บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: ณดาอินทร์ ที่ 17, เมษายน, 2558, 02:45:34 PM



หัวข้อ: ~กุลสตรีแห่งสยาม~
เริ่มหัวข้อโดย: ณดาอินทร์ ที่ 17, เมษายน, 2558, 02:45:34 PM

(http://www.uppic.org/image-9C3E_5530AD26.jpg) (http://www.uppic.org/share-9C3E_5530AD26.html)

กุลสตรีแห่งสยาม

(http://www.uppic.org/image-8E28_5530AD26.gif) (http://www.uppic.org/share-8E28_5530AD26.html)

กุลสตรีไทยสมัยก่อน มี 4 อย่างที่ควรทำเป็น ได้แก่ ปอกมะปรางริ้ว จีบพลูยาว ปั้นขนมจีบ และ ละเลงขนมเบื้อง  ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงคุณค่าของสตรีไทย  ความงามอย่างเพรียบพร้อม สมกับที่จะเป็นแม่ศรีเรือน
ก็จะขอเสนอหนึ่งในสี่คือ"ปอกมะปรางริ้ว"
การปอกมะปรางริ้วต้องใช้ความประณีตอย่างมากเพราะมะปรางเป็นผลไม้ที่มีเนื้อนิ่มยางเยอะ การปอกมะปรางริ้วจึงต้องมี
ทักษะและความสามารถอย่างสูง          

~ชั้นตอนทำมะปรางริ้ว~

1. เลือกมะปรางที่ไม่สุกและไม่ห่ามเกินไป สำคัญคือต้องไม่ช้ำแม้แต่น้อย

2. มีดต้องคมมากๆจะใช้มีดทอง
เนื่องจากปอกแล้วผลไม้ไม่ดำเวลาปอกต้องเอามีดจุ่มน้ำแล้วลับ
กับไหมหรือแพรที่ปูบนตัก
เพื่อไม่ให้มะปรางติดยางดำ  นอกจากมีดทองที่ใช้ปอกแล้ว
ยังมีมีดคว้านเมล็ดที่ปลายแหลมเล็ก
และคมมากกว่ามีดคว้านทั่วไป เพื่อนำเมล็ดมะปรางออกโดยกรีดลง
ด้านข้างลูกมะปราง

3. น้ำล้างผลมะปรางที่ปอกแล้วควรใช้น้ำลอยดอกไม้สดผสมเกลือนิดหนึ่งจะดีกว่าน้ำเปล่าธรรมดา

4. ล้างแล้วคลุมด้วยผ้าขาวบางชุบน้ำเพื่อกันไม่ให้ผลมะปรางแห้ง เมื่อได้มะปรางตามจำนวนที่ต้องการ นำไปชุบ
น้ำเชื่อมเข้มข้นเพื่อ
ให้เห็นริ้วชัดสวยแล้วจัดเรียงในโถแก้วประดับดอกมะลิหอมกรุ่น


หมากปรางนางปอกแล้ว
ใส่โถแก้วแพรวพรายแสง
ยามชื่นรื่นโรยแรง
ปรางอิ่มอาบซาบนาสา


(กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่2)


~ภาพประกอบลวดลายมะปรางริ้วจาก หนังสือลายเสลามะปรางริ้วของ ศ.มณีรัตน์ จันทนะผะลิน~

(http://www.uppic.org/image-7DC2_5530AD26.jpg) (http://www.uppic.org/share-7DC2_5530AD26.html)
(http://www.uppic.org/image-FEFB_5530AD26.jpg) (http://www.uppic.org/share-FEFB_5530AD26.html)
(http://www.uppic.org/image-965C_5530B234.jpg) (http://www.uppic.org/share-965C_5530B234.html)
(http://www.uppic.org/image-7205_5530B234.jpg) (http://www.uppic.org/share-7205_5530B234.html)
(http://www.uppic.org/image-670E_5530B234.jpg) (http://www.uppic.org/share-670E_5530B234.html)
วิธีคว้านเมล็ดมะปรางริ้ว

(http://www.uppic.org/image-8E28_5530AD26.gif) (http://www.uppic.org/share-8E28_5530AD26.html)
  "ขอขอบคุณภาพลวดลายมะปรางริ้ว
และข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำมะปรางริ้ว
จากเว็บเด็กดีค่ะร่วมด้วยภาพสวยๆจากเน็ตนะค่ะ"

(http://image.free.in.th/v/2013/iu/150418091655.gif) (http://picture.in.th/id/774f0f7f72cc87da98beedc19fa6e97b)ณดาอินทร์  (http://image.free.in.th/v/2013/iu/150418091655.gif) (http://picture.in.th/id/774f0f7f72cc87da98beedc19fa6e97b)      


หัวข้อ: Re: ~กุลสตรีแห่งสยาม~
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 17, เมษายน, 2558, 10:38:03 PM

นับถือคนสมัยก่อนเลยครับ การฝีมือแต่ละอย่างล้วนปราณีตบรรจง
ได้ทั้งความอร่อยทางรสและสายตาพร้อมเลยครับผม


หัวข้อ: Re: ~กุลสตรีแห่งสยาม~
เริ่มหัวข้อโดย: ณดาอินทร์ ที่ 18, เมษายน, 2558, 03:58:25 PM
(http://www.uppic.org/image-D367_55320DA9.jpg) (http://www.uppic.org/share-D367_55320DA9.html)

กุลสตรีแห่งสยาม

(http://www.uppic.org/image-8E28_5530AD26.gif) (http://www.uppic.org/share-8E28_5530AD26.html)

~ปั้นขนมจีบ~

งานปั้นขนมจีบเป็นงานหนึ่งในสี่อย่างที่กุลสตรีไทยสมัยก่อนควรทำเป็น
จะแสดงถึงความสามารถของลูกผู้หญิง ในสมัยก่อนไม่มีแป้งสำเร็จรูปก็ต้องโม่แป้งเอง  ขนมจีบไทยมี 2 แบบคือ ไม่พับหัว และพับหัวเป็นรูปนก การจับจีบเดิมทีใช้นิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ค่อยๆจับจีบเรียงตามรูปถุง แล้วล้มจีบให้เรียบติดถุง

ขนมจีบตัวนก เป็นขนมจีบไทย ใช้วัตถุดิบเหมือนกัน เรามาตกแต่งให้น่ารักขึ้นโดยมาใส่ตาใส่ปากเข้าไปให้ดูน่ารัก เป็นของว่าง รับประทานกับผักกาดหอม ต้นหอม ผักชี ตำรับชาววังจะมีตะลิงปลิงให้รับประทานแก้เลี่ยนด้วย

ขนมจีบไม่พับหัว  อันมีรูปทรงเหมือนหม้อข้าว (หม้อดิน) ขนาดเล็กยอดเป็นหัวนกก็กลายเป็นขนมจีบ เพราะรอบๆตัวแป้งที่เป็นตัวหม้อทำเป็นจีบเล็กๆเป็นริ้ว จนเปรียบได้กับการที่สตรีนุ่งผ้าจีบชักพกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
นำไปสู่การค้นหาที่มาของอาหารว่างชาววังตำรับที่ปรากฏในกาพย์เห่เรือ (ชมเครื่องหวาน) พระราชนิพนธ์ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ความว่า

ขนมจีบเจ้าจีบห่อ
งามสมส่อประพิมพ์ประพาย
นึกน้องนุ่งจีบถวาย
ชายพกจีบกลีบแนบเนียน


~ขนมจีบตัวนก~

(http://www.uppic.org/image-80DB_553207C8.jpg) (http://www.uppic.org/share-80DB_553207C8.html)
(http://www.uppic.org/image-3F24_553207C8.jpg) (http://www.uppic.org/share-3F24_553207C8.html)

~ขนมจีบไม่พับหัว~

(http://www.uppic.org/image-ED02_553207C8.jpg) (http://www.uppic.org/share-ED02_553207C8.html)
(http://www.uppic.org/image-C8B7_55320DA9.jpg) (http://www.uppic.org/share-C8B7_55320DA9.html)
(http://www.uppic.org/image-C8EB_55320DA9.jpg) (http://www.uppic.org/share-C8EB_55320DA9.html)

ขนมชนิดนี้ในสมัยโบราณเรียกว่า ขนมไส้หมู มีพระราชวงศ์พระองค์หนึ่งทรงเป็นผู้ชำนาญในการปรุงประดิษฐ์อาหารชนิดนี้อย่างหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ งานประณีตของสาวชาววัง มองดูสวย มีกลิ่นหอมน่าทาน
และเมื่อทานแล้วรสชาติอร่อย
อาหารไทยต้องเสพ ได้ 3 ทาง คือ ทางตา ทางจมูก ทางลิ้น


(http://www.uppic.org/image-8E28_5530AD26.gif) (http://www.uppic.org/share-8E28_5530AD26.html)

ขอขอบคุณข้อมูลปั้นขนมจีบโบราณ
จากเว็บเด็กดีและกรุงเทพฯธุรกิจร่วมด้วย
ภาพสวยๆจากเน็ตค่ะ


"ณดาเห็นด้วยกับคุณหมูค่ะว่าคนสมัยก่อนน่า
นับถือจริงๆในความประณีตช่างคิดช่างประดิดประดอยขอชมจากใจเลยค่ะ"


(http://image.free.in.th/v/2013/iu/150418091655.gif) (http://picture.in.th/id/774f0f7f72cc87da98beedc19fa6e97b)ณดาอินทร์(http://image.free.in.th/v/2013/iu/150418091655.gif) (http://picture.in.th/id/774f0f7f72cc87da98beedc19fa6e97b)