บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนจากที่อื่น และจากกวีที่ชื่นชอบ => ข้อความที่เริ่มโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 10:08:56 PM



หัวข้อ: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 10:08:56 PM


(http://upic.me/i/1w/rayong.png) (http://upic.me/show/54627510)

ตั้งแต่เริ่มอ่านกลอนเป็น

บทกวีนี้ ผ่านหูผ่านตา หลายครั้งหลายครา
ไม่ทราบที่มาและผู้ประพันธ์

วันนี้ดีใจเหลือเกิน
ได้อ่านทั้งหมดของสำนวน

ขอบคุณ อาจารย์ภุชงค์ วงศ์กัณหา
ขอบคุณ คุณ Lex Saowapa
ขอบคุณ คุณ กฤตตะวัน ตะวัน จันทรา
ขอบคุณ คุณ Mayuree Boonyen

ขออนุญาตคัดลอกจากหน้าเฟสบุ๊ค
ตามที่ท่านเหล่านั้นบันทึกอักษรไว้
โดยไม่ได้ ตกแต่ง ดัดแปลง แก้ไข


หัวข้อ: Re: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 10:17:48 PM

ข้อความเริ่มต้นจาก อาจารย์ภุชงค์ วงศ์กัณหา

รักคือ...

กลอนรัก ที่ไม่รู้จักคนแต่ง
แต่เห็นคุณพ่อท่านเขียนไว้ในกระดาษฟุลสแก้ป
ด้วยลายมือ เมื่อประมาณ สี่สิบกว่าปีก่อน...
และจำได้ขึ้นใจ..

รักคือ...
คือน้ำผึ้ง คือน้ำตา คือยาพิษ
คือหยาดน้ำ อมฤต อันชื่นชุ่ม
คือเกษร คือดอกไม้ คือไฟรุม
คือความกลุ้ม คือความฝัน นั่นแหละรัก....

ท่านใดรู้จักผู้แต่ง ได้โปรดให้คำตอบด้วยครับ


หัวข้อ: Re: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 10:40:36 PM

คุณ Lex Saowapa ได้ตอบโพสต์และให้ข้อมูล ดังนี้

สายใย:

คือน้ำผึ้งคือน้ำตาคือยาพิษ
คือหยาดน้ำอมฤตอันชื่นชุ่ม
คือเกสรดอกไม้คือไฟรุม
คือความกลุ้มคือความฝันนั่นแหละรัก

.......(รยงค์ เวนุรักษ์)

?.. ?. ?.

..............คือน้ำผึ้ง............
ผ่านตาซึ้ง ตรึงหทัย ให้เพ้อหนัก
หวานลำนำ คำขาน ก็หวานนัก
หวานคำรัก ปักใจ ไว้ประจำ

...............คือน้ำตา...............
ในเวลา อกหัก รักถลำ
รินราดรด หยดใส่ หัวใจช้ำ
เพื่อจะชำ? ระร้าว คาวแผลใจ

...............คือยาพิษ...............
ยอมชิวิต ปลิดปลง ยามหลงไหล
จะดีชั่ว ก็ไม่ถาม ห้ามหทัย
จะรักไป จนกว่า ชีวาวาย

............คือน้ำอมฤต...........
ช่วยให้จิตรื่นรมย์เมื่อสมหมาย
ทุกข์ก็ดับขับร้อนให้ผ่อนคลาย
เจ็บเจียนตายหายสนิทด้วยฤทธิ์รัก

..........คือเกสรดอกไม้............
โลกสดใสหอมหวานมานประจักษ์
เมื่อร่วมเรียงเคียงเธอที่เพ้อภักดิ์
สุขยิ่งนักเหนือใครในโลกนี้

................คือไฟ................
ที่เผาไหม้ในทรวงยากล่วงหนี
ให้เร่าร้อนอาวรณ์ถวิลทั้งอินทรีย์
เพียงนาทีที่ห่างเธอร้างไกล

...........คือความกลุ้ม...........
รักที่สุมรุมล้นเกินทนไหว
ฤๅจะร้าวรานจิตยิ่งคิดไป
จะจริงใจใหมหนอหวังคลอเคล้า

.........คือความฝัน...........
เพียงเธอฉันบรรเจิดเฉิดเฉลา
สู่สายรุ้งมุ่งสรวงในทรวงเรา
ลืมความเศร้าเนาสุขลืมทุกข์ภ้ย

... .... .....

นั่นแหละรักที่ฉันเฝ้าฝันถึง
ไม่ได้ครึ่งในวจีที่ฉันได้
คีอน้ำตายาพิษและฤทธิ์ไฟ
จึงทำให้ ใยเหงา เข้าปกคลุม

คือน้ำผึ้งคือน้ำตาคือยาพิษ
คือหยาดน้ำอมฤตอันชื่นชุ่ม
คือเกสรดอกไม้คือไฟรุม
คือความกลุ้มคือความฝันนั่นแหละรัก

.......(รยงค์ เวนุรักษ์)




หัวข้อ: Re: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 10:49:58 PM


และคุณ Lex Saowapa ได้บันทึกข้อความเพิ่มเติมว่า

--- รยงค์ เวนุรักษ์ : ห นึ่ ง นั ก เ ขี ย น ห ญิ ง ใ น ด ว ง ใ จ ---

เพื่อนผู้หนึ่งเป็นกวี เคยเขียนถึงพธูผู้เป็นไฟรักในหัวใจได้งดงามนัก
เปรียบเปรยและเทิดทูนไว้เช่นบัวบริสุทธิ์
ในขาวกลีบบัวอันไพเราะ และยังไม่มีใครเทียบ
ท้ายสุดของโคลงบทนั้น
เขารินอารมณ์จารึกความไว้ว่า

โกมุทโกเมศแก้ว.. กลางกมล พี่เอย
โฉมแม่คืออุบล..... แบ่งภาค
มอบสมัครมาดหมายหน.. ทางร่วม ทางแม่
ต่อแม่สู่ฟากฟ้า.. แม่ถึงพี่ถึง

อ่านแล้วพลอยชื่นหัวใจแทนเธอที่เขาเขียนถึง
จนนึกอยากจะเกิดมาเป็นดอกบัวในภพใหม่กะเขาบ้าง
แต่อย่าดีกว่า...เดี๋ยวบุญไม่ถึงต้องเกิดมาเป็นใบบัวก็เสร็จกัน
คนก็ไม่มอง ผึ้งก็ไม่แลแล้ว
กว่าเราจะได้เกิด ใครก็คงลืมกันเสียหมดแล้ว
ว่า ใบบัวนั้นห่อข้าวหอมนัก แม้ว่าข้าวนั้นจะไม่ใช่ข้าวหอม

บางตอนจาก..บ่ายวันหนึ๋ง
รยงค์ เวนุรักษ์

รยงค์ เวนุรักษ์ มีชื่อจริงว่า มานี ศุกรสูยานนท์
เป็นนักเขียนรุ่นเดียวกับ สุวรรณี สุคนธา
เธอเป็นนักเขียนที่เขียนเรื่องสั้นเชิงสังวาส
หรืออีโรติกได้ละเมียดละไม ภาษาพริ้งพราย
จนคนในวงวรรณกรรมเข้าใจกันว่า
เป็นอีกนามปากกาหนึ่งของสุวรรณี สุคนธา
เรื่องสั้นของเธอจะเน้นที่อารมณ์
มีความโดดเด่นและมีเสน่ห์ซ่อนระหว่างบรรทัด
เป็นที่กล่าวขวัญ แม้กระทั่ง 'รงค์ วงษ์สวรรค์
ก็แสดงความชื่นชมในฝีมือของนักเขียนหญิงคนนี้
เธอมีเรื่องสั้นเรื่องแรกตีพิมพ์ในนิตยสารชาวกรุงยุคแรกชื่อ "ยายแปลก"
รวมเรื่องสั้นชุดแรกและชุดสองใช้นามปากกา "มน เมธี"
ได้แก่ น้ำใจไหลเชี่ยวและมาคนเดียว
รวมเรื่องสั้นชุด "กระดังงากลีบไหน"
ใช้นามปากกา "รยงค์ เวนุรักษ์"
พิมพ์ครั้งแรกโดย 'รงค์ วงษ์สวรรค์และเพื่อนหนุ่มเมื่อปี 2513

'รงค์ วงษ์สวรรค์ เขียนถึงเธอว่า
"...หญิงสาวผู้น่ารักนั่งห่มน้ำตาฟ้าคืนแรมอยู่ในความอ้างว้าง
...เป็นศัตรูกับคนที่หล่อนรักหรือหล่อนอยากตายก็ตายได้สมเจตนา"

และในบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจลงไว้ว่า
" มีผู้หญิงกินยานอนหลับเกินขนาดถึงแก่ชีวิต เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 12 "





หัวข้อ: Re: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 10:54:54 PM


ในโพสต์หัวข้อเดียวกัน
คุณ กฤตตะวัน ตะวัน จันทรา
ได้นำกลอนสำนวนหนึ่งมาลง
ที่ไพเราะงดงามเช่นกัน

ความรักคือ อะไร ได้หลายอย่าง
ความหมายต่าง กันไป หลายสถาน
ขึ้นอยู่ที่ เขาพบ ประสบการณ์
ที่พบพาน ผ่านมา ของหญิงชาย

คนอกหัก บอกรัก เหมือนยาขม
ต้องตรอมตรม เพราะรัก มาหักหาย
ด้วยผิดหวัง ดังหนึ่ง รอวันตาย
กระวนกระวาย ไร้สุข ทุกข์อุรา

คนสมหวัง บอกรัก ดังความหวาน
ดุจอ้อยตาล หวานรส เสน่หา
มองทางไหน ไร้ทุกข์ สุขอุรา
เหมือนหนึ่งว่า โลกนี้ มีเพียงเรา

อันความรัก นั้นมัก มีสองด้าน
ทั้งขมหวาน มีสุข ทุกข์เงียบเหงา
จะขมหวาน เลิศหรู อยู่ที่เรา
จะเลือกเอา อย่างไร ที่ใจตน

ไม่ว่าหญิง หรือชาย ที่มีรัก
ต้องประจักษ์ สองด้าน ทุกแห่งหน
ต้องพบพาน หวานขม กันทุกคน
หนี้ไม่พ้น สองอย่าง ต่างคู่กัน

ไม่ว่าหญิง หรือชาย ที่หมายรัก
แน่นอนนัก อยากพบ สบสุขสันต์
เป็นความรัก หวานชื่น ชั่วนิรันดร์
แต่รักนั้น ไม่แน่ ต้องแปรไป

หากมีรัก แน่นัก ต้องมีทุกข์
ทั้งความสุข สองอย่าง อย่าสงสัย
เมื่อรักแล้ว ต้องพบ ทุกคนไป
จักมีใคร หนีรัก ได้สักคน

จงแต่งเติม เสริมค่า ของความรัก
มีค่านัก หากอยู่ รู้เหตุผล
ถ้าพลาดพลัง ไปหน่อย ค่อยค่อยยล
อาจพบหน ทางสุข ของชีวา

แล้วท่านเล่า ความรัก คืออะไร
บอกได้ไหม ให้นิยาม เพื่อศึกษา
ประสบการณ์ รักท่าน ที่ผ่านมา
ควรบูชา หรือไม่ อย่างไรเอย




หัวข้อ: Re: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 11:00:50 PM


อาจารย์ภุชงค์ วงศ์กัณหา
ได้นำสำนวนกลอนของ "หยก บูรพา"
ที่มีวรรคทอง เป็นที่รู้จักกัน
มาประกอบด้วย

เป็นอีกหนึ่งสำนวน ที่กรกชได้มีโอกาสอ่านฉบับเต็ม

ชอบวรรคทองที่เป็นผลงานของ เฉลิม รงคผลิน หรือ หยก บูรพา

"ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน"

จริงหรือนี่ที่ว่ารักเราจักร้าว
นึกแล้วหนาวเหน็บนักแก้วรักเอ๋ย
รสสัมผัสอ่อนละมุนที่คุ้นเคย
ไยจึงเผยรสร้างจืดจางกัน

เราเคยร่วมใจฝันว่าวันหนึ่ง
เราจะถึงวันที่งามเหมือนความฝัน
ฟ้าสีทอง ดอกไม้บาน ธารพระจันทร์
และรักอันคงค่าสถาพร

ฉันเฝ้ารอคอยวันที่ฝันไว้
รอด้วยรักด้วยใจไม่ถ่ายถอน
แต่นี่สร้อยสายสวาทมาขาดตอน
เธอกล้ารอนลงด้วยมือเธอหรือไร

เมื่อเธอสิ้นเสน่หามาสนอง
รักที่ปองมอดหมดความสดใส
แผลรักร้ายบ่อนทั่วเนื้อหัวใจ
จะต้องปวดร้าวไปถึงไหนกัน

ดอกรักบานในหัวใจใครทั้งโลก
แต่ดอกโศกบานในหัวใจฉัน
และอาจเป็นเช่นนี้ชั่วชีวัน
เมื่อรักอันแจ่มกระจ่างกลับร้างไกล

นิยายรักยืดยาวของเรานั้น
คงไร้วันสดชื่นขึ้นบทใหม่
หมดความหมายที่จะรอกันต่อไป
เพราะเปลวไฟรักดับลงกับตา

เห็นกลอนมันเพราะดีเลยเอามาฝากครับ..


หัวข้อ: Re: บทกวีของ...คุณรยงค์ เวนุรักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 14, กุมภาพันธ์, 2558, 11:10:24 PM


โพสต์ล่าสุด คุณ Mayuree Boonyen
ได้บันทึกข้อความไว้ว่า


ใช่ค่ะ ผลงานของรยงค์ มีคนนำไปรวบรวมไว้ในหนังสือ
วรรคทองของวรรณคดี และวรรณกรรมอยู่นะคะ
ทำให้บทกลอนไพเราะเหล่านี้ได้รับการเผยแพร่เพิ่มขึ้นค่ะ

ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้ได้รู้จักคุณรยงค์เพิ่มขึ้น
แต่ตอนท้ายหักมุมราวกับเรื่องส้ันช้ันดี
เสียใจ..เสียดาย สลับกับความรู้สึกเห็นใจคนอ่อนไหว
ที่ต้องพ่ายแพ้ต่อเกมชีวิต รันทดล้นเหลือค่ะ