|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 5
สวัสดี ทุกท่าน นิยมใส่ “เครื่องรา” ภาษาใต้ ๔๐๑ ที่บ้านผมนิยมแกงปรุงแต่งรส แกงไหลสดใส่กะทินี้ส่วนใหญ่ “ส้มแป้นขี้ม้า” คว้าเอาใบ หั่นโรยใส่ในแกงแต่งรสดี
๔๐๒ นิยมใส่ “เครื่องรา” ภาษาใต้ คำกลางใช้”เครื่องเทศ”เขตกรุงศรี ก่อนจะตำคั่วรางอย่างเข้าที เพิ่มดีปลีอีกหน่อยอร่อยเชียว
๔๐๓ มีคำผวนชวนคิดพูดติดปาก ขอนำฝากภาษามาข้องเกี่ยว ด้วยในเรื่องปลาไหลแน่นักเทียว นั่งคนเดียวลองผวนชวนชื่นใจ
๔๐๔ ขุดไหล..คั่วไหล..ใส่หัวข่า ผวนออกมาหัวร่อก็ปลาไหล เหมือนแกล้งบอกวิธีวิถีไทย ติดตลกเอาไว้ใคร่เจตนา
๔๐๕ ขุดไหลพร้อมล้อมไหลเป็นวงกว้าง ขุดรอบข้างเป็นวงกลมสมปรารถนา ลึกหนึ่งเมตรใช้ได้ในอัตรา ขั้นต่อมาขุดตรงกลางอย่างเร็วพลัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 5
สวัสดี ทุกท่าน ขุด..สัก..ยั่ว..ตั้งข้อง ลองเลือกเอา ๔๐๖ ดินกระเทือนปลาไหลตกใจวุ่น ชุลมุนหนีตายให้หวาดหวั่น หาทางออกไม่ช้ามารวมกัน หลุมรอบคั่นขวางไว้ไหลมากอง
๕๐๗ แม้ขุดดินไม่หมดไม่อดแน่ ไหลยอมแพ้จับได้ให้ขังข้อง ขุดปลาไหลสามัคคีมีปรองดอง สร้างโซ่ทองคล้องใจให้บ้านเรา
๕๐๘ พูดถึงหาปลาไหลสมัยนั้น สืบทอดกันนั้นมาคราก่อนเก่า ขุด..สัก..ยั่ว..ตั้งข้อง ลองเลือกเอา แต่ต้องเข้าฤดูกาลนั้นสำคัญ
๔๐๙ เขาใช้ส้อมสักไหลในโคลนตม เรียก”แทงงม”คือแทงแทงไปอย่างนั้น ไม่เห็นตัวแทงถูกได้เช่นกัน ต้องขยันลักปลาไหลจึงได้การ
๔๑๐ นิยมสักปลาไหลในช่วงแล้ง คำว่า “แทง” คือสักมักกล่าวขาน ส้อมที่ใช้ยาวสองศอกออกประมาณ แต่ชาวบ้านไม่ใคร่ให้นิยม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 5
สวัสดี ทุกท่าน คำว่า “ยั่ว” คงยั่วยวนกวนอารมณ์ ๔๑๑ ยั่วปลาไหลนิยมกันนั้นกว่าสัก สนุกนักยั่วไหลถูกใจผม คำว่า “ยั่ว” คงยั่วยวนกวนอารมณ์ ใช้เหมาะสมสอดคล้องต้องกันดี
๔๑๒ นิยมยั่วไหลในหน้าแล้ง อย่างเช่นแทงเช่นสักฤดูนี้ ขอบอกกล่าวเล่าถึงกรรมวิธี ยั่วมันมีวิธีนี้อย่างไร
๔๑๓ เดินเลียบบึงห้วยหนองคลองละหาร มองลอดผ่านเพื่อดูหารูไหล หากเห็นรูน่าจะมีนี้เมื่อไร ยั่วยวนใจใส่ของคาวเข้าปากรู
๔๑๔ ได้กลิ่นคาวเย้ายวนชวนชิมรส ไหลฤๅอดอดกลั้นนั้นไม่อยู่ รีบขึ้นมาทันใดน้ำไหลพรู เรานั่งดูเพลินใจไหลออกมา
๔๑๕ โผล่ขึ้นรูปากอ้าทำท่าเบ่ง ท่านักเลงทำใหญ่ให้หนักหนา เราก็รีบสอดเบ็ดมิรอรา มิยักท่ากินพลันอย่างมั่นใจ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 5
สวัสดี ทุกท่าน พอมันกลืนลงคอมิรอช้า ๔๑๖ พอมันกลืนลงคอมิรอช้า รีบดึงพาทันทีพี่ปลาไหล เราก็ดึงกลับมาช้าอยู่ใย ติดแล้วไซร้ไหลน้อยค่อยดึงมา
๔๑๗ จบเดือนหกตกไปในเดือนยี่ เป็นช่วงที่ตั้งข้องคอยจ้องหา เหยื่อที่ใช้นั้นเป็นเช่นปูปลา ไหลจะมาเข้าข้องรับรองเลย
๔๑๘ ถึงเดือนห้าอีกอย่างทางบ้านผม เขานิยมจับปลาเจ้าข้าเอ๋ย จับในหนองคลองบึงซึ่งเช่นเคย กู่เหวยเหวยเรียกคนพลจับปลา
๔๑๙ เหมือนสัญญาเอาไว้ใช่พูดเล่น เสียงกู่เป็นคำเรียกพร่ำเรียกหา เรียกว่า “กูก” รู้กันคล้ายสัญญา ต่างรู้ว่าทำอะไรที่ไหนกัน
๔๒๐ กูกกันต่อรอรับจับเป็นช่วง ทะลุทะลวงก้องไกลในไพรสัณฑ์ ใครมี “อูด” เป่าต่อล่อประชัน นึกน่าขันหัวตะพานบ้านดงไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายประทีป วัฒนสิทธิ์
|
Permalink: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 5
สวัสดี ทุกท่าน “ยอ” “คอตัก” ของหญิงสิ่งพกพา ๔๒๑ อูดก็คือเขาควายที่ใช้เป่า เสียงนั้นเล่าก้องหาพนาศรัย ฟังแล้วเหมาะไพเราะเพราะจับใจ มีการใช้เรียกหาประชาสัมพันธ์
๔๒๒ พอได้ยินกูกอูดทูตลอยฟ้า มิรอช้าแต่งกายรีบผายผัน พร้าและมีดมีบ้างอย่างครบครัน เผื่อได้ฟันสิ่งกีดขวางทางหาปลา
๔๒๓ แหลนและแหแน่นักจักมากหลาย ของผู้ชายเตรียมกันนั้นพร้อมหน้า “ยอ” “คอตัก” ของหญิงสิ่งพกพา อีกอย่างหนาคือ “เจ้ย” เคยใช้กัน
๔๒๔ “เจ้ย” “คอตัก” อะไรใคร่อยากรู้ ขอเป็นครูอธิบายอย่าไหวหวั่น เป็นคำใต้ฟังไปให้งงงัน บ้านผมนั้นชื่อแปลกแตกออกไป
๔๒๕ คอตักนั้นนะหรือคือยอเก่า หรือจะเอาใหม่ใหม่ก็ยังได้ มุมข้างหนึ่งผูกคอรออยู่ใย อีกมุมไซร้เผื่อมือถือใช้งาน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|