ก็เห็นเห็นเป็นป่าภูผาหิน
ล้วนสากดินแน่นแข็งสีแดงขาว
สูงโล่งโล้นราบเตียนเวียนเหยียดยาว
แสงวับวาวสะท้อนร้อนตะวัน
หาต้นไม้ใบบังหยุดหวังเถิด
แม้น้ำเปิดปากอ้าท่าสักขัน
เหงื่อหยาดหยดรดตัวทั่วแสบคัน
พายุปั่นฝุ่นฟุ้งคลุ้งมืดดำ
หอบเอาทรายย้ายยับกองทับถม
แรงคลื่นลมเมฆบนฝนกระหน่ำ
ห่าลูกเห็บเหน็บหนาวพราวโพลนพรำ
จากนั้นน้ำซึมหายหาไม่มี
มันคือถิ่นที่อยู่ผู้ยากไร้
เคยประสบเภทภัยขับไล่หนี
ถูกกล่าวโทษโฉดร้ายหมายย่ำยี
จู่โจมตีสิ้นงามความเป็นคน
อุตส่าห์ปักหลักรากบากบั่นสู้
เพียรกอบกู้ศักดิ์ศรีพลีอีกหน
ชนะสิ่งแวดล้อมห่อห้อมตน
จึงผ่านพ้นข้นเข็ญเย็นทุกยาม
ก็เห็นเห็นเป็นเมืองรุ่งเรืองยิ่ง
เผยเท็จจริงงุนงงตรงกันข้าม
เพียงพิพัฒน์วัตถุจุวางวาม
ผิดข้อห้ามฆ่าเข่นมิเว้นใคร
รพีกาญจน์