บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

บ้านกลอนน้อย ลิตเติลเกิร์ล - มยุรธุชบูรพา => สารบัญกลอน สมาชิกนักกลอน => ข้อความที่เริ่มโดย: นักเลงกลอน ที่ 14, กันยายน, 2560, 12:08:10 AM



หัวข้อ: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 14, กันยายน, 2560, 12:08:10 AM
รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"



กลิ่นสาบกายสาว (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9514) โดย นักเลงกลอน (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=520)

มันเรื่องของฉันท์ ??? (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9752) โดย นักเลงกลอน (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=520)

กาพย์ห่อโคลง~กาพย์หุ้มโคลง (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9710) โดย นักเลงกลอน (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=520)




 :new10:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 14, กันยายน, 2560, 12:33:07 AM

รวมกลอนที่เข้าไปตอบตามกระทู้ต่างๆ โดย "สริญ"



ยินดีต้อนรับคุณ สริญ สู่บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9508.0) โดย ลิตเติลเกิร์ล (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=58)   ตอบโดย สริญ

ยินดีต้อนรับคุณ สริญ สู่บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9508.15) โดย ลิตเติลเกิร์ล (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=58)   ตอบโดย สริญ

สัมผัสใน (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=2892) โดย ธนุ เสนสิงห์ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=67)    ตอบโดย สริญ

อารมณ์กลอนหาย..อีกแล้ว! (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9551) โดย ธนุ เสนสิงห์ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=67)    ตอบโดย สริญ

- กลอนสักวา - (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=4601.960) โดย ลินดา (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=5)   ตอบโดย สริญ

- กลอนสักวา - (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=4601.975) โดย ลินดา (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=5)    ตอบโดย สริญ

ท่องเที่ยว ประเทศจีน (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9529) โดย เอกราช (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=504)   ตอบโดย สริญ

กลบทหงส์คาบพวงแก้ว : คิดถึงใจจะขาด (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9576) โดย บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=202)     ตอบโดย สริญ

- ซุกซ่อนรหัสรัก - (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9611) โดย บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=202)    ตอบโดย สริญ

จะเกี่ยวกันไหมหนอ? (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9610) โดย รพีกาญจน์ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=7)    ตอบโดย สริญ

โคลง..บทเดียว  (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=2565.675) โดย กร กรวิชญ์ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=8)   ตอบโดย สริญ

โคลง..บทเดียว  (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=2565.690) โดย กร กรวิชญ์ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=8)   ตอบโดย สริญ

- กลอนสักวา - (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=4601) โดย ลินดา (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=5)     ตอบโดย สริญ

- ขอกลอนรัก - (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9636) โดย บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=202)      ตอบโดย สริญ

ยินดีต้อนรับคุณ จันทร์รวี สู่บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9646) โดย ลิตเติลเกิร์ล (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=58)     ตอบโดย สริญ

- ลักษณะคนดิบ - (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9701) โดย บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=202)     ตอบโดย สริญ

ยินดีต้อนรับคุณ วชรกานท์ สู่บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9693) โดย ลิตเติลเกิร์ล (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=58)     ตอบโดย สริญ

ยินดีต้อนรับคุณ อัษมา สู่บ้านกลอนน้อยฯ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=9676) โดย ลิตเติลเกิร์ล (https://www.homelittlegirl.com/index.php?action=profile;u=58)     ตอบโดย สริญ







 


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, กันยายน, 2560, 12:04:18 PM



เธอรูปทองผ่องพักตร์เลอลักษณ์ล้น
บุญใดดลเธอเกิดบรรเจิดสรรพ์
งามกว่างามหลามค่าสง่าพรรณ
ปานสวรรค์เสริมสร้างมาอย่างดี

เวรกรรมใดเธอทำใครช้ำชอก
ระบุบอกปางบรรพ์สุดผันหนี
จึงเฝ้าคอยติดตามหยามย่ำยี
ให้เธอมีอันเป็นไปเช่นกรรม.


ใครที่อ่านกลอนนี้คงจะนึกถึงคน  แต่ที่จริงพูดถึงปลา...

สริญ สาระทะ    :a016:



https://www.youtube.com/watch?v=QM76YsvrrO0





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, กันยายน, 2560, 12:39:01 PM


 :a004:

กลบทมธุรสวาที


อันบทกลอนอ่อนช้อยใช้ร้อยเรื่อง
ผู้ปราดเปรื่องปรีชาเปรมปราศัย
ย่อมเรียบเรียงเคียงคำคมนำชัย
โน้มจิตใจจูงจินต์ถวิลเวียน

ให้ผู้อ่านสารสรรค์สวรรค์สร้าง
อย่ารู้ร้างแรมจิตสถิตเสถียร
เฝ้าดื่มด่ำย้ำเยือนอย่าเลือนเรียน
งานขีดเขียนคุณค่าวิชาครู

ไม่รู้ว่าถูกต้องตามหลักวิธีแต่งกลบทมธุรสวาทีหรือเปล่านะ...เพิ่งเคยครั้งแรก

ริ       :041:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 24, กันยายน, 2560, 10:57:26 PM


 :059:

ความเหงาพาใจให้เปล่าเปลี่ยว
อยู่ลำพังคนเดียวแสนเหี่ยวเฉา
คือจุดจบสุดท้ายหมายเป็นเรา
ปล่อยความเหงาครอกล้มระทมทวี


 :059:


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"~ ขนมยุคใหม่(ขนมผู้ใหญ่) ?
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 26, กันยายน, 2560, 12:48:11 PM



https://www.youtube.com/watch?v=di3U8ND3vno





ขนมยุคใหม่(ขนมผู้ใหญ่)


ต้องถึงคราวสาวไทยได้กรี๊ดลั่น
จากไอเดียสร้างสรรค์อันวาบหวิว
ความคิดแปลกแหวกแนวจากแถวทิว
อาจชวนหิวชวนขันมันอย่างไร

ขนมอบวาฟเฟิลเกิร์ลไหวหวั่น
รูปร่างมันแปลกจริงกว่าสิ่งไหน
ยามเพ่งมองต้องเหนียมกระเดียมใจ
เอ๊ะ ทำไม นะมันช่างชันชู

บ้างเห็นขันคิดลองว่าของแปลก
บ้างติแหลกเสียงขรมลมออกหู
บ้างวิจารณ์กันว่าไม่น่าดู
บ้างอยากรู้อยากเห็นเช่นไม่เคย

คือขนมแท่งยาวรูปจ้าวโลก
มีกะโหลก*ติดมาสุดผ่าเผย
หลายคนบอกลองแล้วแจ๋วจังเลย
ต่างเอื้อนเอ่ยว่าดีมีคำชม

แต่บางคนก็ว่าไม่น่าซื้อ
สิ่งนี้หรือ_ญไร*ใช่ขนม
รูปร่างบอกตอกย้ำว่าต่ำตม
ควรนิยมหรือไรไทยเมืองพุทธ

คือกระแสสายข่าวชาวโซเชียล
อย่าเพียงมองด้านเดียวเที่ยวค่อนขุด
แล้วติด่าว่ากล่าวเป็นฉาวชุด
เพราะมนุษย์สุดเลิศเกิดจากมัน

ชาวฮินดูทั้งหลายกราบไหว้นะ
เป็นเครื่องหมายพระศิวะเจ้าสวรรค์
แต่ชาวไทยเรียกไอ้ขิกคิกคิกกัน
อาจสรวลสรัลเฮฮาเมื่อครามอง

เพียงรูปร่างอาจคล้ายอยู่หลายส่วน
แต่สมควรหรือไม่พาใจหมอง
ด้วยเพ่งโทษจับผิดพินิจตรอง
ก็แค่ของกินเล่น...เย็นเถอะโยม...


...แต่ถ้าเป็นผม ผมจะทำแม่พิมพ์เป็นรูปมักกะลีผล.....    :001:

ริ  

(https://i0.wp.com/www.yumzaap.com/wp-content/uploads/3-7.png?resize=390%2C205)    :a006:

วาฟเฟิล ขนมรูปปลัดขิกที่กำลังเป็นข่าว



กะโหลก* ที่จริงต้องเป็นอีกคำหนึ่งแต่เพื่อป้องกันการไม่สุภาพจึงใช้คำว่ากะโหลก แทน






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 03, ตุลาคม, 2560, 10:01:07 PM



ถามตรงๆ คงได้ ใช่ไหมนั่น
ถามทุกวัน  อยากรู้  เธออยู่ไหน
ถามกี่ครั้ง  หวังคำตอบ  มอบจากใจ
ถามทำไม ? ก็อยากถาม  หาความจริง

ริ  สิริรั   :059:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 05, ตุลาคม, 2560, 02:24:00 PM


เหมือนถูกตีแสกหน้าจนหน้าแหก
หัวใจแหลกย่อยยับลงกับที่
เมื่อเธอเอ่ยเผยคำย้ำวจี
ว่าเธอนี้"ท้องค่ะ"จะเป็นลม


ริ  สิริรั    :d30:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 06, ตุลาคม, 2560, 11:44:59 AM



 :046

เมื่อชีวิตวันนี้มีวันหน้า
สู้ฟันฝ่าเดินไปไม่เดินหลง
ตราบอาทิตย์เที่ยงวันนั้นเที่ยงตรง
จักดำรงหลักการผ่านหลักเกณฑ์

อนาคตสดใสใจสดชื่น
คงยั่งยืนถึงหลานผ่านถึงเหลน
ด้วยกระจ่างชัดแจ้งแห่งชัดเจน
มิเบี่ยงเบนกลับกลายคล้ายกลับกลอน

ริ  สิริรั    :a006:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 08, ตุลาคม, 2560, 11:39:53 PM


 :068:

ถ้าหากย้อน วันเวลา  กลับมาได้
คงย้อนไป  ถึงเมื่อครั้ง  ยังหนุ่มหนุ่ม
ตอนหล่อหล่อ มีสาวสาว  เข้ามารุม
สุขหลายขุม   ดุจสวรรค์  นั้นประทาน

มีหญิงงาม  เคียงข้างกาย  ไว้คลายหนาว
ผิวขาวขาว  ร่างอวบอิ่ม   ยิ้มแสนหวาน
ได้โลมลูบ  จูบเนื้อนวล  รัญจวนนาน
สุดซาบซ่าน แสนสยิว  วาบหวิวใจ

ทั้งสิบนาง  ต่างประคอง  ท่องธารรัก
จนสุดจัก  อิ่มอุรา   กว่าใครไหน
สรวงสวรรค์ ชั้นวิมาน  อันวิไล
หรือเทียบได้ ในสุขล้ำ  กระหน่ำทรวง

นอนเอาตีน  ก่ายหน้าผาก  หลากความคิด
โอ้ชีวิต-นี้ไฉน   วัยเลยล่วง
แก่เกินแก่   เฒ่าชรา   หาใครควง
ถึงเหนี่ยวหน่วง  กาลเก่าก่อน  บ่ย้อนคืน


ริ  สิริรั     :059:








หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 09, ตุลาคม, 2560, 09:20:57 PM



พรหมลิขิตขีดชะตาให้มาพบ
ได้ประสบเนื้อนวลที่ชวนฝัน
แล้วให้เราพลัดพรากต้องจากกัน
จบกลอนสั้นหนึ่งบทรันทดใจ
 :001:

ริ  สิริรั    :059:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 10, ตุลาคม, 2560, 03:58:06 PM




ในช่วงวันสองนี้  เห็นมีประเด็นข่าว เรื่องการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เบียร์สด ในร้านสะดวกซื้อ
ซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันไปต่างๆนาๆ  บ้างบอกว่าผู้ประกอบการขาย  ขาดความรับผิดชอบต่อสังคม
เห็นแก่ได้ฯลฯ
แต่ผมกลับมีความเห็นว่า  แทนที่จะไปออกกฏหมายมาห้ามแต่ผู้ขาย  รัฐ สมควรออกกฏหมายมาห้ามผู้ดื่มด้วย
คือใครจะซื้อสุรา  หรือดื่มสุรา  รวมทั้งพวกเบียร์ และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ต่างๆ  สมควรต้องมีใบอนุญาตจากรัฐก่อน   จึงจะซื้อ และดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้   ถ้าใครไม่มีใบอนุญาตจากรัฐ
ขืนซื้อ หรือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะผิดกฏหมาย และถูกจับตัวดำเนินคดี(คล้ายกับใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน) มันจะดีนะ  คงฮาดี  :020:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 11, ตุลาคม, 2560, 12:09:13 AM


 :037:

หลบอาศัยซากผีเป็นที่เกิด
ชาติกำเนิดเลือกมิได้ใครจัดสรร
สู้แอบเร้นแฝงกายหลายคืนวัน
เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้งด้วยแรงกรรม

ไม่มีสิทธิ์สิ่งไรเหมือนใครอื่น
ครองระทมขมขื่นทุกคืนค่ำ
อยู่อย่างหวาดผวาต้องหน้าดำ
ปิดเงื่อนงำอำพรางแฝงร่างตน

กราบพระพุทธขอพรวอนคุณพระ
ช่วยปลดเปลื้องพันธะอกุศล
คือบาปกรรมเก่าก่อนย้อนมาดล
ให้มืดมนหนทางสว่างไป

หรือวิบากซากกรรมมาซ้ำซัด
ให้จำกัดย่ำแย่สุดแก้ไข
จึงมืดมนหนทางกระจ่างใด
ตกอยู่ในวังวนจนฉะนี้


ริ  สิริรั     :a006:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 17, ตุลาคม, 2560, 11:31:59 PM


เมื่อโลกนี้มีเธอให้เพ้อถึง
ใจฉันจึงละเมอพร่ำเพ้อหา
เพราะเกิดความหวั่นไหวในอุรา
รักชักพาจิตใจไหวอารมณ์

ผิดมากไหมที่รักเธอเข้าแล้ว
คงไม่แคล้วอกหักรินรักขม
เมื่อเธอมีหนึ่งชายหมายเคียงชม
ความระทมส่งตอบมอบให้เรา

เขียนกลอนรักเผื่อเธอเผลอมาอ่าน
อาจไม่หวานซ่านใจอย่างใครเขา
ด้วยเขียนจากรักขมที่ซมเชา
จากหนึ่งชายคนเก่าเฝ้ารักเธอ


ริ  สิริรั    :a014:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 19, ตุลาคม, 2560, 06:45:28 PM


นักเกมส์กับนักกลอน

นักเกมส์=เล่นเกมส์ยิง  วิ่งล่า  ฆ่าไม่เหลือ
นักกลอน=มิเคยเบื่อ   เขียนรัก   ใส่อักษร
นักเกมส์=ตลุยด่าน   ผ่านยาก  ทุกฉากตอน
นักกลอน=สุดอาวรณ์  อาลัย  ใจมิวาย

นักเกมส์=เมื่อศัตรู  กรูหน้า   ฆ่าไม่ยั้ง
นักกลอน=คิดถึงครั้ง  รักแรก  แตกสลาย
นักเกมส์=สู้กับBoss  รอดแบบ  แทบล้มตาย
นักกลอน=รักมิคลาย   จากเธอ  เสมอมา

ริ  สิริรั    :059:


https://www.youtube.com/watch?v=O2alnNLQFEg

ขอขอบคุณคลิปวิดีโอเกมส์จากทางยูทูป



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 30, ตุลาคม, 2560, 02:35:05 PM




สิ้นตุลาหน้าฝนหล่นกระหน่ำ
ลาตุลาหน้าดำชุดดำหาย
โอ้ลมหนาวมาโชยมาโชยชาย
ดังจะหมายเหมือนว่าฟ้าอำไพ

พฤศจิกามาเยือนเหมือนโกหก
พฤศจิกาพาพก  ลมโกรกให้
ลมไห้หวนทวนมาพาหนาวใจ
พฤศจิกาคราใดฤทัยครวญ

โอ้ลมหนาวเจ้าหยอกมาหลอกขวัญ
ให้หนาวสั่นกายาพาโหยหวน
แล้วสิ้นหนาวร้าวทรวงสุดทวงทวน
รักปั่นป่วนใจข้าคราหนาวกราย

อย่าพึ่งรีบผ่านไปได้ไหมหนาว
รอผู้สาวมาซบประกบก่าย
เป็นคู่เรียงเคียงข้างตราบวางวาย
แม้นหนาวคลายผ่านพ้นยอมทนทาน

พฤศจิกาจะมาแล้วเออแก้วขวัญ
ควรสมานสัมพันธ์หมั่นสมาน
ให้ประจักษ์รักชื่นอย่างยืนกราน
แม้หนาวผ่านยังพบสบสุขจริง


ริ  สิริรั

 :new10:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 31, ตุลาคม, 2560, 02:22:47 AM


กลอนพาไป

สากกะเบือเรือรั่วหัวทะลุ
รับปะผุเปลี่ยนยางไปข้างหน้า
กินแกงไก่ไอเดือดเลือดเข้าตา
เคาะกะลาสามครั้งตังค์ไม่มี

ยามน้ำลดตอผุดถึงจุดเปลี่ยน
นั่งขับเกวียนเวียนว่ายร่ายวิถี
จรดลทนทำยำหัวปลี
ฟังดนตรีดีดเป่าเมาโคเคน

เพิ่งสิบห้าหยกหยกตกหย่อนหย่อน
แม่ลูกอ่อนร่อนเลี้ยวเที่ยวเขมร
ขอรับใช้ชาติมั่งนั่งเข้าเวร
เป็นไอ้เณรถือปืนยืนชายแดน

ฝนมันตกรกรั่วไปทั่วฟ้า
ตะโกนด่าท้าทายถึงนายแถน
รับตำแหน่งแห่งเรื่องเจ้าเมืองแมน
ประชาแค้นหน้าดำน้ำท่วมนอง

เปลี่ยนอาชีพรีบค้ายาเสพติด
รู้ว่าผิดกฏหมายขนถ่ายของ
ทำเงินดีมีเสี่ยงเลี่ยงกระบอง
เจอด่านต้องยิงสู้พะบู๊ไป

จะเล่นหวยรวยลัดขัดตัวเลข
พระเครื่องเสกเป่ามนตร์คนหลงใหล
นั่งแต่งกลอนวอนสาวหนาวฤทัย
อยากมีใครมาเบียดเสียดสีกาย

มีเรื่องเสียวมาเล่าเขาก็ว่า
เป็นเรื่องลามกแน่ยอมแพ้พ่าย
คุยการเมืองเรื่องนั้นอันตราย
เขียนจดหมายมันเชยเลยเวลา

ท่องเว็บไซต์ดูหนังยังเบื่อเบื่อ
หยอดน้ำเกลือเพื่อรอหมอมาหา
พยาบาลหวานหูดูหวานตา
เข็มฉีดยากลัวเจ็บเย็บแผลพัน

เพราะน้ำท่วมอ่วมนองคลองตะเข้
นั่งไกวเปลลูกอ่อนนอนหลับฝัน
หุงข้าวหอมมะลิกะทิมัน
น้ำส้มคั้นแกงบอนปลาช่อนยำ

ทอดไข่เจียวเกี่ยวข้าวเช้ายันเที่ยง
จุดตะเกียงไฟฟ้าเวลาค่ำ
ดูรายการทีวีสีขาวดำ
ลืมปิดน้ำประปาจ่ายค่าไฟ

เปิดตู้เย็นตู้เก่าหยิบเหล้าเถื่อน
ชวนเพื่อนเพื่อนตั้งวงก๊งกันใหญ่
ก็ชีวิตติดดินต้องดิ้นไป
รอวันไหนเป็นศพจบเรื่องราว.

ริ  สิริรั     :020:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 11, พฤศจิกายน, 2560, 12:27:05 PM


แปลกใจตนคนเขลาเศร้าชีวิต
รอยลิขิตบาปกรรมทำแต่หลัง
หรือไฉนไยทนอยู่วนวัง
ให้โศกสั่งโสกาอย่ารู้คลาย

คือสลักปักลิ่มทิ่มตลอด
จวบวายวอดฤาเว้นเร้นห่างหายน์
หฤหรรษ์สรรมากี่ครากราย
ทิ้งสุดท้ายปลายตอดยอดคืนตรม

ทอดถอนใจให้กรรมที่นำชัก
เจนประจักษ์หลักแหล่งหนแห่งสม
อยู่อย่างฝืนกลืนกล้ำช้ำระทม
ใครปรารมภ์ขมขื่นหยิบยื่นมา



ริ  สิริรั      :059:


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 12, พฤศจิกายน, 2560, 03:40:05 PM



เพียรหยาดหยดลดวลีกวีเด็ด
ห้าหกเจ็ดแปดเก้าเข้าหลักสิบ
สิบเอ็ดสิบสอง~ปองสิบสาม~เนื้อความลิบ
สิบสี่สิบ~ห้าสิบหก~สุดยกยอ

สิบเจ็ดสิบแปด~สิบเก้า~เข้ายี่สิบ
ยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง~ลองขยิบ~ทิปความต่อ
ยี่สิบสามยี่สิบสี่~ยี่สิบห้า~ก็มารอ
ยี่สิบหกยี่สิบเจ็ด~เสร็จจะขอ~วางต่อไป

ยี่สิบแปดยี่สิบเก้าเอาให้หนำ
สามสิบจำสามสิบเอ็ดเสร็จแก้ไข
สามสิบสองสามสิบสามงามตรึงส์ไตร
ผูกมั่นไว้เป็นเครื่องหมายสหายตน

คือเลขที่สามสิบสามว่างามเลิศ
ก่อกำเนิดแนวทางสว่างสถล
ภูมิที่สามสิบสามงามน่ายล
...............................


ริ  สิริรั    :068:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 12, พฤศจิกายน, 2560, 09:48:39 PM




https://www.youtube.com/watch?v=0APq9Qb5RnE

ขอบคุณคลิปภาพพิธีลุยไฟจากทางยูทูป



ลุยไฟ...ไลฟุย.... :001:


วิ่งลุยไฟอยู่ดีๆก็มีเหตุ
เกิดอาเพศพลันล้มจมกองถ่าน
ดิ้นกระจายป่ายพื้นหมดชื่นบาน
ฉลองงานลุยไฟได้เจ็บตัว
เทพกระเจิงเผ่นแนบแบบไม่กลับ
ดวงไม่ดับยังรอดปลอดภัยทั่ว
หากถามว่าเข็ดไหม ? ไม่เข็ดชัวร์
แค่หูหัวมือไม้ไหม้พองเอง...
 :001:

จากที่ผมเคยรู้มา(จำไม่ได้แล้วว่าอ่านจากหนังสือเฉลยมายากลหรือดูสารคดีเฉลยมายากล)
การแสดงกลเดินลุยไฟนั้น ผู้แสดงจะจัดการแสดงโดย เตรียมเอาถ่านไฟที่จุดแล้วมาโรยเป็นทาง
จากนั้น จะใช้เกลือเม็ดโรยไปบนกองถ่านเพลิงอีกที  อาจโรยเป็นจุดๆ หรือโรยเป็นทางยาวก็ได้
เวลาจะเดินลุยไฟ ก็เดินเหยียบไปบนกองเกลือนั้น  อย่าไปเหยียบบนถ่าน  จะไม่ร้อนและไม่พอง
สีขาวของเกลือ จะทำให้กลืนกับสีของขี้เถ้า  และเสียงประทุของเกลือก็ฟังดุคล้ายเสียงประทุของถ่านไฟ...
(อย่างในภาพวิดีโอ เราจะเห็นว่า บางจุด พื้นจะเป็นสีแดง นั่นคือบริเวณที่มีถ่านไฟ
แต่บางจุดพื้นจะเป็นสีขาว คาดว่านั่นอาจจะเป็นเกลือหรืออะไรที่นำมาโรยไว้
เวลาจะวิ่งต้องกะจังหวะให้ดี  และให้เหยียบไปตรงบริเวณพื้นสีขาว)


ริ  สิริรั    :045:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 13, พฤศจิกายน, 2560, 03:21:06 PM



เลข 13 อาถรรพณ์  หวั่นพลิกเปลี่ยน
กลัววกเวียน พลิกกลับ สับหลัง-หน้า
ไม่มั่นคง  ยงยื้อ  ซื่อสัญญา
การคบหา  สุดเหลือ จะเชื่อใจ

เลข 13  อาถรรพณ์  วันสุ่มเสี่ยง
ควรหลีกเลี่ยง เหิมหาญ  คิดการใหญ่
ต่อเมื่อผ่าน  พ้นแล้ว  แน่วปลอดภัย
จึงค่อยคิด  กิจใด  ก็ไปทำ


ริ  สิริรั    :059:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 16, พฤศจิกายน, 2560, 08:36:28 PM



https://www.youtube.com/watch?v=eoW5aRm5lOM&t=317s

ขอบคุณคลิปจากยูทูป


เกิดเป็นคนกินทุกอย่างที่ขวางหน้า
แม้นสัตว์ป่าสัตว์บ้านทุกย่านถิ่น
ถ้าจับได้ปิ้งย่างมีทางกิน
เอมโอชลิ้นถ้วนทั่วมิกลัวภัย

ชั้นตะขาบหรืองูรู้ว่ามี
พิษร้ายที่ปลงปิดชีวิตได้
อันพิษงูเริงฤทธิ์กว่าพิษไฟ
ยังแพ้ให้ปากคนพ่นน้ำลาย


ริ  สิริรั    :059:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, พฤศจิกายน, 2560, 05:28:09 PM


https://www.youtube.com/watch?v=QaZ4FQ1fdQw

ขอบคุณคลิปจากยูทูป



คุณค่าแห่งศิลปะ
อารยะเหนือจินตนาการ
หนึ่งเดียวในจักรวาล
หมื่นล้านโลกธาตุฤาอาจควร


ผมเห็นภาพนี้แล้วผมก็บอกกับตัวเองว่า"ถ้าผมมีเงินสัก ๑๐๐๐ ล้าน ผมจะซื้อ  แต่มีข้อแม้ว่า ภาพนี้ต้องมีภาพเดียวในโลก
ทำขึ้นมาใหม่ หรือใครๆไม่สามารถทำเลียนแบบให้คล้ายกันได้อีก"
ผมกำลังคิดว่า บางทีกลอนผมอาจจะต้องตีค่าไว้สักประมาณ ๒๐๐-๓๐๐  ล้านบ้าง เพื่อใครอยากซื้อ...


ริ  สิริรั    :020:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, พฤศจิกายน, 2560, 06:15:44 PM



ศิลปะบรรเลง...เชิดชูกันเอง....สร้างไทยให้เป็นไท(ซ้ำ)
เพื่อให้ชาติอื่นถือทำตาม  เอ๊ย  เพื่อให้ชาติอื่นถือทำตาม....เห็นดีเห็นงาม....สร้างความศิวิไลซ์...(เป๊กพ้อ)



เพลง ลูกคู่ลำตัด.... :a016:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, พฤศจิกายน, 2560, 12:54:26 PM



๐นั่งเขียนกลอนเขียนกลอนเขียนกลอนนี้
ด้วยวลีวลีวลีร่า
เพราะหัวใจหัวใจหัวใจพา
สุขหนักหนาหนักหนาหนักหนาครัน

โอ้กลอนเรากลอนเรากลอนเราหนอ
คงจะพอจะพอจะพอนั่น
ตราตรึงติตตรึงติตตรึงติดตพัน
สู่ความฝันความฝันความฝันไกล

เหมือนบทเพลงบทเพลงบทเพลงหนึ่ง
ฟังซาบซึ้งซาบซึ้งซาบซึงให้
สุขวิญญาวิญญาวิญญาใคร
ฟังครั้งใดครั้งใดครั้งใดเพลิน๐


เป็นกลอนที่สมดุลย์จริง...วรรคหนึ่งยาวเฟื้อยย  วรรคที่สองสั้งจู๋...

ริ  สิริรั    :a016:


แต่พอตัดคำที่ซ้ำออกไปจะเหลือแค่

"นั่งเขียนกลอนนี้
ด้วยวลีร่า
เพราะหัวใจพา
สุขหนักหนาครัน

โอ้กลอนเราหนอ
คงจะพอนั่น
ตราตรึงติดพัน
สู่ความฝันไกล

เหมือนบทเพลงหนึ่ง
ฟังซาบซึ้งให้
สุขวิญญาใคร
ฟังครั้งใดเพลิน"



 :059:   :a006:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, พฤศจิกายน, 2560, 01:50:46 PM


.เขียนกลอนนี้แด่เธอผู้เพ้อหา
เธอผู้ซึ่งนำพาหัวใจพรั่น
ด้วยดวงใจหวังรักจักนิรันดร์
เธอจักเป็นความฝันตลอดไป

และจะมีหัวใจไม่เคยเปลี่ยน
จะเฝ้าคอยวนเวียนกระแซะใกล้
ยอมมอบหมดทั้งห้วงดวงหทัย
เพื่ออุทิศถอดให้แค่เพียงเธอ.


ตัดเฉพาะสี่คำท้ายวรรคออกมา....

"เธอผู้เพ้อหา
พาหัวใจพรั่น
รักจักนิรันดร์
ฝันตลอดไป

ใจไม่เคยเปลี่ยน
เวียนกระแซะใกล้
ห้วงดวงหทัย
ให้แค่เพียงเธอ"


ริ  สิริรั    :a004:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, พฤศจิกายน, 2560, 11:02:47 PM



คนเอ๋ยคนดี
ความหมายมีมากมายหลายแบบอย่าง
เป็นคนที่มีศีลธรรมคอยนำทาง
ชีวิตย่างอยู่ในกรอบระบอบบรรพ์
เป็นคนดีอีกอย่างในทางแปลก
คือคนแหลกคนทุกอย่างก็ช่างฉัน
เรื่องการคนนั้นเก่งอยู่เขารู้กัน
คนทุกวันคนไปเถิดเลิศนักเอย.


ริ  สิริรั    :020:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 22, พฤศจิกายน, 2560, 06:44:52 PM


(อันบทกลอนบทกานท์)ที่ขานกล่าว
เป็นเรื่องราวสอนสืบความคืบหน้า
ทดสอบเชาว์เก่าอูมภูมิปัญญา
ว่าจะแม่นตำราหรือว่าไร ?

แต่บ้างก็ปิดถูกผูกกระทู้
เขาไม่รู้อาจเหน็บให้เจ็บได้
ตนเลือกคำผิดเองบรรเลงไป
จักซ่อนไว้ฤาเผยเฉลยวาง ?

อันกลอนนี้มีมากหลากหลายแบบ
วิธีแต่งย่อมแยบคายอยู่บ้าง
ย่อมมีแผกกันไปในหนทาง
มิอาจอ้างกฏใดใครผู้เดียว

ผู้เรียนน้อยรู้น้อยบ่อยสับสน
สำรวมตนตามกรอบยอบยุ่งเกี่ยว
หย่อนวิจารณ์งานเขาเนากลมเกลียว
หากเลาะเลี้ยวเที่ยวทักจักอกตรม

แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชองถึงสามจึงงามสม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่มแปดเก้าไต่เต้าไป

ครั้นรู้แล้วจักเห็นความเด่นชัด
ผู้เจนจัดเปิดกว้างหนทางใหม่
มิตีกรอบรอบตนเช่นจนใจ
คือทางที่ศิวิไลซ์นำชัยเรา


ริ  สิริรั    :059:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, พฤศจิกายน, 2560, 12:28:53 PM



"ครูเป็นแพะ"

คนโบราณบอกว่า"ผิดเป็นครู"
แต่คนทุกวันนี้บอกว่า"ครูเป็นแพะ"


 :a020: :020: :a003: :a006: :059: :068:


ผิดเป็นครู ครูเป็นแพะ   แพะรับบาป
สังคมทราบ  ข่าวสาร   การสืบสวน
ครูขับรถ  ชนคนตาย  คือชนวน
รับโทษทัณฑ์  ตามกระบวน  ยุติธรรม์

หลังรับโทษ  ได้โปรดเกล้า บรรเทาผิด
คืนชีวิต   อิสระ  กลับมานั่น
ครูขอล้าง  คราบมลทิน  ที่ติดพัน
เข้าสู่ขั้น  รื้อคดี  ที่มีมา

เตรียมหลักฐาน  พยานและ-แพะรับบาป
เพื่อศาลทราบ  ถึงสิ่งที่  มีปัญหา
การตัดสิน  ตามขั้นตอน  ก่อนนี้นา
พิพากษา  ตัดสินใหม่  ให้เป็นธรรม

ศาลรับเรื่อง  เบื้องต้น  จนอุทธรณ์
ตามขั้นตอน  ถึงฎีกา  แต่น่าขำ
เพราะหลักฐาน ศาลพิเคราะห์  เป็นถ้อยคำ
ว่าไปซ้ำ  หลักฐานเก่า  ไม่เข้าวิน

จึงยกฟ้อง  ร้องรื้อฟื้น  ส่งคืนกลับ
ครูจอมทรัพย์  ไม่ใช่แพะ  และเสร็จสิ้น
ยืนตามคำ  ตัดสินเดิม  เพิ่มราคิน
ตามได้ยิน  คือข้อหา  เบิกความเท็จ

ครูขับรถ  ชนคนตาย  กลายเป็นแพะ
ร้องแบ๊ะแบะ  อีกครั้ง   ดังไม่เสร็จ
ซ้ำส่อแวว  จะลุกลาม  ตามล้างเช็ด
หลักฐานเด็ด  จะพาดับ  แล้วครับครู   :045:


ดูข่าวครับ....เมื่อคืนนี้นั่งดูพี่มาร์ค พิตบูล  อธิบาย เรื่องครูเป็นแพะ ครูเป็นแกะให้ฟัง  ไม่รู้ว่าตกลงจะให้เป็นแพะหรือเป็นแกะกันแน่   :020:

ริ  สิริรั






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 27, พฤศจิกายน, 2560, 09:04:16 PM


น้ำเอ๋ยน้ำใจ
เป็นสายใยผูกพันฉันมิตรเพื่อน
จะอยู่ไหนไกลใกล้ได้มาเยือน
ถึงชานเรือนต้อนรับกระชับสัมพันธ์
ยามทุกข์ยากช่วยเหลือเมื่อทุกข์ยาก
คำเอ่ยปากจากมิตรมิบิดผัน
ย่อมช่วยเหลือเจือจานนานนิรันดร์
รู้แบ่งปันคือน้ำใจใช่แน่เอย.


วิธีแสดงน้ำใจนั้น ต้องใช้มีดผ่าควักหัวใจออกมา แล้วบีบคั้นเอาน้ำ  เรียกว่า การแสดงน้ำใจต่อกัน
ในสมัยโบราณ ใช้วิธีกรีดเลือดสาบาน  ด้วยถือว่า เลือดนั้นเป็นของเหลวที่ถูกสูบฉีดออกมาจากหัวใจ
จึงถือว่าเป็นสิ่งแทนน้ำใจได้  นอกจากนี้ก็สมมุติสิ่งของที่หยิบยื่นให้กันเป็นสิ่งแทนน้ำใจ  แต่น้ำใจจริงๆ
ต้องคั้นออกมาจากหัวใจ  เพื่อแสดงความจริงใจว่ายอมตายได้เพื่อมิตรสัมพันธุ์....(ทั้งหมดนั้นเขียนเล่นขำๆ)
 :001:

ริ  สิริรั




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 02, ธันวาคม, 2560, 11:45:22 AM



https://www.youtube.com/watch?v=Hq63qRL2NQU

ขอบคุณคลิปจากยูทูป


ดูข่าวแล้วให้รู้สึกนึกอิจฉา   บทคนมันจะโชคดีก็โชคดีมาง่ายๆ   :020:


พลิกตำราแทบตายวายชีวิต
นั่งครุ่นคิด!คำนวนเลข~เด่นเลขดับ
หวังเลขท้ายสองตัวชัวร์รับทรัพย์
เรียงเป็นตับหว่านแหแต่...ถูกกิน

คนไม่มีโชคลาภวาสนา
เพียรเสาะหาแทบตายมลายสิ้น
มิเคยได้สมหวังดั่งใจจินต์
ทุบออมสินแทงเข้าไป...ใจหวังรวย

แต่ดวงคนจะดีมีโชคลาภ
ไม่ต้องไปเที่ยวกราบคุณพระช่วย
เหมือนสวรรค์หนุนค้ำโชคอำนวย
ก็ถูกหวยง่ายง่าย..ได้เงินล้าน..

เขาคงทำบุญมาแต่คราก่อน
บุญจึงย้อนมาดลเป็นผลผ่าน
ให้ร่ำรวยด้วยอัฐรัฐเจือจาน
จึงถูกหวยรัฐบาล...หวานคล่องคอ...


...น้อยใจในโชคชะตาตัวเอง  แทงหวยไม่เคยถูก...พลิกตำราคำนวนตัวเลขกันสมองแทบระเบิด แต่ก็ได้แค่เฉียด..ขนาดเลขท้ายสองตัวล่างก็ยังไม่ถูก...แต่...ทำไมบางคน บทมันจะถูกก็ถูกง่ายจริง...

ริ  สิริรั    :a020:







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 02, ธันวาคม, 2560, 05:03:16 PM




ทำไมหลายคนภายหลังจากถูกรางวัลที่หนึ่งแล้วยังกลับไปจนเหมือนเดิมอีก ??



คำถามนี้น่าคิดว่า  ทำไมหลายๆคนที่ภายหลังจากถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ ๑ ได้เงินห้าล้าน สิบล้านไปแล้ว
ทำไมผ่านไปไม่กี่ปีก็กลับมาจนอีก  บางคนอาจจะได้เงินจากหวยมายี่สิบสามสิบล้าน แต่สุดท้ายก็กลับมาจนเหมือนเดิม  ?



สาเหตุที่ทำให้กลับมาจน

๑.  ใช้จ่ายเงินมือเติบขึ้น  จากเดิมที่เคยทำงานหาเช้ากินคำ  การใช้จ่ายก็ต้องประหยัด
      แต่จู่ๆวันหนึ่ง โชคหล่นทับ ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ ๑  ได้เงินมาก้อนใหญ่  เป็นสิบล้าน
     ชีวิตเปลี่ยนไป มีการใช้เงินก้อนใหญ่ที่ได้มานั้นอย่างฟุ่มเฟือย  ไม่ว่าจะแบ่งกันในหมู่ญาติ
     การซื้อรถใหม่ป้ายแดง  ซื้อบ้าน  ซื้อของใช้ดีๆราคาแพงให้สมฐานะ ซึ่งแต่ก่อนนี้ไม่เคยซื้อ
      มีการเลี้ยงเฟื่อนเลี้ยงฝูง  พากันไปเที่ยว  ไม่เป็นอันทำการทำงาน  หรือบางที่ก็มีญาติๆมา
      ขอหยิบขอยืม  รายได้จากการทำงาน(สมรรถนะในการหาเงิน)ยังเท่าเดิม  แต่ รายจ่ายเพิ่ม
      ขึ้นกว่าเดิม เป็นร้อยเท่า  เช่น เดิม เคยมีรายจ่าย ไม่เกินหมื่น  แต่ตอนนี้ จ่ายไปเดือนละ
      เป็นล้าน  เฉพาะซื้อ รถ ซื้อบ้าน เงินที่ได้มาก็หมดไปกว่าครึ่งแล้ว  แล้วเดือนต่อๆไป ก็อยู่ในหลักแสน
      นี่เป็นสาเหตุหนึ่ง  ที่ทำให้คนที่ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง กลับมาจนอย่างรวดเร็ว การใช้จ่ายมือเติบขึ้น
      ในขณะที่ยังหาเงินได้เท่าเดิม

๒.   การย้อนกลับไปเล่นพนันอีก  แน่นอนละ  ในเมื่อโชคดี รวยมาจากหวย  และเดิมก็ชอบแทงหวยอยู่แล้ว
       เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เลิกเล่น  มีแต่จะเล่นมากกว่าเก่า  เพราะว่าตอนนี้ไม่จนแล้ว มีเงินมาก ก็เลย
      เล่นได้มากกว่าเดิม  จากเดิมที่อาจจะเคยเล่นเพียงงวดละไม่กี่ร้อย หรืออาจจะพันกว่าๆ  ก็กลายเป็น
      เล่นมากขึ้น  เช่นแทงงวดละหมื่น  หรือมากกว่าหมื่นขึ้นไป เพราะถือว่าตอนนี้ตนเองมีเงินมาก

๓.  ข้ออื่นๆ   จริงๆแล้วมีข้ออื่นๆ  แต่เนื่องจากเขียนไวในข้อ ๑ หมดแล้ว ก็เลยไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดี
     (แต่ข้อที่ผมกลัวที่สุด จนรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยอยากถูกหวยก็คือ เรื่องที่เวลามีข่าวถูกหวยแล้ว
      มันก็มักจะมีคนที่รู้จักบ้าง ไม่จักบ้าง มาขอหยิบขอยืม  บางทีเป็นญาติกัน ที่ไม่เคยติดต่อกัน
     นับสิบๆปี แต่จู่ๆโผล่มา คือมันแปลกอยู่อย่างที่เวลามีคนถูกหวยแล้ว มันก็มักจะมีหลายคนชอบมารุมมาทึ้ง
      นี่เป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้บางคนเวลาถูกหวยแล้ว ไม่ค่อยอยากจะเป็นข่าว  เพราะกลัวแบบนี้แหละ)



ริ  สิริรั   





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 06, ธันวาคม, 2560, 04:06:32 PM




https://www.youtube.com/watch?v=tmMTuWeSQyc

ขอบคุณคลิปจากยูทูป



ภัยใกล้ตัว  ภัยจากการถูกหวย



เมื่อคืนนี้นั่งดูคลิปรายการโหนกระแสแล้วรู้สึกว่าสังคมทุกวันนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน
"คูสามีภรรยา ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล ๕ ใบ  ได้เงิน สามสิบล้านบาท  ภายหลัง
จากที่นำเงินเข้าบัญชีแล้วผ่านไปไม่กีวัน บัญชีเงินฝากก็ถูกอายัติ  เพราะมีผู้ไปแจ้งความ
ว่า ทำล๊อตเตอรี่จำนวน ๕ ใบหาย  และเข้าใจว่า สองสามีภรรยาคู่นี้คือผู้ที่เก็บล๊อตเตอรีมาได้
แล้วนำไปขึ้นเงินรางดังนั้น  ดังนั้น ตำรวจจึงขอให้ทางธนาคารอายัติบัญชีทรัพย์สิน"

ผมนั่งดูข่าวแล้วก็เออ  มิจฉาชีพสมัยนี้มันมีวิธีหากินกันแบบแปลกๆ  คอยแจ้งความจับ
คนที่ถูกหวยรางวัลที่หนึ่ง.....
ปีที่แล้ว(๒๕๕๙)  ก็มีสาวใหญ่คนหนึ่ง นามว่า ป้าติ้น  เข้าแจ้งความกับตำรวจ  จับเพื่อนของตนเอง
ในข้อหา ขโมยหวยที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง ๕ ใบ  เป็นเงิน ๓๐ ล้านบาท
คือป้าติ้น ตามข่าวนั้น เวลาเขาไปไหนก็จะไปกับเพื่อน  ซื้อหวยก็ออกเงินซื้อด้วยกัน แล้วนำมาบ่งกัน
แต่ป้าดิ้นมักจะชอบฝากหวยไว้ที่เพื่อน แต่บังเอิญงวดนั้น หวยออก ป้าดิ้นถูกรางวัลที่ ๑  เป็นเงิน ๓๐ ล้่านบา
ปรากฏว่า เพื่อนไม่ยอมแบ่งให้  ป้าดิ้นเลยเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า เพื่อนโกงหวยที่ถูกรางวัลที่ ๑

ต่อมาครั้งที่สอง ปี ๒๕๖๐  ป้าดิ้นเข้าแจ้งความกับตำรวจรอบสองว่า  ถูกเพื่อนอีกคน ขโมยหวยที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง
๕ ใบ  เป็นเงิน ๓๐ ล้านบาท  
พฤติกรรมของป้าดิ้น ก็เหมือนกับครั้งแรก  คือไปกันกับเพื่อน ช่วยกันออกเงินซื้อหวย
แล้วฝากเก็บไว้ที่เพื่อน  แต่พอถูกรางวัล  เพื่อนกลับเบี้ยว ไม่ยอมแบ่งให้ ป้าดิ้นเลยเข้าแจ้งความเป็นรอบที่สอง

ต่อมา รายที่สอง  ช่วงกลางปี ๒๕๖๐ นี้ มีหนุ่มใหญ่คนหนึ่ง นามว่า คุณ ปื๊ด
แกเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า ทำล๊อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ ๑ สองใบหายไป  เข้าใจว่า
เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่เข้าออกบ้านแกเป็นประจำเป็นคนขโมย
เหตุการณ์ต่อมา ปรากฏว่ามีสองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด  นำสลากดังกล่าวไปขึ้นรางวัล
จึงทำให้ชาวโลกโซเชียล รวมทั้งตัวหนุ่มปื๊ด  เกิดความสงสัยว่า เด็กอาจจะขโมยสลากที่ถูกรางวัล
แล้วนำไปขายให้สองผัวเมียคู่นี้  จึงมีการให้ตำรวจเรียกตัวมาสอบปากคำ
ปรากฏว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ นำสลากไปขึ้นเงินจริง  แต่เป็นการถูกสลากสามใบ ไม่ใช่ สองใบ
ตามที่หนุ่มปื๊ดกล่าวอ้าง
ชาวเน็ตบางกลุ่ม ก็เชื่อว่า สองสามีภรรยาคู่นี้ คงเป็นคนที่รับซื้อสลากกินแบ่งที่หายไป  แต่บางคนก็ไม่เชื่อ
และเข้าใจว่า หนุ่มปื๊ด คงจะโกหก
เหตุการณ์รายนี้ ยังไม่มีข่าวคราวข้อสรูป

เหตุการณ์รายล่าสุด ก็ตามคลิปข้่วบนนี้  คือมีสองผัว  ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งห้าใบ  ได้เงิน ๓๐ ล้านบาท
แต่ปรากฏว่า บัญชีเงินฝากถูกอายัติ  เพราะมีผู้ไปแจ้งความว่า ทำสลากที่ถูกรางวัลที่หนึ่งหาย
และเข้าใจว่าสลากชุดดังกล่าว คงจะถูกสองสามรภรรยาคู่นี้เก็ยได้ แล้วนำไปขึ้นเงินรางวัล

จากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมา  ทำให้ผมรู้สึกว่า  มันมีการทำเลียนแบบกัน เป็นแฟชั่น  คือ มีคนคอยแจ้งความจับ
คนที่ถูกสลากกินแบ่งรัฐบาล
หรือไม่เช่นนั้น ก็อาจมีกลุ่ม ๑๘  มงกุฏ ที่ใช้อุบายหากินด้วยวิธีแจ้งความจับคนที่ถุกสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่หนึ่ง  โดยร่วมมือกับผู้ที่ขายสลากนั่นเอง

ดังนั้น เราจะเห็นได้ว่า สังคมสมัยนี้ อยู่ยากขึ้นทุกวัน   ถ้าคุณมีโชคดี ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง
ไม่แน่ว่าอาจจะมีใครบางคน คอยแจ้งความจับคุณ ในข้อหาขโมยล๊อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลของเขาก็เป็นได้
ฉะนั้น จะซื้อจะหาสลากกินแบ่ง ก็ควรทำหลักฐานพยานไว้ตั้งแต่ก่อนที่หวยจะออก  เพื่อให้แน่ใจว่า
คุณคือผู้ซื้อสลากตัวจริง  ไม่ได้ไปแอบเอาสลากของใครมา  จะได้ไม่เดือดร้อนภายหลัง


เฮ่อ...ในเว็บนี้เขามีแต่ ขอบาทเดียว   แต่ครูในคลิปนี้แกจะขอเงินจากลุงที่ถูกหวย สิบห้าล้านบาท...  :059:


สริญ  สิริรัฐ  เรียบเรียง




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 10, ธันวาคม, 2560, 09:38:09 PM


กลบทมยุรฟ้อนหาง~  แค้นคำหยามหมิ่น



เสียเสียใจในน้ำคำกล่าวกล่าว
เรื่องเรื่องราวลุกลามหยามหมิ่นหมิ่น
ดูดูแคลนแค้นมากยากชินชิน
ติติฉินลับหลังยังจำจำ

เจ็บเจ็บจนทนไว้ใจร้าวร้าว
ด่าด่ากราวเกินเปรียบเหยียบย่ำย่ำ
ฝืนฝืนยิ้มพริ้มตาหน้าดำดำ
ตกตกต่ำภาพลักษณ์จักโวยโวย

เมื่อเมื่อสุมชุ่มโชกโบกเศร้าเศร้า
จะจะเฝ้าอาฆาตฟาดโหวยโหวย
สาปสาปแช่งแรงกรรมทำโอยโอย
โปะโปะโปรยโต้ตอบมอบคืนคืน



กลบทมยุราฟ้อนหาง ตัดคำซ้ำหัว~ท้าย ที่ละ ๑ คำออก  กลายเป็น  กลอน ๖(อ่านเฉพาะตัวสีแดงเข้ม)


เสียเสียใจในน้ำคำกล่าวกล่าว
เรื่องเรื่องราวลุกลามหยามหมิ่นหมิ่น
ดูดูแคลนแค้นมากยากชินชิน
ติติฉินลับหลังยังจำจำ

เจ็บเจ็บจนทนไว้ใจร้าวร้าว
ด่าด่ากราวเกินเปรียบเหยียบย่ำย่ำ
ฝืนฝืนยิ้มพริ้มตาหน้าดำดำ
ตกตกต่ำภาพลักษณ์จักโวยโวย

เมื่อเมื่อสุมชุ่มโชกโบกเศร้าเศร้า
จะจะเฝ้าอาฆาตฟาดโหวยโหวย
สาปสาปแช่งแรงกรรมทำโอยโอย
โปะโปะโปรยโต้ตอบมอบคืนคืน




กลบทมยุราฟ้อนหาง ตัดหลายคำออกไป กลายเป็น  กลอน ๖(อ่านเฉพาะตัวสีน้ำเงิน)

เสียเสียใจในน้ำคำกล่าวกล่าว
เรื่องเรื่องราวลุกลามหยามหมิ่นหมิ่น
ดูดูแคลนแค้นมากยากชินชิน
ติติฉินลับหลังยังจำจำ

เจ็บเจ็บจนทนไว้ใจร้าวร้าว
ด่าด่ากราวเกินเปรียบเหยียบย่ำย่ำ
ฝืนฝืนยิ้มพริ้มตาหน้าดำดำ
ตกตกต่ำภาพลักษณ์จักโวยโวย

เมื่อเมื่อสุมชุ่มโชกโบกเศร้าเศร้า
จะจะเฝ้าอาฆาตฟาดโหวยโหวย
สาปสาปแช่งแรงกรรมทำโอยโอย
โปะโปะโปรยโต้ตอบมอบคืนคืน



ริ  สิริรั  


 :a020:


หมายเหตุ กลบทมยุราฟ้อนหาง แต่งเป็นกลอนแปด ซ้ำคำหัวท้ายทุกๆวรรค
เมื่อตัดคำที่ซ้ำหัว-ท้ายวรรค ออกไปที่ละ ๑ คำ  อ่านเฉพาะตรงกลาง จะได้เป็น กลอน ๖
เมื่ออ่านเฉพาะคำที่ ๒-๓  และคำที่ ๖-๗  ของแต่ละวรรค จะได้เป็น กลอน ๔







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 15, ธันวาคม, 2560, 03:19:38 AM




โคลง ๔

ลำนำขำเขกข้าง       เคล็ดโคลง
โทสี่เอกเจ็ดโยง       ยึดไว้
สัมผัสอย่าเล็ดโลง   เลยกว่า ห้านา
คือชื่อโคลงสี่ได้     นอกนั้นฤาควร

ทบทวนความท่องไว้     จงจำ
บาทหนึ่งพึงคงคำ          เจ็ด/เก้า
บาทสองอย่าหลงทำ        เกินจ็ด-ศัพท์นา
บาทที่สามคำเข้า            เจ็ด/เก้าสร้อยเสริม

บาทสี่เดิมเที่ยงแท้          เก้าศัพท์
ท้ายบาทดังเงางับ          บทหน้า
คำที่หนึ่งเนานับ            สองอีก-สามแล
คือเชื่อมสองบทท้า       เพื่อให้ถึงกัน




โคลงเสียง

โคลงเสียงเพียงเทียบเท่า     เพียงเสียง
โทเอกใช่จัดเรียง                 แห่งที่
ฟังเสียงว่าใกล้เคียง            ตามแบบ  ท่านนา
เพียงแต่วรรณยุกต์ชี้           บ่ใช่ตามเสียง

โคลงเสียงเพียงแค่คล้าย      ยามยิน
เสียงหลอกจักพาชิน          ว่าใช่
แต่เขียนอักขรศิลป์               หาใช่-แน่นา
เสียงไม่กับเสียงไหม้            ย่อมคล้ายคลึงกัน

โคลงเสียงเพียงแต่งเล่น      ลองริ
เดี๋ยวท่านจะตำหนิ               ว่าได้
ตำรับตำราวิ-                         ธีแต่ง
โคลงสี่มิอาจให้                   ผิดเพี้ยนโบราณ


โคลง ๔

โคลงสี่โทสี่อ้าง                 เจ็ดเอก
สัมผัสห้าเจว็ดเลข             บอกใบ้
คือส่วนผสมเสร็จเสก       งามสรรพ  แล้วนา
จึงเหมาะควรการใช้          แต่งแต้มสติตรอง

ครรลองควรเช่นนี้           ควรทำ
แผลงผิดคือสวนคำ         แบบเบื้อง
ถือถูกจึ่งชวนจำ               เรียนแบบ  ท่านเอย
ถูสูตรคือปลดเปลื้อง        ปราศข้อติฉิน



ริ  สิริรั


หมายเหตุ. โคลงเสียง  ก็คือฟังแต่เสียง  ฟังด้วยหู ไม่เขียนเป็นตัวหนังสือ  ตัวอย่างเช่น คำว่า"  ที่ ท่า น่า ใช่
ฟังด้วยหู ก็อาจคิดว่า เป็นเสียงไม้โท  แต่ที่จริงไม่ใช่  เวลาเขียนเป็นตัวหนังสือ จะให้ถูกตามหลักบังคับ ต้องใช้
โทโทษ   แต่ถ้าไม่ใช่โทโทษ ก็ต้องถือว่า เป็นโคลงเสียง




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, ธันวาคม, 2560, 01:58:26 AM


หวยหายยายร่ำร้อง   ครวญหา
ทำตกในวัดวา         แน่แท้
หลังจากไปซื้อมา      จากตลาด
อยู่ช่วยงานศพแล้     กับข้าวทำครัว

เพราะมัวโชว์เพื่อนพ้อง   พวกพรรค
ดึงออกดึงเข้าชัก        อกเสื้อ
กระป๋าขาดสลากทะลัก    ไปจาก-อกนา
สูญโชคเคยแนบเนื้อ     เบื่อแล้วหล่นหาย

คุณยายวิ่งโร่เข้า         แจ้งความ
หวยออกเลขเด็ดงาม     หกล้าน
รางวัลที่หนึ่งตาม-        ข่าวบอก-มานา
ผู้เก็บได้คนบ้าน          อยู่ใกล้ยายเอง

นางพรทิพย์หยิบได้      หวยนั้น
ยายบอกระบุพลัน        ใช่แหน้
พวกเพื่อนพยานยัน       ยายถูก-แน่นา
ท้าตรวจDNAแก้-        ต่างให้เห็นจริง

รอผลพิสูจน์ลุ้น           ใบสลาก
ควรติดคราบน้ำหมาก    เปรอะบ้าง
นิ้วมืออาจมีฝาก           รอยจับ-ต้องแฮ
หวังเพื่อมางัดง้าง        เพื่อได้เงินคืน

ฝ่ายข้างมีสลากขึ้น       รางวัล
ยังเงียบงำเงื่อนงัน       ซ่อนเร้น
ไป่โผล่ไป่หุนหัน         เป็นข่าว
ราวปลีกตนหลีกเว้น      จากข้อครหา

เจ้าของหวยที่แท้        คือใคร
ฉันก็ยังสงสัย             บ่สิ้น
ถูกหวยแต่ไฉน           ประสบ-เคราะห์นา
หวยถูกไยยังดิ้น          กลับสู้เป็นคดี

เวรกรรมชาติที่แล้ว       ทำมา
ไปหยิบยืมเงินตรา        ท่านไว้
เพิกเฉยบ่นำพา          คืนทรัพย์-ท่านเอย
เวรที่ทำทำให้            โชคสิ้นสลากสูญ

เคยโกงเคยกล่าวร้าย      ตัวเขา
ถึงที่ยามตัวเรา            จะได้
บันดาลโชคอับเฉา        เพราะเหตุ-กรรมแล
มีเหตุพัวพันให้            ตกต้องคดีความ

หลายเหตุประหลาดล้น     หวยหาย
มีอยู่ราวหกราย              ข่าวแจ้ง
เงินทองช่างมากมาย       หลายสิบ-ล้านเนอ
ดูช่างทำเหมือนแกล้ง      ต่อผู้ถูกรางวัลฯ


ติดตามข่าวหวยหายตลอดครับ(ทั้งๆที่ไม่ได้เล่นหวยกับเขาเลย).....
อยากรู้ว่าใครคือเจ้าของสลากตัวจริง...........


ริ  สิริรั


 :059:


หมายเหตุ. คนที่ถูกหวยแล้วทำหวยหาย ก็เหมือนกับบุญมีแต่กรรมมาบัง
ส่วนคนที่ถูกหวยได้เงินแล้วโดนแจ้งความว่าไปขโมยหวยชาวบ้านมา ก็เหมือนมีโชคแล้วแต่ถูกมารมาผจญ
ถือว่า มีทั้งโชคและมีทั้งเคราะห์ทั้งคู่






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, ธันวาคม, 2560, 11:47:43 PM



โคลง กลบทลิ้นตะกวด


โคลงสี่นี้สริญได้     เอามา
เสริมส่งเชิงเชาว์หา  เหตุให้
เป็นเยี่ยงอย่างเราหนา  ยามแต่ง
วางแบบสังเกตไว้    ชื่อลิ้นตะกวดแถลง

แสดงอวดภูมิเพื่อรู้    เพียรลอง
เขียนเช่นการเขียนจอง   โจ่งแจ้ง
นำเสนอแนบเวียนผอง   พรรคพวก  เพื่อนเฮย
มิใช่ใจโล่งแล้ง          เหือดน้ำหทัยสยม


บรมครูให้ร่างเรื้อง     สฤษลอง
ถางเพื่อชวนคิดปอง    แปลกปลิ้น
ไหนเถาเทือกผิดผอง   ภูมิปราชญ์
ลองยั่วราวแลกลิ้น     เล่นลิ้วสลัดสลาย

จัดจายหมายเสกสร้าง   แบบฉบับ
ลองแปลกแหวกแนบสลับ   สลุตให้
เผื่อใครจักแอบนับ       เตรียมจวก  เจี๊ยกเฮย
ยังชื่อจารผุดไว้         เสียบพื้นไผทสยาม



โคลง กลบทลิ้นตะกวด(กลับคำ)



โคลงสี่นี้สริญได้     มาเอา
เสริมส่งเชิงหาเชาว์  เหตุให้
เป็นเยี่ยงอย่างหนาเรา  ยามแต่ง
วางแบบสังเกตไว้    ชื่อลิ้นแถลงตะกวด

แสดงอวดภูมิเพื่อรู้    ลองเพียร
เขียนเช่นการจองเขียน   โจ่งแจ้ง
นำเสนอแนบผองเวียน   พรรคพวก  เพื่อนเฮย
มิใช่ใจโล่งแล้ง          เหือดน้ำสยมหทัย


บรมครูให้ร่างเรื้อง     ลองสฤษ
ถางเพื่อชวนปองคิด    แปลกปลิ้น
ไหนเถาเทือกผองผิด   ภูมิปราชญ์
ลองยั่วราวแลกลิ้น     เล่นลิ้วสลายสลัด

จัดจายหมายเสกสร้าง   ฉบับแบบ
ลองแปลกแหวกสลับแนบ   สลุตให้
เผื่อใครจักนับแอบ       เตรียมจวก  เจี๊ยกเฮย
ยังชื่อจารผุดไว้         เสียบพื้นสยามไผท


              ทดลองแต่ง กลบทลิ้นตะกวด เป็นโคลง ๔   โดยใช้วิธีสลับคำ สี่แห่ง  ส่วนตรงสีเขียวนั้น ไม่กลับคำ
เนื่องจากโคลงบังคับเป็นรูปวรรณยุกต์โทไว้ เพียงใส่ไว้ให้ดูเฉยๆ  และที่ตรงสัมผัสระหว่างบทนั้นใส่
สระไว้เฉยๆ  ไม่กลับคำ เพราะขี้เกียจ
             หัวใจสำคัญของกลบทลิ้นตะกวดนี้คือ  เมื่อกลับคำแล้ว ความหมายเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม
เหมือนคนที่พูดอย่างหนึ่งแล้วกลับพลิกลิ้นพูดเป็นตรงกันข้าม ที่โบราณเปรียบเทียบว่ามีลิ้นสองแฉก
ตัวอย่างเช่นโคลงบทแรกบาทที่ ๑ ว่า
"โคลงสี่นี้สริญได้    เอามา"     แต่พอกลับคำแล้วกลายเป็นว่า" โคลงสี่นี้สริญได้   มาเอา"
ซึงระหว่างคำว่า"เอามา" กับ" มาเอา"  นี้ ความหมายต่างกันสิ้นเชิง  เป็นตรงข้าม  ความลำบากยากเย็น
ของการแต่งลิ้นตะกวดก็เห็นจะเป็นที่จุดนี้แหละ   นอกนั้นก็แต่งเหมือนโคลง ๔ ตามปกติ


ริ  สิริรั       :020:










หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 20, ธันวาคม, 2560, 12:59:56 PM



กาพย์ ฉบัง  ๑๖    กลบท  นกบินกลับรัง



               พอดีเมื่อเช้ามืดวันนี้ นึกอยากจะลองแต่งกาพย์ฉบัง ๑๖  แบบ กลบทถอยหลังเข้าคลอง
แต่แต่งเป็นกาพย์ฉบัง ๑๖  แทนกลอน ๘  (ก็ไม่รู้มีใครแต่งแล้วหรือยัง  ถ้ามีช่วยกระซิบบอกด้วยนะ กันหน้าแหก)
วิธีแต่งก็จะเป็นแแบบนี้  เขียนเป็นกาพย์ ฉบัง วรรคที่ ๑  และ วรรคที่ ๒


นกบินจากท้องทุ่งนา         ผ่านแนวภูผา

......................


ส่วนวรรคที่ ๓  ให้อ่านย้อนกลับจากวรรคที่ ๑  กลับจากหลังไปหน้า  ดังนี้


นกบินจากท้องทุ่งนา         ผ่านแนวภูผา

นาทุ่งท้องจากบินนก



บทเต็ม   นกบินกลับรัง(ที่จริงเป็นแค่แบบร่าง)



นกบินจากท้องทุ่งนา         ผ่านแนวภูผา

นาทุ่งท้องจากบินนก


แสนเบิกบานดีวิหค           ร่อนถลาเวียนวก

หควิดีบานเบิกแสน


สำเริงสำราญผ่านแดน      ดุจเที่ยวเมืองแมน

แดนผ่านราญสำเริงสำ


นกเอ๋ยไยเจ้าช่างทำ             พาข้าขันขำ

ทำช่างเจ้าไยเอ๋ยนก


ข้ารู้ว่าเจ้าโกหก                  มันแสนตลก

หกโกเจ้าว่ารู้ข้า


พอเถิดหยุดเถิดนกกา            กลเจ้าเวหา

กานกเถิดหยุดเถิดพอ


นามเป็นเล่นเรียงเสียงล่อ       หัวเราะมอมอ

ล่อเสียงเรียงเล่นเป็นนาม.



ริ  สิริรั


 :a016:  :a004: :a006: :059: :043:







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, ธันวาคม, 2560, 12:48:27 PM

ควันหลงจาก  นกบินกลับรัง


บทที่ ๑

                ควันหลงจาก นกบินกลับรัง ข้างบน  เลยแถมต่อด้วย กลอน ๖ อีกแบบ
กลอนนี้ อาศัยสามคำท้ายของวรรคหน้า  เอามาวางในลักษณะอ่านย้อนกลับที่วรรคหลัง
(บทนี้ ถ้าจะแต่งเป็นแบบ กาพย์ยานี ๑๑  ก็ได้เหมือนกัน)


นกบินจาก/ท้องทุ่งนา         ผ่านแนวป่า/นาทุ่งท้อง
เห็นรวงข้าว/เหลืองเรืองรอง  ยามได้มอง/รองเรืองเหลือง

โอ้ว่านก/เนืองผกผิน           ออกหากิน/ผินผกเนือง
ต่างชีวิต/ผองคนเมือง         เปรียวปราดเปรื่อง/เมืองคนผอง

ชีวิตคน/มองเหมือนนก        ยามผินผก/นกเหมือนมอง
เที่ยวท่องไป/ใจจับจอง       พิศสิ่งปอง/จองจับใจ

เขียนจ่อหัว/ไว้ตัวอย่าง        เป็นแนวทาง/อย่างตัวไว้
ถ้าว่าผิด/จงอภัย                 แก่มือใหม่/อภัยจง



บททีี ๒

                 แต่งเป็นกลอน ๖ อีกแบบ  แต่คราวนี้ใช้ข้อความในวรรคหน้าทั้งหมดมาไว้ในวรรคหลังเลย
คือสามคำหน้าของวรรคหน้ามาไว้ที่สามคำหน้าของวรรคหลัง  และสามคำหลังของวรรคหน้ามาไว้ที่สามคำหลัง
ของวรรคหลัง ในลักษณะอ่านย้อนกลับ  บทนี้ต้องแต่งเป็น ๖ คำทั้งวรรคหน้าและวรรคหลัง


ข้าอยู่ที่/ท้องทุ่งนา         ที่อยู่ข้า/นาทุ่งท้อง
ผองคนเรา/ควรเฝ้าปอง   เราคนผอง/ปองเฝ้าควร

เปิดใจรัก/ด่วนทักเถิด      รักใจเปิด/เถิดทักด่วน
หวนผูกพัน/ฟังหันชวน      พันผูกหวน/ชวนหันฟัง

ใจต้องล้วน/หวังหวนไห้   ล้วนต้องใจ/ไห้หวนหวัง
บังอาจฝัน/จริงพันครั้ง      ฝันอาจบัง/ครั้งพันจริง


ริ  สิริรั


   :020:  :a002: :a003: :037:  :068:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, ธันวาคม, 2560, 08:40:02 PM



กาพย์ยานี  ๑๑   กลบท ก้านต่อดอก


ค่ำลงอาจหนาวร้าว-รานผิวผ่าวสาววัยใส
ขาดคู่รู้ใจไง         มิมีใครดูแลแคร์
ขาดคนโอบกอดพลอด   หัวใจปลอดหนุ่มแยแส
สุดเศร้าเหงาแดแปร      จนย่ำแย่ยับเยินเกิน
มีใครใคร่อยู่ดู             มิอาจรู้สู้เดินเขิน
อกหักรักเมินเชิญ       ช้ำนานเนิ่นหนาวชีวี
มีไหมใครจักรัก         เป็นคู่ทักพักที่นี้
หากว่าสามีมี             คงสุขศรีปีใหม่ไทย.


ริ  สิริรั     :020:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 25, ธันวาคม, 2560, 09:58:41 PM




ร้อยกรองชนิดหนึ่ง


กาพย์หนึ่งพึงหมาย      ชื่อกาพย์นางกราย    เป็นของสำคัญ
เป็นกาพย์ผสมกัน        สุรางคนางค์นั้น    จำนงค์

ท่อนหลังประสงค์         ยานียืนยง      ตามบอกเล่าแถลง
เป็นของใหม่ดัดแปลง     บูรพาจารย์ชี้แจง   ให้ฟัง

สองกาพย์รวมผัง         จึงเกิดมนตร์ขลัง     กึกก้องกังวาน
สุรางคนางค์ประสาน      อีกยานีสมาน        เหมาะสม

เชยชื่นชิดชม            นิยามนิยาม      ทำนองดนตรี
เพื่อขับกล่อมเหล่ากวี     ค้ำจุนสุนทะรี      บรรเลง


บทร้อยกรองข้างบนนี้  เดิมทีตั้งใจจะแต่งเป็นกาพย์นางกราย  ที่ท่อนแรกเป็นกาพย์ สุรางครานงค์
ท่อนหลังเป็นกาพย์ยานี ๑๑  แต่พอตอนจะแต่งยานี ๑๑ ท่อนหลัง  ก็ไม่ทราบว่ามีอะไรมาดลใจเหมือนกัน
กลับใส่สัมผัสไปแบบนี้  เห็นว่ารูปแบบมันแปลกดี ก็เลยแต่งจนครบ ๔ บทแล้วนำมาลงให้อ่านกัน
เป็นกาพย์หรือเป็นอะไรก็ไม่ทราบ  แต่อ่านได้  ถือเป็นบทร้อยกรองชนิดหนึ่ง  ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญ


ริ  สิริรั     :020:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 27, ธันวาคม, 2560, 12:47:38 AM



กาพย์นางกราย


กาพย์หนึ่งพึงหมาย      ชื่อกาพย์นางกราย    เป็นของสำคัญ
นั่งแต่งอยู่ทั้งวัน         แล้วมันไม่ได้ดังใจ

เอ๊ะใครกันหว่า       หรือเทวดา        ดลจิตผิดไป
กลั่นแกล้งกันหรือไร    นี่กาพย์ใดใช่นางกราย


จำฝืนอีกครั้ง   กัดฟันรวมพลัง    มั่นคงจุดหมาย
มิปล่อยให้ลอยชาย      คิดแยบคายฝ่าวังวน


กาพย์นี้ชื่อนางกราย  เป็นกาพย์ที่รวมเอากาพย์สองชนิดมาไว้ด้วยกัน
ท่อนแรกเป็นกาพย์ สุรางคนางค์  ท่อนหลังเป็นกาพย์ยานี ๑๑   เป็นกาพยที่แต่งได้ยากมากๆ  เพราะเริ่มท่อนแรก
ด้วยอารมณ์จังหวะของกลอน ๔  แต่พอท่อนหลัง ต้องเปลี่ยนอารมณ์มาเป็น จังหวะของกาพย์ยานี ๑๑
จึงนับว่า มีความยากอยู่พอสมควร  ผู้มีอารมณ์ไม่มั่นคงต่อผัง อาจถูกพัดพาไปในอารมณ์อื่น จนอาจแต่ง
กาพย์นางกรายไม่ได้
    :059:


กาพย์สุรางคนางค์ ๓๖


ขึ้นใหม่ในกาพย์   สุรางคนางค์ทราบ    ตามแบบแยบยล
ฝึกปรือฝีมือ        ให้เลื่องระบือ        สืบต่ออนุสนธิ์
หัดกาพย์คัดกล     สวัสดิโสภณ         ตามเหตุเจตหมาย

เพื่อเปลี่ยนรสชาติ     จากกลอนวางวาด    มีอยู่มากมาย
อีกทั้งคำโคลง      ที่เขียนจรรโลง         กราดเกลื่อนเรียงราย
จำจักฝ่าฝ่าย        เขียนกาพย์ฉาบฉาย   ในอรรถเหมาะสม

ฝึกฝืนใจรัก     มิปล่อยจมปลัก          เคยชินอารมณ์
ทำสิ่งฝืนฝืน       อันมีดาษดื่น           จากที่ชื่นชม
ห่างไกลระทม     รู้ฝึกนึกข่ม            จิตใจนั้นเอย.


ริ  สิริรั    :059:







 


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 08, มกราคม, 2561, 09:22:43 PM



คดีหวยหาย

กลอน ๕

อยากรู้......ความคืบหน้า
หวยบ้า......ถูกรางวัล
แจ้งความ....กล่าวหากัน
ยักยอก......สามสิบล้าน

"จรูญ".......ตำรวจเก่า
ครูเฒ่า....."ปรีชา"ชาญ
ผลตรวจ.....พร้อมหลักฐาน
เพื่อศาล.....ตัดสินความ

อีกเรื่อง.....ที่สุพรรณ
ยายนั้น......วิ่งวุ่นตาม
หวยหาย.....เลขเด็ดงาม
หกล้าน.....หนึ่งใบเล่า

อยากรู้.......ความคืบหน้า
ใครหวา......จะเป็นเจ้า-
ของหวย.....แต่เดิมเนา
พวกสื่อ.....ทำลืมเลือน


นึกกลอนแปดไม่ออก ควรหลีกเลี่ยงหันมาแต่งกลอนอื่นๆ  :059:

ริ  สิริรั

(https://www.thairath.co.th/media/CiHZjUdJ5HPNXJ92GP9RUeK0Jfhp93FLT8.jpg)
(https://i.ytimg.com/vi/MpK5NDyaRnE/maxresdefault.jpg)






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, มกราคม, 2561, 11:22:50 PM





ห.ว.ย.หวย

ห. ว.ย.หวย     หมดหวังรวยด้วยการแทง
จิ้ม~ทิ่มแจกแจง   ควานหาแหล่งเลขเด็ดดี
พึ่ง~การขูดขีด     ถือจารีตประเพณี
ใบ้~บอกฝันมี      และพึ่งผีเทพเทวา
ล็อก~กองสลาก   และเลขจากสูตรตำรา
เวียน~เที่ยวเพียรหา  ควานไขว่คว้าเสาะแสวง
ทุกข์~จุกจนยาก    ความหวังฝากพลีค่าแรง
โชค~อยากยุดแย่ง    เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตน
หลง~ในโมหันธ์     จึงจาบัลย์และร้อนรน
มืด~ในวังวน        ความขัดสนมิจืดคลาย
อยาก~คือบ่อเกิด   พาเตลิดตะลอนหายน์
ท่อง~ทั่วอบาย     บ่เว้นวายทุชีวี
หวัง~ได้สินทรัพย์   พานย่อยยับอับวิถี
เริง~เพลิงโลกีย์    เพราะสิ่งนี้จึงมัวเมา
วุ่น~ในมืดบอด     หนทางรอดยังโฉดเขลา
เว้น~คือบางเบา    พ้นอับเฉาพารอดเอย.

วิธีอ่านจังหวะ   ๑/๓  ๓/๓   วรรคหน้า หยุดคำที่หนึ่ง แล้วตามด้วยสองสามสี่  วรรคหลังลงสัมผัสคำที่สาม
ใช้เพื่อบทนี้โดยเฉพาะ


ริ  สิริรั





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2561, 08:56:07 PM



หาย   หาย   หาย !!! 


หวยหายสามสิบล้าน   ครูปรี-
-ชา,ที่กาญจนบุรี      โร่แจ้ง-
-ความ ณ  สถานี      ตำรวจ-
สูญโชคเลยหน้าแห้ง  ชวดแล้วฝันสลาย-

ถูกรางวัลที่หนึ่งตั้ง     ห้าใบ-
-สามสิบล้านหายไป   อดได้
ใครหนอแอบมือไว     มาเก็บ
แล้วกลับไม่คืนให้      โร่ขึ้นรางวัล-

ตำรวจตรวจสอบแล้ว  อายัด-
เงินจากหวย,จำกัด     สิทธิ์ไว้
ลุงจรูญแน่นอนชัด     คนเก็บ-สลากนา
ห้ามเบิกห้ามจ่ายใช้    ก่อนสิ้นคดีความ

จรูญคนที่ต้อง          สงสัย
ล๊อตเตอรี่เขาหายไป   งวดนั้น
สลากซื้อจากที่ไหน   ซื้อกับ-ใครนา
ต้องสอบสวนคาดคั้น   เพื่อให้ปากคำ

ผู้การไกล่เกลี่ยคู่-     กรณี
สามสิบล้านจรูญฯปรีฯ   ครึ่งครึ่ง
เพราะหากเกิดคดี      คงติด-คุกนา
จรูญไม่ซาบซึ้ง          โร่แจ้งทนายความ

ทนายษิทรา,ซึ่ง เบี้ย- บังเกิด
คนเก่งฝือมือเลิศ      ช่วยได้
จรูญฯท่านวางใจเถิด   ชนะแน่-แท้นา
ถึงสิบปรีชาให้           ก็แพ้ทางเรา

แม่ค้าสลากล้วน       ยืนยัน
ต่างพูดเสียงเดียวกัน  ว่าให้-
สลากชุดสลายฝัน     ขายกับ-ปรีชาฯ
จรูญบอกจำไม่ได้       แม่ค้าคนไหน

คดีความพลิกกลับกลิ้ง-   ไปมา
จรูญกับปรีชา             ต่างสู้
หวยสามสิบล้านหนา    ใครเล่า-ถูกแล
นักข่าวก็อยากรู้           ที่แท้ของใคร

คดีหวยยังไม่สิ้น-        สุดคดี
คดีใหม่กลับมามี-        เพิ่มแล้ว
คดีกลอนเก่าหายซี      คิดหนัก-แท้นา
เห็นท่าจะไม่แคล้ว       กระทู้สิ้นกลอนสูญ

ร้องเรียนโปรดได้ช่วย--กู้กลับ
กลอนเก่าอย่าหายลับ    โปรดได้
วิงวอนท่านจงสดับ      จงโปรด-เถิดนา
ขอเพื่อดำรงไว้           อย่าให้สิ้นสูญ

จรูญฯปรีชาสุดท้าย       อย่าไร-ช่างเทอญ
ขอแค่กลอนในดวงใจ      อย่าสิ้น
ลุกสู้เพื่อเดินไป           มิหยุด-อยู่นา
ชีวิตยังต้องดิ้น            ก็ดิ้นเถิดเรา.


ว่างเว้นแต่งกลอนไปนาน  กลับมาแต่งโคลงใหม่ ฉันทะล้งฉันทลักษณ์ไปหมด....
ถ้าผิดพลาดขออภัย....อย่าลงโทษกันไดไหม..


สริญ  สิริรัฐ

 :059: :059: :059:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2561, 09:24:17 PM

     เจรจาวานเอ่ยเอื้อน......อรรถแถลง
กลอนเก่าวานแจกแจง.......บ่งถ้อย
กลอนหายหดคลางแคลง.....พาตระหนก อกเอย
มั่นจิตเว็บบ้านน้อย............รักษ์ไว้อยู่ดี ฯ
:
.
- Black Sword -
 (หมู มยุรธุชบูรพา)

กลอนไหนหายหรือครับ กระทู้ไหนหายครับผม


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2561, 09:44:21 PM


"กลอนหายหลายกระทู้"    ถูกถาม
ให้ช่วยขยายความ         แห่งถ้อย
Black Sword ad อาราม    แคลงจิต
หาใช่บ้านกลอนน้อย    ปลอดถ้อยหมายถึง

    ริ  สิริรั             


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2561, 10:39:28 PM

ขอบคุณครับ สำหรับความกระจ่าง
เพราะอ่านแล้วพาให้เข้าใจว่า กลอนหายที่เว็บบ้านน้อยนี้
ทั้งเห็นบอกให้ช่วยกู้ให้ด้วย
เมื่อหายที่เว็บอื่นขอแสดงความเสียดายแทนด้วยครับผม

- Black Sword -
 (หมู มยุรธุชบูรพา)


หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2561, 05:53:40 AM

กลอนของกระผมหายเยอะเลย
รู้น้อยเวลาไม่ค่อยมีเก็บไม่เป็น
โชคดีที่มีอยู่บ้านนี้ครึ่งหนึ่งครับ

 :a020: :a020: :a020:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 27, เมษายน, 2561, 01:45:53 AM



เข็นบทกลอนบทหนึ่งถึงคนหน่าย
ฝากรำบายความในฤทัยหนาว
ส่งถึงเธอเฟ้อเฟื่องเป็นเรื่องราว
ต่อความยาวท้าวความหวามวิญญา

ยังคงรักปักจิตและคิดฝัน
ถ้อยรำพันคร่ำครวญใคร่หวนหา
แอบยลพักตร์จุมพิตในนิทรา
จ่อมมายาความหลังสั่งให้จำ

คิดถึงเธอเพ้อหนักรักนิ่มน้อง
แม่เนื้อทองเอวกลมที่คมขำ
เคยเรียบเรียงเพียงกลอนป้อนลำนำ
ทุกเช้าค่ำส่งนุชสุดบรรเทา

หากยังมีที่ฝัน ณ วันว่าง
อย่าลาร้างเรือนฝัน ณ วันเก่า
วันที่สิงอิงแอบนอนแนบเนา
คืนที่เฝ้าชมจันทร์ ฉันและเธอ

อาจวันนี้มีห่างร้างลาจาก
การพลัดพรากเพียงทำย้ำเสนอ
ให้ปวดร้าววิญญาเจียนบ้าเบลอ
ครวญพร่ำเพ้อเพียงคุณกรุ่นดวงมาน

บทกลอนมิมีคำล้ำความหมาย
บอกบรรยายความในไร้แก่นสาร
อาจทำใครหลายคนบ่นรำคาญ
เพียงแค่อ่านแล้วจากยากเหลือบแล.


ริ  สิริรั

 

:a006:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 17, มิถุนายน, 2561, 01:47:31 AM


มากแกว่..แพ้น้อย..

อันหินใหญ่  มีหนึ่ง  ถึงจะน้อย
ดีกว่าร้อย  กรวดทราย  ตั้งหลายแสน
เหมือนเหล็กแท่ง  หนึ่งเดียว  เกี่ยวเป็นแกน
ก็เหนียวแน่น  กว่าไม้ หลายท่อนซุง

แลเพชรแท้  แม้หนึ่ง  พึงสูงค่า
ยิ่งไปกว่า  เกร็ดสี  มณีหุง
อันตะกั่ว  ทองเหลือง เมลืองปรุง
ฤาหมายมุ่ง เทียบผอง ทองนพคุณ


เพิ่งได้ประจักษ์ในคำว่า "ปริมาณไม่ใช่สิ่งสำคัญ"จริงๆ
บางครั้ง มากกว่า อาจจะแพ้น้อยกว่าก็เป็นได้......


ริ  สิริรั


อะไีรบ้าง ที่มากกว่า แต่อาจจะแพ้น้อย  ???

๑. การใบ้หวย  คนที่บอกหลายตัว ยาวเป็นหางว่าว ย่อมจะแพ้คนที่บอกตัวเดียวตรงๆแล้วถูก
๒. การยิงปืน คนที่ใช้กระสุนหลายนัดเข้าเป้า ย่อมแพ้คนที่ใช้กระสุนนัดเดียวก็เข้าเป้า
๓. ความขี้เหร่  คนขี้เหร่มากย่อมจะแพ้คนขี้เหร่น้อย
๔. การตัดสินด้วยวิธีมติเอกฉันท์ ๑ เสียง จะชนะทุกเสียง


 :a016:

(อธิบาย.  การลงมติด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์  หมายความว่า การลงเสียงที่ลงมติไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด จะมี
เสียงใดเสียงหนึ่งค้านไม่ได้
ตัวอย่างเช่น ถ้ามี ๙ เสียง ก็ต้องให้ทั้ง ๙ เสียงนั้นเห็นพ้องต้องกันทั้งหมดจึงจะถือว่าผ่าน  แต่ถ้า มีแม้แต่เสียงเดียว
ที่คัดค้าน ไม่เห็นด้วย  แม้อีก ๘ เสียงจะบอกว่าผ่าน มตินั้นก็จะล้ม เป็นโมฆะทั้งหมด  นี้คือ ๑ เสียงชนะทุกเสียง
หรือเสียงข้างน้อยชนะเสียงข้างมากได้)




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, มิถุนายน, 2561, 04:41:53 AM


กลอนเฉยๆ กลอนธรรมดา

กลอนของฉันมันอาจมีพลาดผิด
ด้วยแรงฤทธิ์มนตร์ขลังหูฟังเสียง
เปรียบเทียบด้วยตรองตรึกไม่นึกเอียง
ตัดสินเพียงด้วยหูรู้ด้วยยิน

จึงอาจจักหลักคลื่อนไม่เหมือนเขา
เพราะหลักเราคือโสตใช่โขดหิน
ย่อมเหหันส่ายไปตามใจจินต์
ยามตัดสินก็อาจมีพลาดแพลง

โอ้ละหนอกลอนเราถูกเขาว่า
ถ้อยลิขิตผิดท่าภาษาแผลง
ใช้ปะปนจนเลอะเปรอะแปลกแปลง
ทุ่มแถลงโวหารมิผ่านเกณฑ์

คงมิใช่กลอนไทยไร้สุภาพ
เป็นกลอนหยาบออกอ่าวลาวเขมร
เพราะแต่งแบบผิดเยี่ยงแน่วเบี่ยงเบน
ก็เป็นเวรของฉันนั้นแหละเออฯ


มีคนเขาบอกว่า กลอนที่ใช้ "เต็ม" รับสัมผัสกับ "เข้ม"  หรือ "เย็น" รับสัมผัสกับ "เน้น"
นั้น เป็นกลอนผิดๆ  เพราะใช้สระคนละเสียงมารับสัมผัสกัน  จึงผิดฉันทลักษณ์
เขาว่ามาอย่างนั้นนะ  ผมอ่านแล้วก็ได้แต่รู้สึกอึดอัดใจ  ใจไม่อยากจะยอมรับ
เนื่องจากว่า ภาษาของเรานั้น  มีสองแบบ คือ 
๑. ภาษาพูด  หมายถึงถ้อยคำที่เราเปล่งออกจากปาก ออกจากลำคอ ออกจากกล่องเสียง
    กลายเป็นคลื่นความถี่ แล้วไปเข้าหูของอีกฝ่ายหนึ่ง  ภาษาพูดตัวนี้ คือเสียงที่แท้จริง
    และมีมาแต่ดั้งเดิม ก่อนที่มนุษย์จะรู้จักประดิษฐ์ตัวอักษร เพื่อใช้แทนคำพูด

๒.ภาษาเขียน  ก็คือ บรรดาตัวอักษร สระ และพยัญชนะ ที่คนเราคิดค้นขึ้นมาใช้เป็นเครื่องหมายแทนคำพูด
   ซึ่งก็ได้แก่ หยดหมึกที่เราเขียนลงในกระดาษหรือสิ่งอื่นๆ แทนคำพูด  มีการหมายให้รู้ว่า สระ พยัญชนะ ตัวนี้ๆ
   ใช้แทนคำพูดที่เป็นคลื่นเสียงนี้ๆ  ภาษาเขียนนี้ เกิดทีหลังภาษาพูด และใช้เป็นเครื่องมือสำหรับแทนภาษาพูด

ทีนี้ปัญหาของภาษาไทยเราก็คือ คำพูดบางคำ เราพูดออกเสียงอย่างหนึ่ง  แต่เขียนอีกแบบหนึ่ง
พูดง่ายๆว่า เขียนไม่ตรงกับที่พูด  หรืออ่านออกเสียงไม่ตรงกับที่เขียน  เช่นคำว่า ใต้  เราเขียนว่าใต้  แต่เรา
พูดออกเสียงว่า ต้าย   หรือไม้  เราเขียนว่า ไม้  แต่เราพูดออกเสียงว่า ม้าย  เจริญ เราเขียนว่าเจริญ(เจ-ริญ)
แต่เราอ่านออกเสียง จะเริญ  อย่างนี้ เป็นต้น

ในเมื่อคำบางคำเราเขียนอย่างหนึ่ง แต่พูดหรืออ่านออกเสียงอีกอย่างหนึ่ง  ไม่ตรงกันอย่างนี้ เราจะยึดถืออะไรเป็น
หลัก  เช่นคำว่า  เห็น-กับคำว่า เล่น  ซึ่งมีผู้รู้ให้ความเห็นว่า ใช้ลงสัมผัสกันในกลอนไม่ได้ เพราะเห็น กับ เล่น นั้น
เป็นคนละเสียงกัน  เนื่องจากมาจาก สระคนละตัว คือเห็น มาจากสระเสียงสั้น สระเอะ ส่วน เล่น มาจากสระเสียงยาว คือ สระเอ  ดังนั้น สองคำนี้ ถ้าใชรับกันในการแต่งกลอนสุภาพ  ถือว่า ผิด กลอนที่แต่ง
ก็เลยกลายเป็นกลอนผิดๆ 
แต่ผมอยากจะคิดว่า คนที่กล่าวเช่นนี้ มองแค่การเขียน คือมองที่หยดน้ำหมึกที่ถูกนำมาขีดเขียนเป็นรูปตัวอักษรเท่านั้น  ไม่ได้ฟังที่คนเขาพูด หรือเขาอ่านออกเสียง
ว่า เย็น เห็น เป็น---- เล่น เช่น เว้น  เร้น  เส้น  นั้นคนไทยเรา ออกเสียงเช่นไร(เสียงที่ถูกเปล่งออกจากปาก)
ดังนั้น จึงบอกว่า รับสัมผัสกันไม่ได้   แต่ถ้าเราถือเอาเสียงตามที่หูได้ยินเป็นหลัก เราจะรู้ว่า คำเหล่านี้ รับสัมผัส
กันได้ เพราะเราออกเสียงสั้นกระชั้นเหมือนกัน
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราฟังจากเสียงเป็นหลัก  กลอนที่ใช้ คำว่า เวร  เอน เลน เกณฑ์  มารับผัสกับคำว่า
เผ่น  เข่น  เล่น เช่น เว้น  เต้น  เราจะรู้สึกทันทีว่า เสียงมันไม่เข้ากัน (โดยอาศัยการฟังด้วยหูเป็นหลัก)

อย่างไรก็ดี  การที่มาเที่ยวชี้ว่าโน่นผิดนี่ผิดนั้น มันเลยเถิดเกินขอบเขตอำนาจของตน จนล่วงล้ำไปถึง
ระดับบูรพาจารย์ด้วย  ด้วยว่า กลอนเก่าๆระดับครู  เช่นกลอนสุนทรภู่  กลอนของกวีรุ่นเก่าๆ ที่อายุเกิน
ร้อยปีขึ้นไป ที่เรานับถือว่าเป็นกลอนของครูนั้น ท่านใช้คำเหล่านี้ด้วย
ก็ในเมื่อบุคคลที่เราถือว่าเป็นครูกลอน ท่านก็ใช้ แล้วมีบุคคลบางจำพวกในยุคนี้(ซึ่งเราเอ็งก็ไม่ทราบว่า
ท่านมีความปราดเปรื่องสามารถมากแค่ไหน) มาชี้ว่า นั่นผิด นี่ผิด  ชี้ไปชี้มา ก็มาโดนครูอาจารย์เราด้วย
เราย่อมรู้สึกอึดอัด

อย่างกลอนบนี้ในบทที่ ๓  ที่ลงท้ายว่า เกณฑ์  ซึ่งเป็นคำเสียงยาวแล้ว  ถ้าจะให้ลงรับสัมผัสว่า  เผ่น หรือ เข่น
ก็ให้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเต็มประดา  เพราะว่า ฟังดูแล้ว คล้ายเป็นคนละเสียงกัน
แต่ถ้าเป็นท่านที่ว่า  คิดว่าคงให้ผ่านละมั้ง  ถ้าเกณฑ์ จะรับผัสด้วย เผ่น  หรือ เต้น
ที่เป็นแบบนี้ ก็คงจะเป็นเพราะผม แต่งกลอน โดย ใช้เสียง ใช้หู  เป็นหลักในการตัดสินนั่นเอง

แต่ในคำบางคำ ที่ใช้สระเสียงสั้น สัมผัสกับสระเสียงยาว  เช่น การ สัมผัสกับ กัน  หรือ ปีน สัมผัส กับ บิน
แบบนี้ ผมไม่เถียง  เพราะว่า เสียงต่างกันจริง

"ผมคิดว่า มันคงถึงเวลาแล้ว ที่จะต้องแบ่งแยกกันให้ชัดเจนระหว่าง  กลอนแปดเฉยๆ  กลอนแปดธรรมดา
หรือกลอนแปดดั้งเดิม  กลอนแปดแบบที่สุนทรภู่แต่ง  กับกลอนแปดที่เป็นกลอนสุภาพ  ที่กลุ่มนักกวี
รุ่นใหม่บางกลุ่ม บัญญัติกฏระเบียบปลีกย่อยจนหยุมหยิม  แล้วก็มาเที่ยวชี้ว่า กลอนคนนั้นผิด กลอนคนนี้ผิด
ทั้งๆที่บางอย่าง โบราณท่านก็ใช้  ก็น่าจะแบ่งชนิดกันซะ  ว่า เออ นี่กลอนแปดธรรมดา  กลอนแปดสุนทรภู่
แต่งแบบนี้ได้   นี่กลอนแปดที่เป็นกลอนสุภาพ  มีกฏระเบียบที่เคร่งครัดมากขึ้นกว่ากลอนทั่วไป
ถ้าแบ่งแยกกันให้ชัดเจนอย่างนี้ มันก็จะไม่เกิดการล่วงละเมิดกันอย่างที่เป็น  ไอ้ละเมิดตัวเรายังไม่เท่าไหร่
แต่ละเมิดไปจนถึงระดับที่นับถือกันว่าเป็นกลอนของ บูรพาจารย์ด้วยนี่สิ...มันน่า...."




ริ  สิริรั



 :045:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, มิถุนายน, 2561, 02:06:12 AM

*กาพย์  ดอกแคร่วง*

*ฉันใช่นักกลอน    ศิษย์ครูสนทร-    ภู่ทั่น
ฝึกหัดประพันธ์    ถ้อยคำจำนรรจ์    แถลง
กาพย์กลอนจัดแจง  อ่านเรียนเขียนแต่ง  ร่ำไป
ฉันแสนสุขใจ       ยิ่งกว่าสิ่งใด       ในโลก
ฉันเหมือนมีโชค   ทิ้งความเศร้าโศก  เบื้องหลัง
ตัวฉันจริงจัง        ขอร้องดังดัง       ซักทีฯ*

ฯลฯ

จะมีรึไม่มีใครอ่าน  ก็ช่างหัวมัน
เป็นเรื่องของฉันท์    ไม่เกี่ยวกับใคร
แต่ขออย่างเดียวเลยท่าน  ได้โปรดสงสาร
ในถ้อยขับขาน  ฉันหน่อยได้ไหม
ได้โปรดจงเห็นใจ  อย่าโห่ขับไล่ กันเลยเอย.


ริ  สิริรั


 :a006:     :a016:

หมายเหตุ  กาพย์ดอกแคร่วง  เป็นกาพย์ที่ คุณ ศิวกานต์  ปทุมสูตรประดิษฐ์ขึ้นใหม่  เพื่อใช้ในหนังสือ เพื่อนแก้วคำกาพย์







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 28, มิถุนายน, 2561, 06:08:50 PM


กาพย์ดอกแคร่วง


นกยูงรำแพน

กาพย์ดอกแคร่วง ๑๐

นกยูงรำแพน
ช่างสวยสุดแสน    งามตา

เปรียบดวงดารา
พราวพริบวิบฟ้า    นับพัน

ช่างเอยวาดฝัน
ธรรรมชาติจัดสรร   เจ้ายูง

ไยเจ้าอยู่สูง
ผิดนกแผกฝูง     ทั่วไป

เจ้างามวิไล
เพลิดเพลินพึงใจ   ผู้ดู


อทลิทท์


(http://www.vcharkarn.com/uploads/216/216466.jpg)


บทนี้แต่งไว้ที่ เว็บไซต์อารมณ์กลอนครับ  โดย ผู้แต่ง นาม อทลิทท์  กับ สริญ  เป็นคนๆเดียวกันครับ
ทั้งชื่อบัญชี  รหัสผ่าน และอีเมล์ เดียวกัน



http://aromklon.com/index.php?topic=7242.msg31750#msg31750




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 28, มิถุนายน, 2561, 06:38:09 PM


สริญชวนกาพย์(อ่านว่า สริญ-ชะ-วะ-นะ-กาพย์)

ฉันทลักษณ์

OOOO   OOOO     OOOO
OOOO   OOOO     OO

OOOO   OOOO     OOOO
OOOO   OOOO     OO


๑ บทมี ๒๒ คำ  ท่อนแรก เป็นกาพย์สุรางคนางค์ ๒๘
ท่อนหลังมี ฉันทลักษณ์ แบบ กาพย์ ดอกแคร่วง

กาพย์นี้เกิดจากความผิดพลาดที่เดิมตั้งใจจะแต่งกาพย์นางกราย
แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด้กิดความผิดพลาด กลายเป็นฉันทลักษณ์อีกแบบหนึ่ง
จึง ขอตั้งชื่อจากนามผู้แต่งว่า "สริญชวนกาพย์" เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้คค้นพบ


กาพย์นี้มีนาม  ปรารภนิยาม   ผู้ชื่อสริญ
ผิดแผกเคยชิน  เปิดม่านดวงจินต์   ประพันธ์

เป็นกาพย์รวมกัน   หนึ่งบทสองชั้น   สองแบบแตกต่าง
นำมาจัดวาง    แนะช่องชี้ทาง   สุนทรีย์

เกื้อเหล่ากวี    ฝากฝังวลี    ฝึกคิดฝึกเขียน
ของเก่าจำเนียร  นำมาวนเวียน    ปรับปรุง

ด้วยใจหมายมุ่ง   จักช่วยผดุง    เสริมส่งวงวรรณ
สู่ทางสร้างสรรค์  วิมานในฝัน     ลานคำ


นี้เป็นตัวอย่าง สริญชวนกาพย์  แบบ ๒๒ คำ ๒๒  พยางค์ ความจริงยังมีบางอย่างเพิ่มเติมอีก
เอาไว้กล่าวภายหลัง


ริ  สิริรั







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 03, กรกฎาคม, 2561, 08:40:18 PM


กาพย์ ยานี ๑๐  สริญชาติย์

หลง..อยู่ในถ้ำ     เนื่องจากน้ำมาท่วมทาง
เกิด...สิ่งกีดขวาง  เข้ากั้นกลางมิให้ไป
ติด...ณ ซอกหลืบ   คลานกระดืบขึ้นอาศัย
มืด...มนหนใด      แม้เแสงไฟก็ไร้แวว

ติด....อยู่ในถ้ำ    เพราะหลากน้ำท่วมถ่องแถว
สุด..จะพายแจว     เสาะหาแนวทางมืดมน
หิว...ขาดอาหาร     ข้าวสักจานก็อับจน
ทั้ง...สิบสามคน     แสนขัดสนรอความตาย

ไม่...รู้วันพรุ่ง       ดวงจะรุ่งและเฉิดฉาย
หรือ...จักวางวาย   ณ ถ้ำเขาลำเนาไพร
แต่...ในวันนี้        นั้นข่าวดีเป็นข่าวใหญ่
หน่วย..ทีมกู้ภัย     ช่วยมาได้รอดทุกคน


เป็นเพราะความบังเอิญ ที่พบว่า บทประพันธ์ปีะเภท กาพย์ยานี ๑๑  ที่มีจำนวนคำ
ท่อนหน้า ๕ คำ ท่่อนหลัง ๖ นั้น  สามารถปรับลดท่อนหน้าลง ๑ คำ ให้เหลือ ๔
กลายเป็น กาพย์ ๑๐ คำ และอ่านลงจังหวะได้  และเพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวผมเอง
ในฐานะผู้แต่ง  จึงขอตั้งชื่อกาพย์ชนิดนี้ว่า กาพย์ยานี ๑๐  สริญชาติย์(อ่านว่า สะรินยะชาติ)
ในฐานะที่ตัวกระผมเอง ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยได้รับการยกย่องเชิดชูจากผู้ใดมาก่อน
ฉะนั้น ก็ขอยกย่องตัวเองไว้ เป็นเกียรติแก่ประวัติศาสตร์ผลงานของตัวกระผม....



ริ  สิริรั


 :13:


จังหวะการอ่าน   ๑---/ ๓    ๓/๓
ต้องหยุดที่คำแรกนิดนึง




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ" (ทางสายเก่า)
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 08, สิงหาคม, 2561, 10:17:43 PM

กลอนบทนี้แต่งไว้ที่ เว็บไซต์อารมณ์กลอนครับ  โดย ผู้แต่ง นาม อทลิทท์  กับ สริญ  เป็นคนๆเดียวกันครับ
ทั้งชื่อบัญชี  รหัสผ่าน และอีเมล์ เดียวกัน
http://aromklon.com/index.php?topic=7239.msg31737#msg31737





ทางสายเก่า

 :059: :059: :059: :059: :059:

๘ ทางที่เธอเดินนั้นฉันเคยผ่าน
ตั้งแต่นานนักหนาคราครั้งก่อน
ครั้งแรกเริ่มเดิมมีพจีวอน
เคยออดอ้อนบาทาอย่าเอ็ดไป

๙ จนหลายคนเคืองแค้นแสนสาหัส
ร่วมรุมอัดฉันพบสลบไสล
เป็นกระท้อนอ่อนบวมอ่วมฤทัย
คือโชคชัยชี้ทางอย่างจำยอม

๑๐ มวลบุปผามาลีที่เกิดใหม่
เกรงก้านใบร่วงพรูสู้ถนอม
รักษา-ริ้นอย่าไต่ไรอย่าตอม
จำอดออมเจียมตนให้คนชม

๑๑ หากชอกช้ำกล้ำกลืนเพราะฝืนฝ่า
ทางข้างหน้ามืดมัวสลัวล่ม
อนาคตเห็นไร้ใครนิยม
จะตรอมตรมตรองตรึกนึกจงดี

๑๒ ทางที่เธอเดินนั้นฉันเคยผ่าน
ตั้งแต่นานเนิ่นแล้วแน่ววิถี
มิได้เห็นเป็นคุณหนุนชีวี
ฟังรุ่นพี่บอกเถิดประเสริฐเอย.


อทลิทท์


(https://pbs.twimg.com/media/DPDJPsVU8AArITr.jpg)





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"(อำนาจ อย่านำไปสู่ความพินาจ)
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 09, สิงหาคม, 2561, 08:54:27 PM

กลอนบทนี้แต่งไว้ที่ เว็บไซต์อารมณ์กลอนครับ  โดย ผู้แต่ง นาม อทลิทท์  กับ สริญ  เป็นคนๆเดียวกันครับ
ทั้งชื่อบัญชี  รหัสผ่าน และอีเมล์ เดียวกัน  ขออนุญาตนำมาลงซเำอีกที


http://aromklon.com/index.php?topic=7265.msg31854#msg31854







"อำนาจ"อย่านำไปสู่ความ"พินาศ"


มี"อำนาจ"บาตรใหญ่ใช้ให้ถูก
จึงจะปลูกสิ่งดีมีคุณค่า
และเจริญงอกงามตามเวลา
ผลออกมางดงามตามใจตน

หากหลงเหลิง"อำนาจ"ขาดสติ
คอยดำริสิ่งทรามขาดงามผล
ใช้"อำนาจ"เมามัวชั่วปะปน
ทั่วแห่งหนสาปแช่งด้วยแรงกรรม

คนที่มี"อำนาจ"วาสนา
หากทำการชั่วช้าย่อมพาต่ำ
จัก"พินาศ"ล่มจมสมดังคำ
ว่าใครทำชั่วได้ชั่วจงกลัวเกรง

มี"อำนาจ"บาตรใหญ่ใช้ทางชอบ
เว้นประกอบบาปกรรมทำข่มเหง
สู้สรรสร้างดีงามตามเบลง
คนยำเยงใน"อำนาจ"ประกาศชัย.


อทลิทท์




 :020:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"(....คนบ้า.....)
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 10, สิงหาคม, 2561, 01:25:47 PM



......คนบ้า.....
(กลอนเจ็ดอ่านแบบ 2/3/2)

อ่านกลอนของตัวเองทีไร
หัวใจมันช่างแสนสุขสันต์
อารมณ์นักกวีประพันธ์
เข้าขั้นศิลปินลือนาม

อยากรู้ว่าแต่งเก่งแค่ไหน
เชิญได้มาพิสูจน์อย่าถาม
ลองอ่านและพินิจเนื้อความ
งดงามสื่อภาษาสุนทรี

ร้อยกรองท่วงทำนองไพเราะ
แสนเพราะจับจิตใจวิถี
เพลิดเพลินทุกเวลานาที
แว่วหวานกล่อมชีวีเศร้าคลาย

คือบทแห่งนิพนธ์เลิศหล้า
ภาษาส่งไพเราะเหมาะหมาย
ซาบซึ่งตรึงอุรารำบาย
คล้ายคล้ายเสียงสวรรค์บรรเลง.


ริ  สิริรั





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 29, สิงหาคม, 2561, 11:48:11 PM

ฉันเป็นกวี
ฉันมีบทกลอน
ฉันร้อยอักษร
ฉันอ้อนสหาย

ฉันเกิดทีหลัง
ฉันยังไม่ตาย
ฉันวาดลวดลาย
ฉันคายคารม

ฉันคิดสรรสร้าง
ฉันวางแบบบท
ฉันคอยกำหนด
ฉันอดทนข่ม

ฉันฟังถ้อยคำ
ฉันช้ำอกตรม
ฉันแสนระทม
ฉันล้มหลายที

ฉันอาจดูชั่ว
ฉันมั่วไปบ้าง
ฉันคงฝันค้าง
ฉันร้างศักดิ์ศรี

ฉันไร้ศักดิ์,สิทธิ์
ฉันผิดทั้งปี
ฉันไม่มีดี
ฉันนี้ป่วยการ

ฉันทำเล่นเล่น
ฉันเห็นสนุก
ฉันไม่มีทุกข์
ฉันรุกเริงสาร

ฉันแสนสดใส
ฉันใจเบิกบาน
ฉันเชี่ยวชำนาญ
ฉันผ่านหลายแนว

ฉันไม่เหมือนใคร
ฉันใช่กวี่
ฉันย่อมมีดี
ฉันนี้แปลกแถว

ฉันแปลกถ้อยคำ
ฉันจ้ำบวกแจว
ฉันใจแน่แน่ว
ฉันแผ้วถางทาง.


ริ  สิริรั


 :t07:   :a006:








หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 07, กันยายน, 2561, 10:30:14 PM


https://www.youtube.com/watch?v=XsMzRSFSl8A

อันการทำความดีย่อมมีค่า
แต่ทำดีเอาหน้าหาดีไม่
จงทำดีเพื่อดีเกิดที่ใจ
แม้นว่าใครมิมองยกย่องเรา

ใจของตนย่อมรู้อยู่แก่จิต
คนอาจคิดเพ่งโทษด้วยโฉดเขลา
กล่าวเยาะเย้ยถากถางอย่างดูเบา
มิควรเอามาใส่ใจของตน

จงทำดีเพื่อดีเถิดมีค่า
เทวดาสาธุส่วนกุศล
จักเป็นสิ่งเชิดชูคู่กมล
ทั้งเบื้องล่างเบื้องบนล้นยินดี


พ่อค้าล๊อตเตอรี่ ที่ออกมาประกาศเก็บล๊อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่หนึ่งถึง ๑๕ ใบ ๙๐ ล้าน
ไว้ให้เจ้าของ วันนี้ถูกสังคมสงสัย ตั้งคำถาม กุเรื่องเรื่องขึ้นมา....งานนี้ต้องรอผลการพิสูจน์
ทองแท้ไม่พรั่นไฟ  ถ้าเป็นเรื่องจริง คนที่ถูกรางวัลสมควรต้องเปิดเผยตัว เพื่อแก้ข้อสงสัย
ถ้ายังเก็บตัวเงียบ  ก็คงจะเห็นแก่ตัวเกินไป.....ใช่มิใช่...

ริ  สิริรั


 :020: :059: :068:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 08, กันยายน, 2561, 08:33:06 AM



ครั้งหนึ่งในชีวิต



เมื่อประมาณยี่สิบปีก่อน  เพื่อนผมคนหนึ่ง มาหาผม  พร้อมกับกระดาษที่เขียนตัวเลขไว้สี่ห้าตัว

บอกผมว่า ฝากซื้อหวยหน่อย พร้อมกับเงินหนึ่งร้อย   ผมกางออกดูแล้วก็บอกว่า โอ๊ยย  มันไม่ถูกหรอก

อย่าไปซื้อเล้ย  เสียเงินเปล่า  เก็บเงินไวใช้ประโยชน์อย่างอื่นดีกว่า ภายหลังจากพูดเหตุผลต่างๆนาๆ

ว่าไม่สมควรจะหมดเปลืองเงินไปเพราะเรื่องพวก ในที่สุดเพื่อนผมก็ยอมเชื่อและกลับไป(คือไม่ได้ซื้อ)

หลายวันต่อมาพอใกล้หวยออก  ผมก็จัดการซื้อหวย(เลขที่ตัวเองชอบ)  แล้วเลยแถมซื้อเลขที่เพื่อน

ผมเอามาฝากซื้อด้วย ตัวละ 20 (ซื้อเผื่อๆไปงั้นแหละ)  

หลังจากวันหวยออก  ปรากฏว่าเลขที่เพื่อนผมเอามาให้ซื้อนั้น ดันถูกเลขท้ายสองตัวด้วย  

ได้เงินมาพันสามร้อยบาท

ผมก็มานั่งคิด เอาไงดีวะเนี่ยะ  ดันไปบอกว่าเลขเขาไม่ออก  ถ้าเพื่อนรู้เข้าคงโดนด่าหาว่าขัดโชคลาภแน่ๆ

หลังจากคิดอยู่ไม่นาน ในที่สุดผมก็ตัดสินใจ  เอาเงินทั้งหมดที่ได้จากการถูกหวยรั้นไปให้เขา

พร้อมกับบอกว่า เลขที่เขามาฝากซื้อนั้น มันถูกสองตัวนะ เพราะผมแทงเผื่อเขาด้วย  เลยเอาเงินมาให้

(ความจริงไม่ได้แทงเผื่ออะไรทั้งนั้น  เงินทั้งหมดที่ถูกก็มีอยู่แค่นั้น  ผมเองก็ไม่ได้อะไรซักบาท)

เพื่อนผมเขากรับไว้แล้วบอกว่า แปลกดี   เรื่องขแงผมก็มีอยุ่เท่านี้แหละ

(เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง  แต่เงินแค่พันสามร้อยบาทเท่านั้น  ไม่ใช่เงิน 90 ล้านบาทแบบในข่าวนี้)


แต่ปัจจุบันนี้ ผมไม่ได้เล่นหวยแล้ว  เลิกมาเกือบยี่สิบปี   

้เพราะฉะนั้น  ถ้ามีใครมาบอกเลขอะไร  ต้องรีบปฏิเสธไว้ก่อนว่าเราไม่ได้

ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวเผื่อเลขถูก  เขาอาจจะมาทวงบุญคุณเอาได้ว่า ได้บอกเลขเราให้ถูกแล้ว  ต้องป้องกันไว้ก่อน

จะได้ไม่มีบุญคุณอะไรต่อกัน

ริ  สิริรั


 :020: :059: :a006:









หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 08, กันยายน, 2561, 12:43:37 PM





https://www.youtube.com/watch?v=c6FXsn73rAA&spfreload=10

 :new10:


อันความจริงมิใช่สิ่งทีีเสแสร้ง
แม้นแจกแจงร้อยหนมิหล่นหาย
เพราะความจริงย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ตาย
บ่คืนคลายกลับกลอกล่อหลอกลวง

แต่ความเท็จก็เหมือนเพชรปลอมแตกร้าว
บ่แกร่งกร้าวทนทานนานสักช่วง
เพราะข้างนอกสดใสข้างในกลวง
คนทั้งปวงรู้แกวแล้วก็พัง





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 24, กันยายน, 2561, 08:25:04 PM




ว่าไปนะ
(กาพย์ยานี ๑๐ สริญชาติย์)


นั่ง...เขียนบทกลอน     มอบให้หล่อนคนสำคัญ
ที่....จิตผูกพัน           เฝ้าใฝ่ฝันเนิ่นนานมา
รัก...ปานดวงใจ         ชาติภพไหนจะเสาะหา
เธอ....คือแก้วตา        ปรารถนาครองคู่เคียง

เมื่อ....แรกได้พบ       สายตาสบโสตยินเสียง
้เฝ้า....เพ้อฝันเพียง      ใจเผดียงเผยล้านคำ
จิต.....เกิดผูกพัน         เก็บไปฝันนานฉนำ
ซึ้ง.....ตรึงจดจำ          เฝ้าตอกย้ำบ่เว้นวาย

อยาก.....เผยคำนี้        เอื้อนวจีสื่อความหมาย
จาก.....ห้วงใจชาย       มอบเพียงกายและใจจอง
ขอ......ส่งความรัก       แจ้งประจักษ์เป็นเจ้าของ
สู่.......ใจทุกห้อง        ปองนรินทร์ถวิลนาง.


สืบสานหน่อย  เกรงจะสูญหาย
จังหวะอ่าน   1/3  3/3


ริ  สิริรั


 :a016: :a016: :a016:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 04, ตุลาคม, 2561, 10:50:40 PM



อ่านแล้วต้องคิด


เพลินเที่ยวชมขุนเขาลำเนาไม้
ผลิดอกใบสวยงามเมื่อยามสาย
หมู่ภมรโผผินบินเรียงราย
เกาะที่ปลายดอกช่อละออวาม

ประกายแดดแผดผ่องส่องสายน้ำ
ปลาผุดดำว่ายวนอยู่ล้นหลาม
ฟ่อฟองคลื่นลื่นริ้วเป็นทิวงาม
ฝูงวัวตามทุ่งหญ้าก้มหน้าเล็ม

ผ่านเนินดินหินแดงช่างแข็งเข้ม
ยิ่งปรีด์เปรมดอกอ้อล้อดอกเข็ม
สูดโอโซนหายใจให้อิ่มเต็ม
ขาดไอเค็มกลิ่นเชื้อเกลือทะเล

พลางนึกถึงดวงหน้าสาวตากลม
ยืนตากลมเหมันต์ยิ้มฟันเก๋
ทั้งน้องนุชน้องมดน้องรถเมล์
เธอยิ้มเท่กว่าใครทั้งไทยแลนด์

ชวนมาอยู่บ้านนอกกินจอกแหน
ติดอยู่ที่พ่อแม่แกหวงแหน
ห่วงลูกสาวราวไข่ในรังแตน
คิดเป็นแฟนลำบากทั้งยากเย็น

จำต้องฝืนใจผละและละเว้น
ตามกฏเกณฑ์ต่างต่างอย่างที่เห็น
มาอยู่ดงป่าเขาเนาลำเค็ญ
เพราะจำเป็นดอกหนอ ออเจ้านาง


ริ  สิริรั

 :a006: :a006: :059:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 16, ตุลาคม, 2561, 12:40:37 PM


สังขารมิเที่ยงแท้  อยู่ทน
คนย่อมแก่ชรากาย   เหี่ยวแห้ง
กรำวัยผ่านแดดฝน    หลายศก
ประสบฤดูแล้ง        เหือดเนื้อหดหนัง

สังขารสาวหนุ่มพริ้ง-   เพราวัย
ใจกระชุ่มกระชวย      ดุจไม้
ยามแรกผลิกิ่งใบ       และดอก
เสริมแต่งเติมโลกให้    ผลิแย้มสวยงาม.

      

ริ  สิริรั


 :059: :059: :059:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, ตุลาคม, 2561, 12:00:28 AM


ฉันทลักษณ์หลักไทยที่ใช้แต่ง
อาจเปลี่ยนแปลงไปบ้างโดยสร้างสรรค์
ด้วยมุ่งหมายหลายพจน์บทประพันธ์
ให้ต่างกันแตกกิ่งเกิดสิ่งดี

เอาของเก่ามาแจมแต้มเป็นใหม่
แต่ยังใช้ของเก่าเนาวิถี
ใหม่กับเก่าคู่กันจวบพันปี
มิได้มีสิ่งใดให้ขัดเคือง

ใช่เสกสรรมากลบเพื่อลบล้าง
ทั้งสองอย่างคงคู่ผู้ปราดเปรื่อง
หมายผดุงศิลป์ไทยให้รุ่งเรือง
อนันต์เนืองอนัคค่าอย่ารู้คลาย.



โคลงกลอนหลายแบบชี้   เคยชม
ของเก่าอันนานนม          แบบแจ้ง
ของใหม่ผลิตผสม          ตามแบบ-ท่านเอย
หาใช่จะขัดแย้ง             แบบเบื้องโบราณ

ของเก่าเราก็ใช้            ตามชิน
ของใหม่แปลกยลยิน      หัดบ้าง
หาใช่จะติฉิน               ของเก่า-เขานา
ของใหม่มิอวดอ้าง         อาจเอื้อมทะยานผยอง





 :AddEmoticons00918:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 11, พฤศจิกายน, 2561, 12:27:40 AM




คืออดีตที่ลาร้าง  แรมไกล
คนที่ทำเพื่อไทย   มิน้อย
ป่านฉะนี้อยู่ไฉน   มิบอก ข่าวนา
ดาวเคลื่อนวันเดือนคล้อย   กู่เฝ้าฝันถึง

คะนึงความหลังก่อน   เปลี่ยนแปลง
เศรษฐกิจทะมัดทะแมง   บ่งชี้
ไทยหมายทะยานทแยง   เทียมชาติ  อื่นเอย
เขียวข่มทุนไทยซี้       แม่นแม้นเมินสรวง

ดวงไทยปีใหม่ฟ้า        อำไพ  เถิดนอ
รัฐบอบประชาธิปไตย์    เบิกบ้าน
ดวงเมืองสว่างไสว        สวรรค์ส่ง  เสริมนา
เสริมเพื่อไทยนับล้าน    กลับฟื้นคืนคง.


มันคิดอะไรไม่ออก  อารมณ์กลอน  อารมณ์โคลง ไม่รู้มันหายไปไหนหมด ต้องฝืนใจแต่ง....


ริ  สิริรั


 :a016:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 11, พฤศจิกายน, 2561, 10:31:15 PM




ย่ำเย็นเห็นฟากฟ้า      สูรย์ฉาย
เย็นย่ำอ่อนประกาย    แดดแห้ง
ค่ำลงนกกาหหมาย     บินกลับ รังนอ
ลงค่ำราตรีแว้ง          ครอบฟ้ายาวยืน

ค่ำคืนดื่นดึกได้         ชมจันทร์
คืนค่ำรอคอยวัน         ปะหน้า
อกหนาวจวบจาบัลย์    ผันผ่าน
หนาวอกเป็นเองอ้า     แอบอ้างลมหนาว

ยิ่งร้าวใจยิ่งรั้น          ลืมฤา-รักเอย
ร้าวยิ่งไยกระพือ        พิษบ้า
คิดลืมอกทำหือ         ในสั่ง
ลืมคิดลิขิตฟ้า           อ่าโอ้ออมฝัน

หวั่นใจคนห่างโพ้น      พานพบ-ใครแล
ใจหวั่นหากประสบ      คู่ข้าง
รักไฉนจะติดลบ         เพราะห่าง นุชเอย
ไฉนรักจะเลือนล้าง     หลบลี้เลยลา

รุ่งเช้าพาแดดย้ำ     สุริโยสมัย
เช้ารุ่งอุ่นอโณทัย       กลับย้อน
ดุจวันผ่านเลยวัย        วนกลับ-อีกนา
วันดุจราตรีอ้อน          โอบฟ้าคว้าคลาย.


โคลงเหงาลึก....

ริ  สิริรั


 :a016:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 06, ธันวาคม, 2561, 08:01:27 PM


ครวญโคลงถึงหนึ่งซึ้ง  ทรามวัย
โคลงฝากสื่อความใน   สู่น้อง
สื่อรักออกจากใจ        คนแต่ง
รักฝากโคลงร่ำร้อง      เพื่อให้นุชเห็น

คงเป็นกรรมพี่แล้ว      นุชเอย
นุชอยู่สุขเสบย          ที่บ้าน
บ้านนุชหมื่นชายเชย-   ชมแวะ เวียนนา
เว้นพี่ทรงสะท้าน        สุดเข้าไปถึง

รำพึงครวญพร่ำเพ้อ    รำพัน
รักจากไปนานวัน        ห่างน้อง
ใจนุชอย่าเหหัน         เป็นอื่น
นุชเปลี่ยนใจพี่ต้อง     แตกแล้วแหลกสลาย

รำบายความจากห้วง    ดวงมาน                     รักมากเกิดอาการ       ห่วงเจ้า
ห่วงหวงเปรียบวิญญาณ  ตามติด-นุชแล        ทุกค่ำคืนพี่เฝ้า          บ่นเพ้อฝากฝัน.



ริ  สิริรั


 :new10:   :020:    :059:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 09, ธันวาคม, 2561, 01:35:52 PM




ครวญโคลงคิดฝากฟ้า  ปลอบขวัญ
ใครหนึ่งเคยรำพัน       เพียบเฝ้า
ส่งรักสื่อผูกพัน          โน้มจิต
ใจยิ่งคิดแนบเคล้า      นิ่มเนื้อนวลสงวน

รำจวญจมจิตจ้าน       ชิดเชย
คำหนึ่งคำนึงเปรย      ปอกป้อน
หย่ารักอย่าลาเลย      เลือนหลับ-เสียนา
คำที่คิดออดอ้อน        โอ่โอ้โฉมศรี

ฤดีมีคั่งค้าง             ครวญคิด
ใครหนึ่งคอยสะกิด     ดั่งแกล้ง
รักเอ๋ยอย่าลงฤทธิ์     จนเจ็บ-ลึกนอ
ยามว่าฟ้าคราแล้ง      ปลูกต้นรักไฉน

ดวงใจลาญแหลกแล้ว   สุดทน
คำหนึ่งเคยเวียนวน       บอกเจ้า
บัดนี้กลับอับจน          การเอ่ย
ใจพอกพิษรุมเร้า        เจ็บขั้วหทัยมหันต์.

ดวงจันทร์ยังแจ่มฟ้า      อย่างเคย
ดาวเด่นดวงยังเชย-      ชื่นข้าง
เมฆหมอกอิงเขนย       ลมพัด-โบกนา
เว้นแต่กระต่ายร้าง        หลบเจ้าแขไข.


ริ  สิริรั

 :059:   :020:   :a006:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 10, ธันวาคม, 2561, 09:33:02 PM




นวลไกลมิอาจคว้า   สุดฝัน
ปานหนึ่งปองชมจันทร์    เนื่องเจ้า
กระต่ายบ่หมายหัน     ตีจาก
คำบอกตำนานเคล้า   โศกสร้างปางหลัง

ภวังค์พันพร่ำเพ้อ     รำพึง
อวลอกเอินคำนึง     โอบเอื้อน
สู่ฝันสุขฝันถึง        ยังห่าง
ร้อยปาดนัยตาเปื้อน  เปียกด้วยน้ำตา.

กานดานิวาสน์แล้ว    หนใด
เพียรส่งกำลังใจ       จ่อน้อง
หวังรักจักสดใส        ในอีก ภพนอ
คือกระต่ายหมายเพียงจ้อง  จูบเจ้าจอมขวัญ.

ริ  สิริรั

  :a006:   :new10:   :059:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 12, ธันวาคม, 2561, 09:34:05 PM


เพราะอยากเป็นคนที่มีเสน่ห์
แม้นด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลแห่งมนต์ขลัง
หมายเป็นที่รักใคร่ไม่ชิงชัง
คือความหวังของผู้รู้รูปทราม

ด้วยหน้าตาไม่เลิศแต่เกิดแล้ว
จึงไร้แววหวานรักมาทักถาม
ครองตัวโสดเรื่อยไปมิได้ความ
ลุเลขสามหลักสี่มิมีใคร

หวั่นวิตกอกผวาหาคนรัก
ยากเย็นนักหนักหนากว่าหาไหน
มิประสบพบคู่คนรู้ใจ
ทำฉันใดหนอเราจึงเข้าวิน

เพียรหาของลองเล่ห์เสน่ห์ไสย
อาจสมหวังดังใจใฝ่ถวิล
น้ำมันพรายสีผึ้งซึ่งเคยยิน
ระรวยกลิ่นอีกขุนแผนแสนเมตตา

จำตัดใจจ่ายทรัพย์จับจ่ายซื้อ
ผลนั้นคือความหวังที่กังขา
จะมีไหมใครหมายร่วมชายคา
สวดคาถาเสกเป่าเอาด้วยมนต์



ริ  สิริรั

 :059: :059: :059:

(https://2.bp.blogspot.com/-dVWzRjKqWgY/V_O7GCtY8UI/AAAAAAAAAIM/p-zdSnNl7LE2Tzk3uhhAs_z8jWnjVGmOACLcB/s1600/IMG_4696.JPG)
(http://www.utdid.com/admin/uploaded/pictures/32D_%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%9C%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%8A%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A0%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87.jpg)





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 23, ธันวาคม, 2561, 03:52:22 AM


วิญญาณกลอนถอนรากไปจากร่าง
จึงเคว้งคว้างกวัดแกว่งไร้แหล่งเกี่ยว
ขาดผลงานกานท์หรูอยู่นานเทียว
เคยขับเคี่ยวเชี่ยวช่องหมดว่องไว

จำเป็นต้องลองฝืนกว่าหมื่นครั้ง
เค้นพลังแห้งเหือดให้เดือดได้
เหมือนเรี่ยวแรงยังมีริบหรี่ไฟ
จึงตัดใจเจียดกลอนร่อนวาจา

นี่ก็ใกล้สิ้นปีอีกปีแล้ว
โชคแจ่มแจ๋วจรลีส่งปีหมา
เตรียมรับขวัญปีหมูกู้ชาตา
คือปีหน้าฟ้าใหม่ใสกว่าเดิม

เร่งสวดมนต์ข้ามปีดียิ่งนัก
ให้สิ่งศักดิ์สิทธ์สุมรุมส่งเสริม
หวังโชคดีปีกุนหนุนต่อเติม
อำนวยเพิ่มสุขสวัสดิ์จำรัสแรง.


ริ  สิริรั






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 27, ธันวาคม, 2561, 09:18:28 PM


นั่งอ่านกลอนที่ตนคิดค้นแต่ง
หลายหลากแหล่งแห่งวาทผงาดศิลป์
ด้วยดวงจิตจมปริ่มอิ่มเอมวิญญ์
ตามเคยชินเก่าก่อนยามย้อนยล

ช่างภูมิอกภูมิใจกระไรนัก
กลอนที่รักหลอมฤทธิ์ผลิตผล
ผ่านช่วงกาลยานยาวร้อนหนาวปน
กลับเอ่อล้นสุดแสนมิแม้นใด

เรื่องอารมณ์คนเขียนแวะเวียนอ่าน
มัวเมาสารศิลป์เสิร์ฟเติบไฉน
คำติชมถมทับระงับไกล
ยากเปิดใจจ่อจดรสวิจารณ์

จึงเมามัวพรั่งพร้อมแวดล้อมอาตม์
ด้วยรสชาติจืดเจือมิเผื่อหวาน
เหมือนขาดมนต์ดลศิลป์ปะวิญญาณ
ผู้เสพกานท์เพียงมองจำต้องเมิน


ริ  สิริรั

 :059: :059: :059:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 28, ธันวาคม, 2561, 08:17:27 PM


อะไรคือมิตรแท้แห่งกลอน
ฉันทลักษณ์หลักอักษรเสกสร้าง
หรือน้ำคำฉ่ำเว้าวอนยามแต่ง
คำใดควรอวดอ้างว่าเอื้อเฟื้อสหาย

ระบายความพร่ำน้ำคำคิด
เสริมโน่นใส่นี่นิดหนึ่งนั้น
เลิศเลอหลักประดิษฐ์คำแต่ง
หลายหลากนักชนชั้นเด่นด้าวแดนกลอน

อักษรพิลึกล้ำสื่อไว
สอนอักขระศิลป์ประลัยสุทธิ์ถ้อย
จักแหนงหน่ายเมินไฉนยามสบสิงเอย
จารถี่จารึกร้อยร่อนล้วนเรียมสงวน

 :new10:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 15, มกราคม, 2562, 07:39:56 PM




ควรบทกลอนหลอนจิตพิศวาส
ใครอาฆาตต่อเนื่องแต่เบื้องหลัง
โปรดวางเว้นเร้นนิดฤทธิ์รักชัง
หมายปลูกฝังสุนทรีย์รุจีความ

เพื่อสืบส่อต่อวงศ์คงในหลัก
ฉันทลักษณ์เลอค่าภาษาสยาม
อนุสนธิ์คนรุ่นดรุณนาม
ฝากงดงามเสริมศิลป์ถ้อยจินดา

ให้บรรเจิดเลิศไปใต้ต่ำแคว้น
นับหมื่นแสนล้านผู้สู้ศึกษา
ศาสตร์และศิลป์จินต์กวีศรีพาราฯ
ชาวประชาชื่นชมนิยมยิน

ทิ้งรักชังทั้งหลายสลายหม่น
เพื่อผลิผลบทกลอนอักษรศิลป์
สืบลำนำคำแก่นฝากแดนดิน
สถิตถิ่นแหลมทองทุกผองไทย.

ริ  สิริรั


 :059:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 17, มกราคม, 2562, 04:54:15 PM



ฤาษี

ฤาษีอยู่ที่อาศรม           นั่งกินขนมสนุกสนาน
ค่ำเช้ามีแต่เข้าฌาน       หัวร่อเบิกบานสราญฤทัย
ถือศีลมาหลายพรรษา     กิเลสตัณหามิดอดอาศัย
บรรจบพบธรรมที่ใจ       สงบภายในปีตินานเนา.


บทกลอนที่แต่งเล่นอักษรสัมผัส....

ริ  สิริรั

 :059:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 02, กุมภาพันธ์, 2562, 07:22:46 PM


วันนั้น ถึง วันนี้

เพียงหนึ่งคำจำได้ติดใจมั่น
ก็คือฉันรักเธอเสมอก่อน
แม้นวันเดือนเคลื่อนคล้อยลอยลมจร
ความอาวรณ์นั้นยังฝังจดจำ

มิเคยลืมปลื้มใดแน่ใจนัก
ก็คือรักหนึ่งมอบตอบงามขำ
บ่ลางเลือนเคลื่อนคล้อยหลุดลอยลำ
ยังอยู่ย้ำแย้มเยือนมิเลือนลา

ก่อนเคยฝันอันใดในบัดนี้
ก็ยังมีเหมือนเก่าเฝ้าฝันหา
เหมือนน้ำคำพร่ำเผยเอื้อนเอ่ยมา
วอนแก้วตายอดหญิงอย่ากริ่งใจ


ริ  สิริรั

 :a003:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 05, กุมภาพันธ์, 2562, 01:16:01 AM


วันที่ฉันแต่งกลอนอยู่นอนดึก
เพราะส่วนลึกอารมณ์สุดข่มไหว
ตกห้วงเหวคำนึงคิดถึงใคร
ด้วยเปลวไฟปรารถนาพาร้อนรน

ตัวฉันจึงตื่นอยู่ไม่รู้หลับ
เฝ้านั่งนับนั่งคิดจิตสับสน
ใจล่องลอยคล้อยเคลื่อนเลื่อนลอยวน
ไปถึงใครหนึ่งคนอยู่หนใด

ฉันอยากบอกตอกย้ำคำว่ารัก
เผื่อเธอจักรับรู้เหมือนอยู่ใกล้
เน้นส่งความคิดถึงซึ้งทรวงใน
จากหทัยชายนี้มีเพื่อเธอ.


อดนอนเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว แทนที่จะง่วงและอยากนอน แต่กลับตื่นอยู่ เพราะดื่มเครื่องดื่มชูกำลังไปห้าขวด...(ค่อยๆทะยอยดื่ม ไม่ใช่ดื่มพร้อมกัน) :a006:

ริ  สิริรั


 :new10:









หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2562, 08:38:54 PM



สริญรำพัน

โอ้อกเอ๋ย อกต้องช้ำ ระกำยิ่ง
โอ้รักเอ๋ย  รักมาทิ้ง ฤทัยถอน
โอ้ใจเอ๋ย  ใจเหน็บหนาว ทนร้าวรอน
โอ้นางเอ๋ย นางมาจร  จากฤทัย

โอ้เราเอ๋ย  เราไฉน  ไม่ลืมรัก
โอ้ช้ำเอ๋ย ช้ำยิ่งนัก จนหมองไหม้
โอ้กาลเอ๋ย กาลก็เวียน  หมุนเปลี่ยนไป
โอ้คนเอ๋ย  คนกระไร  ใจแสนดำ

ริ  สิริรั

 :059:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 16, กุมภาพันธ์, 2562, 12:57:05 AM

นึกว่าอะไร....[กาพย์ยานี ๑๐ สริญชาติย์]  :new10:


ส่อ...ว่าจะยุบ      เหมือนถูกทุบหทัยยับ
โทษ...คณานับ    สูงกว่าปรับเกินติดคุก
เจ็บ...จนร้องเจี๊ยก   อ่อนปวกเปียกนั่งเจ่าจุก
ล้ม....มิอาจลุก     เฝ้าทนทุกข์หทัยคิด
โปรด...เมตตาเถิด   ล่วงละเมิดมีสะกิด
พุ....จึงทำพิษ      เพียงน้อยนิดแต่ร้าวลึก
นั่ง....นอนไม่หลับ   วนขยับอยู่จนดึก
ใจ...ไห้ระทึก        ความคิดนึกหมดมานะ
ก้าว...โซเซซัด      บาททาหัตถ์ป่ายเปะปะ
ท้าย....สุดระยะ     ชัยชนะละลายเละ
ก็...ทนต่อไป        หากทนไหวไม่อะเอะ
แม้น...จะฟอนเฟะ   ไม่โป๊ะเชะเท่าไรนัก
เจ็บ....จงยอมอด     แม้นถูกกดอย่างหาญหัก
ฝี....แตกทะลัก       จะผ่อนหนักและยอบยุบ.


แค่เรื่องของฝี..... :059:
สู้อุตส่าห์เขียนบทนี้ เพราะต้องการจะสืบทอดอำนาจ...เอ๊ยยย สืบทอด กาพย์ยานี ๑๐ สริญชาติย์
ให้เป็นที่รู้จักมักจี่กันต่อไป...(ตราบชั่วนิดนิรันดร์) :040

 ริ  สิริรั




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, กุมภาพันธ์, 2562, 12:32:17 PM


นิ้ว

เขาเกิดมาโดดเด่นเป็นนิ้วชี้
อำนาจมีไพศาลสั่งการได้
ชี้หันซ้ายหันขวาว่ากันไป
สุดแต่ใจอยากสั่งดังต้องการ

ชี้ให้โทษให้คุณหนุนอำนาจ
ชี้เกรี้ยวกราดโกรธะสั่งประหาร
ชี้ถูกผิดบิดเบือนราวเถื่อนพาล
ชี้ประจานโทษขุ่นให้รุนแรง

เพราะสังคมซมซานต้องการชี้
อำนาจมีเพียงไหนให้จัดแบ่ง
ต่างทำตามหน้าที่รี่จัดแจง
งดแซกแทรงจ้ำจี้ชี้บงการ


ริ  สิริรั


 :045:







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 19, กุมภาพันธ์, 2562, 11:46:47 PM


10 %

เพียงแค่สิบเปอร์เซ็นต์ไม่เห็นมาก
ยอมลำบากอีกนิดคิดทวนใหม่
เสียสละดูบ้างเป็นอย่างไร
มองกาลไกลอนาคตสดโสภี

ที่ผ่านมาล้วนชิมจนอิ่มหนำ
ทุกเช้าค่ำเคยลิ้มจนอิ่มหมี
ลอนไขมันพอกพูนคูณทวี
แต่ครั้งนี้ขอลดลองอดดู

เสียสละดูหน่อยเพียงน้อยนิด
เพื่อชีวิตวันนี้ที่เป็นอยู่
ลดหน้าท้องลองเถิดน่าเชิดชู
โลกรับรู้สมชายไม่อายใคร.


ควรอด....เพื่อลดหน้าท้อง....(ลดงบอาหาร 10 %)   :020:

ริ  สิริรั


 :041:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2562, 12:18:12 PM

เด็ดยอด~ทอดปลาย


ศัพท์บัญญัติ

ผมมีความประสงค์จะสร้างศัพท์บัญญัติทางเทคนิคเรียกการแต่งกลอนแปดชนิดหนึ่ง   นั่นคือ การส่งสัมผัสระหว่างวรรค
จากคำท้ายวรรคที่ ๑  ไปยังวรรคที่ ๒   และคำท้ายวรรคที่ ๓  ไปยังวรรคที่ ๔
ซึ่งตามปกติแล้ว การส่งสัมผัส จากท้ายวรรค ๑ ส่วนมาก มักจะนิยมไปลงคำที่ ๓ ของวรรค ๒
และคำสุดท้าย ของวรรค ๓  ไปลงคำที่ ๓ ของวรรค ๔


ตัวอย่าง

แม้นรู้หนึ่งพึงสู้เรียนรู้สอง
ให้ช่ำชอง................สม
เรียนรู้ที่สี่ห้าน่านิยม
หกเจ็ดบ่ม..........ไต่เต้าไป


ซึ่งการลงสัมผัสแบบนี้ ถือเป็นเรื่องปกติที่นักกลอนส่วนใหญ่นิยม...เราจะไม่พูดถึง(ผ่าน)


แบบที่สอง  ไม่ส่งสัมผัสจากคำท้ายวรรคที่ ๑  ไปลงคำที่ ๓ ของวรรค ๒  แต่ส่งไปลงคำที่ ๕
และไม่ส่งสัมผัสจากคำท้ายวรรคที่ ๓ ไปลง คำที่ ๓ วรรค ๔  แต่ ส่งไปลงคำที่ ๕


ตัวอย่าง

อันการเมืองเรื่องมันกระนั้นหนอ
เพียงแรกเริ่มก็ส่อ...........หมาง
ล้วนใส่ร้ายป้ายสีไม่มีกลาง
ใครหนอจะกวาดล้าง.......โสมม.

กรณีส่งสัมผัสไปลงคำที่ ๕  แบบนี้ ที่ประสงค์(สริญ)จะพูดถึง

๑. กรณีส่งสัมผัสไปลงคำที่ ๕ แล้ว  ไม่ส่งสัมผัสต่อไปยังคำที่ ๖ หรือ ๗

ตัวอย่าง


อันการเมืองเรื่องมันกระนั้นหนอ
เพียงแรกเริ่มก็ส่อ..ความบาดหมาง
ล้วนใส่ร้ายป้ายสีไม่มีกลาง
ใครหนอจะกวาดล้าง...สิ่งโสมม.


การไม่ส่งสัมผัสจากคำที่ ๕ ไปยังคำที่ ๖ หรือ ๗ อีก  ควรเรียกว่า"เด็ดยอด"
คล้ายๆการเด็ดอะไรสักอย่างไม่ห้งอกต่อไป  ซึ่งก็คือ การหยุดคำสัมผัสไว้เพียงคำที่ ๕



๒.กรณีส่งสัมผัสไปลงยังคำที่ ๕ แล้ว  ยังส่งรับสัมผัสไปยังคำต่อไปอีก อาจเป็นคำที่ ๖ หรือ ๗ ก็แล้วแต่

ตัวอย่าง

อันการเมืองเรื่องมันกระนั้นหนอ
เพียงแรกเริ่มก็ส่อ..ข้อบาดหมาง
ล้วนใส่ร้ายป้ายสีไม่มีกลาง
ใครหนอจะกวาดล้าง..ด่างโสมม.


ลักษณะแบบนี้ ควรใช้ศัพท์ทางเทคนิคว่า"ทอดปลาย"  คือคล้ายกับพืช เถาวัลย์ ที่ยังทอดปลายงอกต่อไป


อันนี้เป็นศัพท์ ทางเทคนิคที่ตั้งขึ้นมา เผื่อไว้ใช้ ในการพูด การอธิบาย เรื่องการแต่งกลอน
ถ้าหากว่า มีการพูดถึง"เด็ดยอด"   หรือ "ทอดปลาย"   ก็ให้รู้ว่า หมายถึงสิ่งที่ได้อธิบายไปแล้ว
เพื่อจะได้ไม่ต้องพูดหรือเขียนกันยืดยาว  เพียงใช้คำว่า "เด็ดยอด"  หรือ"ทอดปลาย" ก็ให้รู้ว่า
หมายถึง สิ่งใด



ริ  สิริรั


 :059: :020: :068:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 22, กุมภาพันธ์, 2562, 01:18:52 PM


ลักษณะของกลอนลงสัมผัสแบบ"เด็ดยอด"


ลงเลือกตั้งทุกทีมีแต่ยุ่ง
คนล้วนแต่หมายมุ่ง...แย่งอำนาจ
มันรักษาไม่หายคล้ายโรคระบาด
สงสารก็แต่ชาติ....จะล่มจม

ล้วนใส่สีตีไข่และให้ร้าย
มุ่งผลาญฆ่าทำลาย....ให้สาสม
คำสัญญิงสัญญาพาโง่งม
ทุกข์กระหน่ำซ้ำถม....ประชาชี

เบื่อแล้วหนอการเมืองเรื่องเลือกตั้ง
ขอหน่อยเถอะรถถัง....บดขยี้
แล้วปกครองต่อไปให้นานปี
เพื่อประเทศชาตินี้...ล่มแหลกลาญ..


ขำๆนะครับ อย่าเครียด...แค่การประชด...

ริ  สิริรั



ตัวอย่าง กลอนลงสัมผัสแบบ"ทอดปลาย"


การเมืองไทยวันนี้มีเค้าวุ่น
เรื่องราวมันขุ่นขุ่นหนุนบาดหมาง
เริ่มเดินหน้าหาเสียงเพียงพลางพลาง
มันก็ส่อเค้าลางถึงบางภัย

"หนักแผ่นดิน"ลิ้นคนพ่นไอร้าว
สื่อมวลชนตีข่าวฉาวยกใหญ่
นักการเมืองกระพือสื่อใส่ไฟ
เพราะทหารปากไวใส่อารมณ์

เรื่องตัดงบกะลาโหมโถมใส่หัว
เกิดอาการร้อนตัวชั่วถุยถ่ม
เหยียดประนามหยามคนให้ร่นจม
สร้างกระแสนิยมบ่มร้าวราน

ประเทศถูกครอบงำไม่หนำอิ่ม
เจียนขาดใจปิ่มปิ่มยังทิ่มประหาร
มิเว้นว่างสร่างซาชั่วสามาน
นาวารัฐร้าวฉานจักพานจม.


ริ  สิริรั


ตัวอย่าง ลักษณะกลอน แต่งลงสัมผัส คำที่ ๓ (ที่นิยมแต่งกันเป็นส่วนมาก)

เชิญเถิดเราชาวไทยไปเลือกตั้ง
จุดความหวังริบหรี่ให้มีแสง
ส่องประกายพรายพร่างกระจ่างแจง
เสริมส่งแรงประชาธิปไตย์ให้เบิกบาน

เศรษฐกิจชาติ กระดิก ไทยพลิกฟื้น
กลับชุมชื่นคืนองค์ราวสรงสนาน
ดับกระหายคลายร้อนผ่อนดวงมาน
คืนวิญญาณเสรีประชาธิปไตย์

กำจัดรัฐเผด็จการหทารชั่ว
ต้องเกรงกลัวประชาชนคนส่วนใหญ่
อย่าโอหังลามปามอย่างย่ามใจ
เพราะคนไทยอดทนมา
ห้าปีแล้ว..


ริ  สิริรั


 :a014:  ว่าจะไม่เครียดแล้วเชียว.....







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 24, กุมภาพันธ์, 2562, 10:08:41 AM


ข้าว...จะอยู่กับชาว....
และข้าวก็อยู่ในครัว...
ซื้อเป็ดล้านตัว...มาทำครัวเพื่อกินกับข้าว

ไข่...ต้องอยู่ในเล้า
และเข่าก็อยู่ที่ขา...
วันนี้เตะหมา...เพราะดันมาจะกัดหัวเข่า

นก...ก็อยู่บนฟ้า...
และปลาก็อยู่ในน้ำ.....
เห็นสาวหุ่นงาม....อยู่ในน้ำเลยเสียงกระเส่า

ข้าว...ก็อยู่ในนา.....
และปลาก็อยู่ในหนอง.....
หุงข้าวริมคลอง...เปิดปลากระป๋องมากินกับข้าว....




ริ  สิริรั


 :new10:   :059:    :020:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 26, กุมภาพันธ์, 2562, 12:14:04 AM


นึกอะไรได้ก็เขียนไปตามนั้น


เลือกตั้งอย่าลืมตัว   หูตามัวประชาธิ์ป์ไตย์
แมงเม่าเขลาเริงไฟ   ร่าบินร่อนห่อนเฉลียว
เห็นช่องได้โอกาส    ไยสามารถจะปีนเกลียว
เขาผ่อนผันนิดเดียว   กลับลดเลี้ยวจนลืมตาย

บันทึกประวัติไว้        จดอยู่ในหทัยนั้น
บางสิ่งอาจแปรผัน      ก่อนถึงวันลุจุดหมาย
ความหวังจักพังภิณฑ์   ลงนอนดิ้นเกลือกตะกาย
หวาดหวั่นในบั้นปลาย   ฉากสุดท้ายจะหมองมน

รถถังและไกปืน        เสียงสะอื้นกระหึ่มก้อง
รากหญ้าต่างร่ำร้อง     น้ำตานองและหมองหม่น
กฏเกณฑ์ย่อมเปราะบาง   ทุกก้าวย่างล้วนหมากกล
พิศดูทั่วแห่งหน          หมายฝูงชนประการใด

จึงเตือนเหมือนคำว่า    ฝนตกมาปลารื่นเริง
แหวกว่ายโดยบันเทิง   จนหลงเหลิง ณ ธารใส
ขอเบ็ดรอเกาะเกี่ยว     เหยื่อนิดเดียวมาล่อใจ
ฝูงปลาเหลือไฉน       ตกสู่ท้องต้องม้วยมรณ์.


ก็ไม่รู้จะเขียนอะไร นึกไม่ออก....
กาพย์ยานี ๑๑  วางสัมผัสระหว่างบท ต่างจากทั่วไป....
(ถ้าไม่เหมาะไม่ควรอย่างไร ต้องขออภัยผู้รู้ด้วย)


ริ  สิริรั


ประชาธิ์ป์ไตย์= อ่านว่า ประชาไตย์  เพราะว่าผมใส่ตัวการรันต์ไว้...เพื่อห้ลงวรรค

 :020:







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 04, มีนาคม, 2562, 11:42:03 AM

เมื่อความทุกข์รุกเยือนเป็นเพื่อนข้า
ในอุราร้อนรนเหมือนโดนเผา
ด้วยแรงฤทธิ์พิษรุมสุมอกเรา
หวังใครเขาให้ช่วยก็ป่วยการ

นอนตีนก่ายหน้าผากลำบากจิต
สุดจะคิดแก้ไขภัยสังสาร
ชาติกำเนิดเกิดมามันสาธารณ์
หวังพบพานสุขสันต์คงฝันไป.


กระทู้ที่ 300  จากเดิมที่คิดไว้ 100  แล้วก็ +20   แล้วก็บวก  แล้วก็บวก.....   :059:
ริ  สิริรั

 :059:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 07, มีนาคม, 2562, 03:31:07 AM


ลูกหลง


ฉันคือใครแน่   ทั้งพ่อและแม่     ไม่มี
เกิดมาทั้งที     ไยเป็นเช่นนี้      กันเล่า
จะเหลียวทางไหน บ่เห็นมีใคร     ดุจเรา
คิดมาน่าเศร้า     โถนี่ตัวเรา       คือใคร

หรือเวรกรรมสร้าง  ทำกับใครบ้าง  ปางบรรพ์
ตามติดชิดทัน     เลยทำตัวฉัน    หมกไหม้
เฝ้าคอยขัดขวาง    ลบซึ่งหนทาง   ที่ไป
อยากรู้เมื่อไหร่    สิ้นหมดชดใช้   เสียที

ชะตาอาภัพ     พาให้ย่อยยับ     สิ้นหวัง
อยากร้องดังดัง    แต่ใครจะฟัง     บ้างนี่
ถ้าเราเห่าหอน    เขาคงจับตอน    เฆี่ยนตี
เคราะห์ร้ายเหลือที่  โอกาสไม่มี    นิดเดียว

ลูกหมาหลงทาง  ใครอยากเลี้ยงบ้าง  วอนคุณ
โปรดเถิดการุณ   โปรดจงอุดหนุน  สักเที่ยว
เมตตาสงสาร      นึกว่าทำทาน     โปรดเชียว
ขอร้องลองเหลียว  จะไม่ปีนเกลียว   ดื้อดึง.


ริ  สิริรั

 :020:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 07, มีนาคม, 2562, 11:35:08 AM


ลูกหลง


ฉันคือใครแน่   ทั้งพ่อและแม่     ไม่มี
เกิดมาทั้งที     ไยเป็นเช่นนี้      กันเล่า
จะเหลียวทางไหน บ่เห็นมีใคร     ดุจเรา
คิดมาน่าเศร้า     โถนี่ตัวเรา       คือใคร

หรือเวรกรรมสร้าง  ทำกับใครบ้าง  ปางบรรพ์
ตามติดชิดทัน     เลยทำตัวฉัน    หมกไหม้
เฝ้าคอยขัดขวาง    ลบซึ่งหนทาง   ที่ไป
อยากรู้เมื่อไหร่    สิ้นหมดชดใช้   เสียที

ชะตาอาภัพ     พาให้ย่อยยับ     สิ้นหวัง
อยากร้องดังดัง    แต่ใครจะฟัง     บ้างนี่
ถ้าเราเห่าหอน    เขาคงจับตอน    เฆี่ยนตี
เคราะห์ร้ายเหลือที่  โอกาสไม่มี    นิดเดียว

ลูกหมาหลงทาง  ใครอยากเลี้ยงบ้าง  วอนคุณ
โปรดเถิดการุณ   โปรดจงอุดหนุน  สักเที่ยว
เมตตาสงสาร      นึกว่าทำทาน     โปรดเชียว
ขอร้องลองเหลียว  จะไม่ปีนเกลียว   ดื้อดึง.


ริ  สิริรั

 :020:






อธิบายที่มาที่ไป

บทประพันธ์ข้างบนนี้ ผมดัดแปลงฉันท์มาจาก กาพย์ดอกแคร่วง
ซึ่งกาพย์ดอกแคร่วง เจ้าของผู้คิดค้นเขาวาง สัมผัสไว้อย่างนี้


OOOO      OOOO      OO
OOOO      OOOO      OO
OOOO      OOOO      OO
OOOO      OOOO      OO


นกยูงลำแพน     ช่างสวยสุดแสน    งามตา
เปรียบดวงดารา   พราวพริบวิบฟ้า    นับพัน
ช่างเอยวาดฝัน    ธรรมชาติจัดสรร    เจ้ายูง
ไยเจ้าอยู่สูง      ผิดนกแผกฝูง      ทั่วไป

---กาพย์ดอแคร่วง---สริญ----

แบบนี้เรื่อยไป  ซึ่งผมมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า เขาคงดัดแปลงมาจาก ฉันทลักษณ์ของกาพย์ฉบัง ๑๖ อีกอีกทีหนึ่ง
เพราะว่าการวางรูปแบบ ฉันทลักษณ์ เป็นแบบเดียวกัน ต่างกันแค่จำนวนคำในแต่ละวรรค

สำหรับบทประพันธ์ที่อยู่ข้างบนนี้ ผมดัดแปลงฉันทลักษณ์ของกาพย์ดอกแคร่วงให้เป็นแบบ กลอน
คือมี กลอนสดับ  กลอนรับ  กลอนรอง  กลอนส่ง  เหมือนโครงสร้างของกลอน


OOOO     OOOO      OO(สดับ)
OOOO     OOOO      OO(รับ)
OOOO     OOOO      OO(รอง)
OOOO     OOOO      OO(ส่ง)

OOOO     OOOO      OO(สดับ)
OOOO     OOOO      OO(รับ)
OOOO     OOOO      OO(รอง)
OOOO     OOOO      OO(ส่ง)







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 11, มีนาคม, 2562, 01:06:36 AM


วาทกรรมซ้ำซากวิบากส่ง
ผลก็คงเร่งรุด ณ จุดหมาย
ผู้ใดก่อจ่อถึงตรึงเบื้องปลาย
มิสัดส่ายเหหันผูกพันตน

จะเร็วช้าม้ากรรมย่ำเท้าท่อง
ท่วงทำนองดีร้ายพึงหมายผล
ตามสนองผองสัตว์อุบัติวน
หลีกไม่พ้นความชั่วของตัวเอง

ผู้กระทำกรรมดีมีสุจริต
ทำพูดคิดมั่นคงว่าตรงเผง
ย่อมผุดผ่องยองใยไร้วังเวง
ฤาจะเกรงผลชั่วเข้าพัวพัน.


ริ  สิริรั

 :040






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, มีนาคม, 2562, 05:58:16 PM



ร้อยกรอง...ของใหม่ใหม่
ต้องทำใจ....ให้หนักหนัก
ลองเล่น....เป็นพักพัก
ถ้าใจรัก....ชอบจริงจริง


ริ  สิริรั





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 22, มีนาคม, 2562, 10:44:49 PM


การกินที่มากเกิน    อร่อยเพลินแต่ลงพุง
รสชาติที่หมายมุ่ง    จะผดุงไขมันมั่น
เสิร์ฟเสิร์ฟให้เติบต่อ  โลหิตท่อจะอุดตัน
ห่วงห่วง ณ ชีวัน      มลขันธ์จะวังเวง
เอมโอฐเพราะชิวห์อาบ  สุขภาพบ่เป็นเพลง
โรคร้ายจะละเลง      เพราะอาหารที่หอบหิว
ลดยากลำบากแย่     หน้าท้องแท้เป็นลอนทิว
รอวันจะรีวิว            อุทรอวบผอืดองค์
โอ้ฝ้าสง่าฝัน          สรีร์ฉันสะโอดชง
สั่งสมระดมลง         ดนุร่างสิปางโรย.


ริ  สิริรั

 :a014:



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 27, มีนาคม, 2562, 09:45:25 AM




เขาวิโยคโศกใจเมื่อไกลคู่
เขาวิโยคอยากรู้เธออยู่ไหน
เขาวิโยคห่วงหาสุดอาลัย
เขาวิโยคร้อนใจใคร่ติดตาม

จึงพร่ำบ่นบทเพลงวังเวงแว่ว
จึงพร่ำบ่นฟังแล้วล้วนแผ่วถาม
จึงพร่ำบ่นคิดถึงหนึ่งนงราม
จึงพร่ำบ่นด้วยความเพ้อผูกพัน

ช่างบรรเจิดเลิศล้ำหนอคำรัก
ช่างบรรเจิดประจักษ์หลักยึดมั่น
ช่างบรรเจิดคุณค่าคณานันต์
ช่างบรรเจิดสร้างสรรค์สวรรค์ดล



เมื่ออ่านเฉพาะสีเขียวจะเป็นกลอน ๕.....  :059:

ริ  สิริรั






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 29, มีนาคม, 2562, 12:53:35 AM



กลอน ๖

อิจฉาตาร้อนนอนกลุ้ม
อกรุมเริงฤทธิ์คิดซ่าน
สุมไฟใส่ฟอนกร่อนมาน
วิญญาณสร่างสุขทุกข์ทน

เพราะแรงแห่งจิตคิดแคบ
เป็นแบบจำกัดขัดสน
เหนืออื่นดื่นหล้าสากล
คือตนเท่านั้นมั่นใจ

คนอื่นดื่นเหลือเหนือกว่า
ต้องฆ่าตายตกหมกไหม้
อย่ามีสุขสันต์อันใด
มากไปกว่ากูผู้นี้

ผู้อื่นชื่นชุกสุขสันต์
ตัวฉันสุขพ่ายหน่ายหนี
เหมือนถูกกระทำย่ำยี
ดุจมีไฟเฝ้าเผากาย

ชีวิตจักชื่นคืนสุข
ต้องลุกรอนริดปลิดป้าย
ให้มันทอดร่างวางวาย
จึงคลายร้อนเร่าเซาซา

คือหนึ่งในคิดจิตนี้
ผู้มีน้ำจิตอิจฉา
ตนต้องเป็นหนึ่งตรึงตรา
ใครอย่าหมายเทียบเปรียบตัว.


ริ  สิริรั

 :040





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 07, เมษายน, 2562, 11:19:25 PM



(สริญประดิษฐ์กานท์ ๑๐)


อิงแอบแนบนาง       เคียงข้างพะนอคลอเคล้า
สุขใจสองเรา          ยวนเย้ากระซิบหยอกเอิน
ซ้ายทีขวาที            เร็วรี่ระดมชมเพลิน
ตราบเนานานเนิ่น      ชวนเชิญพิรี้พิไร

มิอยากจากแนบ        อิงแอบกระแซะปรางใส
มือเท้าเนาใน           ทรามวัยกระซิกแผ่วครวญ
โอ้โฉมฉวี               คนดีระทึกแดป่วน
พิศน้องผ่องนวล        รัญจวนประทับฝังจำ.


ริ  สิริรั


 :055:  โอ้ อะไรกันนี่  จากเดิมที่เคยคิดจะเขียนเป้นกลอน มันชักจะคล้ายฉันท์เข้าไปทุกทีแล้ว..







หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 09, เมษายน, 2562, 11:34:26 PM



การจับปลาสองมือถือสองข้าง
มันอาจพอมีบ้างจะหลุดร่วง
ความปลอดภัยไม่มีที่ทั้งปวง
เพราะต้องห่วงซ้ายขวาพะว้าพะวัง

ปลาอาจดิ้นหลุดมือที่ถือนั้น
ต้องฉับพลันพลั้งพลาดสุดคาดหวัง
อดทั้งขวาแลซ้ายเสียดายจัง
ต้องมานั่งกอดอกสะทกฤทัย

ทำกิจการสองอย่างไม่ต่างหรอก
โบราณบอกเสมือนย้ำเตือนให้
เลือกหนึ่งสิ่งหมายปองอย่าสองใจ
จึงจะได้สำเร็จตามเจตนา.


ริ  สิริรั


 :AddEmoticons00947:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 12, เมษายน, 2562, 05:16:26 PM



อยู่ดีดีไม่น่าลืม....ก็ลืม
เงินทองให้ยืมไม่น่าเบี้ยว....ก็เบี้ยว
ทางเป็นหลุมหล่มไม่ควรเลี้ยว....ก็เลี้ยว
กระแสน้ำไหลเชี่ยวไม่ควรพาย.....ก็พาย

มติสวรรค์ไม่ควรฝืน......ก็ฝืน
สีอันดาษดื่นไม่ควรป้าย....ก็ป้าย
เรื่องลับลับไม่ควรคาย.....ก็คาย
ความเป็นความตายไม่ควรลอง....ก็ลอง


ริ  สิริรั


 :059:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 16, เมษายน, 2562, 12:01:29 PM




เสกคำกลอนหลอนลวงให้ห่วงเล่น
เสกให้เป็นมนต์ขลังเหมือนครั้งเก่า
เสกคำวอนอ้อนถึงหนึ่งนงเยาว์
เสกคำเหงาเคียงข้างเหมือนอย่างเคย

เขียนคำคมลมหลอกบอกว่าห่วง
เขียนคำท้วงขวัญตาวอนอย่าเฉย
เขียนคำรักปักซึ้งหนึ่งฝันเปรย
เขียนคำเอ่ยบอกรักมาทักทาย

แสนคิดถึงตรึงตราเพ็ญหน้าน้อง
เสียงร่ำร้องครวญหามิซาหาย
สมประดีมีหวังยังทรงกาย
สุมใจหมายเคียงขวัญในฝันเคียง


ริ  สิริรั




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 13, พฤษภาคม, 2562, 09:32:18 PM


แม้นโลกนี้มีคนอยู่ล้นโลก
แต่ว่าโลกของฉันมันหงอยเหงา
แม้ความฝันริบหรี่มีเพียงเงา
แต่ว่าเงาของฝันมันมืดไป

แม้นความหวังยังมีที่พอหวัง
แต่ก็ยังสุดเอื้อมเชื่อมไฉน
แม้ความดีมีจริงมิกริ่งใจ
แต่ว่าใจผองชนไหนยลยิน

ท้องฟ้ากว้างแต่เส้นทางฉันมันแคบ
เหมือนออกแบบให้พบความจบสิ้น
มิอาจจักก้าวไปตามใจจินต์
สุดโผผินบินไต่ในนภา


ริ  สิริรั




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 17, พฤษภาคม, 2562, 02:16:58 PM

กลอน อรรธนารีศวร  หรือ กลอนสองร่าง

วิธีอ่าน
๑. แบบที่หนึ่ง อ่านจากสีน้ำเงินไปสุดที่สีส้ม(แล้วก็มาเริ่มที่สีน้ำเงินไปสุดที่สีล้มอีก จนครบทั้งสี่วรรค)
๒. แบบที่สอง อ่านจากสีส้มไปสุดที่สีม่วง(แล้วก็มาเริ่มที่สีส้มไปสุดที่สีม่วงอีก จนครบทั้งสี่วรรค)


จักยอมสู้    บำเพ็ญตน เป็นคนอ่าน  สารทุกสิ่ง
เพื่อเสพสาร มิเกรงกริ่ง  ต่อสิ่งไหน  ในโลกเหวย
โลกรับรู้     ว่าเราแน่    มิแพ้ใคร    ใช่ชัดเลย
เพราะมีใจ   รักเสบย   อย่างเคยตัว  ชัวร์จริงจริง



(หลังจากเกิดแนวคิดนี้แล้วผมจึงลองแต่งเป็นตัวอย่างไว้ดู ๑ บท)

ริ  สิริรั

*อรรธนารีศวร เป็นชื่ออวตารปางหนึ่ง ของพระศิวะกับพระแม่อุมา
เป็นปางที่ พระศิวะรวมร่างกับพระแม่อุมา ซีกหนึ่งเป็นชาย ซีกหนึ่งเป็นหญิง



 :040




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 31, พฤษภาคม, 2562, 10:54:20 PM


แผ่วบรรเลงเพลงฝันของวันเก่า
รักที่เราเริ่มซึ้งตรึงโหยหา
หวานอันใดไม่เทียมเยี่ยมวิญญา
เท่าภาษากายสานสมานมนตร์

รักของใครในหล้าจะกล้าเทียบ
ฤามาเปรียบรักเราเฝ้าผลิผล
หอมหวานซึ้งตรึงติดจิตวังวน
ทุกแห่งหนสดสวยด้วยอุ่นไอ

รักหวานซึ้งตรึงจำแสนล้ำค่า
ทั่วแผ่นฟ้าแผ่นดินทุกถิ่นไหน
มิอาจเปรียบเทียบแดนแสนสุขใจ
ที่ซึ่งมีทรามวัยอยู่ใกล้เรา.


นักเลงกลอน

๓๑ พค. ๒๕๖๒





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 13, กรกฎาคม, 2562, 05:30:31 AM



เมื่อรพีฯลี้เร้นไม่เห็นร่าง
แสงสว่างพลันดับลับสลาย
เหมือนโลกนี้ชีวาตม์ขาดทำลาย
คงจักกลายสูญสิ้นทุกอินทรีย์
ถึงเวลาฟ้าหม่นทนยืนหยัด
สารพัดกระหน่ำซ้ำสุดหนี
รอวันคืนฝืนผ่านชั่วนานปี
อย่างไม่มีวันเห็นความเป็นไป
อีกเนิ่นนานให้หลังประดังฝ่า
เพื่อไขว่คว้าลิขิตชีวิตไข
สู่แสงโสมโลมโลกโศกฤทัย
จักผ่อนพ้นโภยภัยให้บรรเทา.


**นักเลงกลอน~กลอนนักเลง**



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 25, กรกฎาคม, 2562, 11:25:14 PM



รพีฯเพื่อนเลือนลับไม่กลับหลัง
ดูดุจดังจะร้างห่างสงสาร
หรือลืมเลือนเกลื่อนกลิ่นซับวิญญาณ
ไร้บทกานท์จะแหวกแทรกอาลัย

วางปากกาพาทีกวีพจน์
ราวสิ้นร้างจางรสหมดสมัย
ความสำคัญผันแผ่ผุแปรไป
ตรอมจิตใจเจียมจินต์สิ้นลำนำ

โอ้บทกลอนก่อนเห็นมาเว้นหาย
ราวกับกลายผันเปลี่ยนมิเวียนร่ำ
หรือไปมีที่ใหม่ช่างใจดำ
หรือใครทำช้ำชอกมิบอกลา....


นักเลงกลอน~กลอนนักเลง

 :059:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 07, สิงหาคม, 2562, 09:45:09 PM




จักเสกสรรค์บรรยายหลายล้านถ้อย
สักเพียงน้อยจับใจคงไร้สิ้น
เหมือนแห้งผากหลากล้ำธารฉ่ำริน
เลือนถวิลกลิ่นไอเหือดไมตรี

หรือหัวใจใสแววเพียงแก้วร้าว
คราส่องวาวกลับกร้านด้านฉวี
มินุ่มนวลชวนฝันพรรณรุจี
หมดความดีควรค่าปรายตามอง

เสียงหัวใจไห้เหือดเลือดในอก
ดุจอุทกหลั่งในฤทัยหมอง
เหลียวแลหาค่าที่ฤดีปอง
เคยจับจองจดจำจัดคำเนือง

บัดนี้ไม่มีแล้ววี่แววนั้น
สายสัมพันธ์ผุขาดประหลาดเรื่อง
สูญสิ้นความเคยคุ้นราวขุ่นเคือง
คำมิเชื่องแก่จิตเป็นพิษภัย

เหมือนน้ำตาลหวานหอมเคยดอมดูด
มาพานบูดขมขื่นกลืนไม่ไหว
มิถูกลิ้นสิ้นรสหมดอาลัย
จำผลักไสเหินห่างเพื่อร้างลา

บทกวีมีคำเฟื่องสัมผัส
เน้นร้อยรัดจัดวางพร่างภาษา
คนสูญสิ้นจินต์เจตหมดเมตตา
จึงสิ้นค่าจากใจไม่อาทร

จักเสกสรรค์บรรยายหลายล้านถ้อย
คำคงกร่อยสิ้นบทรสอักษร
ดุจคราวฝันพลันตื่นทุกคืนนอน
รอยอาวรณ์ก็จางร้างจดจำไป.


นักเลงกลอน~กลอนนักเลง

 :059:




หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 10, สิงหาคม, 2562, 12:29:50 PM


ก็แค่เขียนให้เป็นกลอน  :040


อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ
อย่าเอามะเขือไปแลกมะขาม
อย่าเอานิยายไปแลกนิยาม
อย่าเอาผลห่ามไปแลกผลงอม
อย่าเอาเงินทองไปแลกเก้าอี้
อย่าเอาผักชีไปแลกต้นหอม
อย่าเอาของแท้ไปแลกของปลอม
อย่าเอาปลามจ่อมไปแลกปลาเค็ม

อย่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
อย่าฝนทั่งคล้ำให้ขาวเป็นเข็ม
อย่าถมทะเลเพื่อหมายให้เต็ม
อย่าและอย่าเล็มอย่ารุกอย่าราน
อย่าไปต่อล้อตัดพ้อคนบ้า
อย่าไปแช่งด่าพระภูมิเจ้าศาล
อย่าเหิมเกริมคิดผิดถ้อยสาบาน
อย่าหมายทะยานดึงฟ้าต่ำลง

อย่าไปสั่งสมนิยมของนอก
อย่าไปเที่ยวหลอกให้ใครลุ่มหลง
อย่าคอรัปชั่นให้หวั่นพะวง
อย่าลดเอาหงส์ไปเปรียบกับกา
อย่านู่นอย่านี่อย่าชี้อย่าชัก
อย่าชังอย่ารักอย่าทักอย่าหา
อย่าติอย่าเตียนอย่าเบียนบีฑา
อย่าคบอย่าค้าอย่าอย่าหายใจ


สำนวนสมัยก่อน....อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ...
สำนวนยุคปัจจุบัน...อย่าเอาไอโฟนไปแลกซัมซุง....


นักเลงกลอน~กลอนนักเลง

 :d24:    :045:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 13, สิงหาคม, 2562, 11:54:38 PM



ฉันเป็นบ้ามานานล้านกว่าวิ
เธอชิมิคนทำฉันจำได้
ฉันเป็นบ้ารักเธอเพ้อเรื่อยไป
โลกกว้างใหญ่แต่หัวใจมีเพียงเธอ

อยากเอาเธอเก็บใส่ข้างในห้อง
ใจที่สองจองจำสม่ำเสมอ
มิปล่อยให้ไปไหนไกลจากเจอ
เพราะฉันเรอทักแท้แม่พุ่มพวง

เธออย่าไปไกลห่างอย่างตัดเยื่อ
ใยไม่เหลือเผื่อไว้ไร้ความหวง
อย่าย่ำยีบีฑาดังผ่าทรวง
ด้วยการควงชายอื่นชื่นดวงแด

ฉันคนบ้าบ้ารักมักโหดร้าย
ยังไม่หายจากบ้าขาดยาแก้
เป็นเพราะเธอทิ้งไปไม่ดูแล
จึงอาการย่ำแย่แค่ทรงตัว

เขียนบทกลอนฝากไว้ให้เธอคิด
ว่าชีวิตชาตินี้ห้ามมีผัว
หากแต่งงานวันไหนได้ตายชัวร์
ฉันปีนรั้วเตรียมเชือดเลือดกระจาย

ขอจงเป็นเด็กดีนะที่รัก
แล้วเธอจักรื่นรมย์สุขสมหมาย
มีฉันคอยแนบข้างตราบวางวาย
จากเจ้าชายคนหนึ่งถึงคนดี.


นักเลงกลอน~กลอนนักเลง

 :041:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 15, สิงหาคม, 2562, 09:08:43 PM


ฉันทำ ชั่ว-/-ดี  มากมายใครมิรู้
เพราะตาหูของเขามันเน่าหนอง
เสพแต่สิ่งเริงใจฝันใฝ่ปอง
จึงมิมองภายในใครชั่ว-/-ดี

สิ่งที่เห็นเจนตามารยาภาพ
ซึ่งเคลือบฉาบเป็นฉากซ่อนซากผี
เขาจึงเอมอิ่มจินต์หลงยินดี
ชีวิตนี้จ่อมจมถมอบาย

มีชีวิตเพื่อพ้องสนองอยาก
ยอมลำบากเพื่อผลตนมุ่งหมาย
ทั้งยื้อแย่งแข่งขันกันวุ่นวาย
ลืมนาทีสุดท้ายเมื่อตายลง


นักเลงกลอน~กลอนนักเลง





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 16, สิงหาคม, 2562, 10:20:34 AM



สัมผัสเลือนเตือนว่าอย่าใช้บ่อย
กลอนจะกร่อยสูญสิ้นไร้หมิ่นหยาม
ผองกวีที่พจน์แสนงดงาม
ล้วนเกรงขามเลี่ยงไว้ไม่กล้าทำ

กลอนประกวดอวดโชว์โก้ไม่หยอก
เขาเตือนบอกกฏเกณฑ์ใช่เล่นขำ
ยามเขียนกลอนสุนทรพจน์ต้องจดจำ
เพื่องามล้ำวงวรรณพันธุ์กวี

ใช่ความเห็นส่วนตัวมามั่วนิ่ม
เคยถูกจิ้มถูกเตือนอยากเบือนหนี
ด้วยใจฉันนั้นมักรักเสรี
บางครั้งที่แหกกฏงดหลักการ

แต่ส่วนมากถือกฏบทข้อห้าม
ที่งดงามชี้ชัดบรรทัดฐาน
อาจมีบ้างพลั้งหนอพอประมาณ
เตือนทุกท่านจากใจใช่ติเตียน.

นักกลอน~นักเลง


 :040   :a016:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 21, สิงหาคม, 2562, 01:18:26 AM




เหตุผลที่ไม่ยอมลงจอด.....

ฉันมาจากดาวพลูโตช่างโก้หรู
มาเที่ยวดูเขากะลาน่าสงสัย
เห็นเขาว่าบนเขานี้มีอะไร
เป็นประตูมิติไงใช้เดินทาง

เพื่อข้ามโลกข้ามจักรวาลตำนานเล่า
เป็นเรื่องเก่าใครไม่รู้เป็นผู้สร้าง
ได้ยินข่าวจากมนุษย์สุดปล่อยวาง
จำก้าวย่างขับยานผ่านหลายดาว

แล้วมาถึงโลกมนุษย์สุดพิเศษ
คือประเทศไทยแลนด์แดนอื้อฉาว
คอรัปชั่นการเมืองเป็นเรื่องยาว
มันมีข่าวอื้ออึงถึงพลูโต

เห็นเขาว่าประเทศนี้มีนายก
ที่ตลกโปกฮาบ้าโมโห
นำกองทัพเข้าลุยใช่คุยโว
แกแสนโก้พาทหารควบการเมือง

พูดถึงเขากะลาฉันมาบ่อย
เพราะมีคนมาคอยอย่างต่อเนื่อง
พวกเขาอยากพบฉันกันเนืองเนือง
คงมีเรื่องปรึกษาเพื่อหารือ

ฉันก็พูดภาษาไทยไม่ค่อยคล่อง
นึกสยองกลัวลิ้นทำสิ้นชื่อ
เรียนมาน้อยด้อยความรู้งูกระบือ
เคยฝึกปรือภาษาไทยไม่เชี่ยวชาญ

ถ้าลงมาพบกันฉันลำบาก
คงเข้าใจกันยากหากสื่อสาร
จึงมาแค่ใกล้เคียงเพียงขับยาน
ให้ลอยผ่านน่านฟ้าพาเห็นไกล

การติดต่อสื่อสารนั่นก็ด้วย
ช่างไม่อวยไม่เอื้อเหลือวิสัย
มีแต่ค่าใช้จ่ายร้ายเหลือใจ
จะติดต่อหาใครต้องใช้ตังค์

ฉันมาจากดาวอื่นล้านหมื่นลี้
จึงไม่มีค่าโทรพุทโธ่ถัง
ติดต่อใครไม่ได้เสียดายจัง
จำผิดหวังขับยานกลับบ้านเรา

ใครอย่าหาว่าหลอกบอกไว้ก่อน
ฉันนำยานมาร่อนว่อนบนเขา
แต่ธุระมีมากยากบรรเทา
จึงรีบกลับบ้านเก่าดาวพลูโต


นักกลอน~นักเลง



 :new10:   :new10:   :new10:





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 26, มกราคม, 2563, 09:36:37 PM


กลบท เสียงเอคโค่

อย่าลืมกัน  อย่าลืมกัน  ณ วันว่าง.........ว่าง
คิดถึงบ้าง  คิดถึงบ้าง   ยามห่างหาย...........หาย
เปลี่ยววิญญา  เปลี่ยววิญญา  เอกากาย..........กาย
แต่มิคลาย   แต่มิคลาย   สายสัมพันธ์..............พันธ์

ณ ที่นี่   ณ ที่นี่   ยังมีรัก..........รัก
ผูกใจปัก   ผูกใจปัก  มิหักผัน..........ผัน
แม้นเนิ่นนาน  แม้นเนิ่นนาน   ผ่านคืนวัน............วัน
จักมีกัน   จักมีกัน   นั้นเรื่อยไป..........ไป

ยังคิดถึง   ยังคิดถึง   คะนึงหา............หา
รอคอยท่า  รอคอยท่า  มิตรมาใกล้............ใกล้
โปรดมาเยือน  โปรดมาเยือน   เป็นเพื่อนใจ............ใจ
จากคนไกล   จากคนไกล   ใคร่ครวญคอย..........คอย


นักเลงกลอน



 :a016:


https://www.youtube.com/watch?v=K6x7kZUNbHY

เพลง ใจคนคอย  กุ้ง  ตวงสิทธิ์





หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 31, มกราคม, 2563, 09:47:52 PM





กลบท เสียงเอคโค่   (ยังนำมาทำมาหารับประทานได้ต่ออีก)

อย่าลืมกัน  อย่าลืมกัน  ณ วันว่าง.........ว่าง
คิดถึงบ้าง  คิดถึงบ้าง   ยามห่างหาย...........หาย
เปลี่ยววิญญา  เปลี่ยววิญญา  เอกากาย..........กาย
แต่มิคลาย   แต่มิคลาย   สายสัมพันธ์..............พันธ์

ณ ที่นี่   ณ ที่นี่   ยังมีรัก..........รัก
ผูกใจปัก   ผูกใจปัก  มิหักผัน..........ผัน
แม้นเนิ่นนาน  แม้นเนิ่นนาน   ผ่านคืนวัน............วัน
จักมีกัน   จักมีกัน   นั้นเรื่อยไป..........ไป

ยังคิดถึง   ยังคิดถึง   คะนึงหา............หา
รอคอยท่า  รอคอยท่า  มิตรมาใกล้............ใกล้
โปรดมาเยือน  โปรดมาเยือน   เป็นเพื่อนใจ............ใจ
จากคนไกล   จากคนไกล   ใคร่คุ้นคอย..........คอย


นักเลงกลอน



 :a016:



พูดถึงกลบทเอคโค่แล้ว  หากว่าตัดคำซ้ำๆออกไป  ก็จะเหลือเพียงแบบนี้......




กลบท เสียงเอคโค่

อย่าลืมกัน  อย่าลืมกัน  ณ วันว่าง.........ว่าง
คิดถึงบ้าง  คิดถึงบ้าง   ยามห่างหาย...........หาย
เปลี่ยววิญญา  เปลี่ยววิญญา  เอกากาย..........กาย
แต่มิคลาย   แต่มิคลาย   สายสัมพันธ์..............พันธ์

ณ ที่นี่   ณ ที่นี่   ยังมีรัก..........รัก
ผูกใจปัก   ผูกใจปัก  มิหักผัน..........ผัน
แม้นเนิ่นนาน  แม้นเนิ่นนาน   ผ่านคืนวัน............วัน
จักมีกัน   จักมีกัน   นั้นเรื่อยไป..........ไป

ยังคิดถึง   ยังคิดถึง   คะนึงหา............หา
รอคอยท่า  รอคอยท่า  มิตรมาใกล้............ใกล้
โปรดมาเยือน  โปรดมาเยือน   เป็นเพื่อนใจ............ใจ
จากคนไกล   จากคนไกล   ใคร่คุ้นคอย..........คอย


นักเลงกลอน



 :a016:


ตัดคำซ้ำออกไปแล้ว...................


อย่าลืมกัน  ณ วันว่าง
คิดถึงบ้าง   ยามห่างหาย
เปลี่ยววิญญา  เอกากาย
แต่มิคลาย   สายสัมพันธ์

ณ ที่นี่   ยังมีรัก
ผูกใจปัก  มิหักผัน
แม้นเนิ่นนานผ่านคืนวัน
จักมีกัน   นั้นเรื่อยไป

ยังคิดถึง   คะนึงหา
รอคอยท่า  มิตรมาใกล้
โปรดมาเยือน   เป็นเพื่อนใจ
จากคนไกล   ใคร่คุ้นคอย


นักเลงกลอน



 :a016:






หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 13, กุมภาพันธ์, 2563, 11:38:00 PM


การผลิตคิดคำเลอล้ำค่า
ใช้ภาษาเสกสรรค์วรรณศิลป์
เพื่อประทับจับใจผู้ได้ยิน
ต้องโรยรินคุณค่าภาษาคำ

ขึ้นอยู่กับมันสมองของผู้แต่ง
ว่าแจ่มแจ้งคารมอันคมขำ
หรือเด่นด้อยอย่างไรในลำนำ
จักเลิศล้ำด้อยค่าในพาที

การศึกษาสูงต่ำย่อมย้ำชัด
เป็นเครื่องวัดผลิตผลกลวิถี
ให้เห็นความแตกต่างทางวจี
จักเป็นศรีหรือเศร้าควรเข้าใจ

ฉันทลักษณ์หลักการผสานแต่ง
จักบ่งแบ่งครรลองสวยผ่องใส
แม้นถ่ายทอดสื่อสารการใดใด
เน้นภายในเนื้อหาคุณค่าควร

นักเลงกลอน



หัวข้อ: Re: รวมบทประพันธ์ของ"สริญ"
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 08, มีนาคม, 2563, 08:11:29 AM


เมฆลอยวนฝนโปรยโหยจากฟ้า
ชโลมหญ้าป่าไม้ไพรพฤกษ์เขียว
แดดทอแสงแข็งขันตะวันเดียว
นกเลาะเลี้ยวเทียวบินผินนภา

หมอกไอจางพร่างสีมณีรุ้ง
ข้าวพยุงรวงไสวอวดใบหนา
ดินชุ่มฉ่ำน้ำนองโอบผองปลา
ลมพัดมาหวีดหวิวสยิวกาย

บทกวีสีสวรรค์วรรณสล้าง
อย่าลาร้างจางเหือดเหมือนเดือดหาย
บรรจงพาดวาดย้ำเพ้อรำบาย
ตราบจุดหมายปลายฝันมิผันแปร


นักเลงกลอน