บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 10, ตุลาคม, 2567, 08:08:33 PM



หัวข้อ: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 10, ตุลาคม, 2567, 08:08:33 PM

(https://img2.pic.in.th/pic/ai-generated-8854396-640.jpg) (https://pic.in.th/image/ai-generated-8854396-640.4mf0RK)


- เหตุ 4 ประการที่พระพุทธเจ้า ทำไม่ได้ -

พระสาวกรูปหนึ่งถามพระพุทธเจ้าว่า "ในเมื่อท่านเป็นผู้มีความเมตตามาก
และยังมีอิทธิฤทธิ์มาก ทำไมจึงไม่สามารถทำให้ทุกคนในโลกนี้พ้นทุกข์ได้"

พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบว่า

ถึงแม้ว่าตัวตถาคตจะมีฤทธิ์มากเพียงใด ก็มี 4 ประการที่ตัวตถาคตเองไม่
สามารถกระทำได้:

1. ไม่สามารถปลี่ยนแปลงวิบากกรรมของใครได้ ใครก็ตามที่สร้างกรรมอะไรไว้
    ไม่สามารถรับแทนกันได้ หากแต่ตัวผู้นั้นต้องรับกรรมเอง

2. ปัญญาให้กันไม่ได้ จะต้องฝึกฝนเอาเองถึงจะเกิดปัญญาได้

3. ความศิวไลของธรรมะไม่สามารถสื่อสารทางภาษาได้ ความจริงแท้ใน
    จักรวาลจะต้องใช้การปฏิบัติเพียงหนทางเดียวเท่านั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริง

4  คนที่ไร้วาสนา ธรรรมะจึงไม่สามารถเข้าถึงใจคนที่ไร้วาสนาได้
    ตถาคตจึงโปรดคนที่ไร้วาสนาไม่ได้

    ฝนแม้นจะตกทั่วฟ้า แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์กับหญ้าที่ไร้ราก
    พระธรรมซึ่งกว้างใหญ่ไพศาล ก็ยากจะโปรดคนไร้วาสนา

      :057:

     ขอบคุณ พุทธพจน์


หัวข้อ: Re: ๛ เหตุ 4 ประการที่พระพุทธเจ้า ทำไม่ได้ ๛
เริ่มหัวข้อโดย: รินดาวดี ที่ 13, ตุลาคม, 2567, 11:21:56 AM

(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/294742073-1.jpg)



- ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น -


ประโยคที่ว่า ..
"ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น"
คนส่วนมาก เข้าใจว่า
ไปไม่กลับ ก็ ตาย
หลับไม่ตื่น ก็ ตาย
ฟื้นไม่มี ก็ ตาย
หนีไม่พ้น ก็ ตาย

แต่จริง ๆ แล้ว พระท่านแสดงธรรมว่าเราท่านทั้งหลาย
เข้าใจความหมายผิดหมดเลย
เราควรจะทำความเข้าใจเสียใหม่ให้ถูกต้อง

ไปไม่กลับ หมายถึง
กาลเวลาที่หมุนผ่านไปไม่มีวันหวนกลับ
อดีตล่วงไปแล้วเหลือแต่ปัจจุบัน
ควรใช้เวลาสร้างแต่คุณงามความดี นั่นเอง

หลับไม่ตื่น หมายถึง
คนที่ยังหลงอยู่กับโมหะความหลงในกิเลส
สร้างแต่บาปกรรม ไม่ยอมทำความดี
เหมือนคนที่หลับไหลไม่ยอมตื่นรับรู้ตามความจริง

ฟื้นไม่มี หมายถึง
สังขารของเราที่ร่วงโรยไปในแต่ละวัน
ไม่สามารถย้อนคืนความหนุ่มความสาวได้

หนีไม่พ้น หมายถึง
กรรมที่เราสร้างมาในแต่ละวัน
ไม่มีวันที่เราจะหนีกรรมนั้นพ้น นั่นเอง

สรุปว่า ..
พระท่านบอกให้พวกเรา
ไม่ประมาทในกาลเวลา
ไม่ประมาทในกิเลส
ไม่ประมาทในสังขารที่ร่วงไป
ไม่ประมาทในการสร้างบุญกุศล

สิ่งทั้งหลายทั้งปวง มีความเสื่อมและสิ้นไปเป็นธรรมดา

『 °*• ❀ •*°』『 °*• ❀ •*°』『 °*• ❀ •*°』




หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 25, ตุลาคม, 2567, 07:41:06 PM

(https://img2.pic.in.th/pic/bud01-1.jpg) (https://pic.in.th/image/bud01-1.FQsEBh)


- อิสระของจิต มีอยู่ 3 ประการ -

คือ ศีล. สมาธิ.  ปัญญา.
หากว่าเราอยู่ในศีลละก็
การฝึกสมาธิของเราจะเพิ่มขึ้น
และสมาธินั้น จะทำให้เกิดปัญญา

ถ้าหากทุกคนประพฤติ ปฏิบัติดีได้
ก็จะสามารถเอาชนะความโลภ โกรธ หลง การยึดติด
และกระหายได้ เราจะมีอิสระ มีความสงบ
และความพอใจหาใดเปรียบได้


╰₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪₪╯


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 23, พฤศจิกายน, 2567, 07:43:14 PM

(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/9a14a05b-1.jpg) (https://pic.in.th/image/9a14a05b-%281%29.mMbsPP)

ออกจากวัฏสงสาร

โลกกลมกลมใบนี้ที่มันกำลังหมุนไป
ซึ่งไม่มีใครที่จะสามารถรู้ได้เลยว่า มันจะหยุดหมุนตอนไหน
ผู้อาศัยอยู่บนโลกนี้ เลยต้องเคลื่อนโคจร ไปตามวิถีของมัน
มีสุข มีเศร้า มีทุกข์ คละเคล้าปะปนกันไปตามวิถี
จะมีสักกี่ชีวิต ที่ปรารถนาการหยุดหมุน

หยุด ณ ที่นี้
ไม่ใช่การหยุดหมุนของโลก
แต่เป็นการหยุดหมุนในการเคลื่อนแห่งวัฏฏะ
หยุดในวิถีที่โลกโลกเขายังคงปรารถนากัน
นั่นก็คือ การเวียนว่ายตายเกิด
ที่มันหมุนวน เวียนเวียน ซ้ำซ้ำมาแล้วนับรอบไม่ถ้วน

╚═════════.★.╝
"ธรรมะ กึ่งพระพุทธกาล"




หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 26, พฤศจิกายน, 2567, 10:41:45 AM

(https://img2.pic.in.th/pic/d8556b2b--1.jpg) (https://pic.in.th/image/d8556b2b-%281%29.mMRHyM)


⋉  ลองเดินไปด้วยกันไหม  ถ้าไม่ใช่ เดี๋ยวเดินกลับมาส่ง  ⋊

เป็นคำที่ดีคำหนึ่งนะ เพราะการเดินทางชีวิตร่วมกันกับใคร ๆ
เราไม่สามารถรู้ได้เลย ว่าจะถึงเป้าหมายปลายทางกันได้หรือเปล่า
ทุกก้าวที่เดินไป ไม่รู้จะมีเหตุปัจจัยแทรกซ้อนอะไร ที่ทำให้ความตั้งใจตั้งแต่แรก
ว่าจะพากันไปจนถึงปลายทาง  เจออุปสรรคกลางทางเสียก่อน

แต่การที่บอกกันไว้แต่แรกก็ดี
ว่า"ถ้าไม่ใช่ เดี๋ยวเดินกลับมาส่ง" หมายความว่า
เมื่อจำเป็นต้องแยกทางกัน ก็จะไม่โกรธกัน
จะเอาใจกลับมาส่งไว้ที่จุดเดิม ก่อนที่จะร่วมเดินทางกันตั้งแต่แรก
รู้จักกันดีอย่างไร ก็จะรู้จักกันแบบนั้น
จะไม่เกลียดกัน ไม่โกรธกัน ไม่อาฆาตรพยาบาลจองเวรกัน
ด้วยเรื่องของการเดินทางกันมา และมาถึงจุดที่ต้องปล่อยมือ
"เดี๋ยวกลับมาส่ง" ก็คือกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กลับมาใช้ชีวิตเหมือนตั้งแต่แรกก่อนที่จะออกเดินทาง ไม่โกรธกัน

วันนี้ ขอให้เดินทางชีวิตด้วยความปลอดภัย มีสติทุกย่างก้าวนะคะ


                              ทางธรรม
╚═════ °❀•°✮°•❀°═════╝



หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 27, พฤศจิกายน, 2567, 08:23:36 PM
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/74c29e2d--1.jpg)


ได้อ่านแล้วชอบมาก เลยนำมาฝากให้เพื่อน ๆ ได้อ่านค่ะ

»»----------¤----------««

วันพรุ่งนี้อยู่ไกลยังไม่เกิด
ช่างมันเถิดอย่าร้อนไปก่อนไข้
วันวานนี้ตายแล้วให้แล้วไป
อย่าเอาใจไปข้องทั้งสองวัน

ถ้าวันนี้สดชื่นระรื่นจิต
อย่าไปคิดหน้าหลังมาคลั่งฝัน
สิ่งที่แล่วแล้วไปให้แล้วกัน
สิ่งที่ฝันยังไม่มาอย่าอาวรณ์

»»----------¤----------««

(หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม)


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 29, พฤศจิกายน, 2567, 07:58:56 PM

(https://img2.pic.in.th/pic/49fba6755108-1.jpg) (https://pic.in.th/image/49fba6755108-%281%29.m2mVgv)

✧┈┈┈┈┈┈┈┈┈┈✧

นอนไม่หลับเพราะคิดไม่จบ
เพราะหลายคนก็ไม่คิดจะจบอะไร
เรื่องผ่านไปตั้งนาน ก็ยังอุตส่าห์เก็บไว้
แล้วก็ยังเอามาคิดแบบทำร้ายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่จบเสียที

ถ้าคนไม่เคยฝึกจบใจ
เหมือนกับหยิบของมาแล้วจบหัวจบเกล้า
ของนี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอจบแล้วจากความเป็นของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าจบแล้ว ไม่เอากรงมาขังใจอีกแล้ว
ขอจบจากสิ่งที่ข้าพเจ้าคิดว่าเป็นของข้าพเจ้า

เมื่อหลายคนไม่เคยคิดจะจบอะไร ไม่เคยจบหัวที่จะให้อะไรใคร
สุดท้าย เรื่องเล็ก ๆ ก็กลายเป็นเรื่องใหญ่
เพราะคิดไม่จบซ้ำซ้ำ วนวน อยู่แบบนั้นจริงจริง
ทำใจให้เกิดความเข้าใจว่าอะไรมันก็ไม่ได้เป็นของเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เคยขัดใจกับใคร ไม่สบายใจด้วยเรื่องอะไร ก็จบหัวจบเกล้ายกให้เขาไป
เวลาของเรามีไม่มากพอ ที่จะเก็บเรื่องอะไรมากมายมาคิดซ้ำซ้ำ วนวน
จนกลายเป็น คนที่ไม่ได้พัฒนา

มาเดินตามรอยพระพุทธเจ้ากันเถอะ
พระพุทธเจ้า ฝึกปล่อยมามากภพมากชาติเหลือเกิน
จนสุดท้าย การฝึกของพระองค์มีมากพอ
จนสามารถชนะใจตัวเองได้อย่างสิ้นเชิง
และสิ้นกิเลสดับทุกข์ทั้งปวง
หยุดการเวียนว่ายตายเกิดเสียแล้ว

จบได้ก็จบเลยนะ ถ้าไม่จบมันก็ยังวนวน ไม่จบแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
ไม่จบไม่สิ้นเสียที ขอเป็นกำลังใจให้นะ

╚══❖═══════❖══╝

༺  เทรดธรรม  ༻


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 05, ธันวาคม, 2567, 03:29:17 PM


(https://img2.pic.in.th/pic/326c5bcdaba174d90282f8144036082e.jpg)

•——————•°•✿•°•——————•

ภาวนา แปลว่า พัฒนา
ให้หมั่นพัฒนาใจ นำศีลธรรมเข้าสู่จิตสู่ใจ
หลายคนคิดว่า ธรรมะ เป็นเรื่องของพระ เป็นเรื่องของวัด
แท้ที่จริงแล้ว ธรรมะ เป็นเรื่องของชีวิต

ใจที่ขาดศีลขาดธรรม จะเลวร้ายมากกว่าสิ่งอื่น สัตว์อื่น
ใจที่มีธรรมะ มีสติปัญญาจะวางได้
มีความสุขมากว่าสิ่งอื่น สัตว์อื่นเช่นกัน

สุขในที่นี้ หมายถึง ความสงบทางจิตทางใจ
ไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่า
ความสงบความสงัดทางใจดอก


╚══❖═══════❖══╝

เพจ ธรรมะ


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 10, ธันวาคม, 2567, 05:32:11 PM


(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/..---8.jpg)

༺   ชอบ กับ รัก  ต่างกันอย่างไร  ༻

พระพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า
เมื่อเราชอบดอกไม้
เราจะเด็ดมันมา
แต่เมื่อเรารักดอกไม้
เราจะรดน้ำทุกวัน

คนที่เข้าใจเรื่องนี้ ก็เข้าใจชีวิต

╚══════ ❀•°❀°•❀ ══════╝





หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 20, มกราคม, 2568, 08:47:27 PM

(https://img2.pic.in.th/pic/-116e8f7bcad453e6f.jpg)

»»----------¤----------««

✾ พระศาสดาให้เราระวังอารมณ์เราเอง
ไม่ต้องไปรักษาอามรมณ์คนอื่น
รักษาอารมณ์ตัวเอง อย่าโกรธ อย่าพยาบาล
อย่าอาฆาตร อย่าเครียดแค้น ชิงชัง
อย่าตระหนี่ โอ้อวด มีมารยา ยกตนข่มท่าน
ตีตนเสมอท่าน ดูหมิ่นท่าน
นี่เป็นอุปกิเลสในจิตทั้งนั้น ✾

●—————◦◉◦—————●



หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลายเมฆ ที่ 27, มกราคม, 2568, 11:16:47 AM


สภาพและสภาวะธรรม
หยาบกลางละเอียดก็ตั้งอยู่บนธรรมอันเดียวนั้นเอง
หากแต่ต้องลึกซึ้งลงไปในใจโดยใจ
จึงจะเห็นแจ้งไปตามลำดับ..







หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลายเมฆ ที่ 28, มกราคม, 2568, 12:56:00 PM

(https://i.ibb.co/Jzm7v81/FB-IMG-1720449171383-6.jpg) (https://ibb.co/THY84Jf)



โลกียวิสัยก็เป็นไปอยู่อย่างนี้ๆ
ตราบที่อหังการ มมังการ ยังมีอยู่ในใจ..
ต่างแต่ว่าใคร..จะดำรงคุณธรรมน้ำมิตร
ทรงเมตตาจิตไว้ได้ดี เท่านั้นเอง
เมื่อเราเห็นแล้ว ได้พิจารณาแล้ว
ไห้ปลงเสีย อย่ายกมาใส่ใจอีก..
เรื่องก็มีอยู่แค่ตรงนี้..
ตรงที่เรายกมาใส่ใจ..หรือปลงแล้วผ่านไป ..







หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 03, กรกฎาคม, 2568, 11:08:57 AM

(https://img2.pic.in.th/pic/c89b137e7a420bcab6734035b91b2728.jpg) (https://pic.in.th/image/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1.XiqjHq)


           ღ บันไดธรรม ღ

๔ ขั้นตอนง่าย ๆ ของคนมีธรรม

﹌﹌﹌﹌﹌﹌﹌﹌﹌
๑. ยอมรับความจริง ไม่ปิดบัง ไม่หลอกตัวเอง
๒. เห็นความจริงตามที่มันเป็นทุกอย่าง เกิด ดับ มีเหตุผล ไม่มีตัวตนถาวร
๓. ไม่ต่อต้านความจริงนั้น ไม่ดิ้นรน ไม่ปรุง ไม่เสริม ไม่พยายามลบล้าง
๔. ใจวางเฉยอย่างมีปัญญา คือ อุเบกขาแท้ ไม่ใช่เฉยเพราะชิน หรือปิดความรู้สึก


♡━━━━━━━━━━━━━━♡
 ☞ เครดิต : ช่องสุขคือพอดี


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 11, กรกฎาคม, 2568, 03:13:11 PM


        ღ ปริศนาธรรมแห่งวาระสุดท้าย ღ

๔ คนหาม ๓ คนแห่  ๑ คนนั่งแคร่  ๒ คนนำไป

.  . • ☆ . ° .• °:. *₊ ° . ☆

๔ คนหาม  = ดิน น้ำ ลม ไฟ ธาตุ ๔ ประกอบเป็นกายแห่งชีวิต

๓ คนแห่ = อนิจัง ทุกขัง อนัตตา กฎแห่งไตรลักษณ์ เป็นกฎธรรมดาของทุกสรรพสิ่ง

๑ คนนั่งแคร่ = จิตดวงเดียว เวียนนว่ายไปในภพภูมิ

๒ คนนำไป = บาป และ บุญที่ทำนั้นติดตัวกำหนดชีวิต นำให้ไปเกิดในภพภูมิต่อไป


★  ★°★ . *. °☆ . ● . ★ ☆ ★ ° ☆ ¸. ¸★

ขอบคุณผู้นำเสนอข้อมูลค่ะ



หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 16, กรกฎาคม, 2568, 11:01:08 AM

(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/2024-06-30-23-22-48-1344x1012.jpg)

❀ ขนาดเกิดมาเป็นคน บุญพามาเกิด เราก็ยังทุกข์กันขนาดนี้
ถ้าไม่มีบุญไปเกิดเป็นเปรต เป็นผี เป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วมันจะทุกข์ขนาดไหน
คิดดูเอาเถิดท่านทั้งหลาย ❀


(https://img2.pic.in.th/pic/ob4o3gfdh-Hvnoq6wk-Vd-o.jpg)

ღ ขอบคุณ ช่อง @ด้วยแรงกรรม
ღ ธรรมะพระอาจารย์ราวี จารุธัมโม
ღ ขอบคุณเจ้าของภาพ






หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 18, กรกฎาคม, 2568, 12:20:31 PM


ขณะที่พระพุทธเจ้าเสด็จผ่านหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
มีเด็กชายคนหนึ่งอายุราว ๑๐ ขวบ
ยืนอยู่ข้างทาง ด้วยสายตาอยากรู้ อย่างแรงกล้า
.
เด็กน้อยเคยได้ยินใครๆ
พูดถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า ..เป็นผู้รู้แจ้ง
รู้ความทุกข์ และรู้ทางพ้นทุกข์
.
เด็กคนนั้น เดินมายืนอยู่ตรงหน้าพระองค์
และถามว่า ..
.
"ถ้าคนเราต้องแก่ ต้องตายแน่แล้ว
จะทำดีไปทำไม มันช่วยอะไรได้หรือ?"
.
นี่ไม่ใช่คำถามดูหมิ่น
แต่มาจากความสงสัยของเด็กที่คิดตรงๆ
และ เพราะความตรงนั่นเอง
พระพุทธเจ้า จึงหยุดเดิน
พระองค์มองเด็กชาย ด้วยความเมตตา
และถามกลับว่า ..
.
"เจ้าเคยเห็นดอกไม้บานไหม?"
"เคยครับ"
"ดอกไม้จะบานนานไหม?"
"ไม่ครับ มันเหี่ยวเร็วมาก"
"แล้วเจ้าคิดว่า คนปลูกดอกไม้
เขาจะปลูกทำไม ในเมื่อมันต้องเหี่ยว?"
.
เด็กนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า ..
"เพราะมันสวย ถึงแม้จะอยู่ไม่นาน"
พระพุทธเจ้าจึงกล่าวว่า ..
.
"ชีวิตก็เช่นกัน แม้จะไม่อยู่ตลอดไป
แต่ถ้ามันเต็มไปด้วยความดี
มันก็งดงามและมีค่าเช่นเดียวกับดอกไม้
ที่เบ่งบาน แม้จะต้องร่วงโรยในที่สุด"
.
เด็กชายยกมือไหว้ น้ำตาคลอ
เพราะเพิ่งเข้าใจเป็นครั้งแรกว่า ..
การทำดี ไม่ใช่เพื่ออยู่คงกระพัน
แต่เพื่อสร้างสิ่งสวยงามให้โลกใบนี้
แม้เพียงชั่วขณะ
.
พระพุทธเจ้าไม่ได้เทศนาเป็นชั่วโมง
แต่หยุดเดินเพียงครู่
เพื่อให้คำ หนึ่งความหมาย
ที่อาจเปลี่ยนความคิดของเด็กคนหนึ่งไปตลอดชีวิต
.
เพราะความดี ไม่ได้วัดกันที่ความยาวของชีวิต
แต่วัดกันที่คุณภาพของจิตใจ
ในช่วงที่ยังมีลมหายใจอยู่
.
พระอาจารย์ ชยสาโร กล่าวว่า
"เมื่อเราสังเกตความดีในตัวเอง
สังเกตความดีที่เราทำ
และน้ำใจของคนรอบข้าง
เราจะรู้สึกเสมือนมีหยดน้ำ
หล่อเลี้ยงจิตใจเรา
ทำให้เราสดชื่น เบิกบาน
ทุกครั้งที่เราสังเกต"
.
#วันเข้าพรรษา
วันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘
แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ปีมะเส็ง
ขอบพระคุณเจ้าของบทความครับ


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 23, กรกฎาคม, 2568, 08:05:55 PM


ปลาไม่รู้ว่าน้ำคืออะไร
เพราะมันไม่เคยอยู่พ้นจากน้ำ

น้ำไม่ใช่สิ่งที่มันสังเกต
แต่น้ำคือสิ่งที่มันดำรงอยู่ในนั้นโดยไม่รู้ตัว

น้ำไม่เคยถูกตั้งคำถามโดยปลา
เพราะน้ำคือสิ่งที่มีอยู่ก่อนคำถามใดจะเกิด

เช่นเดียวกัน...

มนุษย์ไม่รู้ว่ากรรมคืออะไร
เพราะกรรมไม่ใช่สิ่งที่มองเห็น
แต่คือสิ่งที่เรากำลัง “อยู่อาศัย”
ในทุกขณะ ในทุกลมหายใจ

กรรมไม่ใช่แค่ “ผลของการกระทำ”
แต่มันคือโครงข่ายแห่งเหตุปัจจัย
ที่ถักทอชีวิตในทุกขณะ โดยที่เราไม่รู้ตัว

คือแรงผลักและแรงดึงในใจ
ที่เรารู้สึกได้ว่ามี แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

เหมือนปลา…
ที่รู้สึกถึงกระแสน้ำ
แต่ไม่รู้ว่านั่นคือ “น้ำ”

เราไม่เห็นกรรม
เพราะเราอยู่ในผลของกรรม

คนที่ไม่เห็นกรรม
จึงมักเข้าใจผิดว่าโลกไร้ความยุติธรรม
ว่าทุกข์ของตนมาจากคนอื่น
ว่าความสุขคือรางวัลของโชค
และความเจ็บปวดคือคำสาปจากฟ้า

แต่เมื่อใดที่ตื่น
จะเห็นว่า เราเองคือผู้ทำ
คือผู้สร้างเรือน
คือผู้ล่ามตรวนให้ตนเอง
แม้ในขณะที่ร้องหาความเป็นอิสระ

ในวันที่ปัญญาญาณแหวกม่านขึ้น
จิตจะไม่ถามอีกต่อไปว่า
“ทำไมชีวิตจึงเป็นเช่นนี้”

แต่จะเห็นโดยความเป็นจริงว่า
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ล้วนถักทอขึ้นจากเหตุปัจจัยของตน

เห็นสิ่งทั้งหลายไหลไปตามธรรม
ไม่มีผู้กระทำ ไม่มีผู้ถูกกระทำ
ไม่มีใครควรโทษ ไม่มีอะไรต้องไขว่คว้า

กรรมไม่ต้องการให้ใครเชื่อ
เพราะความจริงไม่ต้องการความเห็นด้วย

มันทำหน้าที่ของมันอย่างเงียบงัน
เหมือนน้ำ
ที่ไม่เคยบอกปลาว่ามันคืออะไร
แต่ก็เป็นทุกสิ่งที่ปลาเรียกว่า “ชีวิต”

ผู้ที่หลุดพ้น
จึงไม่ใช่ผู้ที่ “ดี”
แต่คือผู้ที่เห็นทะลุว่า
กระแสทั้งหมด ไม่ใช่ “เรา”

การยึดถือว่า “เรา” มีอยู่
ที่ทำให้ต้องว่ายวนตลอดกาล



หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 14, สิงหาคม, 2568, 02:20:41 PM


บางครั้งมันต้องบอกกับตัวเองว่า
ตอนนี้ ฉันอยู่ในภาวะ ไม่สุข ไม่ทุกข์ อยู่ในภาวะเฉย
ชีวิตฉันปกติดี ไม่เจ็บ ไม่ป่วย เดินได้ ตามองเห็น
มันอาจจะแค่นั้นเอง

มองความเบื่อหน่ายของเราอย่างเข้าใจดีกว่า
แล้วชีวิตมันก็ไม่ต้องมีเ-ี้ยอะไร ไม่ต้องตื่นเต้น โลดโผน
ถ้ารู้สึกเหนื่อย ไม่ว่ากายหรือใจ ก็ตาม
ก็แสดงว่า เซ็นเซอร์ในร่างกายเรายังทำงานปกติ
และชีวิตก็เราก็ไม่ได้แย่นัก ก็เท่านั้นแหละ

(https://img2.pic.in.th/pic/depositphotos-3577452.jpg)


คมความคิดจากเพื่อน ตต. ค่ะ
ขอบคุณ ภาพทางอินเตอร์เน็ต


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 16, กันยายน, 2568, 08:40:27 PM

(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/22e78129-1.png)

ღ เสียงไม่เคยมีตัวตน ღ

เสียง เป็นเพียงอาการหนึ่งของจิต มันไม่มีตัวตน
จับต้องไม่ได้ แต่พวกเรากลับหลงเชื่อว่าเสียงมีตัวตนอยู่จริง ๆ
และเมื่อมีใครพูดคำว่า "หมูอ้วน" เราก็โกรธขึ้นมาในทันที
ลองย้อนถามตัวเองดูให้ลึก "หมูอ้วน" อยู่ตรงไหน?
จับต้องได้ไหม? เสียงพูดนั้นแค่ลอยผ่าน แล้วเรายึดไปทำไม?

เราโกรธเพราะเสียงนั้น หรือเพราะใจเรายึดเสียงนั้นว่า เป็นเรื่องจริง
ลองถามตัวเองอีกครั้ง "ใคร" กำลังโกรธ "ใคร" กำลังอยู่ตรงนี้
ถ้ามองให้ลึก เสียงที่พูดออกมาก็คือเสียง เสียงที่คิดอยู่ในใจก็คือเสียง
มันไม่มีตัวตน แล้วเราไปยึดมันไว้ทำไม
ทำไมถึงได้หลงไหลจมไปกับเสียงนั้น

สัตว์โลกต้องใช้เสียงเพื่อสื่อสาร แต่เสียงไม่ใช่ของใคร
จิตแท้คือธาตุชีวิตที่ว่างเปล่า ใส บริสทุธิ์
เสียงที่ได้ยินเป็นเพียงกิริยาของจิต แต่ไม่ใช่จิต

°:. *₊ ° . ☆   °:. *₊ ° . ° .•

เครดิต ช่องธรรมะพ้นทุกข์


หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลิตเติลเกิร์ล ที่ 25, กันยายน, 2568, 09:22:37 PM


(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/o9hvfmam7-L8-RY40-Pcxn-o.jpg)

สัตว์เดรัจฉาน ดีกว่าคนบางจำพวกก็ตรงที่
เมื่อทำผิดศีลธรรมแล้ว
สัตว์ก็ยังคงเป็นสัตว์เดรัจฉานอยู่แบบนั้น

♡ ━━━━━━━━━━━━━━ ♡



หัวข้อ: Re: ๛ หยาดน้อย.. ในสายธารธรรม ๛
เริ่มหัวข้อโดย: ลายเมฆ ที่ 27, กันยายน, 2568, 11:27:57 PM

ใจที่เห็นผิดหลงผิด จะรู้สึกว่าตนพร่อง
ตนขาดบางสิ่งบางอย่างไป
ใจจะรู้สึกเหงา ห่อเหี่ยวเหมือนไก่เป็นโรค ไม่สดชื่น
จะเหงามากเหงาน้อย
ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของใจดวงนั้นนั่นแหละ....
ตอนเกิดเราก็เกิดคนเดียวนะ
เจ็บไข้ได้ป่วยก็เป็นอยู่แต่ที่เรา
เราตายเราก็ตายคนเดียว
พ่อแม่พี่น้อง ลูกหลานหรือสามีภรรยาเรา
ถึงเขาจะประคบประหงมดูแลเราอย่างดีก็ตามเถอะ ความรู้สึกทั้งหลายนั้น
ถ้าเป็นของใครก็ของใครคนนั้นนั่นแหละ
พิจารณาข้อนี้ให้ดีดี เราจะรู้จะเข้าใจได้ว่า
เราทั้งหลายนี้เดียวดายมาตั้งแต่เกิดแล้ว
แต่เพราะใจมีความเห็นผิดหลงผิด
เห็นว่าตัวเองขาดตัวเองพร่อง
ก็เลยดิ้นรนเสาะหาคนมาร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
อยู่ร่วมนั้นก็ร่วมอยู่แล้ว
แต่สุขกับทุกข์หนะ เป็นของใครก็ของใคร..