ขอบคุณครับ "วรรณดี" ที่ดูจะให้เกียรติและยกย่องจนผมรู้สึกเขินอายไปเลย บทกลอนชุดนี้ผมได้รับการประสานจากอาจารย์ณรงค์ อิ่มเย็น ให้แต่งกลอนทำหนังสือ ชื่อชุด"กลอนกระบือ" ผมเองมิอาจขัดได้ แต่ก็เชื่อว่าคงอีกนานที่ผลงานรวมบทกลอนซึ่งมีกวีใหญ่ อาวุโสหลายท่านร่วมด้วยถ้าผมจำไม่ผิดเป็นโครงการของท่านพี่ กรองแก้ว บูรณกิจ แต่คิดว่าอีกนานกว่าจะสำเร็จออกมาเป็นเล่ม จึงเอามานำเสนอที่สมาคมกวีร่วมสมัย และที่นี่ก่อนด้วย ที่ผมกล่าวว่ามิอาจขัดอาจารย์ ณรงค์ อิ่มเย็น ด้วยเพราะว่ามีเหตุผูกพันกันมาตั้งแต่เริ่มที่ผมเข้าวงการกลอน แหละแม้จะเป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่พราะว่า เมื่อผมเข้ามาเปิดตัวครั้งแรกโดยนำผลงานกลอนพื้นบ้าน "แม่ศรีวรรณทอง" ภาค ๑ ให้ท่านและ สมาคมฯ พิจารณา ซึ่งในขณะนั้นผลงานผมยังแต่งอยู่ในแนวกลอนพื้นบ้าน (คือเต็มไปด้วยสัมผัสซ้ำและคลาดเคลื่อนจากหลักอยู่ไม่น้อย) แต่อาจารณรงค์ อิ่มเย็น ตอนนั้นท่านมีดีกรีแล้ว คือเพิ่งรับรางวัลชนะเลิศการประกวดบทกลอนช่วงเปิดสนามบินสุวรรณภูมิ บทเดียวรางวัล หนึ่งแสนบาท แต่ก็ได้รับความชี้แนะทุกสิ่งจากท่านด้วยความจริงใจทุกวันนี้ท่านก็ยังเป็นนักล่ารางวัล (คือชื่อที่ใคร ๆ เขาตั้งให้) และเป็นวิทยากร(ด้านกลอนกวี)ที่ยินดีให้ความรู้แก่เด็ก เยวชน บุคคลทั่วไป"โดยไม่ได้ถือเรื่องเงินเป็นสำคัญ เล่าให้มิตรรักนักกลอนทุกท่านฟัง เป็นบันเทิงนะครับ และถ้าหากพอจะใช้ส่วนหนึ่งส่วนใด ให้เป็นประโยชน์ เป็นกำลังใจได้บ้างก็ดีใจด้วยครับ ธนุ เสนสิงห์