...-๐ กลบท ตรีประดับ ๐-... ...-๐ ขลุ่ยสะอื้นคืนค่ำครวญ ๐-...
๑. โอ้ชีวาว่าว้าวุ่น ครุ่นครวญคิด
อ้างว้างว่างวางจิต ชีวิตหนอ
ความรักเราเร่าเร้ารุม สุมพะนอ
อกเริ่มท้อย้อนย้ำย่ำยำเยง
๒. แสงดาวราง ร่างร้างแลลับหาย
เวลาล่าล้ากายก็โหวงเหวง
หยิบขลุ่ยเลา เล่า, เล้าโลม โหมบรรเลง
ผ่านบทเพลงแทรกซอน ซ่อน-ซ้อนทรวง
๓. สำออยอ่อยอ้อยอิ่งพริ้งแผ่วหวาน
จากดวงมานรำพึงห้วงห่วงหวง
ปล่อยวางว่างว้างเวิ้งหวั่นแดดวง
หวังโศกล่วงจรุงรุ่ง รุ้งเรืองรอง
๔. เสียงขลุ่ยคลอเอ๋ยโอ โอ่โอ้อก
ยิ่งสะทกใจราวร่าวร้าวหมอง
แรมรอนร่อนร้อนอุรา น้ำตานอง
เคียงประคองขลุ่ยค้ำ ค่ำคำนึง ๚๛
...
- Black Sword -
(หมู มยุรธุชบูรพา)
...
ขอบคุณภาพจาก Internet
...
๐-------------------------๐
"กลบทตรีประดับ" บางท่านเรียก "อักษรประดับ"
กำหนดพิเศษเพิ่มจากกลอนทั่วไป คือ
- ๐.) ภายใน ๑ วรรค ให้มีการเรียงคำ ๓ คำในลักษณะการผันรูปวรรณยุกต์ โดยเรียงจาก "สามัญ เอก โท" หรือจะสลับ "โท เอก สามัญ" ก็ได้ เช่น ออยอ่อยอ้อย หรือ อ้อยอ่อยออย เป็นต้น
ความคิดเห็น : คำที่นำมาเรียงผันวรรณยุกต์แต่ละคำ เมื่อผันแล้วควรเป็นคำที่มีความหมายอยู่ในตัว และสื่อความหมายกลอนในแต่ละวรรคได้จริง มิเพียงแค่นำคำมาผันเอาแต่ฉันทลักษณ์โดยไม่คำนึงถึงความหมาย
** กลบทนี้มีปรากฏที่มาทั้งใน "กลบทศิริวิบุลกิตติ์" และ "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"