บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: กรกช ที่ 24, มิถุนายน, 2566, 08:25:52 PM



หัวข้อ: ทำไมคนไทยถึงเรียกชาวยุโรปว่า "ฝรั่ง" ?
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 24, มิถุนายน, 2566, 08:25:52 PM


(https://i.ibb.co/Zz36HFZ/Screenshot-2023-06-24-202118.png) (https://ibb.co/8gJDzfh)



ทำไมคนไทยถึงเรียกชาวยุโรปว่า "ฝรั่ง" ?

นี่เป็นอีกหนึ่งคำถาม ที่มีใครหลายต่อหลายคน สงสัยมาอย่างเนิ่นนาน กับคำถามที่ว่าทำไมคนไทยถึงเรียกชาวยุโรปผิวขาวว่า "ฝรั่ง" ด้วย
รวมไปถึง ยังสงสัยอีกว่า ฝรั่งซึ่งเป็นผลไม้ลูกสีเขียวนั้น มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนฝรั่งหรือไม่ ?
ดังนั้นเพื่อคลายข้อสงสัยนี้ แอดมินจึงขอนำทุกคนย้อนเวลา เพื่อไปทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของคำว่า "ฝรั่ง" ผ่านประวัติศาสตร์ที่ยาวนานนับพันปี ถ้าพร้อมกันแล้วไปพบกับเรื่องราวสนุกๆ นี้ได้เลยครับ ...
-----
หลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (Western Roman Empire)  ซึ่งเป็นมหาอำนาจของยุโรปในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 5 นั้น ก็ได้เกิดการก่อตั้งอาณาจักรของบรรดาชนชาติใหม่ ๆ ขึ้นมา ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ อาณาจักรของกลุ่มอารยชนเชื้อสายเจอร์มานิก (Germanic Tribes) ที่เรียกตัวเองว่า "ชาวแฟรงค์" (Frank)
ชาวแฟรงค์ เป็นกลุ่มชนเชื้อสายเจอร์มานิก ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่พูดภาษาตระกูลเยอรมันโบราณ ซึ่งภาษานี้จะมีอยู่ด้วยกันหลายสำเนียง
โดยสำหรับชาวแฟรงค์นั้นจะพูดภาษาในสำเนียงตะวันตก (Western Germanic Languages) ซึ่งในเวลาต่อมาภาษาในสำเนียงนี้จะพัฒนากลายมาเป็น ภาษาอังกฤษ ภาษาเยอรมัน รวมไปถึงภาษาดัตช์ เป็นต้น
นับแต่คริสตศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา ชาวแฟรงค์ก็ได้เริ่มสร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นมา อาณาจักรแฟรงค์รุ่งเรืองถึงขีดสุดในช่วงคริสตศตวรรษที่ 8 ภายใต้การนำของกษัตริย์นามว่า "ชาร์เลอมาญ" (Charlemagne) อาณาจักรของพวกเขาครอบคลุมดินแดนตั้งแต่ฝรั่งเศสจรดถึงเยอรมัน
และด้วยความยิ่งใหญ่ของชาวแฟรงค์นี้เอง ก็ได้ทำให้บรรดาเชื้อชาติต่าง ๆ บริเวณรอบ ๆ ทวีปยุโรป ต่างเรียกขานชาวยุโรปผิวขาวในช่วงเวลานั้นว่า "ชาวแฟรงค์" นั้นเอง
-----
กาลเวลาผ่านไปจนถึงช่วงคริสตศตวรรษที่ 11 ก็ได้เกิดสงครามศาสนาครั้งใหญ่ซึ่งก็คือสงครามครูเสด (Crusade) ระหว่างชาวคริสต์กับชาวมุสลิม เพื่อแย่งชิงนครศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็ม (Jerusalem) สงครามนี้กินเวลายาวนานนับร้อยปี จนสิ้นสุดลงในช่วงปลายคริสตศตวรรษที่ 13
โดยสำหรับชาวมุสลิมนั้น พวกเขาได้เรียกนักรบชาวคริสต์และชาวยุโรปผิวขาวว่า "ชาวแฟรงค์" เช่นกัน แต่เรียกตามภาษาอาราบิกของพวกเขาว่า "ฟร็อนญจี" (Frankji)
เมื่อสงครามครูเสดสิ้นสุดลง ชาวมุสลิมอาหรับก็ได้เดินทางค้าขายไปยังดินแดนต่าง ๆ ซึ่งพวกเขาก็ได้นำคำว่า "ฟร็อนญจี" ที่ใช้เรียกคนยุโรปผิวขาว ติดสอยไปยังดินแดนที่พวกเขาทำการค้าขายอีกด้วย
และเมื่อคำว่า "ฟร็อนญจี" ของชาวอาหรับได้เผยแพร่ไปยังดินแดนต่าง ๆ แล้ว ก็ได้เกิดการผสมผสานทางภาษาในแต่ละท้องถิ่น จนเป็นคำที่คนในแต่ละท้องที่ใช้เรียกขานชาวยุโรปผิวขาวมากมายหลากหลายภาษา อาทิ
- ฟารัง (Farang) ในภาษาเปอร์เซีย
- ฟิรานจิ (Firangji) ในภาษาฮินดู
- บาลัง (Ba rang) ในภาษาเขมร
- เปอรานจิ (Perantjis) ในภาษามลายู
และสุดท้ายก็คือคำว่า "ฝรั่ง" ที่ถูกใช้ในภาษาไทยนั่นเอง
-----
เมื่อคำว่า "ฝรั่ง" ของคนไทยถูกใช้เรียกแทนคนยุโรปผิวขาว ดังนั้นอะไรก็ตามที่เป็นของคนยุโรปผิวขาว คนไทยก็จะเรียกสิ่งเหล่านั้นว่าฝรั่งเช่นกัน อาทิ
- หมากที่ชาวยุโรปชอบเคี้ยว ก็เรียกว่า "หมากฝรั่ง"
- ผักชีใบเขียวของชาวยุโรป ก็เรียกว่า "ผักชีฝรั่ง"
- ผลมันของชาวยุโรป ก็เรียกว่า "มันฝรั่ง"
และสุดท้ายผลไม้ลูกสีเขียวที่ชาวยุโรปนำเข้ามาจากโปรตุเกส ก็เรียกว่า "ผลฝรั่ง"
และทั้งหมดนี้ ก็คือประวัติความเป็นมาของคำว่า "ฝรั่ง" ในภาษาไทย ซึ่งสรุปได้ว่าคำ ๆ นี้มีที่มาจากภาษาอาหรับ ซึ่งเป็นคำที่ชาวอาหรับใช้เรียกชาวยุโรปผิวขาวนั่นเองครับ


ขอขอบคุณ

PITI Sense Apothecary โดย ลุงปีติ ชาวนาดิจิทัล

Histofun Deluxe
https://www.blockdit.com/histofun