ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ แลสาวใช้ท้ายสุดต้องหยุดยั้ง มิยกน้ำตามไปดังตั้งประสงค์ ฝืนแรงกายหลายครั้งนั่งงวยงง “นี่เราคงอ่อนล้าหรือว่าไร”
๏ พระสุธนเห็นดังนั้นพลันไปหา เอ่ยวาจาสอบถามย้ำความใหม่ ยินคดีตามที่เคยเปรยกันไว้ นางขอให้ยกช่วยจึงอวยการ
๏ พร้อมทั้งนำธำมรงค์ใส่ลงหม้อ ตั้งจิตขอธำมรงค์ช่วยส่งสาร “ภัสดามาถึงซึ่งสายธาร ยอดดวงมานรับสวาทหรือตัดรอน”
๏ ทูนกระออมพร้อมไปโดยไม่ช้า กลัวจะล่าโนราห์น้องต้องรอหล่อน รีบสาวเท้าก้าวย่างร่างโยกคลอน ถึงเมื่อตอนเพื่อนสรงผ่านมินานมา
๏ จึงรีบเทน้ำลงสรงโดยไว น้ำรินไหลธำมรงค์ลงหัตถา ณ บัดนั้นพลันนางมโนราห์ ชื่นชีวาดุจพบพระสวามี
รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ด้วยยังจำธำมรงค์ได้คงมั่น ในครานั้นฝากสาระพระฤษี พร้อมทั้งพระธำมรงค์หนึ่งวงนี้ ณ กุฎีที่ริมหิมพานต์
๏ สำเร็จงามตามประสงค์จำนงหมาย อันตรายทั้งปวงล่วงพ้นผ่าน ด้วยเดชะพระกุศลดลบันดาล มิเนิ่นนานคงมาพบหน้ากัน
๏ แสนดีใจได้ชื่นชมสุขสมหวัง จึงรับสั่งเรียกสาวใช้คนท้ายนั่น มาซักไซ้ใจความที่สำคัญ เหตุผกผันอันใดให้มาช้า
๏ สาวใช้ทูลธิดากายาสั่น คิดว่าโดนลงทัณฑ์แน่นักหนา น้ำตาคลอ “ขอเดชะพระธิดา ก่อนจะมาจากสระช่างกระไร
๏ ยกกระออมน้ำนั้นชำนาญล้น เพียงหนึ่งคนขึ้นทูนหัวหากลัวไม่ แต่วันนี้หนักยิ่งหนาน่าแปลกใจ ยกมิไหวหลายคราพยายาม
รายนามผู้เยี่ยมชม : น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ฟองเมฆ, กอหญ้า กอยุ่ง, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, เนิน จำราย, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ มาณพหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ได้มาหา กล่าววาจาทักทายแล้วไต่ถาม ฉันตอบถ้อยวาทีมีใจความ แท้จริงตามเป็นไปไม่ปิดบัง
๏ วานช่วยยกกระออมมิปฏิเสธ นี่คือเหตุให้ล่ามาแต่หลัง ขอประทานอภัยอย่าได้ชัง ที่พลาดพลั้งมิจงใจให้เสียการ”
๏ “อย่าตระหนกตกใจมิได้ว่า คิดโกรธาแค่ขอให้เล่าขาน เพียงอยากรู้ผู้ที่เธอพบพาน มีรูปพรรณสัณฐานเป็นฉันใด
๏ แลถ้อยคำน้ำเสียงสำเนียงนั้น เป็นคนธรรพ์ กินรา เทวาไฉน การแต่งกายได้เห็นเป็นเช่นไร มีหรือไม่อาวุธนำประจำกาย”
๏ “ หนุ่มรูปงามตามที่เห็นเช่นคนป่า มิใช่กินราเราทั้งหลาย ครุฑ คนธรรพ์ เทวาหน้าตาคล้าย ยิ้มพริ้มพรายแต่ภูษาคร่ำคร่านัก
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม, กอหญ้า กอยุ่ง, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ธนูศรศาสตราน่าเรืองฤทธิ์ ทว่าผิดไปจากผู้เคยรู้จัก เป็นมนุษย์ นาคา พญายักษ์ มิรู้ความจะถามทักกลัวชักช้า”
๏ มโนราห์ยินว่าพลันมั่นใจล้น พระสุธนจริงแท้แน่นักหนา จึงเรียกเหล่าสาวใช้ทั้งหลายมา “ช่วยจัดหาเครื่องทรงวงศ์ราชัน
๏ เครื่องชำระพระกายินประทิ่นหอม จนพรักพร้อมสิ่งอำนวยอวยสุขสันต์ ภักษาหารอันเอมโอชโภชภัณฑ์ เลือกดีเยี่ยมเทียมชั้นราชวงศ์
๏ เชิญทรงชัยไปพักปรางค์กลางสวนศรี ทุกสิ่งที่ท่านปองสนองประสงค์ ขอให้ทำตามนั้นเป็นมั่นคง สิ่งจำนงทุกนางจงตั้งใจ”
๏ รอคืนวันมั่นหมายได้พบหน้า จักรีบร้อนก่อนเวลาหาควรไม่ ฤกษ์ยามดีเข้าพิธี ณ วังใน จึงทูลให้สองพระองค์ทรงรู้ความ
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม, กอหญ้า กอยุ่ง, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ครั้นรุ่งแจ้งแสงทองส่องขอบฟ้า กองพหลพลโยธามาล้นหลาม พระเสลี่ยงทองคำเลิศล้ำงาม ขบวนตามแห่แหนแน่นมรรคา
๏ ราชยานท่านท้าวทุมราช ผ่องโสภาดารดาษพรรณบุปผา พระนางจันท์กินรีเคียงคู่มา รับนวลน้องมโนราห์เข้าวังใน
๏ มโนราห์ขึ้นพระเสลี่ยงทอง เข้าสู่กองโยธายาตราใหญ่ เสียงไชโยมโหระทึกกึกก้องไป เข้าเวียงชัยสู่ท้องพระโรงพิธี
๏ ผู้ร่วมงานละลานตาแน่นหนานัก หลายเผ่าพงศ์ดำรงรักเป็นสักขี ล้วนผูกพันสรรค์สนิทมิตรไมตรี สามัคคีสรรพชีวาประชาคม
๏ มโนราห์กราบบิดาพระมารดร พร้อมรับพรกาลต่อไปให้สุขสม เจิมนลาฏมงคลน้ำมนต์พรม พระพี่นางต่างชื่นชมผูกพระกร
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, เนิน จำราย, รพีกาญจน์, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ปลายฝน คนงาม, กอหญ้า กอยุ่ง, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ มีจังหวะมโนราห์ทูลราชัน “สวามีกระหม่อมฉันพระทรงศร เสด็จถึงซึ่งไกรลาสมหานคร ขอวิงวอนพระบิดาโปรดปรานี”
๏ ฉงนจิตพระบิดรพระมารดา สองหันสบนัยนาถอนใจถี่ คิดกันว่าไร้สาระในวจี เธอคิดถึงสวามีจนพร่ำเพ้อ
๏ ตรัสเรียกเหล่าสาวใช้ทั้งหลายเฝ้า “มีไหมเล่าคนแปลกหน้าอย่าเพ้อเจ้อ” เมื่อสาวใช้ได้ทูลความตามพบเจอ จนท้าวเธอเชื่อความตามเป็นจริง
๏ คะนึงครวญชวนสงสัยชนในหล้า ข้ามวนหิมวามายากยิ่ง ผู้ที่รักแรมไกลไม่ทอดทิ้ง ผ่านเสือสิงห์มหันต์ภัยทั้งหลายมา
๏ คุณลักษณะเหนือมนุษย์ ทั้งเชิงยุทธ์ฤทธิ์แรงต้องแกร่งกล้า ฉงนใจอยากจะได้พบหน้าตา ชมบุญญาบารมีดีฉันใด
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ รับสั่งให้มโนราห์“หลบหน้าก่อน อยู่ปรางค์ในนครอย่าไปไหน จะพิสูจน์ราชบุตราผู้มาไกล เริ่มซักไซ้ถึงเหตุเจตนา
๏ ให้สำแดงฤดีภาคีประจักษ์ คุณลักษณ์ฤทธิไกรไฉนหนา เห็นสมศักดิ์คู่ลูกรักมโนราห์ จักบัญชาไปตามความสมควร”
๏ แล้วประกาศต่อหน้าธารกำนัล เชิญชวนกันเป็นสักขีให้อีกส่วน เหล่าแขกเหรื่อเอื้อให้จึงได้ชวน ตั้งกระบวนย้ายมาหน้าพระลาน
๏ ท้าวปทุมราชประกาศว่า “มีหนึ่งมนุษย์มาถึงสถาน พยายามข้ามวนหิมพานต์ พิสดารก่อนไรไม่เคยมี
๏ ซึ่งมโนราห์นั้นยืนยันชัด เขาคือภัสดามารศรี ราชบุตราแห่งปัญจาละบุรี อยากเห็นหน้าฟังพาทีมีฉันใด”
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, เนิน จำราย, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ สั่งดำเนินเชิญพระราชสาร พระสุธนรับโองการมิช้าไม่ รีบเข้าเฝ้าท้าวปทุมราชาชัย กลางพระลานกว้างใหญ่ชายเวียงวัง
๏ บังคมบาทราชา ราชินี ธ ตรัสถามความคดีแต่หนหลัง จึงกราบทูลมูลเก่าเล่าให้ฟัง ได้ยินทั้งมหาประชาคม
๏ “มีพรานบุญหนุนนำให้เสน่หา ดึงนวลน้องมโนราห์มาอุ้มสม เมื่อเราสองพบพักตร์รักเกลียวกลม ได้ชื่นชมสุขสันต์นานนับปี
๏ เหมือนดังมีเวรกรรมต้องจำพราก มโนราห์ลาจากไกลกรุงศรี ทัพยักษามาประชิดติดบุรี หม่อมฉันมีภาระต้องป้องภัยพาล
๏ จักนำพาชายาไปทำได้ยาก จำต้องฝากน้องนางไว้ในราชฐาน ครานั้นปุโรหิตมีจิตมาร คิดพร่าผลาญถึงกับต้องอับปาง
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, กร กรวิชญ์, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ลิตเติลเกิร์ล, ลมหนาว ในสายหมอก, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, เนิน จำราย, กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, ตูมตาม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ โนราห์น้องต้องหลบลี้หนีภัยร้อน เมื่อหม่อมฉันคืนนครทราบทุกอย่าง รักยังเปี่ยมล้นใจไม่จืดจาง จึงเดินทางเข้าดงมุ่งตรงมา
๏ สู้ดั้นด้นผจญภัยด้วยใจหมาย มิวางวายคืนสัมพันธ์ในวันหน้า ร่วมครองรักชื่นชีวีชั่วชีวา คือสัจจาทั้งปวงจากดวงใจ”
๏ จึงท้าวปทุมราชมีดำรัส “อันจะขัดเคืองฤดีหามีไม่ ผิว่าเราเผ่าพันธุ์ต่างกันไป แต่ก่อนไรมนุษย์กับกินรี
๏ มิเคยชมสมสู่เป็นคู่สอง ร่วมเคียงครองประจักษ์เป็นสักขี เทพ คนธรรพ์ ครุฑาประดามี ว่าบัดสีติฉินนินทากัน
๏ จักพิสูจน์พระบุตราในครานี้ สำแดงกิตติ์ฤทธีให้ลือลั่น แม้นโลกามาประจักษ์ศักดิ์อนันต์ เหล่าเทวัญจักอำนวยอวยพรไซร้”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พระสุธนชื่นชอบทูลตอบว่า “จักตามจิตพระบิดาบัญชาให้ หนึ่งหม่อมฉันมั่นจิตฤทธิไกร ศรศิลป์ชัยเลิศในหล้าฟ้าประทาน
๏ สิ่งอันใดไม่อาจยั้งพลังกล้า อำนาจเลื่องลือชามหาศาล จักแผลงให้เห็นฤทธิ์ร้ายทะลายลาญ ของพระองค์ทรงตั้งด่านสกัดกล”
๏ ปทุมราชยินดังนั้นจึงบรรหาร กองโยธาธิการเหล่าพหล เมื่อรับพระบัญชาสาละวน แบกหามขนสิ่งกั้นกางมาวางพลัน
๏ เจ็ดลำตาลนั้นปักรายไปข้างหน้า ห่างกันต้นละวาไม่ลดหลั่น กระดานหนาห้าคืบอีกเจ็ดชั้น ไล่เรียงกันช่องละวาอย่าให้ชิด
๏ ทั้งแผ่นเหล็กแท่งศิลาหนาคัดสรร มาวางกั้นแนวไปให้ติดติด กลัวยังไม่เป็นการต้านทานฤทธิ์ ทรงพินิจเพิ่มเกวียนใหญ่ให้จัดมา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เรียงเป็นแถวแล้วให้ขนทรายใส่ สลับไปกับก้อนกรวดอัดแน่นหนา ละเจ็ดเล่มเต็มตามจินตนา เพื่อทานท้าฤทธิรอนศรศิลป์ชัย
๏ ในครานั้นราชาปทุมราช ทรงประกาศ “ค่ายกลพร้อมทนได้ แม้นศรมีเดชาฝ่าออกไป ย่อมยิ่งใหญ่ฟูเฟื่องโลกเลื่องลือ
๏ จักเป็นที่เคารพกินรา คนธรรพ์ ครุฑ เทวามานับถือ เลิกสนเท่ห์เดชะเกียรติระบือ มิขานชื่อติฉินเที่ยวนินทา”
๏ พระสุธนรับโองการประทานให้ เสด็จสู่หมู่กลไก ณ เบื้องหน้า ทรงตั้งจิตพิษฐาน “กาลก่อนมา สร้างบุญญาใดไว้โปรดได้ดล
๏ การสำแดงเดชาในครานี้ ขอจงมีอิทธิฤทธิ์ประสิทธิผล” จบคำวอนเทวานภามนต์ พระสุธนแผลงศิลป์ชัยออกไปพลัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนฟ้า ทะลวงฝ่าทำลายทั้งหลายกั้น ย่อยยับลงเป็นผุยผงและฝุ่นควัน เห็นเป็นที่อัศจรรย์ทุกดวงใจ
๏ ท้าวปทุมราชันนั้นเริงร่า ฤทธิรุทรราชบุตราแสนยิ่งใหญ่ เอ่ยวาจา “บิดาวางฤทัย แลมิใช่กีดกันด้วยฉันทา
๏ มีอีกสิ่งนิ่งนานแต่กาลก่อน มิมีใครทำให้คลอนด้วยแน่นหนา คือบัลลังก์หนักแสนแท่นศิลา จักนำพาโยกย้ายมิได้เลย
๏ หากเจ้ายกย้ายวางได้อย่างว่า ยอมเลื่อมใสในเดชาอย่างผ่าเผย เจ้าจักได้มโนราห์มาชมเชย” สิ้นคำเปรยพระบุตรามุ่งหน้าไป
๏ เมื่อถึงที่แท่นศิลาหน้าพระลาน เริ่มทำการผลักดันมิสั่นไหว จึงตั้งจิตพิษฐานกาลก่อนไร หากบุญญาสร้างมาไซร้ให้บันดาล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เกิดอิทธิพลังดังมั่นหมาย แรงเคลื่อนย้ายแท่นศิลามหาศาล สมดังคิดด้วยกฤษฎาการ ดุจเทวาอภินิหารบันดาลดล
๏ จึงเกิดเสียงแซ่ซ้องร้องสรรเสริญ บุญญาล้ำจำเริญพระกุศล จบพิธีลองฤทธาพระสุธน จึงเริ่มต้นงานฉลองก้องกรุงไกร
๏ และพิธีพลีทานทั้งสิบทิศ มากมวลมิตรต่างวงศ์วานสัมพันธ์ใกล้ มิกีดกันฉันทามารวมใจ อวยพรชัยทุกชีวีด้วยปรีดา
๏ ครั้นเมื่อเสร็จสิ้นงานเช้าวันใหม่ ทรงโปรดให้พระสุธนขึ้นเฝ้าหา เพื่อจะได้พบปะมโนราห์ ก็อย่าช้ารีบผ่านอีกขั้นตอน
๏ ได้ยินคำย้ำความตามเคยว่า “แต่ไรมามิสัมพันธ์กันมาก่อน อยากให้การณ์นั้นถ่องแท้และแน่นอน พระบิดรมิได้แกล้งแหนงฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ เนิ่นนานมากที่ลูกพรากจากเมียรัก ยังจำพักตร์หรือลืมแล้วไฉน ถ้ายังจำได้แท้มิแปรไป ก็จักได้อภิเษกสมฤดี”
๏ พระสุธนกมลชื่นรื่นนักหนา “ภาพตรึงตราผ่องพริ้มพิมพ์ฉวี ย่อมจำได้ให้เนิ่นกาลนานกี่ปี” จบวาทีท้าวปทุมราชัน
๏ เรียกนางจันท์กินรีมีโองการ “จงรีบไปทำงานขมีขมัน แต่งองค์เจ็ดธิดาโสภาพรรณ เครื่องทรงให้เหมือนกันทั่วสรรพางค์
๏ เครื่องประดับทับทรวงมณีรัตน์ กำไลหัตถ์ธำมรงค์ไม่ให้แตกต่าง เมื่อแต่งเครื่องทรงเสร็จทั้งเจ็ดนาง จงร่ายรำกันตามอย่างที่เคยมา
๏ สลับพี่น้องไม่ไล่ลำดับ เมื่อเสร็จสรรพให้นั่งอยู่ข้างหน้า โอกาสดีที่สุดพระบุตรา เข้าชี้องค์ชายาที่เคยครอง”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พระนางจันท์กินรีมิรอช้า รีบไปหาเจ็ดกินรีที่ในห้อง สั่งให้สรงสรรพางค์ที่อ่างทอง แล้วจักต้องแต่งกายให้โสภี
๏ ชุดฟ้อนรำประจำองค์แต่งทรงสรรพ เครื่องประดับมิต่างแบบอย่าง สี ลองทักษะพระสุธนคนต้องชี้ น้องและพี่ไม่ลำดับสลับกัน”
๏ พร้อมทั้งสิ้นกินรีเจ็ดพี่น้อง ออกรำร้องงามทั้งหลายไม่ลดหลั่น พระสุธนฉงนจิตคิดงงงัน แลองค์นี้องค์นั้นมิมั่นใจ
๏ ชมร่ายรำล้ำศิลป์คือปิ่นนาฏ กลัวผิดพลาดหนักฤดีชี้มิได้ จนท่าร่ายรำครบจบลงไป หวนฤทัยอ้างบุญญาบารมี ๏ “หากเราสองคู่ครองแท้แต่ปางก่อน เสน่หาอาวรณ์มิหน่ายหนี ขอเทพไท้เทวาโปรดปรานี แนะชายาข้านี้ชี้องค์ใด
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|