียงนั้น แต่มีอยู่บท ๑ ในอุณรุทร้อยเรื่องของคุณสุวรรณ ซึ่งควรสรรเสริญในกระบวนความว่าเป็นความคิดแปลกดี คือบทจำแลงตัว

          กรรมการหอพระสมุด ฯ หวังใจว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้ทราบบทเค้ามูลของบทละครคุณสุวรรณดังแสดงมา คงจะพอใจอ่านบทละครของคุณสุวรรณทั่วกัน

ดำรงราชานุภาพ
สภานายก
หอพระสมุดวชิรญาณ
วันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๓

** (พระมะเหลเถไถคลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6659.0) และ อุณรุทร้อยเรื่อง)

ที่มา  :  รวมวรรณคดี ๕ เรื่อง สำนักพิมพ์เสริมวิทย์บรรณาคาร โดยกรมศิลปากร  พ.ศ. ๒๕๑๖

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6682.msg22935#msg22935)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)





หัวข้อ: Re: อุณรุทร้อยเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 24, กันยายน, 2558, 01:48:27 AM
L7eqhVCDlu4

อุณรุทร้อยเรื่อง
ผู้แต่ง: คุณสุวรรณ


ช้าปี่
     ๐ เมื่อนั้น
พระอุณรุทผู้รุ่งรัศมี
สมสู่อยู่ด้วยนางจันที
ภูมีตรีตรึกนึกใน
แค้นด้วยอิเหนากุเรปัน
กับสุวรรณมาลีศรีใส
เอานางจันสุดายาใจ
ไปยกให้พระสมุทบุตรระตู
เสียดายวงศ์อสัญแดหวา
พระราชาเคืองแค้นแสนอดสู
เหม่เหม่อสุรินดูหมิ่นกู
จะได้ดูฤทธิ์กันในวันนี้ ฯ         ๖ คำ ฯ

ปีนตลิ่ง
     ๐ ดำริพลางทางมีพจนารถ
สั่งท้าวสันนุราชเรืองศรี
กับทั้งตำมะหงงเสนี
จงจัดพลมนตรีอย่านาน ฯ         ๒ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ เมื่อนั้น
กุมภกรรฐ์คำนับรับบรรหาร
กับพระคาวีปรีชาชาญ
รับสั่งแล้วคลานออกมา ฯ         ๒ คำ ฯ เสมอ

ยานี
     ๐ เกณฑ์หมู่จัตุรงค์องอาจ
พรหมทัตธิราชเป็นกองหน้า
ปีกซ้ายชุณรัตน์ราชา
ปีกขวาอินทรชิตฤทธิรงค์
กองหลวงล้วนสันทัดจัดเจน
กะเกณฑ์ให้พระสุวรรณหงษ์
คุมพวงพหลรณรงค์
แล้วโบกธงสัญญาคลาไคล ฯ         ๔ คำ ฯ กราว

ร่าย
     ๐ ออกจากขีดขินธานี
ปัถพีเลื่อนลั่นหวั่นไหว
เร่งทัพขับพลสกลไกร
เข้าในเหมันต์ทันที ฯ         ๒ คำ ฯ เชิด

     ๐ ครั้นถึงจึงถวายอภิวาท
ท้าวพิไชยนุราชเรืองศรี
ด้วยบัดนี้สุวิญชาเป็นกาลี
ภูมีจะคิดประการใด ฯ         ๒ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
ท้าวบรมจักรกฤษณ์เป็นใหญ่
ได้ฟังคั่งแค้นแน่นใจ
ดูดู๋เป็นได้อีมณฑา
เป็นรักใคร่อ้ายเงาะมันเหมาะเหลือ
จะสับเชือดเลือดเนื้อให้สังขาร์
เหตุไฉนไยทำอหังการ์
มาลักองค์บุษบาพาไป ฯ         ๔ คำ ฯ

โอ้
     ๐ เมื่อนั้น
วิมาลาอกสั่นหวั่นไหว
กอดบาทยุขันเข้าทันใด
พระภูวไนยอย่าเพ่อโกรธา
ลูกได้ผิดแล้วอย่าถือโทษ
พระสุริยงค์จงโปรดเกษา
เมื่อข้าประสูติลูกยา
ได้ยินเสียงโศกาจาบัลย์
เจ็ดนางเอาผ้าพันตาไว้
ภูวไนยอย่าเพ่อหุนหัน
ว่าพลางครวญคร่ำรำพัน
ศรีประจันไม่เป็นสมประดี ฯ         ๖ คำ ฯ โอด

ร่าย
     ๐ ด้วยพระลิ้นทองผ่องภักตร์
แค้นนักดังจะม้วยเป็นผี
ไปสมสู่อยู่กินด้วยกากี
นางเมรีร่ำไรแล้วไปตาม
ตะโกนก้องร้องเรียกพ่อสังข์หอย
มาหาแม่สักหน่อยอย่าเกรงขาม
เรียกพลางทางแถลงแจ้งความ
เกสรพราหมณ์ซวนซบสลบไป ฯ         ๔ คำ ฯ โอด

     ๐ เมื่อนั้น
พระมงกุฎเศร้าสร้อยละห้อยไห้
เห็นองค์อุณากรรณบรรลัย
มิได้คืนสมประดีมา
โอ้แม่เจ้าประคุณของลูกรัก
นางยักษ์มาม้วยสังขาร์
ร่ำพลางทางขึ้นอาชา
พาห่อนัยนาเหาะไป ฯ         ๔ คำ ฯ เชิด

     ๐ ครั้นถึงรถาพระสี่กร
วานรยินดีจะมีไหน
ถวายดวงชีวันทันใด
กับท้าวไททศวงศ์ทรงศักดา ฯ         ๒ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
ท้าวไกรสุทธสำรวลสรวลร่า
ชื่นชมด้วยสมเจตนา
ได้ดวงชีวาชาละวัน
คราวนี้จะดับเข็ญให้เย็นยุค
ให้ภาราผาสุกเกษมสันต์
อันอีจันทาอาธรรม์
จะได้เล่นเห็นกันไอ้ลันได
ทั้งลักษณวงศ์ทรงฤทธิ์
จะลวงล้างชีวิตให้จงได้
เสียทีที่เลี้ยงมึงไว้
ดูดู๋เป็นได้ไอ้โสภิณ
ขับนางจันทามเหษี
ให้คนทั้งธานีเขาติฉิน
ไปสมสู่อยู่ด้วยมุจลินทร์
ยอพระกลิ่นคั่งแค้นแสนทวี
ทั้งน้อยจิตคิดถึงคำนางอำพัน
อยากจะใคร่ห้ำหั่นให้เป็นผี
คิดพลางเจ็ดนางจรลี
ไปเยาะเย้ยพระมณีพิไชย ฯ         ๑๐ คำ ฯ เพลง

เย้ย
     ๐ ครั้นถึงจึงมีวาจา
เจ้าไกรทองพงศาเป็นไฉน
ง่วงเหงาเศร้าจิตคิดถึงใคร
เหมือนบ้าใบ้ไม่เป็นสมประดี
เสียแรงหวังตั้งจิตพิศวาส
ไปรักใคร่ครุฑราชปักษี
นางจันทาว่าชั่วตัวอัปรีย์
ออกลูกไม่ดีเป็นท่อนไม้
ชะนางคนดีไม่มีชั่ว
เลือกผัวงามนักน่ารักใคร่
ตะคอกขู่ชูกล่องดวงใจ
ไยไพเยาะองค์เจ้าลงกา ฯ         ๖ คำ ฯ เชิด



หัวข้อ: Re: อุณรุทร้อยเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 25, กันยายน, 2558, 12:02:42 AM

ร่าย
     ๐ เมื่อนั้น
พระดาวเรืองเคืองแค้นแสนสา
ได้ฟังถ้อยคำนางรำภา
มาเย้ยเยาะข้านี้ว่าไร
เหม่เหม่พระมเหษีเอก
โหยกเหยกหยาบช้าไม่ปราสัย
พลางฉวยพระขรรค์แก้วแววไว
เลี้ยวไล่ฟาดฟันกัลยา ฯ         ๔ คำ ฯ

สับไทย
     ๐ อีเอ๋ยอีเถ้า
กูจะบั่นเกล้าเกษา
อวดว่าตัวดี
วิ่งหนีไยนา
โบยตีศรีมาลา
ลูกข้าทำไม

     ๐ ทรงเอยทรงเดช
พระนารายณ์ธิเบศร์ไปอยู่ไหน
พระมาโบยตี
ทองประศรีทำไม
ขุนแผนวิ่งไป
หมื่นไวยวิ่งมา

     ๐ แค้นเอยแค้นนัก
พระลักษณ์กริ้วโกรธนางอุสา
เป็นไรไปเข้า
ด้วยเจ้าลงกา
คุมพลอสุรา
ออกมาทำไม

     ๐ ทรงเอยพระทรงฤทธิ์
ข้าจะมีผิดก็หาไม่
ท่านท้าวกาหลัง
ผลักสังข์ศิลป์ไชย
ตกเหวลงไป
มิได้กลับมา

     ๐ อีเอยอีโสธร
กลับกลอกยอกย้อนเป็นหนักหนา
กูรู้อยู่แล้ว
อีแก้วกิริยา
ชิงชังสุวิญชา
มุสาใส่ไคล้

     ๐ ภูเอยภูมินทร์
พระอภัยนุสินอย่าสงสัย
อันองค์วิยดา
จรกาลักไป
มโนห์ราจึงให้
แก่ไชยสุริวงศ์
ทูลพลางทางจร
นี่ศรพระองค์
ดั้งดังลัดพง
วิ่งตรงเข้าไพร ฯ         ๒๐ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ เมื่อนั้น
พระโสวัตรรัศมีศรีใส
ครั้นเห็นมฤคีหนีไป
ภูวไนยพิโรธโกรธา
กรกุมตระบองแววไว
พร้อมเสนาในยักษา
แล้วเผ่นโผนโจนขึ้นไอยรา
เคลื่อนคลาพหลพลไกร ฯ         ๔ คำ ฯ เชิด

     ๐ น้อยฤๅอีมัจฉากาลี
คบชู้แล้วหนีพ่อได้
ทั้งเพชรมงกุฏวุฒิไกร
คงบรรลัยด้วยมืออสุรา
ไสช้างพลางเร่งจัตุรงค์
สององค์เที่ยวเสาะแสวงหา
คนึงหวนครวญถึงบุษบา
แก้วตาของพี่อยู่แห่งใด
พระกู่ก้องร้องเรียกเกสรน้อย
แม่ยอดสร้อยนารีอยู่ที่ไหน
ให้ขัดสนทลนทลายไป
ภูวไนยข้อนทรวงเข้าโศกา ฯ         ๖ คำ ฯ โอด

โอ้
     ๐ โอ้นางมณฑามารศรี
ป่านนี้จะละห้อยคอยหา
เจ้ามีครรภ์เจ็ดเดือนไม่เคลื่อนคลา
ไกยวัลริษยาอาธรรม์
จำจะไปสังหารผลาญชีวิต
ปโรหิตพ่อลูกให้อาสัญ
แล้วจะชุบบิตุรงค์ทรงธรรม์
จะได้พาอำพันมาธานี ฯ         ๔ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ อัมรินทร์จินตนาแล้วคลาไคล
บัดใจก็ถึงพนาศรี
เห็นเกษสุริยงสิ้นชีวี
กลิ้งกลางปัถพีอนาถใจ
จึงเอาน้ำทิพย์มาโสรจสรง
เจ้าจงไม่ม้วยตักษัย
พระจึงเล่าแถลงให้แจ้งใจ
อีประไพสุริยาเป็นกาลี
ระยำนักไปรักไอ้โจรดง
เราสาปส่งเป็นชะนีเสียที่นี่
จงรีบไปเถิดจะได้นางวารี
ท้าวนาคีซ่อนไว้ในไพรวัน ฯ         ๖ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
วรวงศ์ปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
ได้ฟังพระมหานักธรรม์
รำพันเสร็จสิ้นด้วยยินดี
ครั้นแล้วเคารพอภิวันท์
องค์ท้าวประมอตันเรืองศรี
พระลีลามาขึ้นพาชี
ขุนกระบี่เหาะตรงเข้าพงไพร ฯ         ๔ คำ ฯ เชิด

     ๐ จึงชักอาชาราร่อน
ยังยอดศิงขรเนินไศล
แล้วพระศรีเมืองเรืองไชย
ก็เข้าในคูหาวานรินทร์ ฯ         ๒ คำ ฯ ฉุยฉาย

โอ้โลม
     ๐ น้อยเอยน้องรัก
ปวะหลิ่มเลิศลักษณ์เฉิดฉิน
แต่พี่เที่ยวหาทุกธานิน
มิได้พบยอพระกลิ่นกลอยใจ
เสียดายเจ้ามาเกิดเป็นกุมภีล์
ในเมืองมนุษย์เช่นนี้หามีไม่
ขอถามข่าวสาวน้อยกลอยใจ
เป็นไฉนมาอยู่แต่ผู้เดียว ฯ         ๔ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ เมื่อนั้น
วิมานจันทร์ผันแปรแลเหลียว
ได้ฟังพระรถพูดลดเลี้ยว
นางบิดเบี้ยวเบือนหน้าแล้วพาที ฯ         ๒ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ ทรงเอยพระทรงฤทธิ์
ข้าพลอยผิดด้วยยายทองประศรี
ไปสื่อชักสร้อยฟ้าให้คาวี
พระศุลีสาปส่งให้ลงมา
รู้แล้วอย่าได้อยู่นาน
พระยามารจะลงโทษา
ดังนางตะเภาทองทั้งสองรา
ข้ากลัวอาญาจงคลาไคล ฯ         ๔ คำ ฯ

ชาตรี
     ๐ เจ้าเอยเจ้าพี่
นางคันธมาลีศรีใส
พี่จะเล่าแถลงให้แจ้งใจ
เดิมได้มาลาในวารี
ออกนามอุบลเวหา
ในสาราว่าบุตรพระฤๅษี
จึงสู้ติดตามมากับพาชี
เทวีจงแจ้งกิจจา ฯ         ๔ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ เมื่อนั้น
นางผมหอมตรอมใจเป็นหนักหนา
ฟังพระพิมพ์สวรรค์จำนรรจา
กัลยาเคืองขัดตัดรอน
ข้าคนชั่วช้ากาลี
ออกลูกไม่ดีพระทรงศร
จะสู้อยู่ในพนาดร
มิขอคืนนครอยุธยา ฯ         ๔ คำ ฯ




หัวข้อ: Re: อุณรุทร้อยเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 26, กันยายน, 2558, 11:49:14 PM

โลม
     ๐ น้องเอยน้องแก้ว
เป็นบุญแล้วได้พบขนิษฐา
เต็มพิศด้วยฤทธิ์ปะตาปา
รจนาอย่าได้เดือดดาล
แต่พี่เตร่เร่หาทุกธานี
ชีวีปิ้มจะม้วยสังขาร
ศุภลักษณ์ไปแจ้งเหตุการณ์
จึงได้ข่าวสารบัดนี้ ฯ         ๔ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ เมื่อนั้น
นางสุพรรณทลิกามารศรี
ได้ฟังวาจาพาลี
เทวีจึงตอบคำไป
ซึ่งว่าพระแสนพิศวาส
จึงไม่คลาดจากเมืองหมันยาได้
อันนางเทพลีลายาใจ
ที่พระองค์เก็บได้ที่ในกลอง
จงกลับไปภิรมย์สมสนิท
เชยชิดสมสู่เป็นคู่สอง
อันข้าไซร้จะอยู่ในผะอบทอง
พระไปครองนัคราให้สำราญ ฯ         ๖ คำ ฯ

สมิงทอง
     ๐ อนิจา
นางสมนักขายอดสงสาร
ศรีสวัสดิ์มาตัดรอนราน
ใช่จะแต่งพจมานมาพาที
กำลังฤทธิ์ปู่เจ้าเขาเขิน
จึงเผอิญให้ชังมเหษี
ไม่ทันสั่งนางลักษณวดี
พระลอจรลีตามไป ฯ         ๔ คำ ฯ เชิด

ช้าปี่
     ๐ เมื่อนั้น
นางประทุมเทวีศรีใส
ผวาตื่นฟื้นองค์อรไท
ไม่เห็นพระภูวไนยที่ไสยา
นางเที่ยวค้นคว้าหาจบ
มิได้พบพระไพรวงศ์พงศา
เห็นโลหิตผิดแล้วนะอกอา
ทั้งหอกยนต์อยู่หน้าบัญชรชัย
เกิดเหตุทั้งนี้เพราะพี่เลี้ยง
แท้เที่ยงมั่นคงไม่สงสัย
สองกรข้อนทรวงเข้าร่ำไร
นางอุทัยเพียงจะสิ้นสมประดี ฯ         ๖ คำ ฯ โอด

โอ้
     ๐ โอ้ว่าพระทูลกระหม่อมแก้ว
หนีเมียไปแล้วพระโฉมศรี
มิได้สั่งสนทนาพาที
สกุณียังรู้สั่งยมนา
จระเข้ยังรู้สั่งอากาศ
สิงหราชยังรู้สั่งมหิงษา
หัศรังยังสู้สั่งไอยรา
นาคายังรู้สั่งสุบรรณบิน
เหมราชยังรู้สั่งซึ่งคูหา
แต่มัจฉายังรู้สั่งซึ่งไพรสิณฑ์
พยัคฆ์ยังรู้สั่งมฤคิน
พระภูมินควรฤๅไม่อาลัยลา ฯ         ๖ คำ ฯ

ร่าย
     ๐ จำจะยกโยธาคลาไคล
ตามองค์พระอภัยเชษฐา
ว่าพลางนางแปลงกายา
เป็นองค์สุดาเยาวมาลย์
รี้พลให้กลายเป็นโยธา
ไอยราแปลงเป็นคชสาร
พาชีแปลงเป็นอาชาชาญ
พระพรหมานแปลงเป็นท้าวธาดา
ไกรสรให้แปลงเป็นสิงหราช
สกุณชาติให้แปลงเป็นปักษา
พระราเมศแปลงเพศเป็นรามา
พยัคฆาแปลงเป็นพยัคฆี
พระยาครุฑแปลงเป็นสุบรรณจร
วานรแปลงเป็นกระบี่ศรี
นาคาเป็นพระยาวาสุกรี
โกสีย์แปลงเป็นท้าวหัสนัยน์
พระสุริยันนั้นเป็นทินกร
ศศิธรเป็นดวงแขไข
เจ้าพลายงามแปลงนามเป็นหมื่นไวย
ชาละวันนั้นให้เป็นกุมภา
พระอิศวรแปลงเป็นพระศุลี
ทรพีแปลงเป็นมหิงษา
เทเวศร์แปลงเพศเป็นเทวา
กินราแปลงเป็นกินรี
พระยาหงส์แปลงองค์เป็นเหมราช
พระดาบสแปลงชาติเป็นฤๅษี
โคกลายกายาเป็นคาวี
มฤคีแปลงเป็นมฤคา
มยุเรศกลายเพศเป็นยูงพลัน
ทศกรรฐ์นั้นแปลงเป็นยักษา
อุณากรรณนั้นเป็นบุษบา
ปันหยีแปลงกายาเป็นอายัน
ขุนแผนแผลงแปลงกายเป็นพลายแก้ว
สียะตราเพริศแพร้วเป็นหย้าหรัน
คนธรรพให้แปลงเป็นคนธรรพ์
นางพิมกลายกายพลันเป็นวันทอง
ต่างตนสำแดงแผลงฤทธิ์
ทศทิศไหวจบสยบสยอง
โยธาเหลือหลายก่ายกอง
คับคั่งทั้งท้องสนามใน ฯ         ๒๐ คำ ฯ




หัวข้อ: Re: อุณรุทร้อยเรื่อง
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 28, กันยายน, 2558, 12:09:32 AM


     ๐ เมื่อนั้น
พระสุธนรัศมีศรีใส
พร้อมพวกพหลพลไกร
ภูวไนยเสด็จจรลี
ขึ้นนั่งยังเวไชยันตราช
พร้อมหมู่อำมาตย์กระบี่ศรี
สังข์แตรแซ่ซ้องกลองเภรี
ระดมตีครื้นครั่นสนั่นดัง
พระคลายคลี่โยธาพลากร
ออกจากพระนครกาหลัง
รีบเร่งโยธาเข้าป่ารัง
มายังสมรภูมิพลัน ฯ         ๖ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
ไชยทัตฤทธิแรงแข็งขัน
เห็นพระมเหษีร่วมชีวัน
ยกพวกพลขันธ์มาราวี
พระเร่งกระสันรัญจวนจิต
ด้วยฤทธิ์เสน่ห์มเหษี
จึงร้องท้าว่าเหวยอสุรี
มึงกรีฑาทัพมาจับใคร ฯ         ๔ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
ไชยเชษฐ์รัศมีศรีใส
ได้ฟังคั่งแค้นแน่นใจ
ภูวไนยจึงมีวาจา
แล้วร้องท้าว่าเหวยกุเรปัน
ไยมึงอาธรรม์ริษยา
ทำฮึกฮักไปลักพระรามา
ไปไว้ลงกาธานี
นี่หากกูติดตามไม่ขามจิต
หวังจะล้างชีวิตกระบี่ศรี
แม้นรักตัวกลัวตายวายชีวี
จงเร่งส่งเมรีคืนมา ฯ         ๖ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
ดาราวงศ์ทรงฟังไม่กังขา
แต่ออกชื่อจะให้ส่งองค์สีดา
ผ่านฟ้าอัดอั้นตันใจ
ดูก่อนไพนาสุริวงศ์
อันองค์สุพรรณพิศมัย
เดิมท้าวกุมภัณฑ์พนันไว้
แพ้สกาจึงให้นางเทวี
ซึ่งจะให้คืนองค์อัคเรศ
ก็เกรงเดชองค์สารปันหยี
จะพิโรธโกรธาฆ่าตี
น่าที่ชีวันจะบรรลัย ฯ         ๖ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
องค์ท้าวกุเรปันเป็นใหญ่
ได้ฟังกริ้วกราดตวาดไป
มึงอย่าใส่ไคล้พาที
ช่างอวดว่านารายณ์แบ่งภาค
มาจากเกษียรวารีศรี
เป็นไฉนไม่แผลงฤทธี
ให้วาสุกรีเขามัดกาย
ใช้ให้ไปกับอาชา
คุมหมู่โยธาทั้งหลาย
ให้เขามัดตรึงตรามาหานาย
ทำให้ขายบาทาฝ่าธุลี
เสียแรงหวัดตั้งจิตให้ติดตาม
ไปทำลามเลียมโลมนางโฉมศรี
สุบรรณลักยักษ์ตามพองามดี
พระโยคีจะคิดอ่านประการใด ฯ         ๘ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
พระสังข์ฟังแจ้งแถลงไข
อันองค์จินตะหรายาใจ
พี่สั่งให้ประหารผลาญชีวี
เหตุไฉนพี่น้องสองมนุษย์
ว่าโคบุตรเป็นลูกราชสีห์
บิตุรงค์ชื่อองค์สุมาลี
ครอบครองธานีปางตาล
ฤๅจะเป็นบุตรานางกาไว
ที่พระเพียรพิไชยไปสังหาร
นางก็ม้วยมรณาเสียช้านาน
ท้าวกรุงพาลจะคิดประการใด ฯ         ๖ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
ท้าวอำไพได้ฟังดังเพลิงไหม้
รู้ว่าชาละวันบรรลัย
ภูวไนยพิโรธโกรธา
โจนจากรถแก้วแววไว
เข้าชิงชัยสัประยุทธ์ยักษา
หมายจำนงชิงองค์นางโมรา
โจรป่าบั่นบุกเข้าคลุกคลี ฯ         ๔ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
พระศรีสุทัศน์รัศมี
เห็นพระยาสุริยามาราวี
ขุนกระบี่เผ่นโผนโจนทยาน
ทั้งสิบแปดมงกุฎวุฒิไกร
หมายใจจำนงจงผลาญ
ทั้งสิบรถรัถาพระยามาร
ต่างหาญต่างสู้เป็นคู่กัน
อันพระยากุศราชอาจอง
จับบุญทนาวงศ์แข็งขัน
พระณรงค์พิไชยใจฉกรรจ์
เข้าโรมรันด้วยท้าวสีลยนต์
วงศ์สุริยามาตย์อาจหาญ
เข้าต่อต้านด้วยท้าวสิงหล
องค์พระจันทโครพจบสกล
เจ้าประจญต่อตีศรีสุวรรณ
ท้าวกาดสุริยกาญจน์ชำนาญศร
เข้าต่อกรกับกระบิลนิลขัน
อันพระหลวิไชยใจฉกรรจ์
เข้าโรมรันสัปยุทธด้วยอุศเรน
พระสมุทโคดมเข้ากลมเกลียว
ลดเลี้ยวต่อสู้มูระเหน
เจ้าสาครคนสันทัดจัดเจน
จับได้สุรเสนวานร
ท้าวเสนากุฎยุทธทยาน
เข่นฆ่าเวตาลชาญสมร
อันเจ้าลิขิตฤทธิรอน
สังหารพระยาขรมรณา ฯ         ๑๔ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
พระตรีภพลบโลกนาถา
เห็นวิหยาสะกำสิ้นชีวา
พระผ่านฟ้ากริ้วโกรธคือไฟ
จึงว่าเหวยสังคามารตา
มาสังหารลูกยากูตักษัย
ว่าพลางทางขึ้นศิลป์ชัย
แผลงไปถูกท้าวกรุงพาล ฯ         ๔ คำ ฯ

     ๐ เมื่อนั้น
วายุบุตรวุฒิไกรใจหาญ
ยี่สิบกรกุมศรพระอวตาร
สิบโอษฐสั่งสารสุวิญชา ฯ         ๒ คำ ฯ

โอ้
     ๐ ปากหนึ่งว่าโอ้เจ้าขวัญเนตร
บิตุเรศจะม้วยสังขาร์
ขอฝากฝังแก้วเนตรเกษรา
จงวันทาระเด่นมนตรี

     ๐ ปากสองร้องว่าพิเภกเอ๋ย
กระไรเลยช่างมาฆ่าพี่
ขอฝากนางดาราเทวี
กับสาวศรีนักสนมกำน้ลใน

     ๐ ปากสามสั่งความพระสมุท
ขอฝากบุษมาลีศรีใส
โอ้พราหมณ์มัจฉายาใจ
หวังจะได้ฝากผีบิดร

     ๐ ปากสี่ว่าโอ้องคต
โอรสจงจำคำสอน
ตั้งใจภักดีพระสี่กร
อย่าคิดว่าภูธรเป็นสามี

     ๐ ปากห้าร้องว่านางเงือกน้ำ
จงฟังคำนับถือพระฤๅษี
อุส่าห์รักษาครรภ์เทวี
แม่จะได้เป็นศรีจรกา

     ๐ ปากหกว่าเจ้าตะเภาทอง
ทั้งสองอย่าคิดริษยา
อันองค์อุณากรรณกับสียะตรา
จงนึกว่าพี่น้องท้องเดียวกัน

     ๐ ปากเจ็ดเสร็จสั่งจะสังขาร์
ชีวาพี่จะม้วยอาสัญ
ไปยื่นด้ามให้กับโจรใจฉกรรจ์
เลื่อมไลวรรณไยเป็นได้เช่นนี้

     ๐ ปากแปดวอนว่าทรงยศ
พระรถจงช่วยเผาผี
แม่จะเขียนมนต์เรียกมฤคี
ไว้กับคิรีให้ลูกยา

     ๐ ปากเก้าเฝ้าสั่งพระอุณรุท
ทรงภุชเมียจะม้วยสังขาร์
น้องรักจักถวายบังคมลา
กลับไปอยู่คูหาในวารี

     ๐ ปากสิบเสร็จคำที่ร่ำสั่ง
สิ้นกำลังด้วยพิษศรศรี
พราหมณ์ก็กลายกายาเป็นนารี
สิ้นชีวีอยู่ในไพรวัน ฯ         ๒๐ คำ ฯ

หมดฉบับเท่านี้

อุณรุทร้อยเรื่อง
ผู้แต่ง : คุณสุวรรณ
ที่มา  :  รวมวรรณคดี ๕ เรื่อง สำนักพิมพ์เสริมวิทย์บรรณาคาร โดยกรมศิลปากร  พ.ศ. ๒๕๑๖

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)

• กลับสู่ห้องหนังสือบ้านกลอนน้อย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6682.msg22935#msg22935)

(https://i.ibb.co/F09bQgm/linie-0250-2.png) (https://imgbb.com/)