หัวข้อ: ...ไฟมอดกลอนช้า ไฟมากลอนโชว์... เริ่มหัวข้อโดย: พชรบงกช ที่ 16, กรกฎาคม, 2556, 12:27:42 PM (http://lh6.ggpht.com/_Xhlcxbe9Nzc/SoESQ9ttYdI/AAAAAAAAU7w/ZYPhENTeY9M/s800/f9.jpg) ไฟเริ่มมอดดับลงวงศ์อักษร แต่ละกลอนจึงช้ากว่าแต่เก่า บางครั้งเขียนเพียรไปได้เพียงเงา เพราะมันเน่าเกินกว่านำมาโชว์ ไม่คิดแข่งแต่งนับลำดับขั้น แต่พิถีพิถันมิให้โหล ถึงแม้จะมิใช่คนใหญ่โต คนเห็นชื่อร้องโห! นักกลอนดัง ฉันทลักษณ์หลักใช้ยังไม่ทิ้ง จึงต้องยิ่งทบทวนหวนกลับหลัง วรรคต่อวรรคสัมผัสจัดระวัง ก็มีเผลอบางครั้งให้เห็นกัน "ผิดเป็นครู" ดูท่าว่าจะแย่ คงได้แต่เป็นครูครูอยู่นั่น มิได้เป็นอย่างอื่นเพื่อยืนยัน ว่าตัวฉันเป็นได้ไม่เหมือนเดิม จะคอยให้ใครทักมักล่าช้า ขายขี้หน้าแท้แท้แย่พูนเพิ่ม เมื่อเขียนมากควรได้อะไรเติม เพื่อสร้างเสริมชำนาญเรื่องกานท์กลอน ถึงจะช้ากว่าเก่าเต่าเรียกพี่ ก็เพื่อความดูดีไม่มีข่อน*** เรื่องเลิกลาไม่คิดจิตอาวรณ์ หากยามใดไฟร้อนกลอนมาเอง :004: (http://i882.photobucket.com/albums/ac25/Kan_ry/543361_zpsb767c3b6.gif) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_210.gif) (http://www.klonthaiclub.com) *** ข่อน ว. ปั่นป่วน, ไม่สบายใจ, โดยมากใช้เป็นคําคู่ เช่น อกใจมันให้ ข่อน ๆ จะนั่งนอนก็ไม่หลับสนิท. (ม. ร่ายยาว ทานกัณฑ์). (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒) หัวข้อ: Re: ...ไฟมอดกลอนช้า ไฟมากลอนโชว์... เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16, กรกฎาคม, 2556, 02:52:02 PM ฉันก็เป็นเหมือนกันมันชักล้า ก็เฉื่อยชาลงไปไม่อาจเร่ง ค่อยเตาะแตะต่อใครใครไปตามเพลง ตั้งกระทู้โหรงเหรงนานนานที การผิดพลาดเผลอไผลแก้ไม่หาย ยิ่งภาคบ่ายถึงค่ำคะมำถี่ เพราฉันไม่ใช่กวินกินดีกรี หากกลอนดี..ชมตัวช่วยฉันด้วยนะ.. ธนุ เสนสิงห์ :046 |