บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอน ร้อยกรองหลากลีลา => ข้อความที่เริ่มโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 28, มกราคม, 2557, 11:29:38 PM



หัวข้อ: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 28, มกราคม, 2557, 11:29:38 PM
:AddEmoticons00949:

สวัสดี ทุกท่าน

 ผมได้ประพันธ์ "รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด"  ลองติดตาม "สัจธรรม" จาก "รำลึกหัวตะพานบ้านเก่า"
ผมจะทะยอยลงติดต่อกันไป และจะนำแต่ละตอนครั้งละ 5 บท  ตอนละ 50 บท  

       รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด ..1  ได้นำเสนอไปแล้วจำนวน 100 บท

     รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด 2  ..  ได้นำเสนอไปแล้วจำนวน  100   บท
 
                                                                                        
                        
                                               ด้วยความจริงใจ
                                                    
                                                          จาก
                                                      ธรรมชาติธรรม
                                           http://www.naturedharma.com
                                                      ประทีป  วัฒนสิทธิ์


 :AddEmoticons00918:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html

 
................................................


    อิ่มเอมใจในอักษรป้อนคำถ้อย
จัดเรียงร้อยบทกวีที่คิดสรรค์
มอบกวีแด่พี่น้องของกำนัล
คอยแบ่งปันสรรค์คิดจากจิตใจ

     ดุจดั่งเป็นเช่นกระจกส่องมองเห็นโลก
มุมเศร้าโศกสันติสุขแห่งยุคสมัย
มองด้วยจิตคิดคู่ธรรมนำซึ่งไท
อาจต่างไปต่างมุมมองของแต่ละฅน

     แต่อย่างน้อยแนวคิดถึงผิดถูก
คงช่วยปลูกวิจารณญาณผ่านสับสน
อาจตัดสินขอกังขาพากังวล
เพื่ออยู่บนถูกต้องครรลองธรรม

     ประทีปขอปณิธานงานอักษร
ร้อยกานท์กลอนกลั่นกรองมองเช้าค่ำ
เพื่อชี้เทาชี้ขาวกล่าวสีดำ
ผลน้อมนำสัจธรรมค้ำสังคม


ประทีป  วัฒนสิทธิ์
ธรรมชาติธรรม
www.naturedharma.com
 


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 28, มกราคม, 2557, 11:35:18 PM
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ขวัญเกลือ

      ๒๐๑  กฎระเบียบดื่มทานนั้นมิน้อย         
พ่อแม่คอยสอนเน้นเป็นกระสวน
นั่งพับเพียบขัดสมาธินี่สมควร      
ห้ามช้อนกวนเลือกกับข้าวคราวชอบพอ

   ๒๐๒   มิพูดคุยเสียงดังระวังมั่น         
เรื่องขำขันมิควรชวนหัวร่อ
เดี๋ยวสำลักอาหารพานติดคอ         
ทั้งพ่อแม่คอยสอนป้อนคุณธรรม

   ๒๐๓   เผลอช้อนดังเคี้ยวดังระวังพลาด         
ตักเรี่ยราดหกหล่นหรือจนคว่ำ
ไม่ให้เอื้อมมือคว้าอาจคะมำ         
มิตักซ้ำตักซ้อนช้อนมิวาง

   ๒๐๔  แม้ซดดังฟังชัดจัดไม่เหมาะ         
มินั่งเคาะช้อนเล่นมือเว้นว่าง
หายใจดังถอนใจหรือไม่คราง         
ทุกทุกอย่างไม่งามตามประเพณี

   ๒๐๕  มีเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเช่นความเชื่อ      
คือ“ขวัญเกลือ”“ขวัญข้าว” ขอเล่าชี้
คำว่าขวัญความหมายหรือคือความดี      
ข้าวเกลือมีดีงามตามแนวทาง
        

                                                                                                              
                                                                                             
 :AddEmoticons00918:  :AddEmoticons00942:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 28, มกราคม, 2557, 11:42:22 PM
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน

 ขี้ไต้
         ๒๐๖  หากขวัญข้าวเขากล่าวเท่าหัวเรือ      
หากขวัญเกลือเขากล่าวเท่าหัวช้าง
เทียบเล็กใหญ่หากเทียบมาเปรียบวาง      
เกลือเข้าข้างสำคัญนั้นแน่นอน

   ๒๐๗  เป็นเพราะเกลือหายากลำบากกว่า      
คงถือค่ามากมายเอาไว้ก่อน
แต่อย่างไรถ้าทั้งสองต้องขาดรอน      
จักเดือดร้อนมนุษย์สุดพรรณนา

   ๒๐๘  หากเห็นคุณเห็นดีตามที่กล่าว         
ทั้งเกลือข้าวสองนี้ล้วนมีค่า
ห้ามตกหล่นทุกทางทิ้งขว้างปา      
ต้องถือว่าทำชั่วตัวกาลี

   ๒๐๙  ความเชื่อถือสอนใดในทางอ้อม      
ทุกคนพร้อมน้อมนำตามวิถี
มิกล้าผิดคิดชอบกอบทำดี         
ความเชื่อนี้ควรปลูกฝังอย่างโบราณ

   ๒๑๐  ขอยกเรื่องขี้ใต้ให้สว่าง         
มาจากยางต้นใหญ่ขอไขขาน
บ้านผมมีร้อยกว่าน่าประมาณ         
เข้าขวบกาลหนึ่งอาทิตย์ต้องติดตาม
                                                                                                                    
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 29, มกราคม, 2557, 08:38:27 PM
 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 บอกหมัง

      ๒๑๑  เตรียมตะคบถักด้วยฟางอย่างเหนียวแน่น   
ประมาณแขนบวกคืบสืบอีกสาม
ดูพอดีพอเหมาะอ๋อพองาม         
มิมีด้ามมีคันนั้นดูดี

   ๒๑๒  เตรียมปี๊บใส่น้ำมันยางอย่างพร้อมพรั่ง      
เตรียม“บอกหมัง”ใส่ “ขี้คั่ว” เพียงเท่านี้
ตื่นแต่เช้าคดข้าวห่อมิรอรี         
พ่อแม่พี่ผมด้วยไปช่วยพลัน

   ๒๑๓  “บอกหมัง” หรือคือที่ใส่ขี้คั่ว      
สีหม่นมัวตัวดำดูขำขัน
ไผ่ตงใหญ่สองปล้องห้องทะลุกัน      
ใช้ใส่มัน“ขี้คั่ว”เจ้าตัวดี

   ๒๑๔  เจ้าตัวดีขี้คั่วตัวอะไร         
หลังเผาไฟหลุมยางยังร้อนจี่
ในหลุมยางน้ำมันนั้นพอมี         
น้ำมันนี้“ขี้คั่ว”ตัวถูกไฟ

    ๒๑๕  บอกวิธีทำยางบ้างพอรู้         
เผื่อมองดูพิจารณาว่ายากไหม
หรือได้เห็นวิถีชีวิตไพร         
เกิดเข้าใจกันบ้างสว่างตา
                                                                                                                  
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 30, มกราคม, 2557, 10:47:25 PM

:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน

 หลุมยาง

      ๒๑๖  ขั้นแรกสุดขุดเจาะยางที่โคนต้น         
หลุมห่างพ้นจากพื้นเมตรกว่ากว่า
สูงหนึ่งเมตรห้าสิบตามธรรมดา      
หลุมกว้างห้ายาวลึกสิบนิ้วประมาณ

    ๒๑๗  ภูมิปัญญาชาวบ้านการขุดหลุม      
ต้องดูมุมทิศทางอย่างมาตรฐาน
ตรงรากใหญ่นั้นดีที่ต้องการ         
ภูมิปัญญาชาวบ้านนั้นแสนดี    

   ๒๑๘  ทิ้งหลุมยางสัปดาห์อย่าไหวหวั่น         
นำน้ำมันยางใสได้แล้วนี่
วิดน้ำมันใส่ปี๊บได้ทันที         
ต่อจากนี้เผาหลุมสุมเชื้อไฟ

   ๒๑๙ เป่าตะคบทันทีมิรอช้า         
มินานหนามีควันพลันลุกไหม้
ตรวจเชื้อเพลิงอย่างดีที่เตรียมไป      
ก็ขี้ไต้จุดไฟไปเผาเลย

   ๒๒๐   มีมันยางค้างไว้ที่ในหลุม         
ขี้ไต้สุมติดทันทีมิรอเฉย
หนึ่งนาทีดับได้ให้เสบย         
รู้ไหมเอ่ยเอาอะไรดับไฟกัน
   
                                                                                                                 
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 01, กุมภาพันธ์, 2557, 11:08:20 AM
 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ขี้คั่ว

       ๒๒๑  ใบไม้สดมากมายมุมชายป่า         
หักเอามาหนึ่งกำมือถือให้มั่น
นำดับไฟในหลุมสุมลงพลัน         
มิถึงกลั้นหายใจไฟหมดเปลว

     ๒๒๒  เหลือบดูหลุมเกิดมีเรียก “ขี้คั่ว”         
ดูรูปชั่วตัวดำน้ำข้นเหลว   
รีบตักใส่ “บอกหมัง” เสียเร็วเร็ว      
คุณภาพเลวกว่า“น้ำมันยาง”

   ๒๒๓  น้ำมันยางเกิดได้ให้อย่างนี้         
ตามวิธีที่ว่าไว้ให้ทุกอย่าง
หนึ่งอาทิตย์เก็บมันใหม่ไม่เว้นวาง      
วิถีทางเก็บน้ำมันนั้นสนุกดี

   ๒๒๔   แม้นมียางเป็นร้อยน้อยเมื่อไหร่         
มันยางใสสองปี๊บใช้น่าได้ที่
อีกหนึ่งปี๊บขี้คั่วนั้นพอดี         
ต่อแต่นี้ผลิตภัณฑ์นั้นตามมา

   ๒๒๕   มันยางใสใช้ได้ในหลายด้าน         
ทาจักสานว่ากันนั้นดีหนา
ทากระด้งฝัดข้าวเข้าตำรา         
ถึงทนกว่าตึงกว่าไม่ทามัน
                                                                                                                   
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 06, กุมภาพันธ์, 2557, 01:17:40 PM
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 มันยางใส

๒๒๖  น้ำมันยางเรียกว่า “มันยางใส”      
เมื่อนำไปชุบด้ายให้ชื่อ“หมัน”
ส่วนผสมหลักมันยางใสให้สำคัญ      
เรียนรู้กันทั่วหน้าชาวประมง

   ๒๒๗  เรื่อที่ต่อด้วยไม้ไม่เชื่อมสนิท         
มันต้องปิดรอยต่อมิเหลือหลง
“หมัน” นี้เองตัวกันได้มั่นคง         
อุดตอกลงรอยร่องตามต้องการ

   ๒๒๘  เชือกด้ายชุบมันยาง “หมัน” ดีนัก      
อุดแน่นหนักยัดเน้นเป็นมาตรฐาน
หยอดมันยางตามหลังครั้งเสร็จการ      
อีกทาสมานทั่วลำด้วยมันยาง

   ๒๒๙  ปล่อยเรือแห้งทาใหม่ให้หลายซ้ำ      
น้ำมันฉ่ำซึมไม้ได้ลึกกว้าง
กันน้ำเค็มกัน “เพรียง” ได้สองทาง      
น้ำมันจางทาใหม่ไม่ต้องกลัว

   ๒๓๐ พูดถึงไต้ใช้กันนั้นนานนัก         
แจ้งประจักษ์คนใต้ใช้กันทั่ว
จุดสว่างไสวไม่มืดมัว         
ยังเป็นตัวก่อไฟได้อย่างดี

                                                                                                                      
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 07, กุมภาพันธ์, 2557, 10:14:42 PM
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ขี้ชัน
   ๒๓๑  ขอแนะนำเรื่องไต้ให้สักหน่อย         
จะเรียงร้อยขั้นทำจำถ้วนถี่
วัสดุทำไต้มากมายมี         
จะขอชี้ชื่อเห็นเป็นสำคัญ

    ๒๓๒  มันยางใส่ขี้คั่วตัวยืนพื้น         
มากสิ่งอื่นที่มีโน้นนี่นั้น
เปลือกเสม็ดเด็ดดีคลุก “ขี้ชัน”         
ด้วยใช้กันเป็นพื้นกว่าอื่นใด

   ๒๓๓  แทนเสม็ดหนึ่งได้ใช้เปลือกมะพร้าว         
สองนั้นเล่าใบ “บอจง” คงแทนได้
อีกอย่างอื่นทดแทนแค่นกันไป         
ขอเพียงให้ติดไฟได้อย่างดี

   ๒๓๔  ห่อเนื้อใต้ให้ทราบก็กาบหมาก      
หากหายากใบเตยเสียเลยนี่
แต่ใบเตยจัดไว้ในเกรดบี         
อย่างใดมีนี้ใช้ได้ดีครัน

   ๒๓๔  มันขี้คั่วผสมมันยางใส         
เป็นชื่อใหม่ทันทีนี้น่าขัน
ลองทายดูเรียกว่าอะไรกัน         
ก็“ขี้ชัน”นั้นเล่าขอเข้าใจ

                                                                                                                         
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 11, กุมภาพันธ์, 2557, 06:42:35 AM
 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ไต้  
   ๒๓๖  เริ่มขั้นแรกใช้เสม็ดคลุกขี้ชัน         
คนทั่วกันสักพักหมักทิ้งไว้
น้ำขี้ชันซึมซับกับเสม็ดไป         
นี่ “เยื่อไต้” “เนื้อไต้” ได้ออกมา

    ๒๓๗  เอาเยื่อไต้ใส่ไปในกาบหมาก         
ห่อไม่ยากยาวกลมสมปรารถนา
ผ่าศูนย์กลางสามนิ้วงดงามตา         
ศอกกว่ากว่าความยาวมิเท่าไร

   ๒๓๘  ขั้นสุดท้ายหวายมัดจัดเป็นปล้อง      
ห่างแค่สองสามนิ้วทั่วลำไต้
เอาเชือกมัดมัดมัดมัดทำไม         
ยามติดไฟไต้มิแตกแยกออกมา

   ๒๓๙   หลุมมันยางใช้ได้ให้นานโข         
หากหลุมโตเมื่อไรไม่ได้หนา
ไฟติดมากยางตายวายชีวา         
ต้องขุดหาหลุมใหม่ไปทันที

    ๒๔๐  วกมาเรื่องข้าวห่อขอเล่าขาน         
หัวตะพานอีกหนึ่งซึ่งอย่างนี้
เป็นความเชื่อนานมาเป็นประเพณี      
เป็นของดีสอนใจให้กับตน

                                                                                                                           
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:




หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 11, กุมภาพันธ์, 2557, 08:00:03 AM

  
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  ตั้งทาน

     ๒๔๑  ก่อนจะกินข้าวห่อพ่อ “ตั้งทาน”      
ภาษาบ้านเรียกอย่างนี้มิสับสน
เป็นความเชื่อว่าดีมีมงคล         
แผ่กุศลวิญญาณการแบ่งบุญ

    ๒๔๒  พ่อเคยบอกว่า “ออกชื่อถือเสียง”      
คำร้อยเรียงความหมายให้เคยคุ้น
จำมิเลือนมิลบครบต้นทุน         
ของค่าคุณจำมั่นนั้นขึ้นใจ

   ๒๔๓ ในความหมายนึกถึงซึ้ง “เจ้าที่”      
จะตรงนี่ทั่วทิศจิตเลื่อมใส
ผู้ล่วงลับนานาที่ลาไกล         
ออกชื่อได้ดั่งคิดจิตจำนง

   ๒๔๔  ก่อนกินห่อ “ตั้งทาน” มินานช้า         
เสร็จกิจจากินได้ตามประสงค์
ทานข้าวห่อไร่นาหรือป่าดง         
ก็ยังคง“ตั้งทาน”ทุกสถานไป

   ๒๔๕  หาใบตองใบไม้ใส่อาหาร         
ของตั้งทานทุกอย่างตักวางไว้
นำไปวางที่หนึ่งหรือที่ใด         
เตรียมน้ำไว้กรวดทานการต่อมา
                                                                                                                             
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



 


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 04, มีนาคม, 2557, 08:31:33 AM
 
  
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
   การทำมาหากินกันแบบเก่า

    ๒๔๖  ขณะกรวดรดน้ำผ่านใบไม้      
ออกชื่อถือเสียงไปไม่รอช้า
นั่นคือการแผ่กุศลแผ่เมตตา         
ใช้เวลาเพียงนิดสัมฤทธิ์การ

   ๒๔๗  การตั้งทานสอนใจได้ล้นเหลือ      
เป็นความเชื่อสอนใจให้ลูกหลาน
รู้จักให้จักแบ่งแห่งธรรมทาน         
รู้เจือจานพี่น้องแลผองชน

   ๒๔๘  การปลูกฝังจิตสำนึกระลึกได้         
จำต้องใช้ความเชื่อเหนือเหตุผล
อันความเชื่อประดุจดั่งยังเวทมนต์      
จักช่วยดลจิตใจเกิดใฝ่ปอง

   ๒๔๙  วิธีการหลักการในด้านสอน         
สมัยก่อนเป็นเช่นนี้ที่สนอง
ทุกทุกอย่างเป็นไปตามครรลอง      
ล้วนปกป้องเสริมสร้างสังคมดี

   ๒๕๐ การทำมาหากินกันแบบเก่า         
บ้านผมเล่าเขาอยู่รู้วิถี
ความพอเพียงเลี้ยงตนหนทางมี      
ถือเป็นศรีแห่งบ้านหัวตะพานเรา
                                                                                                                                  
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



 
 


หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 06, มีนาคม, 2557, 06:57:46 AM
 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
รสระกำหอมหวนชวนชื่นใจ
  
   ๒๕๑  ผักสวนครัวปลูกกันนั้นทุกบ้าน      
เกินต้องการเหลือใช้แบ่งให้เขา
คอยซ่อมแซมเสริมใหม่ไม่ซาเพลา      
คอยดูเช้าดูเย็นมิเว้นวัน

   ๒๕๒  ของใดใช้ทำเครื่องแกงเป็นแหล่งหลัก      
ปลูกกันนักใส่ปุ๋ยคอกออกขยัน
ตะไคร้พริกขิ่งข่าขมิ้นชัน         
พริกไทยนั้นขาดไปมิได้นา

   ๒๕๓  เม็ดดีปลีนิยมมากมาตากแห้ง         
เอาใส่แกงนิดหน่อยอร่อยหนา
สองสามเถาเลื้อยโคนไม้ใกล้ชายคา      
หากเข้ายาก็ได้เห็นใช้กัน

   ๒๕๔  พืชกินต้นกินฝักชักถ้วนทั่ว         
ประเภทหัวผลดอกใบได้ทั้งนั้น
ไม้ยืนต้นล้มลุกสารพัน         
พวกเผือกมันคูนบอนหย่อนลงไป

   ๒๕๕  กอระกำมีไว้อย่าไกลบ้าน         
คราวต้องการแกงเหลืองแบบเมืองใต้
รสระกำหอมหวนชวนชื่นใจ         
นำมาใส่สามสี่ผลน้ำข้นดี

                                                                                                                                      
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 06, มีนาคม, 2557, 09:54:24 PM
   
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
เก็บบน“ผรา”ห้าปีนี้ยังได้

   
      ๒๕๖  ล้มหลายชนิดใช้ใส่ในแกงเหลือง      
ส้มมะเฟืองมะไฟใส่ได้นี่
ฝักใบมะขามสดสดรสเข้าที         
ลูกหลุมพีมะม่วงเบาลูกเขาคัน

   ๒๕๗  ส้มมะนาวเป็นหนึ่งซึ่งเรื่องส้ม      
ทั้งแกงต้มส้มมะนาวมันเข้าขั้น
ส้มยืนพื้นประจำทุกค่ำวัน         
ที่สำคัญมันเป็นตลอดปี

   ๒๕๘  ส้มชะมวงส้มแขกมันแหกกฎ         
กินทั้งสดหรือแห้งแกงได้นี่
แต่หากแห้งแกงเหลืองอร่อยดี      
แถมยังมีตัวยาที่ว่ากัน

   ๒๕๙  เอาส่วนเนื้อส่วนเปลือกเลือกสุกหอม      
หากสุกงอมหอมกว่าแก่มิแปลผัน
ส้มชะมวงใช้เปลือกเป็นสำคัญ      
ส้มแขกนั้นเอาเปลือกเนื้อเหลือเมล็ดใน

   ๒๖๐  ฝานบางบางตากแดดแห้งมิช้า      
เก็บบน“ผรา”ห้าปีนี้ยังได้
รสยังหอมเปรี้ยวมีมิจากไป         
แกงปลาไหลต้องเลือกใส่“เปลือกชะมวง”                        
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:




หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 07, มีนาคม, 2557, 08:14:50 AM
     
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ประเพณีสืบทอดยอดเมืองไพร

   
         ๒๖๑  เปลือกชะมวงแห้งแกงกับปลาไหลย่าง      
กลิ่นมันช่างยั่วน้ำลายว่าหายห่วง
ใครได้ชิมอิ่มกมลล้นในทรวง         
สู่แมนสรวงเปรียบได้ให้ลองดู

   ๒๖๒  ต้นกระท้อนมะมุดสุดจะสอย         
สูงลิ่วลอยโตใหญ่ให้งามหรู
แกงเทโพเป็นเลิศคำเชิดชู         
เป็นที่รู้ทั่วกันรสมันดี

   ๒๖๓  ส้มที่กล่าวเล่าฟังดังขับขาน         
หัวตะพานปลูกทุกบ้านในย่านนี้
อย่างละต้นค้นดูรู้ว่ามี         
ประเพณีสืบทอดยอดเมืองไพร

   ๒๖๔  การสร้างจิตสำนึกในเรื่องนี้         
ตัวบ่งชี้ยกเสาเอกของบ้านใหม่
มีมะพร้าวกล้วยอ้อยห้อยเสาไป      
ขาดมิได้รวงข้าวน้ำตามเชื่อกัน

   ๒๖๕  พิจารณาให้ดีมีวิสัยทัศน์         
บทเรียนลัดสอนครบจบทุกชั้น
ให้รู้ว่าอาหารนั้นสำคัญ         
มุ่งบากปั่นมั่นสร้างทางทำกิน
                       
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:





หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 19, มีนาคม, 2557, 09:12:24 PM
     
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ทุเรียนใหญ่ใกล้ยางตัวอย่างมี
   
             ๒๖๖  ผักพืชผลหลายชนิดคิดสร้างไว้      
เพื่อนำใช้เป็นอาหารทานมิหมดสิ้น
สวนผสมเห็นมาอยู่อาจิณ         
ทั่วท้องถิ่นอย่างนี้มีเหมือนกัน

    ๒๖๗  นึกกินกล้วยมีกล้วยใกล้ใกล้บ้าน      
ได้รับทานปานอยู่คู่สวรรค์
ประสงค์ใดได้พบประสบพลัน      
ให้ตื้นตันหัวใจกระไรดี

    ๒๖๘  หน้าทุเรียนเฝ้าทุเรียนกันสนุก      
นึกความสุขสมัยเด็กตราบวันนี้
ทุเรียนใหญ่ใกล้ยางตัวอย่างมี      
หล่นสักทีดังก้องทั่วท้องไพร

    ๒๖๙  ลูกมันดกตกราวเข้าครึ่งพัน         
กินหลายวันมิหวั่นมิไหว
เหลือจากกินกวนเก็บกันต่อไป      
ถนอมไว้ได้นานกาลขวบปี

    ๒๗๐  เรื่องตลกจากทุเรียนพ่อเพียรเล่า      
ควายก็เข้าเกี่ยวดองของเรื่องนี้
อันเกิดจากเรื่องโม้โววาที         
ของตนมีใหญ่กว่าเข้าหากัน                      
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 22, มีนาคม, 2557, 02:37:23 PM
       
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  เพื่อนรอบข้างได้ยินหัวเราะฮา
 

   
                ๒๗๑  กระทาชายนายหนึ่งพึงเล่าว่า      
ควายของทวดของตาใหญ่มหันต์
เขาเหยียดฟ้ากำยำผิวดำมัน         
ก้องสวรรค์เมื่อร้องต้องตกใจ

    ๒๗๒  ตอนกินน้ำในคลองต้องแห้งขอด      
เวลาคลอดลูกตกพื้นครืนหวั่นไหว
มิมีอื่นฤๅเทียบเปรียบอย่างใด      
ควายนี้ใหญ่สุดใหญ่ในโลกา

    ๒๗๓  อีกฝ่ายหนึ่งพึงฟังตั้งใจมั่น         
จบเรื่องพลันเล่าต่อมิรอช้า
ทุเรียนของทวดของทวดตา         
สูงเหยียดฟ้าเช่นกันนั้นโอฬาร

    ๒๗๔  ยามผลหล่นนานหนากว่าถึงพื้น      
ตั้งสี่คืนห้าวันเลยผันผ่าน
กระทบพื้นลูกแตกถึงแหลกลาญ      
ควายของท่านที่ว่ายังมากิน

    ๒๗๕ เข้าไปคลักในเปลือกเกลือกในนั้น      
เพียรขยันกินไปไม่หมดสิ้น
แค่ครึ่งยวงอิ่มระอาน้ำตาริน         
เพื่อนรอบข้างได้ยินหัวเราะฮา
                 
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 24, มีนาคม, 2557, 08:27:43 PM
       
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ทำที่หุงปรุงหาเรียกว่า “แม่ไฟ”
   
                   ๒๗๖  วกยังเรื่องผ่านมาคราใหม่ใหม่      
กลัวลืมไปเกี่ยวเนื่องเรื่องของ“ผรา”
ก็คำใต้รู้กันนั้นธรรมดา         
ถิ่นอื่นหนาอาจไม่เข้าใจกัน

    ๒๗๗  สมัยก่อนครัวไฟผิดสมัยนี้         
ด้วยวิถีนี้เปลี่ยนหมุนเวียนผัน
เชื้อเพลิงใช้ไฟฟืนเป็นสำคัญ         
ส่วนถ่านนั้นก็ใช้ให้คู่ไป

    ๒๗๘  เมื่อใช้ถ่านใช้ฟืนยืนเป็นหลัก         
จึงรู้จักหลีกหลบพบเพลิงไหม้
ทำที่หุงปรุงหาเรียกว่า “แม่ไฟ”      
บ้านใครใครเหมือนแท้สอนแก่กัน

    ๒๗๙  เลือกดินเหนียวหรือไม่ใช้ดินปลวก      
แต่สะดวกอย่างใดได้ทั้งนั้น
ไม้กระดานหน้าห้าเอามาพลัน      
ตีกรอบกั้นพื้นผ้าสง่างาม

    ๒๘๐  ยาวเมตรครึ่งกว้างเสร็จเจ็ดสิบเซ็นฯ      
ดูงามเด่นเข้าทีมิต้องถาม
ยัดดินใส่แน่นกรอบตอบเต็มตาม      
สองสามวันผันผ่านใช้การเลย
                  
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:




หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 25, มีนาคม, 2557, 09:55:14 PM
       
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ยังติดใจเนื้อย่างของทางใต้    
   
                     ๒๘๑  บนแม่ไฟตรงกลางวางก้อนเส้า      
หรือว่าเตาหุงข้าวแม่คุณเอ๋ย
ถังเก็บถ่านขี้เถ้าแม่เจ้าเอย         
สิ่งคุ้นเคยกระทะหม้อต่อเรียงมา

    ๒๘๒  จากแม่ไฟสูงมาเมตรห้าสิบ         
พอเอื้อมหยิบตำแหน่งตั้งแผง“ผรา”
ติดตั้งเสาจากแม่ไฟให้งามตา      
เป็นสีขาสี่เสาเข้าจัดแจง

    ๒๘๓  ฟากไม้ไผ่ผูกมัดจัดเป็นผรา         
ภูมิปัญญาเก็บบริวารอาหารแห้ง
พริกกะปิแลพร้อมหัวหอมแดง      
กะปิแกงอีกคณาคละเคล้าปน

    ๒๘๔  เหล่าเนื้อย่างทุกชนิดติดผราไว้      
รมควันไฟค่ำเช้าเจ้าหอมล้น
รสพิเศษเทียบสวรรค์ชั้นเบื้องบน      
ชื่นกมลได้ทานซ่านอุรา

    ๒๘๕  ยังติดใจเนื้อย่างของทางใต้         
หอมจับใจรสรื่นชื่นนาสา
แกงกะทิตอกย้ำจำติดตา         
“ใบส้มแป้นขี้ม้า”หั่นใส่แกง
                  
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:





หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 27, มีนาคม, 2557, 11:41:33 PM
         
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 “แป้นขี้ม้า” ใส่แกงปรุงแต่งรส
   
                       ๒๘๖ “แป้นขี้ม้า” ใส่แกงปรุงแต่งรส      
ใส่ใบสดห้ามใช้ใบเหี่ยวแห้ง
แม้ใส่มากหากรสมิเปลี่ยนแปลง      
รสปรุงแต่งดีนักจักรู้กัน

    ๒๘๗  ข้าวร้อนร้อนช้อนพร้อมยอมฤๅไหว      
ราดแกงใส่ไอระเหยเย้ยสวรรค์
น้ำลายสอรอมิไหวไหลลงพลัน      
ช้อนมิทันเข้าปากอยากลิ้มลอง

    ๒๘๘  ผักสดสดวางไว้อยู่ใกล้หน้า         
ยั่วชิวหาตวัดใส่ใจเรียกร้อง
ภาพตอกย้ำน้ำลายไหลให้เอ่อนอง      
ใครคงต้องเช่นผมเหลือข่มใจ

    ๒๘๙  การเป็นอยู่เพียงพอขอกล่าวบอก      
ชาวบ้านนอกรู้ดีมีนิสัย
มิได้แปลงแต่งวิถีนี้อย่างใด         
สืบทอดไว้กันมาคราโบราณ

    ๒๙๐  เมื่ออยู่ด้วยช่วยเหลือเกื้อกูลมั่น      
มีสัมพันธ์มีรักสมัครสมาน
รู้ใส่ใจสืบต่อข้อเจือจาน         
ยึดอุดมการณ์กันมั่นสืบกันมา
                                                                                                                                
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:




หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 01, เมษายน, 2557, 11:14:38 PM
         
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ไม่ใช้เงินใช้ทองเกิดช่องว่าง
   
                            ๒๙๑  ไม่ใช้เงินใช้ทองเกิดช่องว่าง         
เป็นรอยด่างทางจิตธุรกิจค้า
คล้ายกับรู้สิ่งนั่นมันมารยา         
ตัดตัณหาสนิทสู่จิตวิญญาณ

    ๒๙๒  หากค่านิยมฝรั่งไม่คลั่งบ้า         
หัวตะพานบ้านข้าสวรรค์สถาน
ยังอยู่อย่างชั้นทิพย์หยิบพิมาน      
เป็นนิพพานสังคมอยู่ร่มเย็น

   ๒๙๓  ถึงตอนนี้มีเรื่องการเมืองแทรก
ได้แบ่งแยกถูกต้องมองให้เห็น
นำข้อมูลที่มีชี้ประเด็น
เพื่อได้เป็นปัจจัยในแนวคิด

    ๒๙๔  หัวประพานประมาณสองห้าหนึ่งหก
ดุจนรกเถื่อนถ้ำอมหิต
ไทยเกิดมีลัทธิคอมมิวนิสต์
เข้าใจผิดคนละทางอย่างงมงาย

   ๒๙๕ โลกเริ่มแบ่งแย่งชิงประชาราษฎร์
ใช้อำนาจแย่งกันนั้นสองฝ่าย
โลกเสรีซีกขวาคอยท้าทาย
ส่วนซีกซ้ายคอมมิวนิสต์คิดทะนง
                                                                                                                                
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:




หัวข้อ: Re: รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด..3
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 03, เมษายน, 2557, 09:55:19 PM
           
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
อเมริกาคลั่งไคล้ให้ไหลหลง  
   
 ๒๙๖ โลกเสรีลัทธิเสรีการค้า
อเมริกาคลั่งไคล้ให้ไหลหลง
คอยปกป้องโลกเสรีนี้ยืนยง
จึงชูธงเป็นผู้นำคอยค้ำคาน

   ๒๙๗ ประเทศโซเวียตซีกซ้ายหมายนำทัพ
ขยายขยับเขตไกลแผ่ไพศาล
จีนเวียดนามเขมรเป็นบริวาร
แลลุกลามรุ่งเรืองถึงเมืองไทย

   ๒๙๘  อเมริกากลัวเป็นเช่นอามิโน
จึงตอบโต้สกัดกั้นกันยกใหญ่
กลัวลุกลามถึงตะวันตกถึงตกใจ
กลัวเลยไปถึงแคว้นถิ่นแดนตน

   ๒๙๙  จึงยกพลโจมตีเวียดนามเหนือ
เสียเลือดเนื้อมิกสัญญีเสียปี้ป่น
อำมหิตเหลือคณาฆ่าประชาชน
ไร้เหตุผลมนุษย์สุดระยำ

   ๓๐๐  อเมริกาพี่ใหญ่ไทยเป็นน้อง
เลยเข้าครองอู่ตะเภาเราถลำ
ไทยฐานทัพฆ่ามนุษย์สุดบาปกรรม
ด้วยกระทำป่าเถื่อนเหมือนสัตว์พาล
                                                                                                                                
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948: