อุทธาหรณ์สอนใจให้ครวญคิด
ว่าชีวิตกำเนิดแต่เกิดเริ่ม
ก็ดุจล่องนาวามาจัดเจิม
ระยะเพิ่มห่างต้นสู่หนปลาย
ระหว่างทางลอยล่องต้องคุณค่า
เป็นที่พึ่งแด่มหาชีวาสาย
สรรพชีพเล็กน้อยอันมากมาย
ดุจจะคล้ายพักพิงอิงหลบเงา
ยามอาทิตย์สาดแสงแรงกราดกล้า
ก็พึ่งพาใต้ขอนหลบผ่อนเผา
ยามกระแสเชี่ยวกรากกระชากเร้า
ก็เกาะเอาขอนไม้ได้ผ่อนแรง
ครั้นเวลาผ่านไปไม้ขอนนี้
จักเริ่มมีผุผ่านดุจกาลแกล้ง
สรรพชีพเติบใหญ่ได้ปรับแปลง
ก็กล้าแกร่งพอพึ่งซึ่งตัวตน
เมื่อขอนไม้ใกล้ฝั่งยังสำนึก
ได้รู้สึกถึงคุณหนุนเนื่องผล
เปรียบชีวิตช่วงหนึ่งจึงของคน
ระหว่างด้นดั้นทางสร้างความดี
ก่อนจะลับล่วงลามาใกล้ฝั่ง
ย้อนมองหลังภูมิใจในศักดิ์ศรี
ได้สร้างสิ่งงดงามในชีวี
หรือกระทำย่ำยีสิ่งอื่นใด
เมื่อลับล่วงลงแล้วเขาสรรเสริญ
หรือเขาเมินหลบหลาบสาปแช่งใส่
คือคุณค่าระหว่างล่องลอยไกล
ของขอนไม้ใกล้ฝั่งแต่ครั้งกาล
............... ปลาย อักษร