บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: กรกช ที่ 02, ตุลาคม, 2567, 08:35:45 PM



หัวข้อ: สโมสรปาตาปุม
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 02, ตุลาคม, 2567, 08:35:45 PM

(https://img2.pic.in.th/pic/campusstar-6-1.jpg) (https://pic.in.th/image/campusstar-6-%281%29.1vGvsT)

สโมสรปาตาปุมและห้องประชุมในตู้เสื้อผ้าของ ร.๘ และ ร.๙ ในวัย ๑๐ พรรษา

สโมสรปาตาปุม (Club Patapoum) เป็นสโมสรที่
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
เมื่อครั้งทรงพระเยาว์
กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
เมื่อยังทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลเดช
มีพระชนมายุประมาณ ๑๐ พรรษา ได้ทรงก่อตั้งขึ้น
ก่อนที่จะเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย ใน พ.ศ. ๒๔๘๑

โดยทั้งสองพระองค์น่าจะทรงได้แนวพระราชดำริในการตั้งสโมสรดังกล่าว
มาจากหนังสือการ์ตูนที่ทรงอ่าน หนังสือการ์ตูนเหล่านั้น มีเด็กเป็นตัวละครสำคัญ
และชอบรวมกลุ่มกันตั้งเป็นสโมสร (Club)

สโมสรปาตาปุมนี้
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงเล่าว่า

(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/ofgjcmop5mldh9MWc5l-o-1.jpg)

พระองค์ทรงได้รับจดหมายจากสโมสรปาตาปุม
ในจดหมายนั้นระบุชื่อกรรมการที่ดำรงตำแหน่งต่างๆ ของสโมสรเป็นจำนวนมาก
แต่กรรมการที่มีตัวตนจริงคงมีเพียงสองพระองค์นั่นเอง
โดยทรงใช้พระนามที่แตกต่างกันระบุในตำแหน่งจริงและตำแหน่งรอง
สลับกันไปมาระหว่างสองพระองค์ และทรงเล่าต่อไปอีกว่า

พระองค์ไม่ทรงทราบว่าสโมสรนี้ตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ใด
แต่คงตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แก่สโมสร หาความสนุกอย่างเด็กๆ
และในขณะเดียวกันก็เป็นการทำบุญด้วย
รายได้ของสโมสรปาตาปุมได้มาจากค่าสมาชิกและการหารายได้พิเศษ
ค่าสมาชิกก็คือเงินส่วนหนึ่งที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีพระราชทานทุกสัปดาห์
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
ทรงได้รับเงินมากกว่าเนื่องจากทรงเจริญพระชนมายุกว่า
จึงต้องทรงเสียค่าสมาชิกมากกว่า

นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงระหว่างสองพระองค์ว่า ถ้าพระองค์ใดทรงได้รับเงินเป็นของขวัญ
จะต้องทรงเสียภาษีให้แก่สโมสรด้วย
หากทรงมีรายได้พืเศษ จะต้องเก็บภาษีร้อยละ ๕๐ ได้เป็นรายได้สำหรับคนจน
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งทรงได้รับสมมติเป็น "รัฐบาล"
ทรงทำกล่องไว้สำหรับสองพระองค์ทรงบริจาคเงินสำหรับทำบุญไว้ด้วย
หากพระองค์ใดมีพระราชประสงค์จะทรงทำบุญก็จะทรงนำเงินไปใส่กล่องเอง

(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/Club-Patapoum-19-1.jpg)

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ได้เคยกราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๙
เกี่ยวกับรายได้ของสโมสรปาตาปุม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า

สโมสรปาตาปุมนี้ร่ำรวยมากขึ้นเมื่อคราวเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑
เรื่องนี้ ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ได้เล่าขยายไว้น่าสนใจ
เห็นควรนำมาถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง ดังนี้

เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ นิวัติประเทศเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๑ นั้น
วันหนึ่งทั้งสองพระองค์เสด็จฯ ไปเข้าเฝ้าฯ
สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ที่วังสระปทุม
ทั้งสองพระองค์ยังใฝ่พระราชหฤทัยในการหารายได้เข้าสโมสรอยู่
มีพระราชประสงค์ได้เงินพระราชทานจากสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
แต่ครั้นจะกราบบังคมทูลขอพระราชทานตรงๆ ง่ายๆ ก็หาใช่พระอุปนิสัยไม่
มีพระราชดำริที่จะทรงหาเงินโดยมิต้องออกพระโอษฐ์กราบบังคมทูลขอพระราชทาน

กล่าวคือ ทรงทำพระอาการว่า โปรดจะทอดพระเนตรเงินไทย
จึงกราบบังคมทูลถามว่า เงินใบละบาทมีไหม
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ารับสั่งว่ามี
ทั้งสองพระองค์ก็กราบบังคมทูลต่อไปว่า ขอดูหน่อย
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าก็โปรดให้ข้าหลวงประจำพระองค์
ไปนำเงินมาถวายให้ทอดพระเนตร
ทั้งสองพระองค์ทรงถือโอกาสว่า
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าพระราชทานเงินนั้นแล้วก็ทรงกราบ
แล้วรับสั่งถามถึงธนบัตรราคาอื่น ตั้งแต่ราคา ๑ บาท ๕ บาท ๑๐ บาท ๒๐ บาท
เมื่อข้าหลวงนำเงินมาถวายให้ทอดพระเนตร
สองพระองค์ก็จะทรงกราบขอบพระทัยทุกครั้ง
ครั้นสองพระองค์รับสั่งถามถึงธนบัตรฉบับละ ๕๐ บาท
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ารับสั่งตอบว่า ไม่มี
ก็รับสั่งถามต่อไปอีกว่า แล้วธนบัตรฉบับละ ๑๐๐ บาท มีไหม
ถึงตอนนี้ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าพอจะเข้าพระทัยในพระราชดำริของพระราชนัดดา
แม้ว่าจะทรงพระเมตตา แต่ก็ไม่โปรดคนที่เอาเปรียบคนอื่น
เมื่อทรงทราบทันพระราชนัดดา ก็รับสั่งตอบไปว่า
"มี แต่จะต้องตัดในบัญชีของหลาน"
ถึงตอนนี้ทั้งสองพระองค์จึงได้ทรงหยุด ไม่กราบบังคมทูลขอต่อไปอีก
    
สโมสรปาตาปุมนี้ มีการประชุมด้วย โดยใช้ตู้เก็บฉลองพระองค์
ในห้องพระบรรทมของสองพระองค์เป็นสถานที่ประชุม
เนื่องจากสองพระองค์ทรงพระเจริญเร็ว จึงมีฉลองพระองค์ในตู้ไม่มากนัก
ทำให้พอที่จะเสด็จเข้าไปประทับประชุมลับกันได้
การประชุมสโมสรนี้ก็มักเป็นเรื่องตกลงว่าจะนำเงินสโมสรไปซื้ออะไร
สโมสรปาตาปุมนี้ หากมีเงินเก็บมากก็จะนำไปฝากธนาคารไว้
นอกจากเงินแล้ว ยังมีทรัพย์สินอื่น
คือ เหรียญทองสวิสที่ทรงซื้อเก็บสะสมทีละเล็กละน้อย
กับหนังสือ ซึ่งมีทั้งหนังสือส่วนพระองค์ หนังสือส่วนสโมสร
และหนังสือความรู้ที่ "รัฐบาล" ทรงซื้อให้

สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
ทรงเล่าว่า สโมสรปาตาปุมนี้ได้ส่งจดหมายมาถึงพระองค์อีก ๒-๓ ครั้ง
ฉบับหนึ่งเป็นลายพระราชหัตถ์ (ลายมือ)
ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร
ทรงเป็นภาษาฝรั่งเศสล้อเลียนงานเขียนของนักเขียนบทละครชาวฝรั่งเศสคนหนึ่ง

และทรงเล่าว่า
สโมสรปาตาปุมยังได้สงเคราะห์พระองค์เมื่อครั้งประชวรอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติเจนีวา
ทรงได้รับกล่องบรรจุไก่ย่างตัวเล็ก ช็อกโกแลต สิ่งของอื่นๆ
และมีหนังสืออวยพรขอให้หายป่วยเร็วๆ
กล่องนี้ระบุว่าส่งมาจากสโมสรปาตาปุม และมี ป.ล.ด้วยว่า
'สโมสรปาตาปุม เป็นผู้จ่ายเงิน ไม่ใช่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี'

สโมสรปาตาปุมได้ยุติลงเมื่อต้องเสด็จฯ นิวัติประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๙
กระนั้น การเล่นสโมสรของยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ก็ได้แสดงให้เห็นว่า
ทรงรู้จักการเสียภาษีและการเก็บออมมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
ภาษีหรือเงินที่ทรงเสียให้สโมสรนั้นก็ได้นำไปทำบุญหรือบริจาคในทางสาธารณประโยชน์
นับว่าเป็นการเล่นที่สะท้อนพระราชอัธยาศัยได้เป็นอย่างดี
ทั้งยังส่งผลสืบเนื่องมาสู่พระบรมราโชบายและพระราชดำริต่างๆ
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙
ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขราษฎรตลอดมา

ข้อมูลและภาพจาก

หนังสือเจ้านายเล็กๆ - ยุวกษัตริย์
พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

และ หนังสือทำเป็นธรรม
ท่านผู้หญิงเกนหลง สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เรียบเรียง