หัวข้อ: - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 03, พฤศจิกายน, 2564, 11:15:25 PM (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/PH.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1585) - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - ภุชงคประยาตฉันท์ (พุ-ชง-คะ-ประ-ยาด-ฉัน หรือ พุ-ชง-คะ-ประ-ยา-ตะ-ฉัน) เป็นฉันท์ที่ตำราฉันทศาสตร์ได้ให้อัตถะไว้ว่า มีลีลาประดุจดั่งลีลาศแห่งพญานาค ๑.) รูปแบบของภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ หนึ่งบท จะมี ๒ บาท แต่ละบาทแบ่งเป็น ๒ วรรค วรรคหน้ามี ๖ พยางค์ วรรคหลังมี ๖ พยางค์ (รวมเป็น ๑๒ พยางค์ในหนึ่งบาท) ๒.) ลักษณะบังคับ ครุ –ลหุ (ดูผังด้านบนประกอบ) ครุ-ลหุ แต่ละวรรคจะมีลักษณะเหมือนกันทุกวรรค คือ ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ..................ลหุ-ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ โดยแต่ละวรรค จะแบ่งจังหวะการอ่านเป็น ๓ + ๓ เหมือนกันทุกวรรค ๓.) ลักษณะการส่งสัมผัส (ดูผังด้านบนประกอบ) - สัมผัสภายในบท - คำสุดท้ายของวรรคแรก เชื่อมสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓ ส่วนวรรคที่สี่เป็นอิสระ - สัมผัสระหว่างบท - หากแต่งมากกว่า ๑ บท ให้คำสุดท้ายของบทก่อนหน้า ส่งสัมผัสไปที่คำสุดท้ายในวรรคที่ ๒ ของบทต่อไป - ตัวอย่างคำประพันธ์ - - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - - สวรรค์ชุ่ย ๆ - สวรรค์เอี่ยมเสงี่ยมหวาน นิมิตมานมิเหมือนหวัง สวรรค์สุขสนุกจัง อนิจจา---ฮะ! น่าหวัว มหาชนกมลห่อ ระทดท้อฤทัยกลัว อนาคตสลดทั่ว ทมิฬพองผยองพาล พยักแหะแสยะยิ้ม อธรรม์กริ่มกำเริบการ ผดุงโทษและโหดหาญ ก็ใครจุนและหนุนหลัง จะอวดหน้าก็อาเพศ สถานเศรษฐเสถียรคลัง ธนาเพ้อละเมอรั้ง ก็ไม่อยู่ ฤ แคล้วจม สยามร้อนสะท้อนนัก จะผ่อนพักพะนอรมย์ กะร่มรายและสายลม ก็ไร้น้ำระกำโหย จะอาบดื่มมิปลื้มจิต ก็ใครปิดประปาโปรย อุราแห้งและแล้งโรย ระอิดอกจะฟกภินท์ จะอ้าปากกระดากร้อง ตะโกนก้อง 'ตะกรามกิน' ก็อายล้นจะคนยิน จะเย้ยหยามมิงามไทย จะเรียกหาประดายุต- -ติธรรมสุดก็โศกใจ ผวาปิดกระบิดไว้ นะปากเจ้าจะเข้าขลุม ตะปบอุตลุดรื้อ กระเหี้ยนหือกระหายรุม ไผทไทยสิไฟสุม จะฮือล้ำผิซ้ำโหม ระบำโบกและโยกคลอน ขยอกย้อนขย้อนโครม สวรรค์ไทยสมัยโทรม ก็ใครคุยล่ะชุ่ยเหลือ! (ขอบฟ้าขลิบทอง : อุชเชนี) - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - - ขวัญแผ่นดิน - อนิจจาธราทั่ว สลดมัวมิเคยมี สงบสุขสง่าศรี ประดาษดลประดับแดน เพราะภัยยุทธ์สยองครอง วิถีผองก็แผกแผน ชิพิตเดิมอดีตแดน มิคืนกลับสมัยกาล รพีผ่องจะส่องหล้า นิมิตว่าทิวาวาร ประดาชนก็หม่นมาน อนาคตอนาถคิด จะอยู่ไปไฉนเล่า ลิขิตเศร้าประกาศิต ธนาเทพธำรงฤทธิ์ ละโมบซื้อ ฤ ยื้อเอา วนากฎกําหนดไว้ ผิว่าใหญ่พิชิตเยาว์ ปราชัยเถอะให้เขา ฉลาดโกงจะเกรียงไกร จะผิดชอบ ฤ ชั่วดี มิเคยมีกะผู้ใด ระยำยอดผิยิ่งใหญ่ ก็ย่อมถูกและชอบธรรม ประมวลมีสตรีงาม ก็ขายกามประกอบกรรม จะดงดิบ ฤ ป่าดำ มิเคยเว้นจะเฟ้นหา สนองจิตสนุกใจ จะซื้อได้เพราะราคา มิเลือกชาติ ฤ ภาษา ก็ส้องเสพย์สราญสม จะอยู่ดีมีมีเหตุ กระเดื่องเดชซิน่าชม ก็ปลอกคอสิขำคม ผิคาดเข้าบ่กลัวใคร มิมีทางจะทําผิด จะแผลงฤทธิ์ก็ดังใจ และลาภยศก็หลั่งไหล จะกอบโกยตลอดกาล ฯ ........... ฯลฯ ........... (จงเป็นอาทิตย์เมื่ออุทัย : ทวีปวร) - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - - สำเร็จอยู่ที่ทำ - บุรุษหนึ่งประจงถือ ถนัดมือสมัครมาน นะค้อนเหล็กกระทำการ ประกอบเพื่อประโยชน์ยง ระหว่างตีตะปูตรึง ณ สิ่งซึ่งจะมั่นคง ก็หวดเหนี่ยวกระหน่ำลง ถนัดด้วยพลังแรง มิช้าพลันสนิทติด กะไม้ชิดกระชับแข็ง ประจำติดกะรอยแทง และแนบชิดสนิทดี นิทัศน์เทียบบุรุษเห็น นิเทศน์เด่นฉะนี้มี ก็เพื่อเร้าบุรุษปรี- ชะทั้งหลายแสดงผล วโรกาสไฉนซึ่ง จะคำนึงประโยชน์ตน ก็โอกาสฉะนั้นตน ประสบแล้วก็ดีเหลือ ประมวลการณ์ประมาณกอบ ประโยชน์ชอบพินิจเจือ ตระหนักแล้วก็ควรเกื้อ กระทำเสร็จประสงค์สม ผิวันหนึ่งมิเสร็จตาม พยายามเพราะเริงรมย์ ก็วันหน้าสิมีถม จะย่อท้อกระไรงาน เสมือนหนึ่งกะภูเขา อะไรเล่าจะสูงปาน จะปีนป่ายก็เหลือหาญ เพราะสูงสุดกะสายตา กระนั้นหากจะพากเพียร และไต่เวียนกะภูผา ก็ย่อมเสร็จสำเร็จพา ประสงค์ซึ่งคะนึงหวัง ฉะนี้ด้วยพิจารณ์รอบ ประกอบด้วยเพราะกำลัง และแขนขาก็คงยัง สมรรถมั่นประกันภัย อนึ่งหากมิชำนาญ ณ กิจการอะไรใด ผิว่าหมั่นขยันไป ละกิจนั้นจะทานหรือ และขอแต่กระทำจริง และผลจริงฉะนั้นคือ สฤษดิ์ได้เพราะโดยมือ สมรรถนั่นฉะนั้นเทียว ประหนึ่งเช่นบุรุษซึ่ง ตะปูตรึงกระดานเหนียว และค้อนตอกประเดี๋ยวเดียว ตะปูติดสนิทแลฯ (ส. สตะกูรมะ) - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - - เสียกำเอากอบ - ผิเสียกำจะนำกอบ เสนอตอบสนองตาม ตระหนักจิตมิผิดความ ประมาทม่งประสงค์หมาย ก็เปรียบเหมือนจะเสียน้อย และหวังคอยประโยชน์ปลาย ทวีบวกผนวกหลาย ก็ควรเสียบ่ควรหวง วิสัยชาติฉลาดผู้ ระลึกรู้ประโยชน์ปวง ผิลงทุนก็หมุนตวง ประโยชน์ได้กำไรดี มิลงทุนจะหมุนเกิด ลุผลเลิศไฉนมี เสมือนชาวประมงพี- ระตกมัสยาผอง ตระหนี่เหยื่อมิเกี่ยวหย่อน นทีก่อนจะหวังครอง จะได้หรือมิเชื่อลอง กระทำไปก็ไร้ผล ประสงค์มัสยาใหญ่ จะทำได้ก็โดยกล วิธีเหยื่อพลีปรน มิช้าปลาถลาหลาม ละเลิงโลดกระโดดฮุบ ตะครุบเหยื่อตะกรุมกราม ฉะนี้มัสยางาม รึรอดพ้นรึรนผาย เพราะลงทุนและหมุนต่อ ประโยชน์ก่อสะดวกดาย ก็เสียกำนโยบาย สุขุมคิดพินิจเทอญ (พิศาล เสนะเวส) - ภุชงคประยาตฉันท์ ๑๒ - มนัสไทประณตไท้ นรินทร์ไทยมิท้อถอน มิผูกรักมิภักดิ์บร มิพึ่งบารมีบุญ ถล้นจ้วงทะลวงจ้ำ บุรุษนำอนงค์หนุน บุรุษรุกอนงค์รุน ประจญร่วมประจัญบาน อนงค์เพศมนัสพี- รชาติศรีทหารชาญ มิได้ดาบก็คว้าขวาน มิได้หอกก็คว้าหลาว มิได้มีดก็เอาไม้ ตระบองใหญ่ตระบองยาว ตระหน่ำฟาดพิฆาตลาว เตลิดแล่น ณ แดนดง ผิอยู่เหย้าสิอรชร ฤทัยอ่อนระทวยองค์ ผิยามยุทธ์สิยรรยง เผยอยศอนงค์สรรพ์ นิกรลาวมลายชน มเกลื่อนกล่นอนาถครัน ประมาณศพก็สองพัน พินาศพ่ายกระจายไป ........... ฯลฯ ........... (ฉันท์ยอเกียรติชาวนครราชสีมา : พระยาอุปกิตศิลปสาร) - ภุชงคประยาตรฉันท์ ๑๒ - - ข้าพเจ้านั่งอยู่ชายทะเล - จะเหลียวซ้ายก็งามตา จะเหลือบขวาก็เพลินใจ จะดูเบื้องพบูไป ตลอดล้วนจะชวนแล ผิพิศสูงสิแสงโสม อร่ามโคมโพยมแข ตะลึงหลงพะวงแด ฤดีงงเพราะความงาม ณ ชายหาดสะอาดทราย และกรวดทรายประกายวาม วะวาบวับระยับยาม ผสานแสงพระจันทร์เพ็ญ ทะเลแลกระแสหลั่ง อุทกพลั่งถะถั่งเห็น ผสมสีขจีเป็น ประหนึ่งแก้วตระการเขียว พระพายฮือกระพือหวน ประมวลม้วนสมุทรเกลียว ระดมพัด ณ บัดเดี๋ยว ขยายแยกและแตกฉาน อุบัติเป็นระลอกลูก สะท้อนถูกสะเทื้อนธาร คะนองศัพทะกังวาน สนั่นพัดกระจายฟอง กระทั่งหาดผะผาดผัง กระทบฝั่งประนังนอง กระฉอกเนื่องเฉนียรมอง ระเมียรซ่านกระเซ็นสาย ประปรอยโรยประโปรยฝอย ก็เห็นหอยและกรวดทราย ประดุจรัตน์จรัสราย สกาวก่องประกอบกาญจน์ (ชิต บุรทัต) ** หมายเหตุ : ในชั้นต้นนั้น ฉันท์ประเภท ๔ วรรค ที่มีลักษณะอย่างกาพย์นั้น ไม่ได้มีบังคับสัมผัสเชื่อมระหว่างวรรคหน้าและวรรคหลัง มีเพียงสัมผัสส่งระหว่างบาท (วรรค ๒ และวรรค ๓) และระหว่างบทเท่านั้น แต่กวีนิยมใส่เพิ่มเพื่อความไพเราะ หากอ่านในวรรณคดีหรือวรรณกรรมต่าง ๆ จะพบลักษณะนี้อยู่ ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่าเพิ่งประมาทว่าผู้ประพันธ์นั้นผิดพลั้งแต่ประการใด เช่น ภุชงคประยาตรฉันท์ ๑๒ ๐ พยัคฆ์ย่องผยองเผ่น ผะผาดโผนลำพองผาย สกัดหน้าพระโฉมฉาย เฉลาขัติมัทรี ๐ ทิพากรนะจรลับ พระสูเมรุคีรี นิศากรก็สางสี สิผ่องแผ้วนภาพลาง (มหาชาติคำฉันท์ : ฉันท์ ขำวิไล) ภุชงคประยาตรฉันท์ ๑๒ ๐ อนิจจาอนาถา จะคิดไปก็ใจหาย สุดารัตน์กษัตริย์ฉาย เกษตรเชษฐ์เฉลิมวงศ์ ๐ มเหสีมหาศักดิ์ มไหสูรย์ประยูรยง พระผัวหน่ายสลายทรง สลดเศร้าสลักทรวง (พระนลคำฉันท์) บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล - Black Sword - (หมู มยุรธุชบูรพา) • กลับสู่หน้า สารบัญ ฉันท์ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14138.msg51433#msg51433) • กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14135.msg51426#msg51426) • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอน คลิก (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=15216.msg55729#msg55729) • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14132.msg51411#msg51411) • กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14615.msg53012#msg53012) • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอนกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6688.msg22950#msg22950) • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6689.msg22951#msg22951) • กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=7715.msg27482#msg27482) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/AJ.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1468) |