บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 15, พฤศจิกายน, 2556, 08:48:07 AM



หัวข้อ: สงครามคือความโง่ของมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 15, พฤศจิกายน, 2556, 08:48:07 AM


สงครามคือความโง่ของมนุษย์


       สงครามสมัยก่อนหมายถึงก่อนประวัติศาสตร์อาจจะผิดกับสงครามในปัจจุบันบ้างด้วยจุดมุ่งหมายที่ต่างกัน สงครามสมัยก่อนอาจจะพูดไม่ได้เลยว่าเป็นความโง่ของมนุษย์ที่สืบเนื่องจากผลประโยชน์แต่สงครามในปัจจุบันพูดได้เต็มปากว่า "สงครามคือความโง่ของมนุษย์ที่สืบเนื่องจากผลประโยชน์"


        สงครามสมัยก่อนน่าจะจัดในรูปปกป้องตัวเอง ในรูปการขยายอำนาจ ด้วยสมัยนั้นมนุษย์เริ่มรวมตัวอยู่กันเป็นกลุ่ม เป็นพวก จึงมีการแย่งชิงที่อยู่ที่อาศัย ที่ทำกิน สงครามสมัยก่อนจึงพูดไม่ได้เต็มปากว่า "สงครามคือความโง่ของมนุษย์ที่สืบเนื่องจากผลประโยชน์"


        สำหรับสงครามสมัยใหม่เป็นสงครามที่อยู่ในรูปของผลประโยชน์ เราเริ่มเห็นเรื่องนี้ชัดขึ้นตอนชาวตะวันตกล่าอาณานิคม โดยเฉพาะในแถบเอเชียที่เราทราบกันดีการทำสงครามเพื่อล่าอาณานิคมก็คือการหวังผลประโยชน์เกี่ยวกับวัตถุดิบในประเทศนั้น ๆ ด้วยเหตุที่ชาวตะวันตกมีความเจริญด้านวิทยาศาสตร์มาก่อนมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่าทำให้มีความพร้อมที่จะแย่งชิงอำนาจประเทศอื่น ๆ ได้ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย จะเห็นว่าในเอเชียหลายประเทศที่ตกเป็นอาณานิคมชาวตะวันตก เช่น ลาว เขมร เวียดนาม เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส พม่า อินเดีย มาเลเซีย เป็นอาณานิคมของอังกฤษเป็นต้น นี่คือตอนแรก ๆ ของสงครามเพื่อผลประโยชน์


          สงครามแบ่งฝ่าย 2 ขั้ว ระหว่างเสรีนิยม กับ คอมมิวนิสต์ นั้นก็เป็นการแย่งชิงผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สมัยนั้นประเทศอเมริกาเป็นผู้นำฝ่ายเสรีประชาธิปไตย (ลัทธิทุนนินม) ส่วนประเทศรัสเซียเป็นผู้นำฝ่ายคอมมิวนิสต์ (ลัทธิสังคมนิยม) ทั้งสองประเทศต่างใช้นโยบายหาสัมพันธมิตร ต่างหาประเทศต่างเป็นพวกเดียวกัน จึงกับแบ่งฝ่าย จนเกิดเป็นสงครามแบ่งแยกดินแดน เวียดนามเหนือ เวียดนามใต้ เขมรแดง เขมรเสรี ในประเทศลาวก็สู้รบ สำหรับในประเทศไทยเองก็เข้าสู่สงครามในลักษณะนี้เช่นกัน เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ ก็ยังแบ่งเป็นฝ่ายเสรี และคอมมิวนิสต์

             ที่สูญเสีย และไม่ชอบธรรมที่สุดก็คือ อเมริกามาเข้าร่วมสงครามในเวียดนาม โดยอยู่ฝ่ายเวียดนามใต้ ซึ่งเป็นฝ่ายเสรินิยม สมัยนั้นประเทศไทยเองก็เข้าร่วมสงคราม ในลักษณะทหารรับจ้างของอเมริกาด้วย แถมไทยยังให้สหรัฐอเมริกาตั้งฐานทัพที่สนามบินอู่ตะเภา ข่าวว่าเครื่องบิน บี 52 ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ก็ใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์ปฏิบัติการ ส่วนประเทศอื่น ๆ ที่เข้าร่วมรบก็มี ซึ่งถืออยู่ในฐานะสัมพันธมิตรของสหรัฐ ฝ่ายเวียดนามเหนือมีผู้สนับสนุนอาวุธคือรัสเซีย และจีน นี่คือสงครามแบ่งฝ่าย เพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ


              สหรัฐอเมริกามีความคิดว่า หากเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ ประเทศในแถบคาบสมุดอินโดจีน จะเป็นคอมมิวนิสต์หมด ในลักษณะของโดมิโน ที่ล้มทับกันไปเป็นทอด ๆ สหรัฐกลัวทฤษฎีนี้มาก จึงคาดการว่าหากไม่ตัดไปแต่ต้นลม คือ ปราบเวียดนามให้อยู่มือเสียก่อน ประเทศในแถบคาบสมุทรอินโดจีน กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และประเทศที่อยู่ถัดไปเรื่อย ๆ จะมีโอกาสเป็นคอมมิวนิสต์หมด นี่จึงเกิดสงครามมหาโหดขึ้น นี่หรือความฉลาด นี่หรือคุณธรรม นี่หรือสังคมมนุษย์ แล้วความสุขที่แท้จริง ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้สอนไว้ ทำไมเราเมินหน้าหนี เราชาวพุทธแท้ ทำไมไม่เอาแก่นแท้ของพุทธศาสนามาตีแผ่ให้โลกรู้เสียที อย่าให้สงครามตีแผ่เลย

              สงครามในอัฟกานิสถาน สงครามในอีรัก สงครามในซีเรีย ว่ากันว่าเป็นสงครามผลประโยชน์ เช่น กัน คือประโยชน์ด้านน้ำมัน ธุรกิจน้ำมัน จะจริงเท็จแค่ไหนลองหาข้อมูลกันดู


             การที่ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ยังให้การสนับสนุนทางทหาร  การวางแผนให้เห็นรัฐบาลแต่ละประเทศมีความรู้สึกกังวลในเรื่องความไม่มั่นคงก็ดี   การผลักดันใหเซื้ออาวุธก็ดี  ยิ่งประเทศที่ยังมีการโกงกินกันอย่างกว้างขวางย่อมเป็นเหยื่อของผู้ค้าอาวุธ  อาวุธ   เครื่องบินรบ  อะไรต่อมิอะไร ที่เกี่ยวกับสงคราม มีราคาแพงทั้งนั้นประเทศที่ผลิตอาวุธส่งออก ทำเงินเข้าประเทศมหาศาล นี่คือการค้าที่ซ้อนเร้นในรูปแบบหนึ่ง  ถามว่าเราได้อะไรจากสงคราม   อาวุธไม่สามารถนำมาเป็นเครื่องวัดอารยธรรมได้เลยแม้แต่น้อย ซ้ำบงบอกถึงความเป็น"อนารยธรรม"

             สงครามเศรษฐกิจในรูปแบบหนึ่ง และแบบใหม่ มีการซ่อนรูปอยู่มากมาย ที่เรียกสงครามเศรษฐกิจเพราะมีการเอาเปรียบ ได้เปรียบ ในรูปแบต่าง ๆ การขายตรงของบริษัทต่าง ๆ ในลักษณะที่เห็นเด่นชัดที่เข้ามาแรก ๆ ก็คือ การขายตรงของ แอมเวย์ จากนั้นก็มีบริษัทอื่น ๆ ตามมามากมาย ศูนย์การค้าต่าง ๆ เช่น โลทัส บิกซี หรืออื่น ๆ ทำนองนี้ การใช้ระบบเงินผ่อนนี่ก็สงครามเศรษฐกิจ ธนาคาร ไฟแนนซ์ หรืออื่น ๆ ที่อยู่ในลักษณะนี้ก็เป็นยุทธวิธีสงครามเศรษฐกิจ


         ที่ใช้คำว่ายุทธวิธีสงครามเศรษฐกิจ เพราะเมื่อผู้ใดเข้าในวงจรนี้ ล้วนแต่เป็นทาส ของระบบนายทุน ทำงานเพื่อนายทุน เกิดมาเพื่อใช้แรงงาน ให้นายทุนเอาเงินทองไปบำเรอความสุขที่เกินความจำเป็น เกินความต้องการ ในที่สุดก็ทำลายสภาพแวดล้อม และธรรมชาติอันบริสุทธิ์ สร้างมลภาวะให้โลกโดยไร้ประโยชน์อีกด้วย


        นี่เป็นเพียงข้อคิดส่วนหนึ่งส่วนน้อย ที่มนุษย์นำสงครามมาใช้ในรูปแบบต่าง ๆ ในสถานการณ์ต่าง ๆ นี่คือความโง่ของมนุษย์ที่หลงกับวัตถุ เงินตรา จนทำให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในวงจรที่ ต้องดิ้นรน ต้องวุ่นวาย ต้องเดือนร้อน ต้องเป็นทาสแรงงาน พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว สอนไว้แล้ว ว่าเราเกิดมาทำไม หากวันไหนมนุษย์รู้แจ้งอย่างพระพุทธองค์สอนไว้ วันนั้น.. ความสันติสุขกลับมาสู่โลก

        หมายเหตุประเทศไทย : สงครามสองขั้วระหว่างแดงเหลืองใด  ชาวไทยควรคิด
                                                                                               15 พฤศจิกายน 2556
http://naturedharma.com/data-1434.html





                                      (มีภาคผนวก เรื่องสงคราม จะนำเสนอในบทต่อไป)



หัวข้อ: Re: สงครามคือความโง่ของมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: ufonotuz39 ที่ 09, ธันวาคม, 2556, 12:14:55 PM
ก็จริงน่ะครับผม


หัวข้อ: Re: สงครามคือความโง่ของมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09, ธันวาคม, 2556, 07:46:01 PM


 :035: