บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม => ข้อความที่เริ่มโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 23, กุมภาพันธ์, 2559, 11:30:48 PM



หัวข้อ: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 23, กุมภาพันธ์, 2559, 11:30:48 PM
* นิราศนางลีลาวดี *

 ..................................
๑.ด้วยคนรักห่างไกลพาใจหมอง
มิได้อยู่คู่กันตามครรลอง
เพราะเราสองจากกันมิทันลา

๒.โอ้ชีวิตคิดไปไยยอกย้อน
อนาทรสุมทรวงเฝ้าห่วงหา
ทุกทุกยามความหลังยังค้างคา
ทุกทิวาราตรีมิมีลด

๓.ความโศกศัลย์บั่นบากเถือถากจิต
โอ้ชีวิตคิดไปใครกำหนด
จึงต้องจรจากกันน่ารันทด
บริบทแห่งรักใครชักนะ

๔.แรกแต่เริ่มเดิมทีมีความรัก
มอบใจภักดิ์ทุ่มเทเรวัตตะ
อุปสรรคขวางสุขทุกระยะ
เขาสละตนพรากจำจากลา

๕.ด้วยกลัวเราเดือดร้อนจำจรจาก
ทนลำบากลำพังดุจดังว่า
เขานั้นน้อมยอมแพ้แก่ชะตา
เปรียบตนการักหงส์หลงรักเรา

๖.ผลสุดท้ายออกบวชชวดชมชื่น
แสนสะอื้นในอกวิตกเผา
จิตกำสรวลครวญครางร้างแม้เงา
สุดอับเฉาหนักหนาในอารมณ์

๗.เรานี้หนอขอตั้งจิตอธิษฐาน
ชั่วกัปป์กาลขออยู่เป็นคู่สม
เรวัตตะคนเดียวรักเกลียวกลม
เจตน์จ่อมจมจ่อมจิตสนิททรวง

๘.จะขอตามหลวงพี่มิมีจบ
ทุกชาติภพเชิดชูแม้สู่สรวง
หรือนรกโลกันตร์บั่นแดดวง
ก็ไม่ห่วงทั้งนั้นจิตมั่นคง

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
(๓.) กลบทนายโรงลืมกรับ


หัวข้อ: Re: * นิราชนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 23, กุมภาพันธ์, 2559, 11:48:06 PM
* นิราศนางลีลาวดี *

๙.ลีลาวดีเศร้า.....อุระเรามิเบาลง
รักแท้และซื่อตรง.....มิพะวงเพราะปลงใจ
ชาตินี้รึชาติหน้า.....จะเสาะหาจะฝ่าไป
ตราบสิ้นอสงไขย.....หฤทัยก็ไม่ปรวน

๑๐.ก่อนนั้นมิบรรจบ.....ทวิภพประสบทวน
ขอเจอละเมอครวญ.....อุระนวลรำจวนจินต์
ในร่างกุมารี.....จุติดี ณ ชีวิน
รู้ตนและยลยิน......เพราะมิสิ้นกบิลชนม์

๑๑.ชื่อรัตตปาณี.....ยุวดีรุจีดล
ห้าปีทวีวน.....กวะตนสิวนเวียน
จิตนึกรำลึกรู้.....ชุติสู่อณูเจียน
ลำบากก็พากเพียร.....เพราะเสถียรมิเปลี่ยนแปลง

๑๒.เชื่อมั่นสวรรค์ชี้.....พระมุนีมิมีแคลง
หลวงพี่ทวีแรง.....เสาะแสวงแสดงธรรม
หลวงพี่พระมียศ.....บริบทจรดจำ
รักนี้สิมีกรรม.....กระเทาะย้ำรำพันความ

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
: อสงไขย แปลว่า มากจนนับไม่ถ้วน
: รำจวน แปลว่า รัญจวน
: กบิล แปลว่า ระเบียบ/ แบบ / วาง
: ยุวดี แปลว่า หญิงรุ่น /สาวรุ่น / หญิงสาว
: รุจี แปลว่า แสง / ความรุ่งเรือง / ความงาม
: กวะ แปลว่า ราวกับว่า
: ชุติ แปลว่า ความรุ่งเรือง / ความสว่าง /ดวงดาว
(๙ - ๑๒ อินทรวิเชียรฉันท์ )



หัวข้อ: Re: * นิราชนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 23, กุมภาพันธ์, 2559, 11:50:54 PM

* นิราศนางลีลาวดี *

๑๓.แม้นว่าเรามาเกิดกำเนิดใหม่
แต่จำได้อีกครั้งโลกทั้งสาม
จึงเฝ้าเพียรตั้งจิตขอติดตาม
เที่ยวสอบถามหลวงพี่อยู่ที่ใด

๑๔.เคยพลัดพรากจากจบมิสบสม
ชวดเชยชมชื่นชิดคิดไฉน
ต้องกล้ำกลืนขื่นขมตรอมตรมใจ
ณ ชาติใหม่ขอพระพรหมสมอุรา

๑๕.คิดเดินทางสู่พาราสาวัตถี
ความหลังมีอยู่ที่นั่นพลันห่วงหา
ทั้งหลวงพี่ทั้งแม่เก่าของเรานา
ชาติก่อนนั้นผ่านมาตราทรวงใน

๑๖.โอ้เย็นย่ำค่ำลงเราคงหงอย
อดีตคอยกัดกินถวิลไหว
ภาพเก่าเก่าเฝ้าหลอนสะท้อนใจ
ย้ำเยื่อใยยืนยงยังคงรอ

๑๗.สนธยามาเยือนแสงเคลื่อนคล้อย
ตะวันลอยลงต่ำค่ำแล้วหนอ
เวลานี้ก่อนมีเขาเฝ้าพะนอ
คอยเคลียคลอหยอกเล่นมิเว้นวาย

๑๘.เห็นดอกบัวสล้างอยู่กลางสระ
เรวัตตะเคยเก็บก้มเกือบจมหาย
หวังจะเด็ดมาให้น้ำใจชาย
มิเคยคลายจากจิตคิดคำนึง

๑๙.กลิ่นดอกบัวอบอวลช่างชวนหอม
ได้ดมดอมดวงจิตยิ่งคิดถึง
บงกชอยู่ชูช่อรอเด็ดดึง
ยังตราตรึงทุกช่วงในดวงมาน

๒๐.พระพายพัดแผ่วพลิ้วละลิ่วล่อง
พัดผิวผ่องผมเผ้าดุจเฝ้าขาน
พัดพักตร์พร่างพิศพอลออปาน
พัดเพียงผ่านผกผันให้สั่นทรวง

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
( ๒๐.กลบทเบญจวรรณห้าสี )


หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2559, 10:16:17 PM
* นิราศนางลีลาวดี *

๒๑.หรือสวรรค์กลั่นแกล้งสำแดงเดช
ให้เทวษนิจจาข้าแต่สรวง
เราอาภัพอับโชควิโยคดวง
น้ำตาร่วงชลนัยน์หลั่งไหลริน

๒๒.หรือกำเนิดเกิดมาต้องอาภัพ
จวบแตกดับลิขิตนิจสิน
ให้อับโชคโศกโศกาเป็นอาจิณ
ชั่วชีวินรักมล้างหรืออย่างไร

๒๓.หรือสวรรค์บันดาลรักผลาญจิต
ให้พบพิษหมองหม่นจนตักษัย
หรือพระพรหมจมจากอยากลองใจ
จึงทำให้เราสองต้องจากกัน

๒๔.อยากวอนขอหนอสวรรค์อย่าบั่นเบี่ยง
อย่าลำเอียงให้เราเศร้าโศกศัลย์
อย่าให้เจ็บเหน็บหนาวร้าวจาบัลย์
ขอสวรรค์เมตตาข้าขอวอน

๒๕.ดูรายรอบขอบฟ้าคราพลบค่ำ
ยามเย็นย่ำผ่านไปให้สังหรณ์
ทั่วเขตคามความมืดมิดเข้าริดรอน
ฝืนใจนอนปลงจิตสู่นิทรา

๒๖.รุ่งอรุณกรุ่นฟ้าอุษาสาง
แจ้งจางปางตั้งจิตคิดตามหา
ตั้งขบวนผ่านไปไพรพนา
พบสัตว์ป่าหลงเพลินเลยเดินดู

๒๗.เห็นตัวค่างบ่างชะนีเท่าที่เห็น
ลืมลำเค็ญสดใสไปชั่วครู่
ณ ริมธารซ่านเย็นเห็นปลาปู
อาศัยอยู่ในป่าพนาดร

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ



หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 25, กุมภาพันธ์, 2559, 10:01:52 PM

* นิราศนางลีลาวดี *

๒๘.แสงแดดเริ่มสลัวกลัวจะหลง
อัสดงดำดิ่งสู่สิงขร
สีแดงเรื่อดุจลาทิวากร
ศศิธรมาเยือน ณ เรือนไพร

๒๙.พอหลับตาคราใดในรู้สึก
มโนนึกสุขสมอารมณ์ไหล
ด้วยคิดถึงคนรักปักหทัย
เคล้าอาลัยเป็นประจำทนกล้ำกลืน

๓๐.ลมรำเพยพัดผ่านสะท้านจิต
ปล่อยความคิดล่องลอยแม้คอยฝืน
ภาพอดีตกรีดย้ำทุกค่ำคืน
ร่ำสะอื้นในอกเพ้อพกครวญ

๓๑.อธิษฐานผ่านดาวบนราวฟ้า
นำรักข้าครั้งก่อนให้ย้อนหวน
เรวัตตะหลวงพี่อย่ามีรวน
อย่าแปรปรวนเป็นอื่นคอยคืนคอน

๓๒.เสียงหรีดหริ่งเรไรก้องไพรสัณฑ์
ร้องประชันคล้ายแย่งแข่งสลอน
เสียงสลับหนักเบาคล้ายเว้าวอน
เหมือนออดอ้อนสวรรค์ผ่านจันทรา

๓๓.แสงนวลจันทร์สว่างกระจ่างแสง
เมฆินทร์แฝงเสน่ห์ในเวหา
ดาวและเดือนเคลื่อนไปในนภา
เสมือนว่าเคียงกันนิรันดร์กาล

๓๔.เหมือนดั่งรักปักจิตสถิตมั่น
นิจนิรันดร์ตราบจะอวสาน
ของข้านี้พลีเซ่นเป็นพยาน
นานเท่านานรักมั่นนิรันดร

๓๕.หนาวน้ำค้างกลางเพ็ญเย็นยะเยียบ
หมอนคือไม้ใช้เปรียบแทนเทียบหมอน
จิตคุกรุ่นวุ่นวายมิคลายคลอน
บรรจถรณ์คือดินกลางถิ่นไพร

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ



หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 26, กุมภาพันธ์, 2559, 07:48:51 PM
* นิราศนางลีลาวดี *

๓๖.โอ้เรานี้แรมรอนนอนกลางป่า
หลวงพี่ขาอยู่แห่งหนตำบลไหน
หรือธุดงค์เตร็ดเตร่ร่อนเร่ไป
ดินแดนใดกันหนอขอถามจันทร์

๓๗.แม้มิได้แตะต้องครอบครองร่าง
ก็มิจางจากจิตเลิกคิดฝัน
ถึงกลายเป็นเถระผละจากกัน
ยังยืนยันรักภักดีมิมีเลือน

๓๘.ดั่งพระจันทร์นั้นรักฟ้าเวหาหน
สุดโสภณเพริศแพร้ววาวแววเหมือน
บริสุทธิ์ดุจราวดาวรักเดือน
มิคลายเคลื่อนลาไกลให้โศกี

๓๙.ครวญรำพึงจนกว่าอุษาสาง
แสงสว่างจ้าจัดรัศมี
อรุณฤกษ์เบิกฟ้าวนาลี
ปลุกชีวีให้ตื่นฟื้นนิทรา

๔๐.เร่งขบวนเดินทางอย่างเร็วรี่
สาวัตถีอีกไกลไหมพ่อจ๋า
ส่งเสียงเอ่ยถ้อยความถามบิดา
ท่านตอบว่าวันนี้เราจะเข้าเมือง

๔๑.เราลัดเลาะริมธารผ่านถนน
เจอะไม้ผลไม้ดอกออกสีเหลือง
สีแสดยิ่งพริ้งพราวดุจดาวเรือง
อยู่เนืองเนืองเป็นนิจพิศโสภี

๔๒.อยู่ท่ามแมกไม้ใหญ่พฤกษ์ไพรกว้าง
ด้นเดินทางต่อไปในวิถี
แสนอุดมสมดุลขุนคีรี
น่านนทีเมื่อเห็นช่างเย็นตา

๔๓.แล้วรีบพลันสัญจรก่อนพลบค่ำ
มิมัวทำมะงุมมะงาหรา
เร่งรุดรวบจวบจนสนธยา
สู่อาณาเขตเมืองอันเรืองรอง

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ




หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 28, กุมภาพันธ์, 2559, 09:31:48 PM

* นิราศนางลีลาวดี *

๔๔.มองเมียงมองเข้าไป...ในเมืองสาวัตถี...ผู้คนมีมากมาย...ต่างย่างกรายเข้าเมือง...อันมำเลืองจรัส...สุขสวัสดิ์ภิรมย์...เอกสดมภ์การค้า...คล้ายพาราณสี...ประชาชีสุขแสน...อยู่ในแว่นแคว้นนี้...ทุกที่...เริงร่าภายใต้ฟ้า...อมร

๔๕.เป็นนครแว่นแคว้น......อุดม
มันช่างดูวิจิตร................ซับซ้อน
งามตาน่าภิรมย์...............ชมชื่น จริงเอย
แสงแดดดุจย้ำย้อน.........อัสดง ฯ

๔๖.ตรงข้างทางบ้านช่อง...มองตาม
ดุจดั่งเทพบรรจง.............วาดไว้
สลักเสลางาม.................บรรเจิด จริงนอ
วิศวสร้างให้....................เลิศแล ฯ

๔๗.แต่ประวัติชื่อนั้น.........เดิมที
คือสวัตถะแปล.................เพียบพร้อม
มาจากชื่อฤาษี..................ดาบส นั่นเฮย
เมืองแห่งสุขห้อมล้อม.......เจริญ ฯ

๔๘.ชมเพลิดเพลินยิ่งแล้ว...นคร
เป็นเขตล้ำดำเนิน............แหล่งค้า
ผู้คนต่างสัญจร................เนืองแน่น
คลาคล่ำภายใต้ฟ้า............เขตเมือง ฯ

๔๙.ฟูเฟื่องเป็นแว่นแคว้น......แดนธรรม
เผยแผ่พุทธรุ่งเรือง.........มากล้น
พระสูตรมากมายนำ.........ตรรกะ
อุบัติจากค้นคว้า..............พากเพียร ฯ

๕๐.ดุจเธียรธรรมะนั้น......ยืนยง
ยึดมั่นเป็นระเบียน...........แบบไว้
โดยพระพุทธองค์............ท่านตรัส แสดงแฮ
ศาสนาให้รู้.....................ทั่วกัน ฯ

๕๑.นิจนิรันดร์ชัดแท้.......ชีวิน
สัจธรรมนำพลัน..............หลุดพ้น
เกิดแก่เจ็บตายผิน...........พรากจาก
ชีวิตดั่งต้นไม้..................เปรียบเปรย ฯ

๕๒.ลมรำเพยหากแม้น.....พัดมา
อาทิตย์ใกล้ล่วงเลย.........ยิ่งเศร้า
หวนคิดอนิจจา................ความรัก เรานอ
สุขทุกข์คละเคล้าคล้าย....สัจธรรม ฯ

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
( ๔๔. ) ร่ายดั้น
( ๔๕ - ๔๘ ) โคลงดั้นวิวิธมาลี
( ๔๙ - ๕๒ ) โคลงดั้นบาทกุญชร




หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 28, กุมภาพันธ์, 2559, 09:45:27 PM

* นิราศนางลีลาวดี *

๕๓.ดุจว่ากรรมจักข้าม....มาตาม
พร่าบั่นอุราความ- ...........รักนั้น
มักฉ่ำดุจนิยาม................รักมั่น นั่นนอ
นำรักถลำขั้น..................จิตให้คิดครอง

๕๔.แต่ต้องแกร่วแคล้วคลาด...อนาถ
จิตเมื่อยิ่งคิดขาด............คู่แท้
ดูหมองรักนิราศ..............ปราศชื่น รื่นรา
รองรับและครองแพ้.........พ่ายสิ้นชายชม

๕๕.จึงจ่อมจมจิตจ้อง.......ตริตรอง
ตรึกมโนนึกลอง..............คิดแล้ว
จิตขมเมื่อเราสอง............ต้องจาก พรากเอย
ตรมจิตระทมแคล้ว...........สุขท้นทุกข์จินต์

๕๖.ณ. แผ่นดินแห่งนี้......เคยมี
เขาอยู่นานเนาดี..............อยู่สร้าง
สู่ศิลป์แห่งสุนทรี- ...........ยภาพ อาบแล
รินรสมิสิ้นสล้าง..............ก่อนนั้นห่อนมา

๕๗.ดุจว่ากรรมจักข้ามมาตามพร่า
บั่นอุราความรักนั้นมักฉ่ำ
ดุจนิยามรักมั่นนั่นนอนำ
รักถลำขั้นจิตให้คิดครอง

๕๘.แต่ต้องแกร่วแคล้วคลาดอนาถจิต
เมื่อยิ่งคิดขาดคู่แท้ดูหมอง
รักนิราศปราศชื่นรื่นรารอง
รับและครองแพ้พ่ายสิ้นชายชม

๕๙.จึงจ่อมจมจิตจ้องตริตรองตรึก
มโนนึกลองคิดแล้วจิตขม
เมื่อเราสองต้องจากพรากเอยตรม
จิตระทมแคล้วสุขท้นทุกข์จินต์

๖๐.ณ. แผ่นดินแห่งนี้เคยมีเขา
อยู่นานเนาดีอยู่สร้างสู่ศิลป์
แห่งสุนทรียภาพอาบแลริน
รสมิสิ้นสล้างก่อนนั้นห่อนมา

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ
( ๕๓ - ๖๐ ) กลบททวิภาค



หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 03, มีนาคม, 2559, 10:29:33 PM

* นิราศนางลีลาวดี *

๖๑.ตะวันรอนอ่อนลงคงอับแสง
ตะวันแดงแล้วหนอนะพ่อจ๋า
ถึงตลาดกราดมองของนานา
ที่คนค้าขายกันนั้นมากมาย

๖๒.ทั้งของกินของใช้นับไม่ถ้วน
ทุกอย่างล้วนแต่ดีมีหลากหลาย
คนแออัดยัดเยียดเบียดวุ่นวาย
ทั้งผู้ขายผู้ซื้อหนอเยอะพอกัน

๖๓.บ้างโหวกเหวกโวยวายร้องขายของ
ตะโกนก้องสุดแรงคล้ายแข่งขัน
เอามืออุดหูไว้แทบไม่ทัน
แถมยังดันเราเเทบล้มเกือบจมดิน

๖๔.โอ้พ่อจ๋าลูกอยากจะหม่ำขนม
ทั้งเนยนมเนืองนองในท้องถิ่น
คงโอชาน่าลองหนอของกิน
ได้ยลยินเยือนอยู่ดูลานตา

๖๕.เจ้าลูกน้อยกลอยใจไยซนนัก
ช่างน่ารักอ่อนวัยไร้เดียงสา
สุรเสียงที่มอบตอบกลับมา
ด้วยวาจาที่สื่อคือเอ็นดู

๖๖.เราต้องหาที่พักปักหลักก่อน
หาที่นอนไงเล่าให้เจ้าอยู่
พร้อมอาหารหวานคาวข้าวปลาปู
ให้แม่หนูตัวน้อยเจ้ากลอยใจ

๖๗.มาเถิดเจ้าอย่าเพลินเดินทางต่อ
อย่ารีรออย่าดื้อหรือไถล
มาเถิดลูกสาวข้ามาไวไว
เราจะได้พักผ่อนคลายอ่อนแรง

๖๘.ได้ฟังคำบิดาที่ปรารภ
รีบประจบเอาใจไม่หน่ายแหนง
ลูกเชื่อฟังพ่อนี้ที่ชี้แจง
ตะวันแดงใกล้ดับลาลับเลือน

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ




หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 03, มีนาคม, 2559, 10:34:44 PM
* นิราศนางลีลาวดี *

๖๙.ออกเดินทางกันต่อไม่รอช้า
มิมัวมาทำทื่อหรืออิดเอื้อน
มิต้องคอยถ้อยคำพ่อย้ำเตือน
เราเร่งเคลื่อนขบวนด่วนสัญจร

๗๐.สองข้างทางที่ผ่านคือบ้านช่อง
ชะเง้อมองหาหันบรรจถรณ์
ตาเราปรือเริ่มหนักอยากพักนอน
ที่พักผ่อนข้างหน้าหาต่อไป

๗๑.ผ่านมาถึงอีกคราหน้าวัดนั่น
เชตวันมหาวิหารใหญ่
ความทรงจำกลับล่วงสู่ทรวงใน
ยังจำได้วัดนี้ที่เคยมา

๗๒.เมื่อรำลึกนึกมาน้ำตารื้น
จิตเต็มตื้นล่องลอยละห้อยหา
หวนคะนึงถึงหลวงพี่นี้อีกครา
หยาดน้ำตาเอ่อล้นท่วมท้นทรวง

๗๓.หลวงพี่อยู่วัดนี้..........ยืนยัน
อยู่ก่อนที่จากกัน..............ก่อนหน้า
วัดเชตวันอัน...................วิจิตร งามเฮย
ดุจสวรรค์ชั้นฟ้า..............ใหญ่กว้างน่าดู

๗๔.หลวงพี่อยู่วัดนี้
อยู่ก่อนที่จะจากกัน
วัดเชตวันอัน
ดุจสวรรค์ชั้นฟ้าไกล

๗๕.วัดนี้แหละพ่อจ๋า
หลวงพี่มาอยู่อาศัย
ก่อนจากพรากกันไป
ยังจำได้มิลืมเลือน

๗๖.เคยอุปถัมภ์กัน
เคยผูกพันมั่นเสมือน
รักแน่มิแชเชือน
ดุจดาวเดือนมิเคลื่อนคลาย

๗๗.เคยหาภัตตาหาร
นำใส่พานจัดถวาย
ทุกวันมิเว้นวาย
มิเคยหน่ายรึไหวเอน

๗๘.ข้าวพล่าและปลายำ
รสเลิศล้ำนำประเคน
หลวงพี่ที่ฉันเพล
รวมทั้งเณรมิเว้นเลย

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
( ๖๙ - ๗๓ ) กลอนห่อโคลง
( ๗๓ - ๗๘ ) กาพย์ห่อโคลง


(http://upic.me/i/do/7vsh4.jpg) (http://upic.me/show/58002556)


หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 03, มีนาคม, 2559, 10:43:13 PM


* นิราศนางลีลาวดี *

๗๙.สิ่งใดที่ขาดเหลือ
เฝ้าจุนเจือเอื้อเฟื้อเอย
ทุกวันรำพันเปรย
เหมือนดั่งเคยมิเฉยชา

๘๐.จัดผ้าไตรจีวร
เครื่องอาภรณ์ทั้งหยูกยา
ผ้าอาบน้ำฝนครา
เข้าพรรษาศรัทธาธรรม

๘๑.ฟังที่หลวงพี่สอน
ทุกทุกตอนยังจดจำ
กำเนิดเกิดแต่กรรม
พึงกระทำแต่ความดี

๘๒.บุญทานบันดาลดล
จะส่งผลท้นทวี
อานิสงส์นั้นมี
จากการที่เราให้ทาน

๘๓.ให้หมั่นรักษาศีล
หัวตัวตีนเพียงสังขาร
ภาวนานานเท่านาน
จะเกิดญาณสติดี

๘๔.ประพฤติตนอ่อนน้อม
รู้จักถ่อมตนย่อมมี
คนรักและปรานี
นะนารีทวีคุณ

๘๕.คอยช่วยเหลือผู้อื่น
คอยหยิบยื่นและเจือจุน
นั่นไซร้จะได้บุญ
เป็นต้นทุนหนุนนำเรา

๘๖.ฟังธรรมน้อมนำจิต
พาชีวิตมิอับเฉา
หลุดพ้นปัญญาเบา
สติเอาขัดเกลาใจ

๘๗.เผยแผ่แสดงธรรม
หรือแนะนำย้ำเตือนใคร
ชี้ทางกระจ่างไป
ก็จะได้บุญนักแล

๘๘.ตั้งจิตอุทิศบุญ
ธรรมทานทุนหนุนเผื่อแผ่
ผ่องใสในดวงแด
ได้บุญแท้ไร้มลทิน

๘๙.อนุโมทนา
ทุกทุกคราเป็นอาจิณ
ใครทำดียลยิน
จงถวิลด้วยยินดี

๙๐.เห็นตรงต่อสัจจะ
ยึดฉันทะในวิถี
บุญทานบารมี
นำชีวีนี้เจริญ

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
( ๗๙ - ๙๐ ) กาพย์ยานี๑๑



หัวข้อ: Re: * นิราศนางลีลาวดี *
เริ่มหัวข้อโดย: หญิงหนิง พราววลี ที่ 03, มีนาคม, 2559, 10:47:41 PM


* นิราศนางลีลาวดี *

๙๑.ประเสริฐแท้คำสอนสุนทรท่าน
สาธุการบูชาน่าสรรเสริญ
จริยะพระธรรมนำทางเดิน
น้อมดำเนินสู่จิตนิจนิรันดร์

๙๒ ตอนนี้ท่านนั้นไม่ได้อยู่นี่
เพราะหลวงพี่อยู่ไกลใช่ดับขันธ์
เพราะท่านอยู่ที่วัดเวฬุวัน
ที่วัดนั่นพ่อจ๋าพาไปที

๙๓.เจ้าจะไปเวฬุวันกระนั้นรึ
ราชคฤห์อยู่ไกลในวิถี
เราอาจไปไม่ถึงซึ่งธานี
กุมารีโถเจ้ายังเยาว์วัย

๙๔.จิตสลดหดหู่มิรู้สิ้น
เมื่อได้ยินคำบิดาน้ำตาไหล
ดั่งโดนมีดกรีดเฉือนสะเทือนใจ
โลกทั้งใบดุจดั่งจะพังลง

๙๕.โอ้ว่าใจแทบขาดอนาถนัก
ดั่งจะหักแตกยุ่ยเป็นผุยผง
เรารักคุดดุจว่าเข้าป่าพง
เปรียบเหมือนหลงทิศทางเคว้งคว้างจริง

๙๖.สุดเวิ้งว้างว่างวางระคางขม
ชีวิตล้มล่มลมจ่อมจมหญิง
แสนอ่อนล้าล่าลาคราประวิง
หลวงพี่ทิ้งให้เราเร่าเร้ารุม

๙๗.มิเคยสิ้นถวิลหานิจจาเอ๋ย
กระไรเลยโอ้ใจดุจไฟสุม
อนาทรร้อนเร่าเข้าครอบคลุม
มันเกาะกุมกินใจไร้ปรานี

๙๘.ยังมิวายคลายจิตคิดตามหา
แม้นข้างหน้าลำบากขวากวิถี
แม้นบุกป่าฝ่าดงพงคีรี
แม้นต้องข้ามนทีสีทันดร

๙๙.ก็จะเลาะเสาะหาอีกคราหน
สาบานตนกับใจมิไถ่ถอน
จะจงรักภักดีมิมีคลอน
แม้ม้วยมรณ์มลายสิ้นทั้งอินทรีย์

๑๐๐.จะขอตามต่อไปให้ประจักษ์
ด้วยเพราะรักล้นทรวงเพียงหลวงพี่
รักทุ่มเทเรวัตตะสดุดี
ชั่วชีวีรักมั่นนิรันดร์เอย.

หญิงหนิง พราววลี
ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
( ๙๖ ) กลบทตรีประดับ
ขอบคุณที่ติดตามจนถึงตอนจบค่ะ