หัวข้อ: พรหมวิหาร ๔ พร้อมประโยชน์และอานิสงส์ ~ กลอนกลบท ภุมรินเชยทราบเกสร เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 05, พฤศจิกายน, 2566, 10:27:36 AM (https://i.ibb.co/stXMc95/Screenshot-20231103-132745-Google.jpg) (https://imgbb.com/)
พรหมวิหาร ๔ พร้อมประโยชน์และอานิสงส์ กลอนกลบท ภุมรินเชยทราบเกสร ๑."พรหมวิหาร" มีสี่ หลักธำรง พรหมวิหาร ชีพยง ประเสริฐหนา เพื่อชีวิต บริสุทธิ์ กายา เพื่อชีวิต ร่วมหล้า กับหมู่ชน ๒."เมตตา"หนึ่ง ความรัก ให้เขาสุข เมตตาหนึ่ง มิตรรุก จะเกิดผล ทำประโยชน์ แก่สัตว์ โลกได้ยล ทำประโยชน์ ผ่านพ้น มิเอาคืน ๓.คุมอารมณ์ จะรัก ผู้อื่นเทียบ คุมอารมณ์ ได้เปรียบ โดยไม่ฝืน สงเคราะห์เขา สบาย อย่างยงยืน สงเคราะห์เขา เรื่องอื่น ด้วยเต็มใจ ๔."กรุณา" ข้อสอง คิดช่วยเหลือ กรุณา จุนเจือ อดิศัย ใฝ่ใจเปลื้อง เดือดร้อน ให้หมดไป ใฝ่ใจเปลื้อง ทุกข์ใจ จนเสร็จการ ๕.จิตปรานี เผื่อแผ่ ด้วยทรัพย์สิน จิตปรานี หลั่งริน ด้วยสงสาร พร้อมกายใจ ช่วยเหลือ ตามที่ชาญ พร้อมกายใจ แนะงาน ชี้ช่องทาง ๖."มุทิตา" ข้อสาม ความยินดี มุทิตา จิตนี้ ชื่นและสาง ใจเบิกบาน ผู้อื่น ย่อมสุขพลาง ใจเบิกบาน สว่าง ด้วยเปรมปรีดิ์ ๗.จิตผ่องใส เห็นผู้ อื่นมีสุข จิตผ่องใส ชื่นชุก ชีพสุขี ริษยา อิจฉา นั้นไม่มี ริษยา ทวี เคลื่อนมลาย ๘."อุเบกขา" ข้อสี่ ใจเป็นกลาง อุเบกขา มิห่าง ธรรมมิหาย ใช้ปัญญา ตริตรอง ให้คลี่คลาย ใช้ปัญญา หลากหลาย ไม่เอนเอียง ๙.ยุติธรรม คงมั่น รัก,ชังเว้น ยุติธรรม ตรงเน้น มิถกเถียง สงบใจ วางนิ่ง เฝ้ามองเมียง สงบใจ ความจริง ยอมรับมัน ๑๐.พรหมวิหาร สี่ครบ ทบอำนวย พรหมวิหาร ย่อมช่วย ให้ศีลสันต์ ปัญญาเกิด เพราะใจ ใสเย็นพลัน ปัญญาเกิด ลุดั้น ฌานสมาฯ ๑๑.อานิสงส์ ความดี ที่ทำครบ อานิสงส์ นอบจบ มิกังขา มีความสุข ยามตื่น ชื่นทุกครา มีความสุข ฝันพา คว้ามงคล ๑๒.เทวดา พระพรหม จะปกปัก เทวดา ดลรักษ์ ทุกแห่งหน เป็นที่รัก ของชน เทพและพรหม เป็นที่รัก เพราะบ่ม ทำความดี ๑๓.อารมณ์มั่น ดำรง สมาบัติ อารมณ์มั่น แจ้งชัด ทรงศีลศรี สมาบัติ ไม่เสื่อม แต่ทวี สมาบัติ ส่งชี้ ดวงหน้างาม ๑๔.เมื่อถึงครา สิ้นชีพ สติมั่น เมื่อถึงครา รู้ทัน ไม่เกรงขาม ถ้ามิได้ บรรลุ ในชาตินี้ ถ้ามิได้ ผลคลี่ ย่อมภพพรหมฯ แสงประภัสสร พรหมวิหาร ๔=หลักธรรมประจำใจ เพื่อให้ดำรงชีวิตได้ อย่างประเสริฐและบริสุทธิ์อย่างพรหม เมตตา ข้อ ๑=ความรักใคร่ ปรารถนาให้เขามีความรักใคร่ มีจิตแผ่ไมตรี และคิดทำประโยชน์แก่มนุษย์ทั่วหล้า กรุณา ข้อ ๒=ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์ ใฝ่ใจอันจะเปลี้อง บำบัดความทุกข์ยาก เดือดร้อนของปวงสัตว์ สงสาร=เห็นใจในความเดือดร้อนหรือความทุกข์ของผู้อื่น มุทิตา ข้อ ๓ =ความยินดี เมื่อผู้อื่นอยู่ดีมีสุข มีจิตผ่องใส บันเทิง ประกอบด้วยอาการแช่มชื่น อุเบกขา ข้อ ๔=วางใจเป็นกลาง, ดำรงอยู่ในธรรมตามที่พิจารณาเห็นด้วยปัญญา ไม่เอนเอียงด้วยรักและชัง รู้จักวางเฉยสงบใจมองดู ฌานสมาฯ=ฌานสมาบัติ คือ การเข้าถึงจุดอารมณ์เป็นสมาธิหรือฌาน มี ๘ อย่าง เรียกสมาบัติ ๘ ได้แก่ รูปฌาน ๔, อรูปฌาน ๔ อานิสงส์=ผลแห่งบุญกุศล,ผลแห่งความดี,บุญ,ประโยชน์,ผลดี สมาบัติ=การเข้าฌาน,การบรรลุฌาน,ธรรมที่พึงเข้าถึงฌาน (ขอบคุณเจ้าของภาพจากอินเทอร์เน๊ต) |