ƸӜƷ˜”*°•.•.¸ღ¸☆...กลิ่นมาลัย.. ❀ʚϊɞ❀
✿ღ
กลิ่นมาลัย..กลิ่นอ่อนขจรฟุ้ง
กลิ่นจรุงจิตอยู่มิรู้หาย
กลิ่นมะลิละมุนหอมกรุ่นกาย
กลิ่นกำจายจากเจ้าคลอเคล้ากัน..
✿ღ
กลิ่นอ่อนหวาน..หว่านใกล้ฤทัยน้อง
กลิ่นเพรียกพร้องพร่ำเพ้อละเมอฝัน
กลิ่นความหมายคล้ายอยู่คู่ชีวัน
กลิ่นผูกพันลึกซึ้งตราตรึงใจ..
✿ღ
กลิ่นรัญจวน..หวนคิดร้อยจิตถึง
กลิ่นคะนึงเนิ่นนานทุกกาลใฝ่
กลิ่นอบอุ่นกรุ่นหวานซ่านฤทัย
กลิ่นดั่งใครแอบอ้อนยิ้มซ่อนมา..
✿ღ
กลิ่นกุหลาบ..ฉาบอยู่คู่กลีบสวย
กลิ่นระรวยดอกรักนำชักหา
กลิ่นมะลิผลิช่อรอพบพา
กลิ่นบุหงาเรียงร้อยคอยชื่นเชย..
✿ღ
กลิ่นมาลัย..กลิ่นนี้ที่คิดถึง
กลิ่นคะนึงชิดใกล้ดังใจเผย
กลิ่นหอมเย้าหยอกยั่วจนทั่วเลย
กลิ่นเจ้าเอ๋ย..อย่าพรากลอยจากจร..
ღڰۣ✿.. อิงดาว พราวฟ้า.. ✿ღڰۣ
กลบทบุษบงแย้มผกา
๐.) กำหนดให้ใช้คำ ๑ คำเป็นกระทู้ยืนต้นวรรคตลอดทั้งสำนวนที่เขียน
** กลบทนี้มีที่มาปรากฏแต่เพียงใน "กลบทศิริวิบุลกิตติ์" ไม่มีปรากฏใน "จารึกวัดพระเชตุพนฯ"