ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๐
๏ ยิ่งคิดร้ายท้ายแล้วท่านนั้นยิ่งต่ำ ผลบาปกรรมงำจิตปิดกุศล ท่านอาฆาตมาดร้ายใส่พระนล ใจท่านเองแลต้องทนทุกข์ทรมา
๏ ด้วยพระนลคือองค์ผู้ทรงสัตย์ บำเพ็ญดีปฏิบัติธรรมแข็งกล้า พุทธคุณประเสริฐเลิศโลกา มีพระธรรมรักษาบริบาล
๏ ยิ่งเตือนย้ำเหมือนยิ่งทำกลีแน่น กระอักแค้นเพิ่มพละมหาศาล องค์อินทร์ว่าวิสาสะกะคนพาล มิเป็นการจึงสู่ฟ้าลับตาไกล
๏ ยิ่งย้อนคิดจิตกลีทวีคลั่ง พระนลยังครองสุขแสนอยู่แดนไหน เราดุจอยู่โลกันต์โดนหั่นใจ อกเร่าร้อนดั่งไฟไหม้ฤดี
๏ “ทวาบรเพื่อนข้ามหามิตร จงซึ้งจิตข้าทุกข์สิ้นสุขี ขอจงช่วยข้าด้วยมิตรไมตรี เป้าหมายมีข้าจะสิงพระนล”
รายนามผู้เยี่ยมชม : ปอละเตียง, รพีกาญจน์, Sasi Aksarasrom, รินดาวดี, , Black Sword, ลิตเติลเกิร์ล, นายประทีป วัฒนสิทธิ์, , ปลายฝน คนงาม, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๑
๏ “ทุกเช้าค่ำย้ำจิตมันคิดเขว จำห่างเหนารีจนมีผล วานเพื่อนข้าสิงสกาพาพลิกกล ให้ทรงพลเสียสินสิ้นพารา
๏ จนเสียหมดมณฑลมลรัฐ ราชสมบัติสูญพงศ์แลวงศา ต้องออกจรร่อนเร่ไปในพนา จักขยี้บีฑาให้สาใจ
๏ ด้วยมั่นหมายคลายแค้นนี้มิมีย่อ จักทนรอให้ถึงกาลนานแค่ไหน ต้องชำระสะสางล้างกันไป มิยอมให้ตายอย่างเคืองค้างคา
๏ ไม่สมหวังดังหมายมิหายแค้น หากมาดแม้นมีฤทธิ์จะคิดฆ่า แต่ด้อยด้วยบารมีที่สร้างมา ผิว์วิชาเราดียิ่งสิงภายใน
๏ ตกลงเน้นเร้นกายไปทุกที่ อันพระนลทมยันตีอาศัย จังหวะมีหมายมั่นสิงทันใด ถึงเนิ่นนานเพียงไรใจทนรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๒
๏ ในครานั้นธานีวิธรรภ์รัฐ ภีมราชกษัตริย์จัดห้องหอ ทุกกระเบียดต้องละเอียดงามลออ เติมแต่งเน้นเป็นที่พอพระหทัย
๏ พระตรัสสั่งทั้งธานีพิธีราช ทุกเชื้อชาติปรองดองฉลองใหญ่ คู่ขวัญหล้าวิวาห์การงานเกริกไกร พระนลกับทรามวัยทมยันตี
๏ สองกษัตริย์สุขสันต์สวรรค์สวาท ภูวนาถมิห่างรักสักดิถี เฝ้าชิดชมโฉมสุดายอดนารี ทรงเปรมปรีดิ์ปลาบปลื้มลืมเวลา
๏ วันหนึ่งนึกถึงนิษัธธานีสถาน บริพารญาติพงศ์ร่วมวงศา เข้าถวายบังคมภีมราชา จักเชิญยอดชายากลับเวียงชัย
๏ โปรดอำมาตย์ยาตราส่งเสด็จ โดยสำเร็จยังนิษัธนิรัติศัย ถึงธานีพิธีฉลองข่าวก้องไกล ราชาได้ราชินีที่สมบูรณ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๓
๏ องค์ราชาและพระมเหษี ครองธานีสดใสเลิศไอศูรย์ ดวงฤดีมีธรรมแจ่มจำรูญ ยิ่งเพิ่มพูนธรรมทุนบุญความดี
๏ สิ่งชั่วร้ายราคีมิกรายกล้ำ ทั้งเช้าค่ำนิรทุกข์ปี่ยมสุขี มิเปิดช่องจังหวะให้กลี สิบห้าปีผ่านไปเหมือนใจจง
๏ ทรงได้ราชบุตรราชธิดา สิ่งที่ปรารถนาสมประสงค์ “อินทระเสน” สุตกุมารองค์ สืบเชื้อวงศ์กษัตริย์ขัตติยา
๏ และ“อินทระเสนา” ธิดารัตน์ ผู้ผ่องภัทรโศภิตขนิษฐา สองโสภีปานเทวีองค์เทวา เป็นที่สุดเสน่หาเท่าชีวิน
๏ กิจวัตรประจำวันนั้นพระนล ดื่มน้ำมนต์บวงสรวงองค์โกสินทร์ เทวาลัยไปบูชาเป็นอาจินต์ พระภูมินทร์เสริมเดชะบารมี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๔
๏ จนวันหนึ่งซึ่งองค์ทรงพลาดพลั้ง มิเป็นดังเคยทำประจำดิถี ถ่ายมูตรแล้วต้องชำระพระกายี ล้างพระบาทอย่างดีทุกครั้งไป
๏ ในครานั้นพระราชามาลืมหลง มิชำระพระองค์ให้ผ่องใส เข้าบวงสรวงในพระเทวลัย เป็นเหตุให้เสียศรีอันดีงาม
๏ ได้จังหวะกลีที่รอท่า เข้าสิงองค์ราชามิพูดพล่าม ดลจิตใจให้ลืมตัวทำชั่วทราม ณ เมื่อยามใจพระองค์ทรงอ่อนแอ
๏ เริ่มแผนการที่มารร้ายวางไว้ก่อน ทวาบรสิงสกาได้แน่วแน่ ควบคุมได้ดั่งใจไม่มีแพ้ ทั้งสองแลดลบุรุษ “บุษกร”
๏ ผู้เป็นพระอนุชามาคลั่งไคล้ อยากจะได้ราชสมบัติประภัสสร เกิดดวงจิตริษยาอุราร้อน ท้าภูมิธรลงปะทะทอดสกา
๏ ทวาบรหย่อน ดึงให้ตรึงจิต เพื่อทรงติดใจกระสันใฝ่ฝันหา ค่อยดูดดึงซึ่งทรัพย์นับคณา ด้วยการท้าเพิ่มทรัพย์นับพนัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๕
๏ เสียมากล้นพระนลยิ่งจมดิ่งนัก จนลืมหลักการบวงสรวงสวรรค์ ทิ้งพระราชกิจจาแห่งราชัน จิตผูกพันการเล่นทุกเวลา
๏ ทมยันตีวิตกอกไหวหวั่น คอยจำนรรจ์ชี้เหตุพระเชษฐา ให้พระองค์พินิจพิจารณา ประหนึ่งว่ามีกลโกงโยงใยการณ์
๏ พระนลฟังนั่งนิ่งมิติงมิตอบ เพราะถูกครอบงำจิตเรื่องคิดอ่าน กลีร้ายหมายแต่พาไปหาพาล ยิ่งเนิ่นนานพระยิ่งกลายคล้ายวิกล
๏ ทุกหมู่เหล่าเสนามหาอำมาตย์ กราบพระบาทยั้งไว้มิได้ผล ต่างร้องร่ำกำสรดสลดกมล ว่าพระนลตกภาวะเผชิญภัย
๏ ทมยันตีมีแต่ครวญหวนละห้อย “เมียบุญน้อยสุดปัญญาจะแก้ไข โอ้อกเอ๋ยเคยเฝ้าคอยเอาใจ เดี๋ยวนี้ไยไม่ผินหน้ามาหาน้อง
๏ ยังจงรักพระองค์อยู่คงมั่น ทั้งคืนวันอดทนความหม่นหมอง ในตอนนี้สุดที่ตรมระทมครอง หวั่นจักต้องเสียสินสิ้นธานี”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๖
๏ พระมิฟังดังครานั้นพระกรรณดับ มิได้รับรู้ภาษามารศรี กลีพาลมลาญจิตปิดฤดี เหมือนมิมีวิญญาณพิจารณ์ใด
๏ ยังมุ่งมั่นการสกามิราหยุด แลใครหรือจะยื้อยุดฉุดรั้งได้ ทมยันตีมีรายงานพระคลังใน ราชทรัพย์ร่อยหรอไปใกล้หมดแล้ว
๏ ทรงบัญชาอำมาตยสมาคม เร่งระดมชาวพารามาวังแก้ว ขอเข้าเฝ้าก็มิให้ไร้วี่แวว ทั้งทแกล้วรายรอบขอบเวียงชัย
๏ ได้แต่ส่งเสียงร้องก้องปราสาท ถวายพระพรภูวนาถวินิจฉัย ปริเวทนาระอาใจ สุดคิดการณ์อย่างไรช่วยพระองค์
๏ ทมยันตีสิ้นวิธีทัดทานต่อ พระมิพอยิ่งทวีฤดีหลง หวนไห้หามาตุราชปิตุรงค์ ขอพระทรงเป็นร่มฉัตรแก่นัดดา ๏ ด้วยลูกน้อยกลอยใจเยาว์วัยนัก จึงยากจักร่อนเร่ห่างเคหา จำต้องฝากกุมารีกุมารา ให้องค์พระเจ้าตาอภิบาล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๗
๏ ส่วนหม่อมฉันมั่นคงยังจงรัก แม้จำจักพลัดพรากจากสถาน ขอเคียงคู่ภูวดลผจญมาร ยอมร้าวรานชีพมลายตายด้วยกัน
๏ เมื่อคิดได้ทรงให้หาวาร์ษไณย เตรียมราชรถม้าไวให้แข็งขัน “ขอจงช่วยด้วยเถิดการอันสำคัญ นำสองนัดดาวิธรรภ์กลับธานี
๏ ถ้าภีมกษัตริย์ท่านตรัสถาม จงตอบความเป็นไปให้ถ้วนถี่ เมื่องานเสร็จสำเร็จลุล่วงดี ท่านหลีกลี้ไปหนใดตามใจจง”
๏ วาร์ษไณยถนัดอัศวะ คู่ทรงพระรถทำตามประสงค์ ด้วยจงรักภักดีที่ซื่อตรง ทุกจำนงงานเสร็จสมฤทัย
๏ กราบทูลความตามทมยันตีสั่ง แล้วลาวังสู่อโยธยาใหญ่ ดังราชินีสั่งความตามแต่ใจ ด้วยเหตุผลนลราชัยลืมพระองค์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๘
๏ นับแต่นั้นการสกาดังว่าปล้น ฝ่ายพระนลทรัพย์มลายไม่เหลือหลง เอาการครองราชย์สมบัติขัตติยวงศ์ มาวางลงเป็นเดิมพันพนันสกา
๏ ก็เสียสิ้นดังทุกทีมิมีได้ พระนลไซร้ทุกข์หนักยิ่งนักหนา บุษกรเย้ย “สิ้นทรัพย์แล้วราชา ฤๅพนันชายาทมยันตี” ๏ พระนลฟังคลั่งแค้นแน่นอกสั่น มึงหยามหยันถึงชายามารศรี ละเครื่องทรงกษัตราประดามี พันกายีด้วยผ้าเพียงผืนเดียว
๏ ทมยันตียอดนารีก็เช่นกัน ผ้าครองหนึ่งเช่นราชันด้วยเด็ดเดี่ยว พร้อมจะตามภัสดาอย่างกลมเกลียว สุดป่าร้างทางเปลี่ยวมิหวั่นใจ
๏ สององค์ย่างร้างไปไกลนิเวศน์ มิรู้เจตนาว่าไปไหน เหลียวแลหลังลิบลิบยังเห็นเวียงชัย ทรงโศกาอาลัยเหลือคณา
๏ เคยอยู่ดีนิรทุกข์สุขเหลือหลาย ต้องจำใจไปตายเอาดาบหน้า สองกษัตริย์ซัดเซร่อนเร่มา ก็ค่ำลงตรงชายคาประตูเมือง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๓๙
๏ นายทวารอภิบาลองค์ภูมินทร์ บุษกรได้ยินข่าวลือเลื่อง ออกประกาศราชกิจจาด้วยขุ่นเคือง ใครกระด้างกระเดื่องจักลงทัณฑ์
๏ ผู้ดูแลช่วยเหลือพระนลหนอ มันผู้นั้นแลคอต้องโดนบั่น มีโทษฐานกบฏต่อราชัน ณ ครานั้นนลราชาจำลาจร
๏ พระเดินทางร้างไกลในชนบท โศกกำสรดด้วยมิเป็นเช่นแต่ก่อน ชนมิกล้าสนองคุณโดยสุนทร ด้วยบุษกรประกาศฆาตชีวี
๏ กระยาหารอันใดไม่ตกท้อง ชวนกันท่องเรื่อยไปในวิถี พบสายธารจึงได้ดื่มชลธี ให้พอมีกำลังประทังกาย
๏ ทั้งสองทรงมุ่งไปกลางไพรสัณฑ์ ซึ่งเผือกมันยากจักหายิ่งห่างหาย กินยอดไม้ผลไม้ขอพอรอดตาย เป็นอยู่คล้ายวานรป่าฝ่ารกร้าง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๐
๏ แล้วพบนกฝูงหนึ่งอยู่ซึ่งหน้า ไร้ทีท่าเร้นกายออกไปห่าง ยังกระโดดโลดเต้นเล่นใกล้ทาง ดูเชื่องต่างธรรมดาน่าแปลกใจ
๏ หิวโหยหลายไร้ที่หากระยาหาร พระนลพิศคิดอยู่นานนี่ไฉน หรือนกนี้คืออาหารประทานไว้ แด่เราไซร้และชายายุพาพาล
๏ คิดดังว่าราชาเปลื้องผ้าทรง ตระหลบลงคลุมปิดมิดทุกด้าน ครั้นจะจับดังจิตที่คิดการ นกใจมารคาบผ้าทรงตรงขึ้นฟ้า
๏ บินร่อนไปร่อนมาเริงร่าอยู่ กล่าวเยาะเย้ย “เหวยเหวยดู อนาถา มิเหลือแม้ผ้าอันพันกายา เป็นราชาโง่เง่าเขลากระไร ๏ นกนี้หรือคือลูกสกานั้น บอกกล่าวกันจะได้หายสงสัย ลูกสกาทวาบรซ่อนภายใน ต้องการให้ท่านนี้มีแต่ตัว
๏ สกุณชาติลูกบาศก์แห่งสกา กล่าวเย้ยหยันสรรหาวาจายั่ว ก่อนบินไกลให้ทั้งสองยิ่งหมองมัว หายตื่นกลัวทมยันตีพิรี้พิไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๑ ๏ “โอ้ว่าพระภัสดาคราตกยาก แสนลำบากเราสองต้องทนไหว ผ้าเพียงผืนขอแบ่งพันคู่กันไว้ อย่าโศกาอาลัยอันใดเลย” ๏ เมื่อฟังทมยันตีมีคำปลอบ พระนลตอบ “ดวงฤดีของพี่เอ๋ย พี่ลืมตัวชั่วยิ่งเสียจริงเอย เจ้ามิเคยขุ่นจิตคิดชิงชัง
๏ โอ้ชะตามาต่ำทรามเพียงนี้ ต่อไปมีอันใดจะให้หวัง พเนจรร่อนเร่เที่ยวเซซัง แล้วน้องยังติดตามพี่ทำไม
๏ น้องเองมีบ้านเมืองอันเรืองศักดิ์ ใช่จมปลักอย่างพี่นี้เมื่อไหร่ ควรที่คิดบ่ายหน้าแล้วคลาไคล ปล่อยพี่ไปตามทางผู้สร้างกรรม”
๏ “ไปเมืองน้องพระองค์ต้องเสด็จด้วย พระปิตุรงค์คงช่วยอุปถัมภ์ ให้น้องพรากพี่ไปเหมือนใจดำ เมียมิอาจกระทำความไม่ดี
๏ พระองค์สุขน้องนี้หนอก็พลอยสุข พระองค์ทุกข์ควรร่วมใจไม่หน่ายหนี หน้าที่เมียภักดีผัวชั่วชีวี มิคิดเห็นเป็นราคีชั่วชีวัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๒ ๏ โอสถ ฤๅรักษาโรคโศกระงับ ได้เท่ากับใกล้มิ่งมิตรชิดเมียขวัญ ประคองกายใจอยู่ดูแลกัน ถึงทุกข์นั้นหนักหนาพาผ่อนคลาย
๏ พี่เสด็จแดนใดน้องไปด้วย บุญมิช่วยก็ยอมดับลับสลาย ถ้าไม่มีถิ่นใดให้พักกาย ขอมั่นหมายวิธรรภ์หลักพักฤทัย” ๏ “พี่มิดึงพระบิดามาเกี่ยวข้อง ถึงหม่นหมองทุกข์หนักสักปานไหน สยมพรวิวาห์เช่นราชัย ฤๅกลับไปดั่งวณิพกพเนจร
๏ พาเสื่อมศักดิ์ญาติพงศ์เหล่าวงศา เมื่ออื้อฉาวชาวพาราจะขอดค่อน พระบิดาพลอยเศร้าเฝ้าอาทร โอ้มิ่งมิตรอย่าคิดวอนมิอ่อนใจ
๏ จักก้มหน้ารับกรรมในยามนี้ จนพบทางกู้ธานีคืนมาได้ พี่ขอให้คำมั่นสัญญาไว้ เราสองคืนโภไคย์ดั่งใจปอง”
๏ ทรงชี้ทางจะย่างมุ่งกรุงวิธรรภ์ ลำดับขั้นที่พักพิงสิ้นทั้งผอง บุญรักษาโอบอุ้มคุ้มครองน้อง แม้หม่นหมองหลายวันวารมินานปี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๓ ๏“ขอพระองค์อย่าทรงไล่ให้ไกลห่าง แม้นเสียวังรั้งร้างห่างกรุงศรี แค่หวาดหวั่นครั้นจะเสียสวามี อกน้องนี้คงจะพังทลาย”
๏ พระนลชี้ทางไปให้หลายหน นฤมลหวั่นร้างรักห่างหาย อกไหวหวั่นพานสั่นสะท้านกาย จนวุ่นวายดวงใจไม่จืดจาง
๏ พระนลมีสติมินานนัก เห็นความรักกลีร้ายหมายขัดขวาง จึงงำจิตพระนลหนักมิพักวาง ออกเดินทางลัดทิวเขาเนาวนา
๏ บังเอิญพบกระท่อมร้างกลางไพรสาณฑ์ คงพวกพรานไพรสร้างไว้กลางป่า พอดีค่ำพำนักพักกายา สักชั่วคืนก่อนจะลาร้างแรมดง
๏ “เชิญมิ่งมิตรยอดสนิทเสน่หา ผู้ภักดีภัสดาจนลุ่มหลง พักเถิดหนามานั่งเล่นเอนกายลง ขอให้วงแขนพี่เป็นที่พิง
๏ เนินดินนี้แลแทนพระแท่นแก้ว หม่นเหลือแล้วดวงแดแม่ยอดหญิง เครื่องปูลาดมิอาจหาระอาจริง ย่ำค่ำยิ่งหนาวร่างน้ำค้างพราย”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๔๔ ๏ โอ้อกทมยันตีนารีรัตน์ กายเหนื่อยล้าสาหัสและเพลียหลาย เพียงครู่หนึ่งนิทรานิ่งมิติงกาย แต่พระนลจิตวุ่นวายไม่หลับนอน
๏ นึกย้ำคิดโอ้เราผิดถึงพียงนี้ เสียธานีเคยสุโขสโมสร ต้องแรมร้างห่างเหพเนจร พลอยเดือดร้อนทมยันตีศรีสุดา
๏ โอ้กรรมนี้ที่สร้างอย่างมหันต์ ต้องทุกข์อีกนานวันในภายหน้า ถ้ามิทิ้งยอดมิ่งขวัญภรรยา ก็จักพากันอดสูมิรู้พอ
๏ พระครุ่นคิดจิตเป็นห่วงดวงสมร แสนอาวรณ์จักแก้ไขไฉนหนอ ได้จังหวะกลีมิรีรอ เข้ามาก่อกวนจิตให้ผิดเพี้ยน
๏ พระนลสิ้นเกียรติยศหมดศักดิ์ศรี ทมยันตีรักมั่นมิผันเปลี่ยน จะให้พรากจากกันหมั่นเบียดเบียน เพิ่มความเพียรเร่งกระทำงำพระนล
๏ วุ่นวายจิตคิดหว่างทางสองแพร่ง ฝ่ายไหนแรงฝ่ายนั้นบันดาลผล ใจอ่อนแอแพ้กลีทวีมนต์ พระออกค้นได้มีดเก่าหยิบเอามา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|