บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

ห้องเรียน => ห้องศึกษา กาพย์ โคลง ร่าย => ข้อความที่เริ่มโดย: Black Sword ที่ 23, ธันวาคม, 2564, 10:15:08 PM



หัวข้อ: - โคลงดั้นบาทกุญชร -
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 23, ธันวาคม, 2564, 10:15:08 PM
(http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/cl.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1624)

โคลงดั้นบาทกุญชร

      โคลงดั้นบาทกุญชร หรือ โคลงสี่ดั้นบาทกุญชร  เป็นโคลงสี่ชนิดหนึ่ง  ซึ่งนิยมแต่งในช่วงอยุธยาตอนต้น  มีลักษณะเหมือนกับโคลงดั้นวิวิธมาลี คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14024.msg51025#msg51025)  ทุกประการ  หากเขียนเพียงบทเดียวเดี่ยว ๆ จะไม่สามารถแยกความต่างได้ จะแยกได้ก็ต่อเมื่อมีบทก่อนหน้าหรือบทถัดไปให้สังเกต  เพราะสองโคลงนี้ต่างกันที่การส่งสัมผัสระหว่างบท  ซึ่งโคลงดั้นบาทกุญชร มีการบังคับส่งสัมผัสระหว่างบทไว้  ๒ แห่ง    ในขณะที่โคลงดั้นวิวิธมาลี มีการบังคับการส่งสัมผัสระหว่างบทไว้เพียง  ๑ แห่ง  นั่นเอง

          โคลงดั้นบาทกุญชร   - บทหนึ่งมี ๒๘ คำเป็นหลัก (อันยังไม่นับรวม "สร้อยโคลง" ที่เพิ่มได้อีกสองแห่ง แห่งละสองคำ ในท้ายบาทที่ ๑ และท้ายบาทที่ ๓)


         คณะโคลงดั้นบาทกุญชร

          - โคลงสี่ดั้นบาทกุญชร  หนึ่งบทมี ๒๘ คำเป็นหลัก (ไม่รวมสร้อยโคลง)

             ในหนึ่งบทนั้นมี ๔ บาท
             แต่ละบาทมี ๒ วรรค  ประกอบด้วยวรรคหน้า ๕ คำ และวรรคหลังอีก ๒ คำ รวมแล้วทั้งสี่บาทจึงมี ๒๘ คำเป็นหลัก

การนับคำในโคลง  - การนับคำในโคลงนั้น นับตามเสียงพยางค์ที่เปล่งออกมาหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคำ แต่ว่าหากคำใดที่ประกอบด้วยคำมูลที่เป็นลหุแท้ เช่น สวรรค์ พินิจ กุสุม เกษม วิหค ฯลฯ นั้น ผู้ประพันธ์สามารถนับได้ให้เป็น ๑ คำ หรือ ๒ คำก็ได้ แล้วแต่เจตนาของผู้เขียน แต่หากเป็นลหุลอยที่มีความหมายเฉพาะตัว เช่น จะ มิ เพราะ และ เตะ ฯลฯ จะนับเป็น ๑ คำเท่านั้น  

       และในการแต่งโคลงดั้นบาทกุญชรนั้น มีจุดบังคับต้องใช้คำสุภาพ (คำที่ไม่มีรูปวรรณยุกต์) อยู่ ๔ แห่ง
       คือ คำที่ ๗ ในบาทแรก ,คำที่ ๕ ในบาทที่สองและบาทที่สาม และ คำที่ ๗ ในบาทที่สี่ นั่นเอง

และเฉพาะคำที่ ๗ บาทที่สี่  (ซึ่งเป็นคำจบของบท) จะไม่ใช้คำตาย เพื่อเอื้อต่อการออกเสียงจริงเวลาอ่านหรือขับโคลง
 


หัวข้อ: Re: โคลงดั้นบาทกุญชร
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 23, ธันวาคม, 2564, 10:16:23 PM
(http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/cl.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1624)

การแต่งโคลงดั้นบาทกุญชร

   ๑. สัมผัสบังคับ

            การสัมผัสในบทของโคลงดั้นบาทกุญชรนั้น มีจุดบังคับรับ-ส่ง สัมผัสสระภายในบท ตามตำแหน่งที่โยงเส้นดังแสดงไว้ในผัง คือ

   ๑.๑  สัมผัสบังคับ ภายในบท  (ดูผังด้านบนประกอบ)

            โคลงดั้นบาทกุญชรนั้น มีสัมผัสบังคับภายในบทเพียง ๒ แห่งเท่านั้น ต่างกับโคลงสี่สุภาพที่ต้องมี ๓ แห่ง คือ
 
  - คำที่ ๗ ของบาทแรก ให้ส่งสัมผัสสระไปยังคำที่ ๕ ของบาทที่สาม
  - คำที่ ๗ รูปโทของบาทสอง ส่งสัมผัสสระไปยังคำที่ ๕ รูปโทของบาทที่สี่  แต่บางกรณีหากจำเป็น ก็อนุโลมร่นมาสัมผัสคำที่ ๔ แทนได้ หากว่าคำหรือเนื้อความบังคับ  แต่มักจะนิยมคำที่ ๕ มากกว่า

   ๑.๒  สัมผัสบังคับ ระหว่างบท  (ดูผังด้านบนประกอบ)

อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า   โคลงดั้นบาทกุญชร  นั้น กำหนดบังคับสัมผัสระหว่างบทไว้ ๒ แห่ง  คือ

- คำที่ ๗ ในบาทที่ ๓ ของบทก่อนหน้า  ส่งสัมผัสสระไปยังคำเอก  ในบาทที่ ๑ ของบทถัดไป  
- คำสุดท้ายในบาทที่ ๔ ของบทก่อนหน้า  ส่งสัมผัสสระไปยังคำที่ ๕  ในบาทที่ ๒ ของบทถัดไป

          อย่างนี้ตลอดไป  เช่น

          ๐     อีกโคลงแบบดั้นหนึ่ง            พึงยล
          บอกเช่นบาทกุญชร                     ชื่ออ้าง
          วิธีที่เลบงกล                                แปลกก่อน
          ยากกว่าบรรพ์แสร้งสร้าง              อื่นแปลง

          ๐     สองรวดกลอนห่อนพลั้ง         ผัดพจน์
          เฉกสี่เชิงสารแสดง                        ย่างผ้าย
          สัมผัสทั่วทุกบท                            ฤๅเคลื่อน คลายเอย
          บงดั่งบาทช้างย้าย                        ต่อตาม ฯ
                                                                   (จินดามณี)


          ตามรูปแบบสัมผัสบังคับ  เมื่อได้พิจารณาจะเห็นได้ว่า  ตั้งแต่บาทแรกเลยนั้น บาทคี่ส่งสัมผัสให้เฉพาะบาทคี่  บาทคู่ส่งสัมผัสให้เฉพาะบาทคู่  ตลอดทุกบาท  เป็นเช่นนี้เกี่ยวเนื่องกันไปตลอดไม่ว่าจะสักกี่บทก็ตาม (บาทคี่กับบาทคู่จะไม่ส่งและรับสัมผัสกันเลย)  ซึ่งต่างจากโคลงสี่สุภาพคลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6280.msg21577#msg21577) ที่สัมผัสระหว่างบาทคร่อมกันได้


   ๒.  คำเอก คำโท

          ในหนึ่งบทของโคลงดั้นบาทกุญชรนั้น มีการกำหนดบังคับใช้คำรูปวรรณยุกต์เอกไว้  ๗ แห่ง และโท ๔ แห่งเช่นเดียวกับโคลงสี่สุภาพ ต่างกันตรงที่คำโทในบาทที่สี่นั้น  ย้ายมาอยู่ในคำที่ ๔ และ ๕ เป็นคำโทคู่ชิดติดกัน ดังที่แสดงในผัง  และยังใช้รับสัมผัสที่ส่งมาจากบาทที่ ๒ ได้ทั้งคู่อีกด้วย  (ดูผังประกอบ)
(วรรณกรรมยุคเริ่มต้นก่อนคลี่คลาย  บาทสี่อาจใช้คำโทแบบแยก คือมีคำคั่นคำหนึ่ง หรือคำโทแบบเดี่ยว ๆ ซึ่งปัจจุบันไม่ใช้แล้ว)

          นอกนี้แล้ว คำที่เหลืออีก ๑๗ คำ จะมีรูปวรรณยุกต์หรือไม่ก็ได้ แต่หากเป็นคำสุภาพได้ก็งามตา

          อนึ่ง ตำแหน่งที่บังคับรูปวรรณยุกต์เอก ๗ แห่งนั้น สามารถใช้ "คำตาย" แทนได้  (คำตาย คือ คำที่ใช้สระเสียงสั้นไม่มีตัวสะกด เช่น เกาะ มิ ชะ มุ และ คำที่สะกดด้วยแม่ กก กบ กด (กบด) เช่น ลูก กาบ มิตร เป็นต้น )


   ๓.  การสลับตำแหน่งคำเอก-คำโท ในโคลง

          ในโคลงดั้นบาทกุญชรนั้น ตำแหน่งคำเอก คำโท ในโคลงที่บังคับไว้นั้น
สามารถสลับที่กันได้หนึ่งแห่ง นั่นคือ คู่คำเอก-โท ในคำที่ ๔-๕ ของบาทแรกหรือ "บาทต้น" นั่นเอง
ทั้งนี้ทั้งนั้น สลับได้เฉพาะบาทนี้เท่านั้น ตรงตำแหน่งอื่นไม่สามารถสลับได้

          ** และเมื่อสลับแล้ว  คำเอกที่ย้ายมาอยู่คำที่ ๕  ก็ต้องไม่ลืมรับสัมผัสจากท้ายบาทที่สามของบทก่อนหน้านี้ด้วย


   ๔.  การใช้เอกโทษ-โทโทษ

                  รายละเอียดเรื่องคำเอกโทษ  คำโทโทษที่ใช้ในโคลง  คลิกอ่านได้ ที่นี่ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6280.msg21581#msg21581)


   ๕.  คำสร้อย

                  รายละเอียดเรื่องคำสร้อยที่ใช้ในโคลง  คลิกอ่านได้ ที่นี่ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6280.msg21579#msg21579)

                  โคลงดั้นบาทกุญชร หากเนื้อความยังไม่สิ้นกระแส สามารถใช้สร้อยต่อท้ายในบาทที่ ๑  และบาทที่ ๓  เสริมความให้จบกระแสได้เช่นเดียวกับโคลงสี่สุภาพ  

                  หมายเหตุ : คำสร้อย นอกเหนือจากบาทที่ ๑  และบาทที่ ๓ แล้ว   ในบาทที่ ๔ ก็สามารถใช้คำสร้อยได้เช่นกันอีกสองคำต่อท้าย   แต่นิยมสร้อยแบบซ้ำคำ  เช่น  

                  มุ่งเห็นเมืองสมุทรทั้ง ........ ทิมชเล
                  หญิงหย่อนอวนปลาแอ .... อัดปลํ้า
                  จรลาดเหล่าเรือเร ............. รับช่วง
                  ปากแม่ค้าผํ้าผ้ำ ............... ผาดเสียงแถมเสียง
                                                                  (พระยาตรัง)

                  จากตัวอย่างนั้นคือบาทที่สี่ของโคลง  ซึ่งปกติต้องจบแค่ ๗ คำเท่านั้น  แต่เติมสร้อยได้อีกสองคำ คือ คำว่า แถมเสียง  ที่เน้นสีแดงไว้ให้เห็น  และอย่างที่บอกคือ ใช้แบบสร้อยซ้ำคำ ในที่นี้ คือ  คำว่า เสียง  นั่นเอง  และไม่ต้องเว้นช่วงด้วย เขียนติดกันไปได้เลย

                  ส่วนศิลปะการสร้างความไพเราะนั้น เช่น การเล่นคำ หรือการนิยมเล่นสัมผัสอักษรระหว่างวรรคหน้าและวรรคหลัง หรืออื่น ๆ นั้น  ไม่ต่างกับโคลงสี่ทั่วไป
                               ๐ ------------------------------- ๐

   บทเสริม

                  นอกจากคำสร้อยแบบดังกล่าวในบาทที่สี่แล้ว   ตรงนี้คือความแปลกในบาทที่สี่ของโคลงสี่ดั้น  คือ  ในบางครั้งจะพบว่า  บาทที่สี่จะมีการใช้เป็นลักษณะเดียวกับโคลงสี่สุภาพ   คือ มี ๙ คำ และคำเอกคำโทนั้นเป็นลักษณะโคลงสี่สุภาพ  แต่สัมผัสต่าง ๆ ก็ยังเป็นแบบโคลงดั้น เช่น

                  ผนังใหญ่หลังใต้กอป ............... การย์รจิต รูปเอย
                  แผนภาพสกลกายกุมาร ........... แม่ซื้อ
                  คอสองแหล่งเฉลียงลิขิต ........... คนแปลก เพศพ่อ
                  ลบองบอกออกซื่ออื้อ ................ เอิกอ้างราหู

                  โอสถจานแจกสร้าง .................. เสลา ลายแฮ
                  ตราติดทั่วสถานดู ..................... ดื่นด้าว
                  เลบงโคลงฉลักเลขา ................. ขานออก ความเอย
                  เลงแผ่นผาอคร้าวล้วน .............. เล่ห์กัน
                                                              (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)

                  จะเห็นได้ว่า ในบทต้นนี้ที่เน้นสีแดงไว้นั้น ทั้งจำนวนคำ และคำโท ในบาทที่สี่เป็นแบบโคลงสี่สุภาพอย่างที่บอก  แต่การส่งสัมผัสต่าง ๆ นั้นเป็นแบบโคลงดั้นบาทกุญชรอยู่  แบบนี้ท่านก็เรียกไว้ว่า  โคลงดั้นมหาบาทกุญชร ไว้เป็นพื้น ซึ่งจะพบแทรกอยู่เป็นระยะ ๆ ในวรรณกรรมต่าง ๆ เท่านั้น  

                  เรื่องโคลงดั้นบาทกุญชร คงอธิบายไว้เพียงแต่คร่าว ๆ  เท่านี้  ด้านล่างต่อไปเป็นตัวอย่างโคลงดั้นบาทกุญชรบางส่วนจากวรรณกรรมต่าง ๆ



หัวข้อ: Re: โคลงดั้นบาทกุญชร
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 23, ธันวาคม, 2564, 10:17:18 PM

          ตัวอย่างโคลงดั้นบาทกุญชรบางส่วน

แสดงคำเอก คำโท, คำสร้อย,  คำสัมผัสภายในบท
และโดยเฉพาะคำสัมผัสระหว่างบท  เพื่อให้เห็นความแตกต่างเด่นชัดกับ โคลงดั้นวิวิธมาลี คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14024.msg51028#msg51028)

          โคลงดั้นบาทกุญชร
           (โคลงดั้นนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย : พระยาตรัง)

          ๐     บางหลวงคลองน้ำวิ่ง            วนวง
          ขนานขนัดแพพวนเหนี่ยว              หน่วงฝั้น
          เสนอสนองบ่วงสามสง                  สารสุด สวาสดิ์ฤๅ
          นานนิพันธ์หมั้นม้วย                      หมื่นปี

          ๐     ศัลย์เสียวไป่หยุดเศร้า             แสนสา- หัสเอย
          ล่วงลุวัดหงส์ทวี                              เทวศซ้ำ
          หวงหงส์ประเหลหา                         เหมสระ สนานแม่
          ว้าวุ่นท้องน้ำถ้ำ                               ถิ่นไศล

          ๐     สนุกนิ์สนานสว่างสวะท้อง        ธาริน แม่ฮา
          ขุนทิชาฤๅไคล                                 คลาศคล้อย
          เชยช่อผกาสินธุ์                               สมสื่อ
          โสรจสุคันธ์ไซ้สร้อย                          ส่ายสนาน ฯ

          ๐     สังขจายขจรชื่ออ้าง                  อาราม
          วงศ์ทวิชาชาญ                                เชื่องหล้า
          สังข์สรงสุหร่ายพราหมณ์                  เพรงแม่น
          ฤๅโสรจน้ำหน้าเศร้า                         เสื่อมสูญ ฯ
                                                          (โคลงดั้นนิราศตามเสด็จทัพลำน้ำน้อย : พระยาตรัง)

          โคลงดั้นบาทกุญชร
            (ความรู้ : ชิต บุรทัต)

          ๐     เรียนรู้ไม่ถี่ถ้วน                   วิชาใด ก็ดี
          คิดคาดคุยอวดเขา                      อีกผู้
          เรียนรู้แต่เพียงใคร                       ปรารภ อะไรฤๅ
          คอยจะหาถ้อยสู้                         แส่เถียง

          ๐     ตรองมองไม่พบแม้              ฤๅมี
          ประโยชน์ตนแต่เพียง                  กึ่งก้อย
          ประโยชน์ท่านก็ดี                        ดูบ่ เห็นเลย
          เขาเกลียดนับร้อยน้อย                ประมาณ

          ๐     ความรู้เช่นนี้ก่อ                  เกิดผล ร้ายเฮย
          คนที่มีสมาจาร                           สุภาพผู้
          จักไม่เห่อเหิมตน                        ตามพรรค นั้นเลย
          รู้มากสอนให้รู้                            สึกดี

          ๐     อันผู้รู้น้อยมัก                     แสดงตน
          เหมือนว่ารู้มากมี                        มากไซร้
          ผู้รู้มากกลับยล                           ยังพร่อง แท้แฮ
          รู้แต่เล็กน้อยไขว้                         สับสวน
                                                             (ความรู้ : ชิต บุรทัต)

          โคลงดั้นบาทกุญชร
            (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)

          ๐     ดับให้รจเรขแสร้ง                    สอบมุข ท้ายเฮย
          แห่งวิหารสามทิศ                           ทั่วสร้าง
          ขุดรากก่อทำนุก                             แนวเพิ่ม ผนังนา
          เยิ่นอย่างวิหารด้านข้าง                   เขตรบูรรพ์

          ๐     เปลี่ยนตัวไม้รื้อเริ่ม                   รังสฤษดิ์ ใหม่แฮ
          ครบเครื่องบนอากูล                          เก่าค้าน
          ชำรุดประกอบกิจ                              การย์ผลัด เปลี่ยนพ่อ
          กระเบื้องเคลือบมุงถ้วนด้าน               ด่อนพรรณ

          ๐     เสร็จซ่อมรักรัดแต้ม                    ติดมาด ใหม่นา
          ประดับกระจกระบายระบุสรรค์           ซ่อมซ้ำ
          เชิงผนังและพื้นดาษ                           ดุจโบศถ์ ไล้เฮย
          ทั้งสี่พิหารแล้วล้ำ                               เลื่อมแล

          ๐     มุขหลังผนังโปรดให้                    เหิ่มคิด เขียนนา
          ทุกทั่ววิหารสี่แปล                               แปลกอ้าง
          ฝ่ายบูรรพิศรจิต                                  แจกเรข เรื่องฤๅ
          สิบอศุภสร้างสิ้น                                 สิบบาน
                                                            (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ : กรมพระปรมานุชิตชิโนรส)

          โคลงดั้นบาทกุญชร
            (อาทิตย์ถึงจันทร์ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)

          ๐     ระนาดรับฉาบร้อย                      รัวกลอง
          เพริดตะโพนโยนทัน                            ถี่ย้ำ
          ฆ้องทุ่มรุ่มเร็วรอง                               รับไล่
          ปิ่นประจงเจื้อยจ้ำ                              แจกเสียง

          ๐     เก็บพิกุลใส่ผ้า                             แพรสี
          บ้างเก็บมะลิเรียง                                ร่ำร้อย
          หอมแม่เลิศมาลี                                  ในโลก
          ส่วนกุศลสร้างสร้อย                            สอดสรวม

          ๐     ระลึกวันควันโบกบ้าย                  บายศรี
          เทียนแว่นไหว้เวียนรวม                        ร้อบล้อม
          รอบที่หนึ่งน้อมพลี                               พระพุทธ
          สองพระธรรมซ้ำพร้อม                         พระสงฆ์

          ๐     ขวัญพ่อพิสุทธิ์เพี้ยง                     เพ็ญสังข์
          ชะลอพระวารีลง                                  ร่วงแล้ว
          พ่อจักสืบพุทธัง-                                   กูรพระศาสน์
          ตลอดวัสสาพ้องแผ้ว                             ผ่องบุญ
                                                            (อาทิตย์ถึงจันทร์ : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)

          โคลงดั้นบาทกุญชร
            (โคลงทวาทศราศี : หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก))

          ๐     ทวยเทพแสนชื่นช้อย              ฉ่ำฝน
          เพลงสวาดิสวรรค์ถลิล                    วากย์พร้อง
          พิรุณร่วงละอองชล                         ชะโลกย์
          แสนสนุกนิ์ ณ ห้วงห้อง                   แน่งสวรรค์

          ๐     สนุกนิ์สระสมโภคเพี้ยง             แมนสรวง
          อิ่มทิพย์นิทรานันท                           เอนกล้ำ
          ฤๅเท่าสนุกนิ์ดวง                              จิตร่วม รักแฮ
          สนุกนิ์ยิ่งทิพยน้ำสร้อย                      สระสวรรค์

          ๐     สนุกนิ์เสน่ห์น่วมเนื้อ                  นางผจง
          สนุกนิ์ยิ่งสระอินทร์อัน                       เอกไซร้
          เพลินจิตจวบเจียรหลง                       ลืมชีพ ลาญแฮ
          นึกแรกรสรู้ไร้                                    เร่งครวญ ฯ

          ๐     โกมุทสมรกลีบเกลี้ยง                 เกลาใจ
          แรกร่วมรสคำนวณ                            คู่ห้อง
          ร่วมสระกระสินธุ์ใน                            ทรวงสนุกนิ์ น้อยฤๅ
          สองเสน่ห์พร้องเฝ้า                             ใฝ่ใจ ฯ
                                                           (โคลงทวาทศราศี : หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก))

          โคลงดั้นบาทกุญชร
            (นาฏกรรมบนลานกว้าง : คมทวน คันธนู)

          ๐     เกิดอยู่คู่โลกหล้า                          เลื่อนไหล
          จากสัตว์เซลล์เดียวขยาย                      ขยับเขยื้อน
          สู่สัตว์ซึ่งอาศัย                                      สมองสั่ง
          เปิดปากเป็นถ้อยเอื้อน                          เอ่ยกัน

          ๐     เดี่ยวโดดก็พรั่งพร้อม                     รวมพล
          ที่พักเริ่มผายผัน                                   พึ่งถ้ำ
          เศษไม้เศษไร่ขน                                    ถูขัด
          แลพบไฟแพร้วล้ำ                                  ลุกโพลง

          ๐     อิ่มหนำในเนื้อสัตว์                         สมบูรณ์
          เริ่มแยกเริ่มยกโขยง                               โยกย้าย
          เหนือใต้ออกตกศูนย์                              สูตรต่อ
          เป็นเผ่าเป็นพื้นข้าย                                เขตตัว

          ๐     เสาะหาใบไม้ห่อ                            หุ้มหนัง
          จับคู่เป็นครอบครัว                                 อะคร้าว
          ธรรมชาติถูกใช้ยัง                                  ชีพอยู่
          ก้าวผ่านละก้าวก้าว                               เกิดผล
                                                            (นาฏกรรมบนลานกว้าง : คมทวน คันธนู)

           บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล
          - Black Sword -
           (หมู มยุรธุชบูรพา)

                               (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/AJ.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1468)
                                   • กลับสู่หน้า สารบัญ โคลง  คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14132.msg51411#msg51411)
                                   • กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14615.msg53012#msg53012)
                                   • กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14135.msg51426#msg51426)
                                   • กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์  คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14138.msg51433#msg51433)
                                   • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6689.msg22951#msg22951)
                                   • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอนกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6688.msg22950#msg22950)
                                   • กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=7715.msg27482#msg27482)
                                 (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/AJ.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1468)