บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม => ข้อความที่เริ่มโดย: แสงประภัสสร ที่ 04, สิงหาคม, 2567, 10:43:20 AM



หัวข้อ: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลส เปรียบเหมือนน้ำฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 04, สิงหาคม, 2567, 10:43:20 AM

(https://i.ibb.co/tJFhG3h/Screenshot-20240801-152009-Chrome.jpg) (https://ibb.co/4V3fqJf)

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลสเปรียบเหมือนน้ำฝาด

กาพย์มหาสินธุมาลี

  ๑.กาสาวพัสตร์คือ.............................ผ้านุ่ง
ของสงฆ์พุทธ์องค์จุ่ง ...........................ประทาน
เป็นของสูงแจงมุ่ง................................อริยะ
แต่งเพื่อประกาศขาน...........................ทางอร์หันต์วงศ์
 
   ๒.ผ้ากาสาว์พัสตร์ย้อม......................น้ำฝาด
สีกรักหรือเหลืองกาจ............................ยรรยง
บรรพ์ชิตครองผ้ายาตร.........................ธงชัย
ตัดกิเลสประสงค์.................................."สัจจะ"เสลา

  ๓.ผู้ใดยังไม่ปราศ...............................กิเลส
ขาด"ทมะ"ข่มเจตน์...............................ขัดเกลา
ขาด"สัจจะ"ต้นเหตุ...............................หย่อนฝึก
หาควรนุ่งห่มเอา...................................ผ้ากาสาฯเลย

  ๔.ผู้คายกิเลสเปรียบ...........................น้ำฝาด
มั่นในศีลมิพลาด...................................ครบเผย
"ทมะ,สัจจะ"ดาษ...................................สมบูรณ์
เขาเหมาะกาสาฯเอย.............................สมควรห่มหนา ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ธรรมบท ๒๕/๑๖
พระไตรปิฎกฉบับสำหรัถบประชาชน หน้า ๘๕

ทมะ=ความข่มใจ
สัจจะ=ความจริงใจ

(ขอบคุณเจ้าของภาพจาก อินเทอร์เน๊ต)


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลส เปรียบเหมือนน้ำฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 05, สิงหาคม, 2567, 09:29:24 AM

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๓๗.จะบรรลุสิ่งเป็นสาระ ก็ด้วยเข้าใจสาระ

กาพย์สินธุมาลี

  ๑.สิ่ง"ไร้สาระ"เห็น...........................สำคัญ
สิ่งมี"สาระ"พลัน.................................คุณน้อย
เพราะดำริผิดครัน..............................ล้มเหลว
สิ่ง"สาระ"คลาดคล้อย........................อับผล
 
   ๒.ชนเห็นสิ่ง"สาระ".........................ประโยชน์
"ไร้สาระ"มองโทษ..............................หมดค่า
เขาดำริชอบโลด................................ตรองถูก
ลุสิ่ง"สาระ"กว่า..................................ผลพรู

  ๓.ผู้เห็น"ผิด,ถูก"ผล.........................ห่างหลาย                                   
เห็นถูกพฤติธรรมกราย......................คุณเลิศ
"สาระ"กุศลปราย...............................เจริญ
ถึงขั้นนิพพานเพริศ............................ยืนไสว

๔.ใครเห็น"ผิด"คิดแปลก....................ผันความ
มิจฉาทิฏฐิลาม...................................ทุกข์วาง
ย่อมไม่ลุศีลงาม.................................สมาธิ์
ปัญญาด้อยปิดทาง............................นิพพาน ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
ธรรมบท ๒๕/๑๖
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๘๕


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลส เปรียบเหมือนน้ำฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 06, สิงหาคม, 2567, 09:13:39 AM
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๓๘.ฝนรั่วรดที่เทียบด้วยราคะ(ความติดใจ)

กาพย์พรหมคีติ

   ๑.หลังคาหามุงดี...............ฝนย่อมรี่รั่วฉันใด
"ราคะ"จะเสียดไว................จิตขาดอบรมแน่ครัน
เรือนมุงดีฝนย่อม................ไม่รั่วจ่อมชอมฉันนั้น
เปรียบจิตอบรมทัน.............ราคะไซร้ไม่ซ่านเลย
  
    ๒."ราคะ"แปลว่าย้อม.......จิตถูกกล่อมยอมแปรเผย
เปรียบจิตเห็นต่างเอย.........สิ่งไม่งามว่างามดี
"ราคะ"ติดใจสิ่ง...................สามแบบอิงจิตวิ่งคลี่
ทุกข์รุ่มร้อนทวี....................ต้องอบรมจิตให้คลาย

  ๓.หนึ่ง"กามราคะ"เรา.........ติดใจเฝ้าไม่ห่างหาย                                  
กับรูป,รส,กลิ่นกราย............เสียง,โผฏฐัพพะ,ชิดชม
สอง"รูปราคะ"ควาน.............."รูปฌาน"ติดใจสม
สาม"อรูป์ราคะ"งม................."อรูปฌาน"ตรึงหทัย

  ๔.ความติดใจเกิดหนา..........เพราะ"คิด"พาต้องผลักไส
ราคะจะนำพิษภัย..................ผู้ขาดอบรมจิตชาญ
ผู้อบรมจิตแล้ว.......................จึงคลาดแคล้วราคะผลาญ
เหมือนเรือนมุงดีงาน...............ฝนตกหนักมิเปียกปอน

  ๕.ส่วนคนอบรมน้อย...........อารมณ์คล้อยกับ"กาม"ย้อน
ราคะเสียดแทงจร.................คล้ายมุงเรือนไม่ดีจริง
ฝนตกปียกทุกครา.................จำต้องหาทางแก้ยิ่ง
เพื่อลดราคะพิง......................ทะยอยน้อยจนหมดลง

  ๖.ฝึกอบรมจิตด้วย...............สมถะช่วยลุประสงค์
อีกราคะจะปลง......................จิตสงบปฐมฌาน
จนฌานที่แปดถึง...................ราคะพึงนิ่งแค่วาร
แต่จะถูกประหาร..................."อนาคามรรค"บรรลุ ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
ธรรมบท ๒๕/๑๖
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๘๕

ราคะ=ความติดอกติดใจในสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม มีลักษณะเหมือนถูกสีย้อม มี ๓ อย่าง ๑)กามราคะ ติดใจในรูป,รส,กลิ่น,เสียง,โผฏฐัพพะ(สัมผัส) ๒)รูปราคะ ติดใจใน รูปฌาน ๓)อรูปราคะ ติดใจใน อรูปฌาน
อนาคามรรคฯ=อนาคามิมรรค คือทางปฏิบัติเพื่อบรรลุผล ความเป็นพระอนาคามี,ญาณ ความรู้เป็นเหตุให้ละสังโยชน์ได้ ๕ อย่าง๑)สักกายทิฏฐิ ความเห็นผิดที่ยึดขันธ์ ๕ ว่าเป็นตัวตน ตัวสัตว์ เป็นของเรา ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริง ๒)วิจิกิจฉา วามลังเลสงสัย ๓)สีลัพพตปรามาส ความถือมั่นในศีล พรต จนเกิดเหตุ ๔)กามราคะ ความติดอกติดใจในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ๕)ปฏิฆะ ความคับแค้น เช่นจิตที่หงุดหงิดจากอำนาจโทสะ
๑)๒) และ ๓) เป็นสังโยชน์ที่พระโสดาบัน ละได้


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลส เปรียบเหมือนน้ำฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 07, สิงหาคม, 2567, 04:31:34 PM
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๓๙.ความไม่ประมาทเป็นทางแห่งความไม่ตาย

กาพย์ตุรงคธาวี

   ๑."ไม่ประมาท".......ทางไม่ตายคลาด......"ประมาท"คือทางตาย
มิประมาท.....จักคาดชื่อไม่วาย.....บัณฑิตตั้ง......ใจฟังความนี้เตือน
ประพฤติธรรม.......สู่อริย์นำ.......เพียรทำอย่าแชเชือน
เจริญธรรม......กระทำนิตย์มิเบือน.....ปัญญาเกิด......เขาเพริศสู่นิพพาน
  
   ๒.ขณะที่......สติอยู่ดี.......กุศลปรี่จิตขาน
ระดับเป็น......"ศีล"เด่น"สมาธิ์,ทาน".......ประมาทไม่......มีไซร้กับจิตเลย
กุศลจิต...... สติครองชิด.......ประสิทธิ์ทุกคราเผย
อกุศล.......กาลพ้นสติเอย......กุศลจิต......เรียกพิศรอบคอบดี

   ๓.พุทธ์โอวาท........พึงไม่ประมาท......อย่าพลาดเรียนธรรมคลี่
แต่"ศีล,ทาน".......ถึงพาน"อริย์สี่".....จงทำกิจ......สัมฤทธิ์เร็วเถิดหนอ
ไม่ประมาท.......อริย์มรรคกาจ......มิคลาดมรรคแปดพอ
เจริญให้มาก......จะพรากกิเลสก่อ......พ้นการวน......เวียนพ้น"วัฏฏะ"ราน

  ๔.กุศลธรรม......."ไม่ประมาท"พร่ำ......มูลธรรมเป็นรากฐาน
ธรรมเลิศกว่า......ทั้งหล้าปัดแผ้วพาน......สติรู้.....พ้นสู่ทางเสื่อมลง
พบโอกาส.......ไม่พลาดธรรมส่ง......ยึดยงพระรัตน์ฯพิง
เรียกไม่ประ-........มาทระลึกรู้อิง.......มุ่งเพียรธรรม......จึงนำตนสุขยง ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
ธรรมบท ๒๕/๑๘
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๘๖

อริย์=อริยะ
อริย์สี่=อริยสัจ ๔
วัฏฏะ=วัฏฏะสงสาร
พระรัตน์ฯ=พระรัตนตรัย


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลส เปรียบเหมือนน้ำฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 08, สิงหาคม, 2567, 09:23:02 AM

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๔๐.ยศเจริญแก่คนเช่นไร

กาพย์กากคติ

   ๑.พระธรรมสิสัตต์.......ประการจะชัด......เจริญซิยศ
สำหรับคนที่....."เพียร"รี่ไม่งด....."รำลึก"ได้หมด......"กิจหมดจด"นำ
"คิดก่อนทำกิจ"......."สำรวม"เป็นนิตย์......."ครองชีพโดยธรรม"
อีก"ไม่ประมาท".....คอยยาตรทนพร่ำ....."สติปัฏฯล้ำ......สู่นิพฯไม่ตาย
 
   ๒.ขยันก็ก่อ.......มิเกียจและท้อ......กระทำขยาย
สร้างบุญกอปรงาน......เสร็จชาญโดยง่าย.....งานไม่เสียหาย......ไร้ทอดอาลัย
สติ,รอบคอบ......ใส่ใจพูดตอบ.......คิดก่อนทำใด
อย่าให้ผิดพลาด.......ซึ่งอาจแก้ไข......เสียเวลาไป.....ยากคืนกลับดี

   ๓."สะอาด"ก็งาน........ริซื่อมิผลาญ......ผจงวิธี
ความซื่อ,สัตย์นำ.....ศีลธรรมล้นปรี่.....เว้นทำเลวชี้......ผิดกฏหมายพรวน
"คิดตรอง"ก่อนว่า.....ทำอย่างนี้หนา..เกิดผลใดรวน
ทำแล้วเกิดทุกข์.....เลิกรุกต่อด่วน......ทำแล้วสุขควร.....จึงทำต่อไป

  ๔.ระวังละลาน....สำรวมทวาร.....ฉ กายริไว
อินทรีย์หกคุม......ไม่สุมดุ่มไกล......ตา,หู,ลิ้น,ใจ.....จมูก,กายปลง
"ชีวิตกับธรรม".......ต้องชิดใฝ่ธรรม.....รำลึกประสงค์
ไม่เหินห่างธรรม........เห็นจำใดตรง.......น้อมนำเพื่อปลง......สู่ตนทุกครา

 ๕.ผิ"ไม่ประมาท"......มิตายมิพลาด......ลุนิพฯซิหนา
อีก"ภาว์นา,ทาน"......"ศีล"พานพฤติคว้า.....ปัญญาเกิดกล้า.....สำเร็จธรรมครัน
ยศย่อมถึงผู้......ธรรมเจ็ดล้ำพรู......"ความเป็นใหญ่"สรรค์
มีเกียรติ์ยศเกิด.....คุณเพริศยงยรร.....บริวารพลัน......ห้อมล้อมมากมาย ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ธรรมบท ๒๕/๑๘
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๘๖

สัตต์=สัตต คือ ที่เจ็ด
สติปัฏฯ=สติปัฏฐาน ๔ คือ หลักการภาวนาเพื่อรู้แจ้งเข้าใจตามความจริงของสิ่งทั้งปวง โดยไม่ถูกกิเลสครอบงำ มี ๔ อย่าง๑) กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน -ใช้สติตั้งมั่นในการพิจารณากาย ๒)เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน -ใช้สติตั้งมั่นพิจารณา เวทนา ๓)จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน-การใช้สติตั้งมั่นพิจารณาจิต ๔)ธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน-ใช้สติตั้งมั่นพิจารณาธรรมที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม
ฉ=หก
อินทรย์หก=คือ ตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจ
นิพฯ=นิพพาน


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๓๖.กาสาวพัสตร์ กับกิเลส เปรียบเหมือนน้ำฝาด
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 09, สิงหาคม, 2567, 03:24:08 PM
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๔๑.คนพาล กับ คนมีปัญญา

กาพย์มัณฑุกคติ

   ๑.นรชนฉลาดล้น................เกะกะคนมิเทียบหนา
มีปัญญา,คนพาลพา................อาการเล่าแตกต่างกัน
ปัญญาทรามทำ"ประมาท".......พฤติชั่วพลาดเป็นนิตย์ครัน
ผู้ไม่รู้จักโทษทัณฑ์.................ทั้งโลกนี้โลกหน้าเอย
  
   ๒.พหุปัญญะทำดาษ............มิประมาทตลอดเผย
ผู้พฤติดีงามเลิศเคย................ตั้งมั่นในธรรมโอฬาร
ทาน,ศีล,สมาธิ์ครบครัน...........ปัญญามั่นมรรคแปดงาน
มีโอกาสถึงนิพพาน..................หลุดพ้นการเวียนเกิด,ตาย

   ๓.มุนิปัญญะหมดทุกข์..........เพราะริรุกกิเลสวาย
จึงรู้แจ้งธรรมจริงกราย............ใช้ชีวิตถูกทางธรรม
ปัญญามองโลกกราก...............ลึกซึ้งมากกว่าตานำ
ปัญญาเปรียบแสงเลิศล้ำ.........ไม่มีแสงไหนเทียบไกล

  ๔.ทุรพลจะโง่ซ้ำ...................."วจะ,ทำ"และ"พูด"ไข
ชักพาคนคิดผิดไว...................มักโกรธเมื่อมีคนติง
ทำชั่วมีแต่โทษคราก................จิตไหวมากตัณหาสิง
ไม่รู้ผิด,ถูก,ชั่วจริง....................จึงไม่เคยมีสุขเลย ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
ธรรมบท ๒๕/๑๘
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๘๖