หัวข้อ: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๗๑.กำลัง ๕ ของสตรี~โคลงดั้นสินธุมาลา เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 22, ตุลาคม, 2567, 02:53:14 PM (https://i.ibb.co/yPDYHhm/Screenshot-20241006-111432-Chrome.jpg) (https://ibb.co/MSbGF8y) ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๗๑.กำลัง ๕ ของสตรี โคลงดั้นสินธุมาลา ๑.ภิกษุดูก่อนแล้.............................กำลัง หญิงเด่นครองเรือนดัง......................แม่นแล้ว กำลังแบ่งปัญจ์ฟัง.............................ตรองยิ่ง มีเรี่ยวแรงห้าแผ้ว..............................ก่อสูง ๒.จูง"รูป"กายสื่อเอื้อ.....................วังชา มี"ทรัพย์"มากหมายหนา....................เยี่ยมแท้ "ญาติ"เสริมเกี่ยวพันมา......................ครบเพื่อน มี"บุตร"จะดั้นแล้................................มั่นคง ๓."ศีล"ตรงพาแกร่งกล้า..................ใจหาญ ปัญจ์ก่อครบจะพาน..........................เฟื่องล้ำ จะปราดเปรื่องสราญ.........................เรือนใหญ่ และครอบงำชี้ค้ำ...............................ภัสดา ๔.คราหญิงมีครบห้า.........................แข็งแรง ญาติหยั่งหญิงควรแจง........................สถิตย์บ้าน มี"ศีล,รูป"ทรามแคลง...........................พึงอยู่ "ศีล"ส่ง"โภค"ด้อยกว้าน.......................อยู่คง ๕.เหตุตรงหญิงเมื่อคล้อย...................ชีวิต ครันไพล่สวรรค์ปิด..............................ปกเกล้า "รูป,โภค,ญาติ,บุตร"ชิด........................เหตุก่อ ศีลอย่างเดียวสู้เคล้า............................สวรรค์ ๖.ครันหญิงจะอยู่เหย้า.......................สมรส ราบรื่นครองเรือนจด............................สุขช้อย เบญจ์ศีลพร่ำทุกกฏ.............................คงมั่น บุญส่งนำแผ้วคล้อย.............................เนิ่นนาน ๗.กาลสตรีพลาดพลั้ง........................ทำบุญ สภาพยากจะหนุน................................สิ่งห้า อยากขอเกิดสกุล................................พอเหมาะ ไปสู่สกุลแปล้คว้า................................แต่งงาน ๘.การครองเรือนมุ่งย้ำ.......................เมียเดียว มีบุตรจงปราดเปรียว............................เพื่อพร้อม มีอำนาจเหนือเจียว...............................ภรัสดาษ สำเร็จยากแท้ค้อม................................พลาดบุญ ๙.คุณถึงหญิงมาดแม้น.......................ศีลพูน ทำง่ายเสร็จวิบูลย์................................หมดห้า ขอกำเนิดตระกูล..................................พอเหมาะ หวังสู่สกุลพริ้งหล้า...............................คล่องเรือน ๑๐.เตือนสามีไม่แย้ม..........................อื่นนรี ขอบุตรเกริกทวี....................................เกียรติ์คลุ้ง ขอบังคับสามี.......................................คุมยิ่ง สตรีก่อบุญตั้งฟุ้ง..................................ง่ายหนา ฯ|ะ แสงประภัสสร ที่มา : สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ๑๘/๓๐๕ พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๑๒๑ (ขอบคุณเจ้าของภาพจาก อินเทอร์เน็ต) หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๗๑.กำลัง ๕ ของสตรี~โคลงดั้นสินธุมาลา เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 23, ตุลาคม, 2567, 11:39:11 AM ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๗๒.บุรุษประกอบด้วยอะไรจึงครอบงำสตรีได้ กาพย์เสือคะนอง ๑๙ ๑.ดูก่อนภิกษุบุรุษมีกำลังข้อเดียวไซร้ ก็ครอบงำหญิงไว................................แน่นอน ๒.ข้อเดียว"อิสส์ริยะพละ,ความเป็นใหญ่"ขจร หญิงพบแล้วสุดถอน............................จำยอม ๓.กำลังห้าหญิงมีมิต้านทานอำนาจต้องน้อม ทำใจพร้อมประนอม.............................ทันที ๔.เมื่อถูกความเป็นใหญ่ควบคุม"กำลังรูป"สตรี มิอาจขวางหนี......................................ได้เลย ๕.แม้"กำลังทรัพย์,ญาติตน,บุตร,ศีล"มิหยุดยั้งเผย ต้องประคองตนเอย...............................รับเอา ๖.กำลังห้าหญิงมีจะครองเรือนเหนือสามีเนา เว้นภัส์ดาใหญ่เพรา................................เหตุกลาย ๗.เช่นสามีเป็นกษัตริย์ใหญ่อิสสรชนฉาย ภริยาถูกงำวาย.......................................กำลัง ฯ|ะ แสงประภัสสร ที่มา : สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค ๑๘/๓๐๕ พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๑๒๑ อิสส์ริยะพละ=อิสสริยะพละ คือผู้เป็นใหญ่ ภัส์ดา=ภัสดา อิสสรชน=ผู้เป็นใหญ่ หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๗๑.กำลัง ๕ ของสตรี~โคลงดั้นสินธุมาลา เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 24, ตุลาคม, 2567, 09:06:22 AM ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก : ๗๓.ของแก้กันอย่างละ ๓ กาพย์เสือคำรณ ๑๕ ๑.ภิกษุตรองธรรมมี.....................ของแก้กัน ทำแล้วละได้ครัน...........................แก้ไข ของแก้อย่างละสาม.......................สิบชุดไคล จงพากเพียรทำไว..........................เพื่อละ ๒.หนึ่ง"ราคะ,โทสะ"....................."โมหะ"เมา เพ่ง"อสุภฯ"บรรเทา.........................ราคะ ราคะชอบสิ่งงาม.............................ก็เน่านะ เป็นจริงแท้ราคะ..............................สลาย ๓.ตรึก"เมตตา"พิชิต......................"โทสะ"ราน หวังให้เขาสุขมาน...........................โกรธหาย ตรองปัญญารู้จริง...........................โมหะวาย รู้แจ้งหลงทลาย..............................ฉลาดมา ๔.สองพฤติ"กายสุจริต"................เลิกทุจริต "วจีสุจริต"ปิด.................................ชั่วหนา "มโนสุจริต"ละ................................ใจเลวพา คิด,ทำ,พูดดีครา.............................ทรามผลาญ ๕.สาม,ก่อ"เนกขัมฯ"คิด................ออกจากกาม ละ"กามวิตก"คิดทราม....................กล้าหาญ "อัพยาฯ"ไม่ปองร้าย.......................ฆาตละปราณ "อวิหิงฯ"เบียดพาล..........................เบียนปลง ๖.สี่"เนกขัมสัญญาฯ"....................ผละกามหมาย "อัพสัญญ์ฯ"งดปองร้าย...................เลิกสงค์ "อวิสัญญ์ฯ"งดเบียน........................ผู้อื่นตรง คิดบีฑาทะนง..................................สิ้นสูญ ๗.ห้าทำ"เนกขัมม์ธาตุฯ"................ออกจากกาม เพื่อละ"กามธาตุ"ทราม.....................วิบูลย์ รูป,เวท์นา,สัญญา.............................สังขารพูน และวิญญาณวิทูร.............................หมดไป ๘.เจริญ"อัพยาธาตุฯ".....................ไม่มุ่งร้าย "พยาปาทธาตุ"วาย..........................สิ้นไกล มุ่ง"อวิหิงธาตุ"..................................งดเบียนใคร "วิหิงสาธาตุ"ไว................................หยุดแถ ๙.หกเพ่ง"อนิจสัญญ์ฯ"..................พิศขันธ์ห้า ไม่เที่ยง,รูป,เวท์นา...........................ต้องแปร "อัสสาททิฏฐิ"ตัว.............................เห็นผิดแย่ เลิกยึดขันธ์,กามแล.........................ลดมัว หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๗๑.กำลัง ๕ ของสตรี~โคลงดั้นสินธุมาลา เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 24, ตุลาคม, 2567, 09:32:34 AM (ต่อหน้า ๒/๓) ๗๓.ของแก้กันอย่างละ ๓
๑๐.ตรึก"อนัตต์สัญญา".................ไม่ใช่ตน "อัตตาทิฏฐิฯ"ยล.............................ของตัว เห็นถูกแล้ว"อัตตาฯ"........................หยุดพันพัว ขันธ์ห้าไป่ตนนัว..............................ยึดปลง ๑๑.พิศ"สัมมาทิฏฐิ".......................ความเห็นชอบ แนวคิดถูกรอบคอบ.........................ธรรมส่ง "มิจฉาทิฏฐิฯ"เห็นผิด.......................ละได้ตรง กลับเชื่อคำสอนคง..........................ธรรมหนา ๑๒.เจ็ดพฤติ"มุทิตา"......................พลอยยินดี "อรติ"เร็วรี่.......................................ริษยา หรือมิยินดีใคร.................................เฝ้าอิจฉา อรติหายพา.....................................พอใจ ๑๓.ทำ"อวิหิงสา"...........................ไม่เบียดเบียน "วิหิงสา"จึงเตียน.............................ไถล เคร่ง"ธัมม์จริยา".............................พฤติธรรมไว ละ"อธัมม์ฯ"นำไป............................ถูกทาง ๑๔.แปดทำ"สันตุฏฐิฯ"...................ความสันโดษ เพียงยินดีของตนโลด......................โลภพราง "อสันตุฏฐิฯ"พลอย...........................ตัดลงจาง เหลือแค่ตนพอวาง...........................โลภหาย ๑๕.ตรอง"สัมปชัญญะ"..................คงรู้ตัว "อสัมปชัญญ์"มัว..............................ตัดวาย เร่ง"อัปปิจฉ์ฯ,อยากน้อย".................กำหนดหมาย "อยากมาก,มหิจฉ์ฯ"คลาย................ลดลง ๑๖.เก้า"โสวัสส์ฯ,ว่าง่าย"................ควรบำเพ็ญ "โทวจัสส์ฯ,ว่ายาก"เด่น.....................หมดคง มุ่ง"กัลยามิตต์ฯ"...............................เพื่อนดีบ่ง "ปาปมิตต์ฯ,เพื่อนชั่ว"หลง.................ทิ้งไป ๑๗."อานาปน์สติฯ".........................เพียรกำหนด หายใจเข้า-ออกจด...........................จิตไสว "เจตะโสฯ"จิตวุ่น...............................จะครรไล สงบสว่างใส.....................................ลุฌาน ๑๘.สิบ"สมถะ"ตั้งมั่น......................ใจแน่วแน่ "อุทธัจจ์ฯ"ละลดแล..........................ฟุ้งซ่าน "สังวระ,สำรวม"................................ระวังมาน "อสังวระ"ราน...................................ทันที ๑๙.เจริญ"อัปปมาทะฯ"....................ไม่ประมาท มีสติมิคลาด.....................................ความดี "ปมาทะ,ประมาท".............................ละเลยชี้ ควรตัดทิ้งเร็วรี่..................................สติคืน ฯ|ะ แสงประภัสสร ที่มา : ฉักกนิบาต อังคุตตรนิกาย ๒๒/๒๙๕ และ ๒๒/๔๕๙-๔๙๘ พระไตรปิฎกฉบับสำหรับประชาชน หน้า ๑๒๒-๑๒๓ หัวข้อ: Re: ข้อความน่ารู้จากพระไตรปิฎก: ๗๑.กำลัง ๕ ของสตรี~โคลงดั้นสินธุมาลา เริ่มหัวข้อโดย: แสงประภัสสร ที่ 25, ตุลาคม, 2567, 10:02:12 AM (ต่อหน้า ๓/๓) ๗๓.ของแก้กันอย่างละ ๓ ราคะ=ความกำหนัดยินดี โทสะ=ความคิดประทุษร้าย โมหะ=ความหลง อสุภฯ=อสุภะ ความกำหนดหมายถึงสิ่งที่ไม่งาม เมตตา=ไมตรีจิตคิดจะให้ผู้อื่นเป็นสุข กายสุจริต=ความประพฤติชอบทางกาย มี ๓ อย่าง ๑)ไม่ฆ่าสัตว์ ๒)ไม่ลักทรัพย์ ๓)ไม่ประพฤติผิดทางกาม วจีสุจริต=ความประพฤติชอบทางวาจา มี ๔ อย่าง ๑)เว้นพูดเท็จ ๒)เว้นพูดส่อเสียด ๓)เว้นพูดคำหยาบ ๔)เว้นพูดเพ้อเจ้อ มโนสุจริต=ความประพฤติผิดทางใจ มี ๓ อย่าง ๑)ไม่โลภอยากได้ของคนอื่น ๒)ความไม่พยาบาท ๓)ความเห็นถูกต้องตามความเป็นจริง เนกขัมฯ=เนกขัมวิตก-ความตรึกในการออกจากกาม อัพยาฯ=อัพยาปาทวิตก-ความตรึกในการไม่ปองร้ายผู้อื่น กามวิตก=ความตรึกในกาม อัพยาฯ=อัพยาปาทวิตก-ความตรึกในการไม่ปองร้ายผู้อื่น อวิหิงฯ=อวิหิงสาวิตก-ความตรึกในการไม่เบียดเบียนผู้อื่น วิหิงสาวิตก=ความตรึกในการเบียดเบียนผู้อื่น เนกขัมสัญญาฯ=เนกขัมมสัญญา-ความกำหนดหมายในการออกจากกาม อัพสัญญ์ฯ=อัพยาปาทสัญญา-ความกำหนดหมายในการไม่ปองร้าย อวิสัญญ์ฯ=อวิหิงสาสัญญา-ความกำหนดหมายในการไม่เบียดเบียน วิหิงสาธาตุ=ธาตุคือการเบียดเบียน เนกขัมม์ธาตุ=เนกขัมมธาตุ-ธาตุคือการออกจากกาม กามธาตุ=ธาตุคือกาม อัพยาธาตุฯ=อัพยาปาทธาตุ-ธาตุคือการไม่คิดปองร้าย พยาปาทธาตุ=ธาตุคือการคิดปองร้าย อวิหิงธาตุฯ=อวิหิงสาธาตุ-ธาตุคือการไม่เบียดเบียน วิหิงสาธาตุ=ธาตุคือการเบียดเบียน อนิจจ์สัญญ์ฯ=อนิจจสัญญา-ความกำหนดหมายว่าไม่เที่ยง อัสสาททิฏฐิ=ความเห็นด้วยความพอใจ อนัตต์สัญญา=อนัตตสัญญา-ความกำหนดหมายไม่ใช่ตัวตน อัตตาทิฏฐิฯ=อัตตานุทิฏฐิ-ความตามเห็นว่าตัวตน สัมมาทิฏฐิ=ความเห็นชอบ มิจฉาทิฏฐ์=มิจฉาทิฏฐิ-ความเห็นผิด มุทิตา=ความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี อรติ=ความไม่ยินดีหรือความริษยา อวิหิงสา=ความไม่เบียดเบียน วิหิงสา=ความเบียดเบียน ธัมม์จริยา=ธัมมจริยา-การประพฤติธรรม อธัมม์ฯ=อธัมมจริยา -การประพฤติไม่เป็นธรรม สันตุฏฐิฯ=สันตุฏฐิตา -ความสันโดษ คือยินดีเฉพาะของตน อสันตุฏฐิ=อสันตุฏฐิตา -ความไม่สันโดษ สัปชัญญะ=ความรู้ตัว อสัมปชัญญะ=ความไม่รู้ตัว อัปปิจฉ์=อัปปิจฉตา-ความปรารถนาน้อย มหิจฉ์=มหิจฉตา-ความปรารถนามาก โสวัสส์ฯ=โสวจัสสตา-ความเป็นผู้ว่าง่าย โทวจัสส์=โทวจัสสตา-ความเป็นผู้ว่ายาก กัลยามิตต์ฯ=กัลยาณมิตตา-ความเป็นผู้คบเพื่อนดีงาม ปาปมิตต์ฯ=ปาปมิตตตา -ความเป็นผู้คบเพื่อนชั่ว อานาปาน์สติ=อานาปานสติ -สติกำหนดลมหายใจเข้า ออก เจตะโสฯ=เจตโส วิกเขปะ คือ ความฟุ้งซ่านแห่งจิต สมถะ=การทำใจให้ตั้งมั่น อุทธัจจ์=อุทธัจจะ ความคิดฟุ้งซ่าน สังวระ=ความสำรวมระวัง อสังวระ=ความไม่สำรวมระวัง อัปปมาทะ=ความไม่ประมาท ปมาทะ=ความประมาท |