เมื่อพันแสงแห่งรักสลักร่าง
ราตรีจางรางเลือนเขยื้อนถอย
มวลหมู่ดาวพราวพร่างเวิ้งว้างพลอย-
อีกทิ้งถ่วงดวงน้อยหลบผล็อยลง
เริ่มทอแสงแฝงเร้นบนเส้นฟ้า
รอเวลาทาทาบเพื่ออาบสรง
ชมพูนุทผุดผาดเอี่ยม-อาด-องค์
บนเส้นวันมั่นคงซื่อตรงกัน
ลิขิตบทจดจำควรคำคิด
ย้อนพินิจพิศดูจะรู้สรร
เล่ห์อุบายกลายกร่างเมื่อสางวัน
แต่กระนั้นมั่นเหมาะเฉพาะคน
กลมกลืนกลับลับลวงติดบ่วงเร้น
ดวงที่เฟ้น-เด่น-ดับ ฤ สับสน
ทั้งดี-ร้าย-ส่ายสับขยับกล
ทุกแห่งหนชนชาติมิขาดเกิน
หากยังก้าว-สาวต่อการก่อเกิด
ให้บรรเจิดเพริศ-พบ ขัน-ขบ-เขิน
เห็นแจ่มแจ้งแทงใจทหัยเมิน
ชวนเชื้อเชิญเดินใดอย่าใคร่จม
ยามพันแสงแห่งฟ้าลีลาล่อง
ผาดผุดผ่องส่องวาบระนาบสม
สุขเสน่ห์เสสรวงแดดวงชม
ทุกข์ระทมจมหายสลายที
ยามพันแสงแรงจ้าหรี่ตาสบ
เจ้าคงหลบลบเลือนแล้วเบือนหนี
อรุณรุ่งพรุ่งวันสุขสันต์มี
เลื่อมเวลาผันสีฤดีเลือน...
"พันแสง"