ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
โคลงมหานันททายี*
ชื่อโคลงมหานันททายีด้วยอรรถว่า มีระเบียบคำกล่าว เป็นที่ให้ซึ่งความเพลิดเพลินแก่ผู้ฟังยิ่งใหญ่ บทละ ๔ บาท, บาทละ ๒ วรรค, วรรคหน้า ๕ พยางค์ วรรคหลัง วรรคที่ ๒, ๔ และ ๖ มี ๒ พยางค์, วรรคที่ ๘ มี ๔ พยางค์ ไม่บังคับเอก ไม่บังคับโท ( สัมผัส ๑) ท้ายวรรค ๒ กับคำที่ ๔ วรรค ๓ และ ๕, (สัมผัส ๒) ท้ายวรรค ๔ กับท้ายวรรค ๗
๑๑๘๙ ๏ คนเรามัวคลั่งไคล้ ลาภผล อุบายเล่ห์กลลวง ซับซ้อน ต่อสู้ดิ้นรนกัน ขันแข่ง ล่อหลอกปลอกปลิ้นปล้อน ฉ้อโกง
๑๑๙๐ ๏ จรรโลงโลกเลิศล้ำ คนธรรพ์ เอื้อเฟื้อแบ่งปันดัง หมู่ญาติ ทำดีแข่งกันคือ ยอดยิ่ง ตัดโลภโกรธหลงขาด อยู่ใกล้นิพพาน
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์ .....................................................................
ตัวอย่างโคลงมหานันททายี
๏ สายลมเสียงเพลงทั้ง ดนตรี ก่อเกิดฤดีเตือน จิตคล้อย ธรรมชาติชีวิต ครองคู่ ทราบชัดปัดสร้อยเศร้า โศกสิ้นเสวยสวรรค์
(ของเก่า)
รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, รพีกาญจน์, Black Sword, เฟื่องฟ้า, น้ำหนาว, กรกช, ก้าง ปลาทู, กร กรวิชญ์, ตูมตาม, ปลาย อักษร, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลับมาเริ่มรอบปี ๒๕๕๘ ด้วยกลอนกลบทครับ
กลอนกลบทนาคบริพันธ์
กำหนดให้ ๓ คำ ท้ายวรรค กับ ๓ คำ ต้นวรรค ซ้ำคำ ๒ คำแรก และ สัมผัสอักษรคำที่ ๓ เริ่มสามคำปลายวรรค ๑ กับต้นวรรค ๒ เป็นเช่นนั้นต่อเนื่องกันไป
๕๖๙ ๏ จะกระทำงานใดใดไม่ประมาท ไม่ประมาณทำการพลาดอาจเสียหาย อาจเสียหนทางเจริญเกินบรรยาย เกินบรรยง*ให้คงหมายจนวายชนม์
๕๗๐ ๏ จนวายชีพสติครองต้องระวัง ต้องระไวใฝ่ศีลตั้งมุ่งหวังผล มุ่งหวังผ่านผองโพยภัยในวังวน ในวังวารมารผจญกฎแห่งกรรม
๕๗๑ ๏ กฎแห่งกาลผลาญชีพชนบนพื้นหล้า บนพื้นโลกล้วนมารยาอย่าถลำ อย่าไถลไกลเหินห่างทางแห่งธรรม ทางแห่งทุกข์รุกครอบงำประจำใจ
๕๗๒ ๏ ประจำจิตคือต้องคิดใฝ่กุศล ใฝ่กุสุม*ประดับตนให้สดใส ให้สดสวยรวยบุญซึ้งถึงภายใน ถึงภายหน้าฝ่าโพยภัยใจมั่นคง จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์ บรรยง ทำให้ดี - งาม, กุสุม ดอกไม้ (ความดีงาม) .......................................................................
๏ กรุงกษัตริย์ชัดคำโหรทำนาย โหรทำนูนโหรทำนูลทูลหมายอาไสยสูญ อาไสยเสียวเหลียวหลังให้คั่งคูน ให้คั่งแค้นแน่นหนูนด้วยดวงจันทร์
๏ ด้วยดวงจอมสุดาโหราทาย โหราทูลว่าร้ายพระไทยหวั่น พระไทยหวังสังเกตสังเวชครัน สังเวชครุ่นจิตรมันเอาขันตี
ต้นแบบ ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นวรรณกรรม สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (คำที่ใช้บางคำแตกต่างจากปัจจุบัน)
...........................................................................................
ต้นแบบกลบทนาคบริพันธ์
๏ ระกำเกินเชิญแม่ช่วยแก้ไข ช่วยแก้ขุ่นไข้ใจภอให้หาย ภอให้เหนโฉมหนิดอย่าอิดอาย อย่าอิดเอื้อนเยื้อนย้ายกระบวรแปลง
๏ กระบวรปลอบมอบม้วยด้วยจริงจิตร์ ด้วยจริงใจอย่าได้คิดคะเนแหนง คะเนนุชสุจริตประดิษฐ์แสดง นามแถลง นาคบริพันธ์ เอยฯ
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, ปลายฝน คนงาม, ลิตเติลเกิร์ล, น้ำหนาว, Black Sword, ก้าง ปลาทู, ตูมตาม, ปลาย อักษร, กร กรวิชญ์, เฟื่องฟ้า, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลอนกลบทนาคเกี้ยวกระหวัด
กำหนดให้นำสองคำท้ายวรรคสลับคำ แล้วใช้เป็นต้นวรรคต่อกันไป..
๒๑๔๘ ๏ รู้หยุดพอมิลำพองเกินปองหมาย หมายปองฝ่ายบุญญาลดคว้าไขว่ ไขว่คว้าหาความร้อนเร่าเผาทรวงใน ในทรวงไกลรักชังหวังเงินทอง
๒๑๔๙ ๏ ทองเงินค่าถ้ามีที่ยึดมั่น มั่นยึดมันเอาเองว่าค่าหนึ่งสอง สองหนึ่งไม่ใช่กุศลให้พ้นกอง กองพ้นหัวถ้ามัวหมองยิ่งกองดิน
๒๑๕๐ ๏ ดินกองหนึ่งค่าสมได้ถมร่าง ร่างถมฝังดังทิ้งขว้างกลางเหวหิน หินเหวที่มีสัตว์แทะกัดกิน กินกัดสิ้นคงนำเพียงกรรมทุน
๒๑๕๑ ๏ ทุนกรรมได้นำเวียนเปลี่ยนภพชาติ ชาติภพใหม่ใสสะอาดมาดบุญหนุน หนุนบุญส่งผลความดีที่เจือจุน จุนเจือคุณบุญกุศลดลวิญญาณ์
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์ ....................................................................................
ต้นแบบกลบทนาคเกี้ยวกระหวัด
๏ เกินก้ำกันก็แต่ฉันอย่าหน๋ะพี่ พี่หน๋ะอย่าสะเทินที่ไกลห่างเหิน เหินห่างไกลอาไลยรักษขอชักเชิญ เชิญชักเชฐาเจริญเสน่ห์นุช
๏ นุชเสน่ห์หวังจะฝังชีวิตฝาก ฝากชีวิตจิตร์จากเปนที่สุด สุดที่พี่ร่ำพจมานสารสมมุด นามชื่อ ภุชชงค์เกี้ยวกระหวัด เอยฯ
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
รายนามผู้เยี่ยมชม : กร กรวิชญ์, ตูมตาม, รพีกาญจน์, ลิตเติลเกิร์ล, Black Sword, เฟื่องฟ้า, ปลายฝน คนงาม, ปลาย อักษร, ก้าง ปลาทู, ขวดเก่า, น้ำหนาว, กอหญ้า กอยุ่ง, ศรีเปรื่อง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลอนกลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง
บังคับให้มี สัมผัสอักษร ๓ คู่ สัมผัสสระ ๒ คู่ ทุกวรรค.
๑๖๑๕ ๏ ภาพลวงชมเพียงลมชื่นระรื่นจิต โอ้ลำพองอาจลองผิดบิดสื่อสาร หลงดูแสงลายแดงสวยรวยสราญ นับหลากถ้ำเหนือลำธารบันดาลดล
๑๖๑๖ ๏ อัศจรรย์โอ้สรรค์แจ่มแต่งแต้มสี ธรรมชาติแท้มาดชี้มีเหตุผล จินตนาจนตานั้นภาพฝันปน ด้วยใจคิดดังจิตคนที่วนเวียน
๑๖๑๗ ๏ เมื่อรู้แจ้งมีแรงใจสงสัยจบ เสมือนพ่ายสิ่งหมายพบประสบเปลี่ยน ยุคกาลนำย่อมกำหนดเป็นบทเรียน มีใจภักดิ์หมายจักเพียรแม้เจียนตาย ๑๖ ๑๘ ๏ แดนเร้นลับได้รับหลักประจักษ์แน่ ห่างกันแทนเห็นแก่นแท้กลับแลหาย มีเหตุผลเหมือนหนผ่านเมื่อวารวาย จำส่วนทิ้งจนสิ่งท้ายมลายลา
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์ ..................................................................
ต้นแบบกลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง
๏ นายชายพรานหนึ่งชาญไพรล่ำใหญ่ขยับ ได้ยินกลองเดิรย่องกลับดูขับขัน มือป้องหน้ามุ่งป่าแน่วเข้าแถววัน สุนัขยิ่งสุดมองขยันติดพันตาม
๏ มุ่งปะทะมาปะที่คนตีกลอง เพื่อนทักจำพูดหน้าจ้องพรานร้องถาม เดิมแรกหูได้รู้เหตุสังเกตความ ว่าทรงนามว่าทรามนาฏนิราศจร ฯลฯ
ต้นแบบ ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นวรรณกรรม สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ...................................................................................................
ต้นแบบกลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง
๏ เมื่อคราวไร้มีใครรื้อช่วยสื่อชัก ให้สำเรทให้เสรจ์รักษ์สมักสมาน ได้การแน่ได้แก้หน้ามาว่าวาน ช่วยเทียวสื่อช่วยถือสารการกำบัง
๏ ขอบคุณล้ำชอบคำเหลือที่เกื้อหนุน จะยกข้อจะยอคุณมาแต่หลัง คำกล่าววอนคิดกลอนไว้ให้จิรัง ระลอกแก้วกระทบฝั่ง ดั่งนี้เอยฯ
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
รายนามผู้เยี่ยมชม : ก้าง ปลาทู, รพีกาญจน์, เนื้อนาง นิชานาถ, กร กรวิชญ์, น้ำหนาว, อโศกน้ำ, กอหญ้า กอยุ่ง, ตูมตาม, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, ปลาย อักษร, ศรีเปรื่อง, เฟื่องฟ้า, ลิตเติลเกิร์ล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
|
Permalink: Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
พักกลบทมาต่อฉันท์ครับ
อาวัตตฉันท์ ๑๖ *
ชื่อ อาวัตตฉันท์ ๑๖ ด้วยอัตถะว่า บริบูรณ์ด้วย ยะคณะ แต่หน้า ๔ อักษร, บทละ ๓ วรรค, วรรคละ ๖, ๖ และ ๔ พยางค์ ส่งสัมผัสภายในบทท้ายวรรค ๑ รับสัมผัส ท้ายวรรค ๒ ส่งสัมผัสระหว่างบท ท้ายวรรค ๓ รับสัมผัสระหว่างบทท้ายวรรค ๑ (จะเขียนเป็นบาทเดียว ๓ วรรค หรือ ๒ บาท ๒ วรรค กับ ๑ วรรคก็ได้)
(ระคณะ) (ยะ...................................คณะ) ลหุ ครุลอย (มะคณะ) (ยะคณะ) ครุลอย คุลอย( ครุ ลหุ ครุ) (ลหุ ครุ....................ครุ) ลหุ ครุ (ครุ ครุ ครุ) (ลหุ ครุ ครุ) ครุ
๑๕๗๓ ๏ อันทรัพย์จะเรียงจะราย ในสกลมากหลากหลาย ประดับโลกา ๑๕๗๔ ๏ คู่ถิ่นสถานพะงา ควรฤโยกย้ายไคลคลา ละลาดินแดน ๑๕๗๕ ๏ งามตามสภาพเหมาะแสน เลื่อนและเปลี่ยนไปไม่แม้น สถิตเดิมดี ๑๕๗๖ ๏ ใจคนมิหน่ายมิหนี อยากสะสมทรัพย์มากมี บ่รู้จักพอ ๑๕๗๗ ๏ ใครมีพะเน้าพะนอ อยากจะได้ไม่ซื้อขอ ขโมยแย่งชิง ๑๕๗๘ ๏ โลภในหทัยเยอะยิ่ง มนต์สะกดเร้าเข้าสิง มิรู้สึกตน ๑๕๗๙ ๏ ลืมบาปละทิ้งกุศล เผาฤดีให้ร้อนรน มุหมายครอบครอง ๑๕๘๐ ๏ ทรัพย์สินจะล้นเยอะนอง ถึงจะนอนในโลงทอง ก็สู่โลกันต์ *
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์ ..............................................................................................
อาวัตตฉันท์ ๑๖
๏ จักแจ้งแถลงยุบล ยิ่งประโยชน์อันใหญ่ผล ประเภทตามมี ๏ โดยธรรมปธานสี่ ซึ่งเจริญแก่ผู้ที่ ประกอบตนตั้ง ๏ คือเพียรระมัดระวัง เพื่อมิให้บาปปิดบัง ลุสู่สันดาน ๏ เพิกบาประร้ายระราน อันอุบัติในก่อนกาล ก็คลายหายศูนย์ ๏ เพียรให้กุศลประมูล เกิดประกอบการเกื้อกูล กุก่องเกรียงไกร ๏ เพียรรักษ์กุศลพิสัย ซึ่งอุบัติขึ้นนั้นไว้ มิเสื่อมทรุดทราม ๏ อรรถแจ้งแสดงนะตาม ควรกะข้อต่อเนื้อความ ก็ครบคำไข ๏ อาวัตตฉันทะใน แห่งนิเทสวุตโตทัย นิทัศน์ถ่องแถลง ๏ ผู้ใคร่จะคลางจะแคลง รู้ระเบียบหนักเบาแบ่ง เลบงแบบบรรพ์
ต้นแบบจาก ฉันทศาสตร์ นายฉันท์ ขำวิไล ............................................................................................
หมายเหตุ ขอฝากจากแดนคนธรรพ์ยังมีอีกมาก แต่ด้วยขณะนี้ กำลังแต่งพระสุธน มโนราคำกลอนอยู่อย่างเข้มข้น ขอเวลาช่วยพระสุธนตามหา นางมโนราห์ อีกสักระยะหนึ่งครับ ตอนนี้อาจจะเป็นอาทิตย์ละหน้าไปก่อนครับ
ธนุ เสนสิงห์
[/color]
รายนามผู้เยี่ยมชม : กอหญ้า กอยุ่ง, รพีกาญจน์, Black Sword, ปลายฝน คนงาม, กร กรวิชญ์, ปลาย อักษร, น้ำหนาว, ลิตเติลเกิร์ล, ก้าง ปลาทู, ตูมตาม, เนื้อนาง นิชานาถ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|