หัวข้อ: สุดยอดโคตรโกหก (นิทานขำขัน) เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 24, มีนาคม, 2557, 08:35:32 PM :AddEmoticons00918:
สุดของสุดโกหก ครั้งหนึ่งมีชายหนุ่ม 3 คน และชายแก่ 4 คน ต่างมาพร้อมกันที่กระต๊อบกลางทุ่งนาหลังหนึ่งโดยมิได้นัดหมาย ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าวันนั้นฝนตกหนัก ต่างคนต่างมาหลบฝน ทุกคนล้วนรู้จักมักคุ้นกันดีเพราะเป็นคนหมู่บ้านเดียวกัน เมื่อหมดเรื่องสนทนาเนื่องจากฝนตกเป็นเวลานาน ก็นำนิทานพื้นบ้านมาเล่าสู่กันฟัง นิทานที่เล่ากันในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหก ผลัดกันเล่า คราวนี้ถึงตาลุงแดงบ้าง (ชายแก่รุ่น 70 ปี ) "เรื่องนี้โกหกสุด ๆ" เน้นให้ผู้ฟังสนใจ "เรื่องนี้เป็นเรื่อง ของ ทวดของทวดของทวดของทวดของพ่อของฉันเอง" "เอาแค่ทวดของทวด ก็นานแล้ว" เขียวเด็กหนุ่มวัย 40 สอดมาบ้าง ลุงแดงเล่าต่อ " ทวดของทวดของทวดของทวดของพ่อของฉัน ท่านมีทุเรียนต้นหนึ่งสูงมาก สูงเสียดฟ้าเลย ตอนลูกมันหล่นจากต้น คอยกันนานแสนนาน ดีที่ท่านเป็นคนรู้จักสังเกต รู้ว่าทุเรียนเริ่มผลิดอกเมื่อไร สุกเมื่อไร" หยุดพูดถอนใจนิดหนึ่ง เขียวก็สอดขึ้นทันที "หล่นเมื่อไร" "ใช่แล้ว เขียวนี่เก่ง เคยได้ยินมาก่อนหรือเปล่า" เขียวไม่ตอบคำถาม ลุงแดงก็เล่าต่อ "นั่นแหละที่เขียวว่ามาเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ทุก ๆปีท่านจะทำข้าวเหนียวทุเรียนเลี้ยงชาว บ้านทั้งตำบลด้วยทุเรียนที่หล่นลงมาลูกแรก เชื่อไม่ทุเรียนแค่ยวงเดียวเลี้ยงชาวบ้านได้ทั้งตำบล เมื่อรู้ว่าทุเรียนลูกแรกหล่นจากต้นแล้ว ท่านก็ชวนพรรคพวกลงมือทำนาปลูกข้าวเหนียวทันที รอทุเรียนหล่นตั้งแต่ทำนาจนถึงเก็บเกี่ยวและสีเป็นข้าวสาร ทุเรียนก็หล่นถึงพื้นพอดี ท่านบอกว่า คำนวณไม่เคยพลาดสักครั้งเดียว" "แต่พลาดหลายครั้ง" เขียวเจ้าเดิม กระเซ้ามาอีกครั้ง เรียกเสียงฮาได้ทั้งกระต๊อบ ลุงชื่น สนับสนุนเพื่อนทันที " เออ ทวดของทวดของทวดของทวดของพ่อของฉันเอง เคยเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งทุเรียนลูกที่หล่นลงมาแตกกระจาย ยวงทุเรียนกระเด็นออกจากเปลือกหมด เหลือเปลือกเปล่ากระจายอยู่ใต้ต้นทุเรียน กลิ่นเปลือกหอมมาก ควายของท่านพยายามตะเกียกตะกาย จนเข้าไปนอนในเปลือกจนได้ แต่ไม่ใช่ตัวเดียวนะ ทั้งฝูงเลย ควายฝูงนั้นเป็น 100 แน่ะ" เรียกเสียงฮาทั้งกระต๊อบอีกครั้ง แต่ที่ฮาดังที่สุด และยาวที่สุด ก็ตอนที่เขียวเล่าต่อ " นี่ฟังผม แล้วคิดให้ดี ๆ นะครับ ทวดของทวดของทวดของทวดของพ่อของผมเอง ท่านเคยเล่าว่า หมูของท่านเคยไปที่ต้นทุเรียนต้นนี้ ท่านบอกว่าทุเรียนต้นนี้หอมมาก ๆ รู้ไม่ว่าหมูมันไปทำไม มันไปกินทุเรียน มันเลือกลูกที่ไม่แตก วีธีกินของมันแปลกกว่าหมูตัวอื่น ๆ คือมันจะกลืนทุเรียนไปทั้งลูก" ขณะที่ทุกคนนั่งหัวเราะกันอย่างเพลิดเพลิน ลุงแช่มเดินเข้ามาพอดี "ได้จังหวะดีที่เดียว ยอดโกหกในหมู่บ้านมาแล้ว ช่วยเล่าเรื่องโกหกให้ฟังหน่อย" ลุงแดงพูดด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง "เปียกก็เปียก นั่งไม่ได้หรอก ที่สำคัญ ควายอ้ายช้อยมันติดหล่มตาย มันให้คนมาตามฉันไปช่วยชำแหละ" พูดขาดคำก็รีบเดินไปทันที ลุงแดงตะโกนไล่หลังไป "ควายตายอยู่ที่ไหนล่ะ พี่ แช่ม" ลุงแช่มตะโกนตอบมา "ใกล้บ้านอ้ายช้อยนั่นแหละ" ฝนก็ยังไม่ซาเม็ด ดูเหมือนจะตกหนักยิ่งกว่าเดิม คอนิทานที่อยู่ในกระต๊อบยังคงเล่ากันต่อ ส่วนลุงแดงยังติดใจเรื่องควายที่ติดหล่ม "นี่พวกเราไม่คิดจะเอาเนื้อควายอ้ายช้อยมาแกล้มบ้างรึ" ลุงแดงพูดหยั่งเสียงดู "เออ ฝนตกอย่างนี้เข้าบรรยากาศชะมัด" ลุงชื่นคอเหล้าโรงสนับสนุนทันที ทุกคนต่างเห็นตรงกัน พร้อมใจทนเดินท่ามกลางสายฝนที่ยิ่งทวีขึ้น ประมาณสักครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้าน คุณช้อย คุณแช่มนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน ส่งยิ้มไปแต่ไกล ลุงแดงยิ้มรับอย่างคนมีความหวัง และตะโกนทันที "พี่แช่ม ชำแหละเสร็จแล้วยัง" ลุงแช่ม ไม่ตอบ ได้แต่นั่งยิ้ม เมื่อพรรคพวกเข้ามาถึง หัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วพูดว่า "ไหนบอกให้เล่าเรื่องโกหก" http://www.naturedharma.com/data-1899.html :AddEmoticons00916: |