บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม => ข้อความที่เริ่มโดย: แสงประภัสสร ที่ 13, มกราคม, 2567, 03:29:09 PM



หัวข้อ: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 13, มกราคม, 2567, 03:29:09 PM
(https://i.ibb.co/5cq7vNn/Screenshot-20240111-115044-Google.jpg) (https://ibb.co/9YRM2FV)
อ้างถึง

พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกะสังโฆ

กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง

 ๑.พระสงฆ์นั้น ประพฤติ ชอบยิ่งเยี่ยม
ความจริงเปี่ยม เตรียมศาสน์ ได้สอนสาร
หนึ่งในสาม พระรัตน์ฯ มิคลอนงาน
ผู้ป้อนขาน พานพึ่ง ใจกลางชน

 ๒.อริยะ พระสงฆ์ คุณเลิศหรู
ผู้เพริศอยู่ แต่โสดา พร่างผล
คุณประโยชน์ เก้าอย่าง ทั่วทางดล
นำสร้างคน ทำตาม ใจกลืนกลม

 ๓."สุปฏิฯ" แปลว่า ทำเลิศแผ้ว
เร็วเถิดแน่ว ทางกลาง สดชื่นสม
ไม่ถอยหลัง ก้าวหน้า วันคืนชม
มุ่งยืนบ่ม มรรคแปด ทางเรืองรอง

 ๔.กลมเกลียวกับ พระพุทธฯให้ยวดยิ่ง
ตรึกชวดดิ่ง สิ่งโกรธ โทษเรื่องผอง
ตรงสู่ทาง อริยะ เนืองนอง
จิตเฟื่องต้อง บรรลุ นิพพานพลัน ฯ|ะ

แสงประภัสสร

ศาสน์=คำสั่งสอน
พระรัตน์ฯ=พระรัตนตรัย
อริยะ=ผู้บรรลุโลกุตตรธรรม ตั้งแต่โสดาบันขึ้นไป
คุณของพระสงฆ์เก้าอย่าง= คือเริ่มตั้งแต่ "สุปฏิปันโน ..." เป็นต้นไป
สุปฏิฯ=สุปฏิปันโน ทำดีแล้ว
กลาง=ปฏิบัติทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไป และไม่หย่อนเกินไป
มรรคแปด= ทางพ้นทุกข์ ๘ ประการ
พระพุทธฯ=พระพุทธเจ้า
นิพพาน=การดับสนิทแห่งกองกิเลสและกองทุกข์

(ขอบคุณเจ้าของภาพจาก อินเทอร์เน๊ต)


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 20, มกราคม, 2567, 10:26:41 AM

(https://i.ibb.co/MkDnZnP/Screenshot-20240111-114604-Google.jpg) (https://ibb.co/3my141S)

พระสังฆคุณ ๙: ๒. อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ

กลอนกลบท รักร้อย

 ๑."อุชุฯ" สงฆ์ สงฆ์ ล้ำเลิศทำ"ตรง"
ใจมั่นคง คง จุดหลักพุทธ์หนา
ไม่กระทำ ทำรานโลกมารยา
ลับหลังว่า ว่าแสร้ง ทำแคลงใจ

 ๒.ไม่โอ้อวด อวดตน ว่าท้นเหนือ
สงฆ์อื่นเชื่อ เชื่อ ข้าแน่กว่าไผ
มุ่งตรงข้อ ข้อวัตร รู้ชัดไว
สาวกใด ใด จิตน้อมชิดยง

 ๓.ทำกิจมรรค มรรค ต้องหมั่นตรองเพียร
มิหน่ายเปลี่ยน เปลี่ยน ละพิศวง
ลุนิพพาน พานสุข ดับทุกข์ลง
ประโยชน์ส่ง ส่งตน ปวงชนยล ฯ|ะ

แสงประภัสสร

อุชุฯ=อุชุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ แปลว่า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติตรง
วัตร=ข้อปฏิบัติ
มรรค=ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ มีองค์ประกอบ ๘ ประการ
นิพพาน=การดับสนิทแห่งกองกิเลสและกองทุกข์
กิเลส=สิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมอง มี ๓ อย่าง คือ โลภ โกรธ หลง

(ขอบคุณเจ้าของภาพ จาก อินเทอร์เน๊ต)



หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 27, มกราคม, 2567, 10:08:06 AM
พระสังฆคุณ ๙: ๓.ญายะปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ

กลอนกลบท ม้าเทียมรถ

 ☆ญายะฯบ่ง สงฆ์พร่ำ ทำถูกทาง
ถูกทางกลาง แน่วดุจ พุทธฯสั่งสอน
สั่งสอนพรู รู้ธรรม คว่ำทุกข์รอน
ทุกข์รอนหวัง ลดทอน หมดสิ้นไป

 ☆สิ้นไปรุด สุดลิบ พระนิพพาน
นิพพานดล พ้นผ่าน เกิดวิสัย
วิสัยหลุด วัฏฏะฯ ปะเลิศชัย
เลิศชัยนำ เริงใจ สุขเมลือง ฯ|ะ

แสงประภัสสร

ญายะฯ=ญายะปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ แปลว่า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติถูกทาง
พระพุทธฯ=พระพุทธเจ้า
พระนิพพาน= ดับกิเลสสิ้น พ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
วัฏฏะฯ=วัฏฏสงสาร คือ การเวียนว่ายตายเกิด


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 30, มกราคม, 2567, 10:10:37 AM
พระสังฆคุณ ๙: ๔. สามีจิปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ

กลอนกลบท พยัคฆ์ข้ามห้วย

 ๑."สามีฯ"แปล สงฆ์ทำ ย้ำควรแปล
ศิษย์สืบสาน พระแท้ แน่ประสาน
สำรวมการ พานดี ปรี่ทำการ
พูดรื่นรมย์ คำขาน กานต์ภิรมย์

 ๒.ประพฤติตน ก่นเรียน เพียรด้วยตน
สมาธิ์สม บัดดล คลี่ใจสม
กายใจคม บ่มเลิศ เพริศบังคม
สู่นิพฯแดน ชื่นชม สงบแดน

 ๓.สงฆ์ทำกิจ ลุนิพฯ เสร็จลิบกิจ
ต้องเพียรแสน แม้นจิต คิดเด็ดแสน
กว่าลุแกน มรรคคลี่ ผลสี่แกน
ผ่าน"หนึ่ง"แจว "สอง"แม่น "สาม,สี่"แจว

 ๔.คู่หนึ่งเกิด "โสดามรรคฯ"มาเกิด
ผลยิ่งแผ้ว แกล้วเลิศ "โสดาฯ"แผ้ว
คู่สองแพรว "สกิมรรคฯ"สิแพรว
สกิฯดล ผลแน่ว แจ้วเร็วดล

 ๕.คู่สามผ่าน"อนามรรคฯ"พาผ่าน
"อนาผลฯ" พ้นงาน พานพร่างผล
มรรคสี่ยล "อร์หันต์" นั้นยิ่งยล
"อร์หันต์ฯ"พลัน เกิดดล ด้นรี่พลัน

 ๖.ผลบัดดล "อร์หันต์" ลั่นรี่ดล
หลุดพ้นขันธ์ ตัวตน หล่นจากขันธ์
เหตุนิพฯยรร คุณสงฆ์ บ่งเทิดยรร
ควรเชื่อฟัง ตั้งมั่น ครั้นน้อมฟัง ฯ|ะ

แสงประภัสสร

สามีฯ=สามีจิปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ แปลว่า พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า เป็นผู้ปฏิบัติสมควร
พระฯ=พระพุทธเจ้า
สมาธิ์=สมาธิ
มรรค=ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์
นิพฯ,นิพพาน=การดับสนิทแห่งกองกิเลสและกองทุกข์
มรรคสี่,ผลสี่ รวม 8 คู่
-คู่ที่ 1 พระโสดาปัตติมรรค และ พระโสดาปัตติผล
-คู่ที่ 2 พระสกทาคามิมรรค และ พระสกทามิผล
-คู่ที่ 3 พระอนาคามิมรรค และ พระอนาคามิผล
-คู่ที่ 4 พระอรหันตมรรค และ พระอรหันตผล
ขันธ์=ส่วนของรูปกับนามที่แยกออกเป็น 5 ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
อร์หันต์=พระอรหันต์ :t42:


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 01, กุมภาพันธ์, 2567, 08:16:29 AM

พระสังฆคุณ ๙: ๕.อาหุเนยโย

กลอนกลบท นายโรงลืมกรับ

 ๑.อาหุฯคือ พระสงฆ์ บ่งควรรับ
สิ่งคำนับ ที่ชน ยลกราบปรก
ด้วยบูชา ทดแทน แก่นดีพก
สงฆ์ทำยก ทุกสิ่ง จริงแจงพจน์

 ๒.สงฆ์พฤติเลิศ เทิดเด่น ละกิเลส
อดทนเทศน์ เจตสอน ตอนกำหนด
รับอาหาร แต่บิณฑ์ สิ้นแล้วงด
พอใจพรต จดจ่อ มิซอนซุก

 ๓.ก่อศรัทธา ทั่วหล้า ฟังธรรม์รักษ์
สมาธิ์จัก เสร็จพาน ฌานพูนสุข
สงฆ์ให้มาก กว่ารับ นับเนื่องชุก
สมควรลุก รับผอง ของเลิศรส ฯ|ะ

แสงประภัสสร

อาหุฯ=อาหุเนยโย เป็นผู้ควรแก่ของที่เขานำมาถวายหรือผู้ควรแก่ของคำนับ
กิเลส=สิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมอง ได้แก่ โลภ โกรธ หลง
บิณฑ์ฯ=บิณฑบาตร
สมาธิ์=สมาธิ
ฌาน=ภาวะที่จิตสงบแน่วแน่ เนื่องมาจากการเพ่งอารมณ์ จนจิตเป็นสมาธิ
รส=ความรู้สึกชอบใจ,สิ่งรู้ด้วยลิ้น


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 02, กุมภาพันธ์, 2567, 03:40:56 PM
พระสังฆคุณ ๙: ๖. ปาหุเนยโย

กลอนกลบท ธงนำริ้ว

 ๑.ผู้ผู้ล้วน"ปาหุฯ"ควรรับผอง
เหมาะเหมาะกับ สิ่งของ ตรองถวาย
สงฆ์สงฆ์พฤติ ทำดี หนีภัยกราย
ปราศปราศฆาต มาดร้าย มีมงคล

 ๒.พฤติพฤติตน คนดี ควรกราบไหว้
สอนสอนถูก ตรงไซร้ไวผ่องผล
ชื่อชื่อลือ ฟูเฟื่อง เปรื่องมวลชน
กล่าวกล่าวคำ เทิดล้น คนสมควร

 ๓.ไปไปแห่ง ใดไหน ใฝ่ประโยชน์
เกื้อเกื้อชน ปราโมทย์ โจษมิผวน
พระพระสงฆ์ ศิษย์พุทธ์เจ้ารุดพรวน
บ่มบ่มตน ครบถ้วน อริย์วงศ์

 ๔. หมู่หมู่ศิษย์ มรรค,ผล ทักแปดคน
เริ่มเริ่มดล"โสดาฯ"มรรคเนื่องสงค์
ท้ายท้าย"อร์หัตผลฯ"ชัดทรง
ยิ่งยิ่งส่ง นบน้อม พร้อมเทิดทูน ฯ|ะ

แสงประภัสสร

ปาหุฯ=ปาหุเนยโย แปลว่า ผู้ควรแก่การต้อนรับ
มงคล=เหตุที่นำมาซึ่งความเจริญ,สิ่งนำสิริและความเจริญป้องกันสิ่งเลวร้าย
พระพุทธฯ=พระพุทธเจ้า
อริยะ=พระอริยะ คือผู้บรรลุธรรมวิเศษ ตั้งแต่โสดาปัตติมรรคเป็นต้นไป รวม ๔ คู่ ๘ คน
๑) คู่ที่ ๑ พระโสดาบัน บรรลุโสดาปัตติมรรค ตามด้วยโสดาปัตติผล ๒) คู่ที่ ๒ พระสกิทาคามี บรรลุ สกิทาคามีมรรค ตามด้วย สกิทาคามีผล ๓)คู่ที่ ๓ พระอนาคามี บรรลุ อนาคามีมรรค ตามด้วย อนาคามีผล ๔)คู่ที่ ๔ พระอรหันต์ บรรลุ พระอรหัตตมรรค ตามด้วย อรหัตตผล


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 08, กุมภาพันธ์, 2567, 03:19:03 PM
พระสังฆคุณ ๙: ๗. ทักขิเนยโย




กลอนกลบท จตุรงคประดับ

 ๑.พระสงฆ์ผู้ รู้จะสอน จะสวดธรรม
พระสงฆ์นำ พร่ำสะอ้าน สะอาดศานติ์
พระสงฆ์เหมาะ เจาะรับข้าว รับของทาน
พระสงฆ์ชาญ ด้านบุญคุณ บุญครองคน

 ๒.ทักษิณา ว่าภัตเลอ ภัตเลิศหล้า
ทักษิณา น่าน้อมสงฆ์ น้อมส่งผล
ทักษิณา พาผู้เตรียม ผู้ตายพ้น
ทักษิฯท้น ดลเทิดสงฆ์ เทิดสร้างครัน

 ๓.ทักขิฯยง สงฆ์,ผู้รับ ผู้รวมของ
ทักขิฯซ้อง ส่องบุญเพิ่ม บุญพูนสรร
ทักขิฯดล ผลทานเฟื่อง  ทานฟูท้น
ทักขิฯนั้น พลันช่วยพอก ช่วยพูนบุญ ฯ|ะ

แสงประภัสสร

ทักษิฯ=ทักษิณา,ของถวายพระในการทำบุญ
ทักขิฯ=ทักขิเนยโย,ผู้ควรแก่ทักษิณาทาน,ผู้สมควรรับของบริจาคทาน


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 09, กุมภาพันธ์, 2567, 10:19:42 AM

พระสังฆคุณ ๙: ๘. อัญชะลีกะระณีโย

กลอนกลบท จตุรงคยมก

 ๑.สงฆ์สาวก พระพุทธฯ รุดทำกิจ
สั่งสมวิทย์ สะอาด น่ากราบหนา
น้อมเชิดชู ยกย่อง สอนคล่องพา
แนบชินชา ใจชิด เนืองนิตย์กาล

 ๒."อัญชลีฯ" ผู้ควร เชิดชูกราบ
อันชาญลาภ ยศศักดิ์ อันจักขาน
เพราะพระสงฆ์ กิเลส หมดเศษราน
พรั่งพร้อมสาร ความดี ควรคลี่ใจ

 ๓.สงฆ์กอปรเกี้อ เอื้อธรรม นำดีเลิศ
สุขก่อเกิด แด่ชน เลิศล้นศรัย
ชนเจริญ พลัง ชีพหวังไกล
ชุ่มใจไร้ ความทุกข์ เกิดสุขนาน ฯ|ะ

แสงประภัสสร

พระพุทธฯ=พระพุทธ
อัญชลีฯ=อัญชะลีกะระณีโย, เป็นผู้ควรแก่การ กราบไว้
กิเลส=สิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมอง มี ๓ อย่างคือ โลภ โกรธ หลง


หัวข้อ: Re: พระสังฆคุณ ๙: ๑. สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวกสังโฆ ~ กลอนกลบท ลิ้นตะกวดคะนอง
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 11, กุมภาพันธ์, 2567, 09:49:52 AM

พระสังฆคุณ ๙: ๙. อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ

กลอนกลบท อุภะโตโกฏิวิลาศ

 ๑."อนุตตะ" แปลว่า เป็นนาบุญ
นาบุญคุณ ไหนเทียบ เปรียบได้หนอ
สงฆ์ทำชอบ กระเดื่อง ทั่วเมืองยอ
มิได้ท้อ สอนธรรม ย้ำไปไกล

 ๒.เหล่าสงฆ์รุด ผ่องใส ใจสะอาด
ความดีดาษ ผู้คน พิศมัย                     
ก่อนาบุญ เพาะเพริศ เชิดชูใจ
คุณธรรมไซร้ ระบือ กระพือนาม

 ๓.ไทยธรรม ถวาย กรายแด่สงฆ์
กุศลยง มากล้น ดลใจหวาม
ดั่งปลูกพืช ดินดี ผลคลี่งาม
ไพบูลย์ตาม หลากท้น ชนต้องการ

 ๔.สงฆ์,แหล่งบุญ คุณจริง ยิ่งในโลก
คนมีโชค ได้สุข สิ้นทุกข์ผลาญ
จึ่งรับผล เพิ่มบุญ คุณก่องาน
สุขสำราญ เจิดจ้า คว้าชมไช ฯ|ะ

แสงประภัสสร

อนุตตะฯ=อนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ  แปลว่า เป็นเนื้อนาบุญอันยอดเยี่ยมของโลก ไม่มีเนื้อนาบุญอื่นยิ่งกว่า
ไทยธรรม=ของทำบุญต่างๆ,ของถวายพระ