บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอนธรรมะ-สุภาษิต-ปรัชญา-คำคม => ข้อความที่เริ่มโดย: แสงประภัสสร ที่ 04, กันยายน, 2567, 12:44:59 PM



หัวข้อ: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๕๑.ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น~กาพย์ทีฆปักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 04, กันยายน, 2567, 12:44:59 PM

(https://i.ibb.co/bsMk4YP/Screenshot-20240720-160438-Chrome.jpg) (https://ibb.co/tqT90n4)
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๕๑.ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น

กาพย์ทีฆปักข์

  ๑."สมิทธิ"ถามพุทธ์องค์.................เหตุไร
จึงเรียกว่า"มาร"ได้...........................กล่าวขาน
หรือกำหนดไว้"มาร".........................ที่เป็น
พุทธ์องค์ท่านเปรียบว่า....................นี่แล

  ๒.สิ่งแท้คือที่ใด.............................."มีตา"
"มีรูป"จากเห็นหนา............................เกิดรู้
ธรรมรู้แจ้งพาเกิด..............................ทางตา
ใครมี"หู"ย่อมรู้...................................ทางหู

  ๓."ใจ"พรั่งพรูด้วยธรรม...................ใจแจ้ง
เกิดรู้ทางใจแฝง................................"มาร"จริง
ย่อมบัญญัติแจงได้...........................คือมาร
แต่ขาดสิ่งนี้แล้ว................................ไร้มาร

  ๔.งานของมารเกี่ยวพัน...................กั้นขวาง
ล่อมิให้ใครสร้าง...............................ความดี
ทำให้ตายล้างผลาญ.........................รอนราน
มารแบ่งคลี่ห้าอย่าง...........................หลอกลวง

  ๕.หนึ่งบ่วง"กิเลสมาร"......................กีดกั้น
การทำดีสะบั้น...................................จิตหมอง
กิเลส"โลภ"ดั้นพร้อม..........................โกรธ,หลง
ปิดทางตรองหมดสิ้น..........................กุศล


  ๖.ก่นสอง"ขันธมาร"คือ.....................ขันธ์ห้า
"รูป,เวท์นา,สัญญา".............................ลำบาก
"สังขาร,วิญฯ"พาเดือดร้อน..................มิรู้
ยึดติดยากถอนจาก............................ชั่วมัว

  ๗.จั่วสาม"อภิสังฯมาร.........................รวมบาป
ที่ทำมาก่อนงาบ...................................เหี้ยมเกรียม
อกุศลปราบจิต.....................................พร้อมเลว
ไม่ลุเปี่ยมความดี..................................ได้เลย

  ๘.เผยสี่"เทวปุตฯ"...............................มิจฉาฯ
ไม่ใฝ่กุศลมา.........................................กีดกัน
คอยขัดขวางพร่าบุญ............................ความดี
สร้างภาพหวั่นกลัวยาม..........................สมาธิ์

  ๙.ห้า"มัจจุมาร"คือ...............................ความตาย
จะคอยตัดชีพวาย..................................เสียก่อน
สร้างความดีฉายล้ม................................ไม่เสร็จ
กัมมัฏฯรอนตัดชีพ..................................ขวางทาง

  ๑๐.มารกร่างเกิดทำลาย.......................กุศล
ศีล,สมาธิ์เสื่อมดล...................................ลดลง
ศีล,สมาธิ์พ้นผลัก...................................."ปัญญา"
ขัดประสงค์มิพาน....................................อริย์มรรค

  ๑๑.จักพรางมารอย่างไร.......................วิธี
พุทธ์องค์ชี้ใจมี.......................................สติ
พิศโลกว่างรี่จาก....................................ตัวตน
มิเผลอลิช่องมาร....................................แทรกแซง ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น :สังยุตตนิกายนิกาย สฬายตนวรรค ๑๘/๔๖
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๙

สมิทธิ=พระสมิทธิเถระ
มาร=ผู้ทำให้ตาย แบ่งเป็น ๕ อย่าง ๑) กิเลสมาร  คือกิเลสทำให้มีความประพฤติไม่ดี คอยขัดขวางไม่ให้ทำความดี ๒) ขันธมาร คือขันธ์ที่บกพร่องแล้วเป็นมารผลาญตัวเอง คือขันธ์ที่คอยกีดขวางการทำดี เช่น ต้องการฟังธรรมแต่หูหนวก ๓)อภิสังขารมาร คือ ความคิดนึกประกอบด้วยอารมณ์เป็นมาร เพราะ เป็นตัวปรุงแต่งกรรม ทำให้เกิด ชาติ ชรา ขัดขวางมิให้หลุดพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ ๔)เทวปุตตมาร คือ เทวดาที่เป็นมาร เช่น ท้าววสวัตตี จอมเทพแห่งสวรรค์ชั้น ปรนิมมิตวสวัตตี ๕)มัจจุมาร คือความตายที่ตัดโอกาสทำความดีของเรา
กัมมัฏฯ=กัมมัฏฐาน คือ การทำสมาธิหรือการสงบทางใจ มี ๒ อย่าง ๑) สมถกัมมัฏฐาน การทำจิตใจให้สงบ ๒)วิปัสสนากัมมัฏฐาน คือ การเพียรใช้สติ สัมปชัญญะ เข้าไปกำหนดสิ่งที่เกิดขึ้นทางกาย,ใจ เพื่อให้เกิดปัญญาหยั่งรู้อย่างแจ่มแจ้ง
พุทธ์องค์=พระพุทธองค์
มิจฉาฯ=มิจฉาทิฏฐิ คือความเห็นผิดตามทำนองคลองธรรม
สมาธิ์=สมาธิ

(ขอบคุณเจ้าของภาพจาก อินเทอร์เน๊ต)


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๕๑.ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น~กาพย์ทีฆปักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 05, กันยายน, 2567, 09:16:33 AM

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๕๒.ความเกิด ความดับ แห่งทุกข์

กาพย์รัสสปักข์

  ๑.จงดูก่อนภิกษุ............................."ความเกิด"
"ตั้งอยู่"ปรากฏเชิด...........................กับ"ตา"
"หู,จมูก,ลิ้น"เปิด..............................."กาย,ใจ"
เห็น"รูป,เสียง,กลิ่น"เลิศ...................."รส"จำแม่นยำ

  ๒.ด่ำ"โผฏฐัพฯ"สัมผัส.....................ใจ,กาย
"ธรรมะ"ใจรู้กราย..............................ส่ง-รับ
ทุกข์จึงเกิดขึ้นผาย............................โรคภัย
"ตั้งอยู่"ก่อขยาย................................ความแก่ความตาย

  ๓.ภิกษุหลายจงตรอง......................"ความดับ"
"ไม่คง,ความระงับ".............................ทุกข์หยุด
ด้วยตา,หู,ลิ้นขวับ..............................โรคสิ้น
"ตั้งอยู่ไม่ได้"พับ................................ความแก่,ตายปลง

  ๔.ทุกข์บ่งเกิดและดับ......................อย่างไร
"จักษุ"เห็น"รูป"ไว..............................เกิดก่อ
"จักขุวิญญาณ"ไกล..........................ใจรู้
สามธรรมร่วมเกิดไข........................."ผัสสะ"แตะโดน

  ๕."ผัสสะ"โชนปัจจัย........................บ่อเกิด
"เวท์นา"รู้สึกเชิด................................นำสู่
"ตัณหา,ความอยาก"เพริศ...................เกิดทุกข์
ทางดับทุกข์ประเสริฐ..........................ดับ"ความอยาก"ไกล

  ๖."อยาก"ไถลอุปา-...........................ทานหยุด
"ยึดมั่น"หนี"ภพ"รุด.............................ลับไป
"ชาติ,เกิด"ดับตามยุด..........................ด้วยกัน
เลิกเกิดแล้ว"แก่"กุด............................ทุกข์หมดทั้งมวล ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : ความเกิด ความดับ แห่งทุกข์ : สังยุตตนิกายนิกาย สฬายตนวรรค ๑๘/๑๗
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๙๙

โผฏฐัพฯ=โผฏฐัพพะ แปลว่า สัมผัส สิ่งที่ถูกต้องได้
ธรรมะ=สิ่งที่รู้ได้ด้วยใจ
ตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจ=อายตนะ ภายใน ๖
รูป,รส,กลิ่น,เสียง,โผฏฐัพพะ,ธรรมมารมณ์ =อายตนะ ภายนอก ๖
อุปาทาน=ความยึดมั่นถือมั่น


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๕๑.ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น~กาพย์ทีฆปักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 06, กันยายน, 2567, 09:20:58 AM
ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๕๓.เวียนว่ายตายเกิด

กาพย์กริชนกพังกะ กาพย์ ๔๑

  ๑."เวียนตาย,เกิด"เปรียบโยนไม้สู่......อากาศครู่.....จึงตกลง-ไม้ตกลง
ทาง"โคน"หรือ"ขวาง"ส่ง........บ้างตกทางด้าน"ปลาย"
สัตว์มี"อวิชช์"กั้นกราย....."ความอยาก"มาย.....วิ่งเที่ยวไป-ซ่านเที่ยวไป

  ๒.บ้างจากโลกนี้ไปโลกอื่น.....บ้างมาดื่น.....โลกอื่นไกล-อีกอื่นไกล
ภิกษุ"สงสาร"ไซร้...........มิมีต้น-ปลายจะเจอ
ไม่พบเงื่อน"เบื้องต้น"เก้อ.....เบื้องปลายเหรอ.....สาวไม่มี-หาไม่มี

  ๓.สัตว์ถูก"อวิชชา"กั้นชัด....."อยาก"ผูกมัด.....ต้องวิ่งรี่-เที่ยววิ่งรี่
ตระเวณโลกนั้น,นี้........ไปทั่วตลอดกาลนาน
จึงควรเบื่อหน่ายหลีกราน.....สังขารผลาญ....หลีกพ้นคลาย-จิตพ้นคลาย

  ๔."สงสารวัฏ"การเวียนตายเกิด....วงกลมเริ่ด....เกิดแล้วตาย-สุดแล้วตาย
เวียนอย่างนี้มิวาย..........มิมีวันจบสิ้นลง
มนุษย์สภาวะบ่ง.....ธรรม์ชาติส่ง.....เกิดหมุนวน-ตายหมุนวน

  ๕.ชนลุ"อริยสัจสี่".....จะหลีกหนี.....หลบวัฏพ้น-ออกวัฏพ้น
ดั่งพระอร์หันต์ยล.......ภพข้างหน้ามิมีพลัน
ใครยังมี"อวิชช์ฯ"กั้น....อยู่วัฏดั้น....ต่างภพนาน-เวียนภพนาน ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
เวียนว่ายตายเกิด : สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๖/๒๑๙
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๑๐๐

สงสาร=สงสารวัฏ คือเวียนว่ายตายเกิด
วัฏ=วงกลม
อวิชช์ฯ=อวิชชา ความไม่รู้แจ้งใน อริยสัจ ๔


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๕๑.ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น~กาพย์ทีฆปักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 07, กันยายน, 2567, 09:36:21 AM

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๕๔.อะไรยาวนานสำหรับใคร

โคลงวิชชุมาลี

  ๑.คราใดใครคิดว่า..........................ยาวนาน
ผู้หลับกลางคืนยาก...........................ว่ายาว
หนึ่งโยชน์ผู้ล้าขาน............................ทางไกล
"วนเกิด,ตาย"ส่อฉาว..........................ยาวไกล

  ๒.คืนหนึ่งไซร้สามยาม....................."ต้น,กลาง"
และ"ท้าย"ยามละสี่............................ชั่วโมง
ผู้ไม่หลับคิดพลาง.............................นานทวี
เช่นพระ,คนป่วยโคลง........................นักโทษ

  ๓."สงสารฯ"โลดเวียนเกิด.................ยิ่งยาว
คนพาลชีพยืนทำ...............................ชั่วมาก
คล้ายคนคุกมือกาว............................โทษถ้วน
ในคุกยังชั่วกราก...............................เนิ่นนาน

  ๔.ความชั่วผลาญยิ่งทำ.....................ชั่วล้น
ความดียิ่งทำส่ง..................................อร์หันต์
ที่สุดคนดียล......................................มีอยู่
ที่สุดคนชั่วครัน..................................ไม่มี ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา : อะไรยาวนานสำหรับใคร? สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๖/๒๑๙
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๑๐๐

สงสารฯ=สงสารวัฏ คือ การเวียนว่ายตายเกิด


หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๕๑.ตา หู เป็นต้น มีที่ไหน มารมีที่นั่น~กาพย์ทีฆปักษ์
เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 08, กันยายน, 2567, 09:20:50 AM

ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๕๕.ความเป็นสหายในคนพาล

โคลงมหาวิชชุมาลี

  ๑.ถ้าไม่พบคนดี..............................กว่าตน
หรือเท่าตนควรอยู่............................คนเดียว
ท่องเที่ยวทำกิจดล............................ให้มั่น
อย่าคบคนพาลเชียว.........................มิใช่มิตรเลย

  ๒.เผยมิตร,ผู้ร่วมทุกข์......................และสุข
รัก,จริงใจ,ทำดี..................................ชักชวน
มิตรภาพมิเกิดชุก..............................คนพาล
เพราะคนพาลใจรวน..........................ชักนำวอดวาย

  ๓.เลือกมิตรกรายบัณฑิต.................หนึ่งครั้ง
ประโยชน์จะได้รับ.............................มากมาย
คนพาลพบบ่อยพัง.............................อับจน
อยู่คนเดียวใจ,กาย.............................สงบในธรรม ฯ|ะ

แสงประภัสสร
 
ที่มา :
ความเป็นสหายในคนพาล : สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๖/๒๑๙
พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๑๐๐