ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ราชาฟังดังนั้นพลันกริ้วเหลือ นาคโอบเอื้อมิมาถึงถิ่นสถาน บริภาษจอมนาคาว่าสาธารณ์ กระทำการโดยฉันทาถืออาธรรม์
๏ จึงระดมพราหมณ์ที่มีพระเวท มากฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่ในเขตขัณฑ์ ให้เข้ามารวมกลุ่มประชุมประชัน เพื่อคัดสรรผู้อาสาจับนาคี
๏ เมื่อได้พราหมณ์ตามจิตที่คิดหมาย จอมราชันบรรยายให้หน้าที่ “จับเป็นมาก็ได้ตายก็ดี รางวัลมียศศักดิ์มากตอบแทน”
๏ พราหมณ์ทูลลาคลาไคลมิได้ช้า มุ่งอุดรปัญจาล์ทำตามแผน สืบถามหาสระน้ำประจำแดน จนมั่นแม่นโคนหว้าใหญ่รอยไม่จาง
๏ จึงทดลองมนตรากับยาสั่ง พ่นลงยังสระใหญ่ใสกระจ่าง ในฉับพลันธารพลุ่งไอฟุ้งคว้าง จากใจกลางสระงามน้ำขุ่นตม
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลมหนาว ในสายหมอก, กร กรวิชญ์, รพีกาญจน์, Black Sword, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, ปิ่นมุก, น้ำหนาว, นักเลงกลอน, ลิตเติลเกิร์ล, มุกดาริน, ปลายฝน คนงาม, หนูหนุงหนิง, กอหญ้า กอยุ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พราหมณ์ปลื้มใจในวิชาฤทธิ์ยาขลัง มีพลังเหมือนหมายใจสุขสม จวนจะค่ำทำเพิงค้างกางฝนลม ทวนอาคมคาถาวิชามาร
๏ วางแผนมั่นเข้าวันใหม่เข้าในป่า เก็บว่านยาพิษร้ายเพียงไฟผลาญ มากพอที่บีฑานาคามลาน จึงเริ่มงานที่เป็นไปดั่งใจคิด
๏ แลถึงคราพญานาคราช ต้องมนตราพยาบาทนั่งไม่ติด ร้อนรุ่มนักดังอัคคีเผาชีวิต ปานเข็มพิษทะลวงดวงฤทัย
๏ เกิดสังหรณ์ร้อนจิตผู้คิดร้าย มุ่งทำลายด้วยเวทเดชยิ่งใหญ่ อยากให้การณ์อันระแวงนั้นแจ้งใจ จึงคลาไคลขึ้นเหนือพื้นปฐพี
๏ แล้วจำแลงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม มาดักซุ่มดูลาดเลาเฝ้าพื้นที่ หาพบเห็นผู้ใดใจมิดี ไม่อยากรอจรลีตามร่องรอย
[/color][/size]
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, มุกดาริน, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, นักเลงกลอน, กอหญ้า กอยุ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ได้พบพราหมณ์หมองูพักอยู่ยั้ง รู้ผู้ที่มีพลังต้องร้างถอย อกประอุกทุกข์ใหญ่มิใช่น้อย เสโทย้อยย่ำย่างตามทางมา ๏ ดังกุศลผลบุญหนุนนำให้ พบพรานไพรพอดีที่ชายป่า จึงทักทายไต่ถามความนานา “ท่านเป็นชาวพาราแห่งใดฤๅ”
๏ พรานบุญตอบมอบน้ำใจไม่เย่อหยิ่ง ตามความจริงจากใจอันใสซื่อ “ชาวอุดรปัญจาละนามระบือ ชนเลื่องลือแดนอุดมสมบูรณ์ดี”
๏ “เหตุจากไหนใครบันดาลเช่นนั้นได้ จึงปลอดภัยไร้ทุกข์เป็นสุขศรี” พรานบุญตอบ “เป็นความชอบของนาคี บารมีปกปักรักษ์มานาน”
๏ “ถ้าจู่จู่มีผู้จ้องปองร้ายนาค มีฤทธิ์มากเกินที่นาคีต้าน ความคิดเห็นเป็นไฉนในดวงมาน แม้นเหตุการณ์คับขันกระนั้นแล้”
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, มุกดาริน, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, นักเลงกลอน, กอหญ้า กอยุ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พรานบุญว่า “หามีใครในเมืองนี้ ความคิดมีอย่างท่านนั้นกล่าวแน่ หรือว่าคนคนนั้นคือท่านแท้ ที่แปลกหน้ามาตั้งแง่ให้งวยงง
๏ ต้องม้วยมรณ์ด้วยศรพรานเป็นการตอบ คิดมิชอบกับนาคาค่าสูงส่ง” เห็นท่าทีที่รักกันเป็นมั่นคง ดังจำนงนาคจำแลงเลิกแปลงกาย
๏ เป็นนาคีแล้วมีคำพร่ำเฉลย ว่า “ท่านเอ๋ยเราทุกข์สุขสลาย ด้วยมีพราหมณ์มากฤทธิ์ใช้พิษร้าย ย่ำกล้ำกรายกายินถึงวิญญาณ์
๏ เขาตั้งหลักพักกายชายไพรศรี คงเตรียมการณ์ผลาญชีวีเราวันหน้า ขอไหว้วานท่านด้วยช่วยเมตตา เรานาคานี้จะเทิดพระคุณ” ๏ พรานแน่ชัดว่าสัตย์จริงมินิ่งอยู่ ขออาสามาเป็นผู้ช่วยเกื้อหนุน จะปกปักรักษ์นาคาที่การุณย์ คอยค้ำจุนปัญจาล์มาเนิ่นนาน
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, มุกดาริน, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, นักเลงกลอน, กอหญ้า กอยุ่ง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ “ท่านจงกลับคืนวังตั้งใจเถิด เหตุร้ายใดจักไม่เกิดขึ้นกับท่าน ข้าจะเฝ้าสระเอาไว้ป้องภัยพาล ถ้าใครมากระทำการอันพิกล
๏ ต้องม้วยมรณ์ด้วยศรพรานผลาญชีวิต สมโทษทัณฑ์ที่มันคิดอกุศล” นาคาว่า “ถ้าทำร้ายก่อนคลายมนต์ เราต้องทุกข์รุกรนนานนิรันดร์ ๏ ควรสำทับกับเขาให้คลายมนต์ก่อน ตามขั้นตอนน้ำในสระจะแปรผัน ไว้ชีวีดีหรือไม่ต่อไปนั้น มิกีดกันท่านตามจิตพินิจความ”
๏ ตกลงได้เหมือนดังที่ตั้งจิต วิเคราะห์กิจถ้วนถี่มิหยาบหยาม เขาก็ศิษย์มีครูมิวู่วาม ต้องทำตามแผนการวางงานไว้
๏ จำประจัญมันผู้ที่มีจิตต่ำ มายีย่ำผู้ทำดียอมมิได้ มิประมาทรู้ว่าพลาดอาจมีภัย จึงซุ่มกายภายในร่มไม้บัง
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, นักเลงกลอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ หลังอุษามาอีกวันไม่ทันสาย เห็นพราหมณ์ร้ายผู้ที่มีมนต์ขลัง แบกกิ่งไม้สะพายถุงพะรุงพะรัง แล้วมาตั้งศาลเพียงตาหน้าสระงาม
๏ เริ่มพิธีพลีกรรมทำคุณไสย พ่นลงไปจนจบคำรบสาม น้ำพวยพุ่งฟุ้งไอสมใจพราหมณ์ ว่านพิษตามลงเติมเพิ่มพลัง
๏ พรานบุญเห็นเป็นพราหมณ์ร้ายไม่ผิดพลาด ประชิดพลันสันดาบฟาดลงกลางหลัง พราหมณ์ฟุบลงยังคงซัดหมัดอีกครั้ง แต่ก็ยั้งมิให้ถึงวายชนม์
๏ ตีนเหยียบบ่ามือคว้าหัวห้ามตัวถอย จ่อคอหอยด้วยดาบกำราบก่น พราหมณ์กลัวเสียชีวินสุดดิ้นรน ขอปรานีชีวิตตนพัลวัน
๏ พรานตะคอกบอกอยากมีชีวีต่อ อย่ารั้งรอคลายมนตราฝังอาถรรพ์ มิอาจเบี่ยงบ่ายได้ในครานั้น รับปากพลันยันกายตั้งนั่งภาวนา
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, นักเลงกลอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พรานจ้องสระน้ำใหญ่ไอฟุ้งอยู่ ประเดี๋ยวดูระงับหายปลายคาถา จึงมั่นใจพราหมณ์ร้ายคลายมนตรา มิรอราดาบสะบัดตัดคอพราหมณ์
๏ “ประเพณีตีงูให้หลังหัก ปู่สั่งนักย้ำเน้นเป็นข้อห้าม ช่วงเวลาเข้าตาอับกลับอ่อนตาม พอก้าวข้ามภาวะอันตราย
๏ คิดเรื่องหลังครั้งเก่าทำเอาแค้น ถ้าหากแม้นมีโอกาสดังมาดหมาย จักหวนย้อนมาย้ำคิดทำลาย จึงความตายนั้นแท้ควรแก่การณ์
๏ เพราะทำตัวชั่วช้าอาญาหนัก ใจคิดจักทำลายหมายประหาร ถึงเทพไทไม่เมตตาคนสาธารณ์ รับโทษฐานเลวทรามตามกฎกรรม”
๏ จอมนาคาในครานั้นอาการร้อน ค่อยค่อยผ่อนกลายเป็นเย็นชื่นฉ่ำ รู้มนตราราคีที่กระทำ ได้คืนคำคลายสิ้นแสนยินดี
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, ฟองเมฆ, ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, น้ำหนาว, ปลายฝน คนงาม, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, นักเลงกลอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ แปลงเป็นหนุ่มหน้ามนเหมือนคนก่อน จึงรีบจรขึ้นตรวจตราหน้าสระศรี เมื่อได้พบโดยพลันพรานบุญชี้ ให้ดูผีศัตรูผู้คิดร้าย
๏ จอมนาคีดีใจปานได้แก้ว “เป็นพระคุณบุญแล้วหนอสหาย ให้เราได้แทนคุณท่านอันมากมาย มิกลับกลายยึดมั่นคำสัญญา
๏ แต่เราสองต้องช่วยกันจัดการศพ อย่างเคารพศัตรูร้ายวายสังขาร์ คิดอภัยไม่ขอต่อเวรา ปล่อยเป็นเหยื่อแร้งกาไม่น่างาม”
๏ ช่วยกันเคลื่อนศพไปสู่ไพรสัณฑ์ ห่างสระนั้นฝังให้มิได้หยาม สำเร็จการพรานจะไปไกลเขตคาม นาคเอ่ยนามพรานว่า “มหามิตร
๏ ขอร้องให้ได้แทนคุณเพื่อนบุญเถิด น้ำใจท่านนั้นประเสริฐแสนซึ้งจิต ที่เมตตาอารีต่อชีวิต เชิญสถิตสุขอุรา ณ บาดาล”
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์, ลมหนาว ในสายหมอก, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, นักเลงกลอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พรานเกรงใจไม่ปัดขัดประสงค์ เจ้านาคาพาลงสระพิศาล ถึงวังทองมองอร่ามงามตระการ ร่วมปฏิสันถารสมานกัน
๏ เชิญพรานไพรให้นั่งบัลลังก์คู่ หมายเชิดชูเกียรติมิตรสนิทมั่น พรานบุญค้าน “ท่านนะหรือคือราชัน ข้าต่ำชั้นเพียงพรานไพรไม่บังควร” ๏ “ท่านผู้ที่มีคุณนำหนุนนัก เรื่องยศศักดิ์ฐานะคนละส่วน อย่าให้เสียแรงรักที่ชักชวน เลิกเรรวนพึงสดับรับรางวัล
๏ ให้ท่านครองอาณาห้าปราสาท ดำรงราชเวียงชัยไอศวรรย์ ห้าร้อยนางนาคีโสภีพรรณ จักคัดสรรเป็นบริจาริกา”
๏ พรานสนองน้ำใจไม่อาจขัด ครองสมบัตินาคีอันมีค่า อยู่ได้เจ็ดราตรีเจ็ดทิวา เฝ้าทูลลาเจ้าบาดาลกลับบ้านเมือง
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์, ลมหนาว ในสายหมอก, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, นักเลงกลอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ จอมนาคาว่า “ขัดข้องหมองสิ่งไหน จักดูแลแก้ไขได้ทุกเรื่อง สิ่งใดผิดมิตรบุญจึงขุ่นเคือง คิดย่างเยื้องคืนหลังดังวาที”
๏ พรานพรรณนา “หามีที่ข้องขัด สารพัดสิ่งอำนวยอวยสุขี แต่วาสนาข้าน้อยด้อยเพียงนี้ น่าจะมีความสุขกลับทุกข์ทน
๏ ห่วงเมียลูกผูกใจไม่ห่างหาย อยู่นานช้าจะว่าตายกลางไพรสณฑ์ อีกอย่างข้าลาไพรใจกังวล ด้วยเป็นคนเคยชินถิ่นวนา”
๏ “เพื่อนไปดีก็มิขัดอัชฌาศัย แก้วแหวนใดสมบัติปรารถนา นับโกฏิมอบตอบแทนให้ไปขายค้า เพื่อนำพาบำรุงบำเรอตน”
๏ พรานบุญว่า “ข้าดำรงอยู่พงไพร ทรัพย์มากไปใครเห็นเป็นฉงน ขอเพียงนิดติดมือไปไม่มากล้น พอคลายจนเมียลูกสุขสบาย”
รายนามผู้เยี่ยมชม : ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, เส้นชีวิต ดำเนินไป, ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, รพีกาญจน์, Black Sword, ลมหนาว ในสายหมอก, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, นักเลงกลอน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ “จักคิดอ่านฉันใดตามใจท่าน แม้นทัดทานรั้งอยู่ดูเสียหาย การณ์จากไกลไมตรีมีมิกลาย ยังจักหมายแทนคุณเกื้อหนุนกัน ๏ กาลข้างหน้าคราใดท่านได้ทุกข์ ขอดลสุขดำรงอยู่คงมั่น ดั่งจำนงจงมาหน้าสระพลัน กู่กระชั้นสัญญาณขานสามลา
๏ แม้มิพบเห็นใครผู้ใดอยู่ นายประตูจักนำท่านนั้นมาหา” ตกลงกันเป็นคำมั่นคำสัญญา นาคนำพาขึ้นบนพื้นปฐพี ๏ กล่าวคำลาพากันคืนพื้นเพเก่า ถิ่นลำเนาเคยอาศัยได้สุขศรี เมื่อรำพึงถึงในใจคนนี้ บ้านคือที่ครองสุขทุกชีวัน
๏ ดั่งสัตว์พรากจากดงอยู่กรงทอง ย่อมหม่นหมองครองทุกข์สิ้นสุขสันต์ ถิ่นกำเนิดเกิดกายทั้งหลายนั้น สายใยรักผูกพันมั่นมิเลือน
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, นักเลงกลอน, น้ำหนาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ พรานบุญถึงเคหาภรรยาเห็น สิ้นลำเค็ญสุขใดไม่แม้นเหมือน แม้ไม่เหลือเนื้อ ยา คืนมาเรือน เล่าเรื่องเยือนแดนนาคาเมืองบาดาล
๏ มอบแก้วแหวนเงินทองของเมืองนาค เห็นไม่มากแต่มูลค่ามหาศาล เมียพรานบุญสุขสบายไปอีกนาน เกินกว่าการล่าเนื้อเพื่อยังชนม์
๏ อันพรานไพรมิใจต่ำความโลภหลาย คนมากมายหยามหมิ่นสิ้นกุศล ผู้ย่ำยีชีวิตจิตมืดมน การมองคนผิวเผินจะเกินจริง
๏ อยู่มินานพรานบุญวุ่นใจนัก แม้นอนพักเคหาน่าสุขยิ่ง สัญชาตญาณพรานไพรไม่อาจทิ้ง อยากเอนอิงในพนาคาคบไม้
๏ จึงสั่งเสียลูกเมียว่า “ในครานี้ เงินทองมีพอเพียงเลี้ยงตนได้ เข้าดงดานนานกว่าคราใดใด ถึงแดนไกลที่ไม่เคยเลยก่อนมา
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, นักเลงกลอน, น้ำหนาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ แดนดงริมหิมพานต์อันลึกล้ำ เพียงยินคำคนครั้งเก่าเล่านักหนา อยากจะไปให้เห็นเป็นบุญตา แนววนาวิจิตรพิสดาร”
๏ เตรียมธนูหน้าไม้ของใช้สอย เผือก มัน กลอยหาได้หว่างไพรสาณฑ์ เสบียงกรังทั้งหยูกยาที่อาธาร* เมื่อจัดการครบครันจึงผันจร
๏ เบนหน้าบ่ายไปสู่อุดรทิศ เขตป่าปิดเดินยากมากสิงขร ด้วยจิตพรานผู้ชาญป่ามิอาทร เที่ยวแรมรอนนอนวนาหลายราตรี
๏ จนลุล่วงห้วงน้ำงามประหลาด รุกขชาติแปลกตากว่าทุกที่ ดุจเทวัญสรรค์บุปผาสุมาลี หลากหลายสีชื่นฉมชวนดมดอม
๏ น้ำใสสวยด้วยกลุ่มปทุมมาศ ดารดาษอุบลบานซ่านกลิ่นหอม ดุจแข่งขันกันชูกรอันอ่อนน้อม สะพรั่งพร้อมชมเพลินจำเริญใจ
รายนามผู้เยี่ยมชม : ฟองเมฆ, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, กร กรวิชญ์, ลมหนาว ในสายหมอก, รพีกาญจน์, Black Sword, ปิ่นมุก, หนูหนุงหนิง, ก้าง ปลาทู, นักเลงกลอน, น้ำหนาว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ ใกล้เวลาสายัณห์กระชั้นนัก หาที่พักสักคราค่อยมาใหม่ มองที่เหมาะจำเพาะค้างมิห่างไกล ลัดเลาะไปพบอาศรมบรมมุนี
๏ พรานสบายใจนักขอพักค้าง มิเดือดร้อนนอนห้างให้ยากที่ เดินมุ่งหน้าไปหาเจ้ากุฎี วันทาพระฤษีมีเมตตา
๏ พรานบุญถามความเป็นผู้อยู่โดดเดี่ยว “ภาระเกี่ยวภักษาหารใครสรรหา ยามเจ็บป่วยใครช่วยอวยหยูกยา เหล่าสัตว์ร้ายมีไหมมาบีฑากาย ”
๏ พระมุนีชี้แจง “แหล่งอาหาร ทุกวันวารขบฉันนั้นเหลือหลาย เลือกเพียงผลที่หล่นพื้นดื่นกระจาย ทั้งลิงป่ามาถวายให้ทุกวัน
๏ ส่วนหยูกยานานาพรรณสมุนไพร เกินต้องการสัญจรในพนขัณฑ์ ทุกก้าวย่างมิห่างยาสารพัน ต่างสามัญพิเศษเวชวนา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์
๏ สัตว์ร้ายใดไม่บีฑาวิสาสะ เบียดเบียนละทุกสิ่งอหิงสา การป้องกันนั้นหรือคือเมตตา มิได้มีเดชามาค้ำชู
๏ แล้วโยมเป็นพรานไพรหรือไรเล่า มิหาบเขา หนังใดสงสัยอยู่ เดินเข้าดงหลงผิดทิศมิรู้ หรือมาสู่เจตนาว่าอย่างไร”
๏ “ฉันเป็นพรานนานมาพนาเวศ ถ้วนทุกเขตท่องถึงสิ้นถิ่นไหนไหน เพียงป่านี้ที่เพิ่งมาเพราะว่าไกล เดินทางได้ลำบากยากเอาการ
๏ พบห้วงน้ำงามปานธารสวรรค์ ฤๅเทพสรรค์ถวายให้แก่ท่าน” คำโยคี “มีมาแต่ช้านาน อยู่ในเขตหิมพานต์มหาพน”
๏ “เมื่อวานผ่านมาเห็นเป็นบุญนัก พรุ่งนี้จักชมความงามอีกหน ด้วยติดตาตรึงใจคล้ายต้องมนต์ ชะตาดลประสบพบสิ่งดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|