บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

ห้องเรียน => ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ ประเภทกลอน => ข้อความที่เริ่มโดย: Black Sword ที่ 31, มกราคม, 2568, 11:00:44 PM



หัวข้อ: - กลอนแปด (กลอน ๘) -
เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 31, มกราคม, 2568, 11:00:44 PM
(https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/---ok-cov-1.png)


- กลอนแปด (กลอน ๘) -

          กลอนแปด (กลอน ๘)  คือกลอนสุภาพชนิดหนึ่ง  ที่อาจเรียกได้ว่าได้รับความนิยมที่สุดในหมู่กลอนสุภาพด้วยกัน เป็นกลอนที่กำหนดให้มีวรรคละ ๘ คำ ลักษณะรูปแบบเหมือนกลอนสุภาพอื่นทุกประการ แต่ต่างกันตรงที่จำนวนคำเท่านั้น  ซึ่งเป็นตัวกำหนดจังหวะการอ่านและตำแหน่งการรับสัมผัสนอก  จะอยู่ในตำแหน่งคำที่เหมาะสมกับรูปแบบลักษณะเฉพาะของกลอนแปดนี้

๑.) รูปแบบของกลอนแปด (กลอน ๘)  (ดูผังด้านบนประกอบ)

          ๑.๑)  จำนวนคำ

                - กลอนแปดหนึ่งบทนั้น จะมี ๒ บาท (ยุคต้นนั้นเรียก “บาท” ว่า “คำกลอน”)
                - แต่ละบาทแบ่งเป็น ๒ วรรค
                - แต่ละวรรคมี ๘ คำเป็นพื้น (บางครั้งอาจยืดหยุ่นตามความเหมาะสม)

ทั้งนี้  กลอนสำนวนหนึ่ง จะมีความยาวกี่บทก็ได้  ไม่มีข้อบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและความพอใจของผู้เขียน แต่ให้ทำความเข้าใจเสมอว่า  กลอน ๑ บท คือ กลอน ๔ วรรค (หรือ ๒ บาท (๒ คำกลอน))

                และแต่ละวรรคทั้ง ๔ วรรคภายในบทกลอนนั้น  มีชื่อเรียกเฉพาะ คือ

         วรรคที่ ๑  เรียกว่า “วรรคสดับ” ...... วรรคที่ ๒  เรียกว่า “วรรครับ”
         วรรคที่ ๓  เรียกว่า “วรรครอง” ....... วรรคที่ ๔  เรียกว่า “วรรคส่ง”

             โดยกลอนแปด (กลอน ๘) แต่ละวรรคจะแบ่งช่วงและจังหวะการอ่านเป็น ๓ ช่วงคือ  ๓ / ๒ / ๓  เหมือนกันทุกวรรค (ยักเยื้องได้บางกรณี แต่ยังคง ๓ ช่วงเช่นเดิม)

หมายเหตุ : การนับคำในกลอนนั้น  นับตามเสียงพยางค์ที่เปล่งออกมาหนึ่งครั้งต่อหนึ่งคำ แต่หากคำใดที่เป็นคำมูลที่มีสระเสียงสั้นประกอบ เช่น สวรรค์ พินิจ กุสุม เกษม วิหค กระจิบ ฯลฯ นั้น ผู้ประพันธ์สามารถนับได้ให้เป็น ๑ คำ หรือ ๒ คำก็ได้ แล้วแต่เจตนาของผู้เขียน

๒.) ลักษณะการส่งสัมผัส  (ดูผังด้านบนประกอบ)

          ๒.๑)   สัมผัสภายในบท

                สัมผัสภายในบทของกลอนแปด (กลอน ๘) นั้น มีดังนี้

      ๑)  คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑   เชื่อมสัมผัสไปยัง  คำที่ ๓ (หรือ ๕) ของวรรคที่ ๒
      ๒)  คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒   ส่งสัมผัสไปยัง  คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓
      ๓)  คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓   เชื่อมสัมผัสไปยัง  คำที่ ๓ (หรือ ๕) ของวรรคที่ ๔

          ๒.๒)   สัมผัสระหว่างบท

                สัมผัสระหว่างบทของกลอนแปดนั้น  คือ

คำสุดท้ายของบทก่อนหน้าส่งสัมผัสไปที่คำสุดท้ายในวรรคที่ ๒  ของบทถัดไป

๓.)  เสียงท้ายวรรค

      กลอนสุภาพถือเป็นบทร้อยกรองชนิดเดียวที่มีกฎเกณฑ์กำหนดเกี่ยวกับการใช้เสียงท้ายวรรคแต่ละวรรค  ถือเป็นฉันทลักษณ์บังคับสำคัญ

      กลอนแปด (กลอน ๘) นี้ก็เช่นเดียวกับกลอนสุภาพชนิดอื่น ๆ ที่เสียงท้ายวรรคแต่ละวรรคคือประกอบด้วยข้อห้ามและข้ออนุญาต ดังต่อไปนี้

      - คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑  ใช้ได้ทุกเสียง (ข้อนี้หลายแห่งบอกว่าถึงใช้ได้ทุกเสียง แต่ไม่นิยมใช้เสียงสามัญ เนื่องจากไม่ไพเราะเพราะเสียงราบเรียบ แต่ข้าพเจ้ากลับเห็นต่างออกไป ว่าถึงแม้จะเป็นเสียงสามัญ ก็ไพเราะไม่แพ้เสียงอื่น ๆ  หากว่ามีการไล่เรียงระดับเสียงสูงต่ำของคำแต่ละคำที่ใช้ภายในวรรคนี้อย่างเหมาะสม ขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้เขียนเสียมากกว่า)  
      - คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒  ใช้ได้เฉพาะ เสียงเอก โท จัตวา  ห้ามใช้เสียงสามัญและตรี
      - คำสุดท้ายของวรรคที่ ๓  ใช้ได้เฉพาะ เสียงสามัญและเสียงตรี  ห้ามใช้เสียงเอก โท จัตวา
      - คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔  ใช้ได้เฉพาะ เสียงสามัญและเสียงตรี  ห้ามใช้เสียงเอก โท จัตวา (เหมือนวรรคที่ ๓)

* หลักการจำง่าย ๆ คือ จำกฎเสียงท้ายวรรคที่ ๒ ให้แม่นยำ  ส่วนวรรคที่ ๓ และ ๔ ให้จำว่า  ตรงข้ามกับวรรคที่ ๒  เท่านั้นเอง

00000000000000000000000000000000000000000

- ตัวอย่างคำประพันธ์ กลอนแปด (กลอน ๘) บางส่วน -

- แทบตักเทวิน -

เรากำลัง/จะหลับ/กับความหลัง    เงี่ยหูฟัง/วังเวง/เพลงสายฝน
ฟ้าย่ำฆ้อง/กลองร่ำ/รัวคำรณ        สาวอัปสร/โสภณ/พรมดนตรี

ประนมแนบแอบอุ่นหนุนเมฆนุ่ม  ฝันถึงกลุ่มเกลียววาววงดาวคลี่
ดอกไม้แห่งหุบผาวนาลี                รอเทวีแห่งทิวาจะมาเยือน

ดั่งนานนับกัปกัลป์ได้ฝันถึง
คืนวันซึ่งซึ้งละมุนอบอุ่นเหมือน
ความสุขอันผ่านมาแล้วพร่าเลือน
สัมผัสเตือนตาหลับกับภวังค์

ลมระเรื่อยเฉื่อยเฉี่ยวเคียวใบข้าว
กังหันน้าวระหัดน้ำทำนบขัง
ระลอกนองกรองใสร่มใบบัง
แพงพวยหยั่งยอดพันสันตะวา

เราย่ำน้ำนองไหลไปตามน้ำ
เย็นเย็นฉ่ำชื่นเนื้อเย็นเสื้อผ้า
กลีบผีเสื้อโสนรายที่ปลายนา
ปลิวว่ายฟ้าลอยฟ่องเหมือนทองคำ

ลมฝนโชยชื่นกลิ่นไอดินหอ
สะแกค้อมกิ่งก้มร่มฝนฉ่ำ
เราเป่าใบไม้ขับรับลำนำ
ดอกระบำน้ำฝนบนลานดิน

วันเช่นนั้นนานไกลในความคิด
ซึ้งสนิทนุ่มนวลชวนถวิล
เอื้อมเด็ดช่อปาริฉัตรทัดเทวิน
น้ำตารินรินซับกับตักเธอ ฯ
                        (คำหยาด : เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)

- เล่นกับไฟ -

เห็นกองเพลิงเริงแสงแผดแรงจ้า
แมงเม่าถาร่างโถมเข้าโลมแสง
ประกายไฟลามโรจน์ลุกโชติแดง
ปีกกรอบแห้งแรงร้อนจะมรณ์ไป

ทั้งที่รู้ว่าร้อนใครสอนเจ้า
เอากายเข้าเคลียคลุกให้ลุกไหม้
โน่นเพื่อนพ้องพ่างพับอยู่วับไว
เหตุไฉนไม่เห็นเอาเป็นครู

อันแมงเม่า
เปรียบก็เท่าหญิงที่อวดดีอยู่
ทุ่มกายใจเข้าค้ำรักดำรู
ทั้งที่รู้รักร้ายมาหลายคราว

หยิ่งว่าตนคือหญิงรักยิ่งใหญ่
ทะนงใจเมื่อแรกคราแตกสาว
คิดว่าความไยดีที่ค่าพราว
อาจโน้มน้าวคนทรามดื่มความดี

แมงเม่าเริงเพลิงเล่นจนเป็นผง
เพราะใหลหลงรุนแรงในแสงสี
การคบชายชั่วช้าของนารี
รัก คือที่เสี้ยมสอนให้หล่อนทำ

ฉันก็เช่นหญิงอื่นที่ดื่นอยู่
เมื่อรักกรูกลบกมลจนถลำ
จำทอดใจไยดีเหมือนมีกรรม
กว่าวันช้ำชอกตายคล้ายแมลง ฯ
                        (คืนวันที่ผันผ่าน : นิภา บางยี่ขัน)

- ดอกไม้ปักแจกัน -

เมื่อพี่มอบดอกไม้ให้ช่อหนึ่ง
น้องคงซึ้งแก่ใจมิใช่หรือ
ใช่เพียงพี่มั่นหมายให้ด้วยมือ
แท้นั้นคือสื่อแสงจากแรงใจ

กลีบแรกแม้นแทนใจที่ใฝ่รัก
สองความภักดิ์มิ่งมิตรหมายชิดใกล้
สามคือความอาวรณ์ก่อนจากไกล
สี่เลื่อมใสศรัทธาที่เธอมี

ห้าสายใยไมตรีไม่มีขาด
หกชีวาตม์ซึ่งรักในศักดิ์ศรี
เจ็ดความห่วงและหวงดวงฤดี
แปดปรานีนงพงากว่าชีวิต

แม้ดอกไม้นี้มีกลีบกี่ร้อย
จริงจากถ้อยเท่านี้ไม่มีผิด
เพราะเป็นพากย์จากใจไม่ต้องคิด
ควรมิ่งมิตรปักมั่น...แจกันใจ ฯ
                         (สุดสงวน - ประยอม ซองทอง)

- แม่ -

ดื่นดึกหนาวดาวเด่นเย็นยะเยียบ
เสียงความเงียบเสียดแทงในแท่งหิน
ล้อแห่งกาลผ่านเลื่อนเหมือนโบยบิน
เสียงแม่ดินรินร่ำคำห่วงใย

แม่โอบเอื้อเผื่อแผ่แก่ลูกสิ้น
อกแม่ดินตระหนี่เคยมีไหม
หากลูกรักรักคืนแม่ชื่นใจ
แม้ลูกไหนไม่รักไม่หักราน

ในรวงข้าวแม่ผสมนมอร่อย
ในลำอ้อยแม่ผสมน้ำนมหวาน
กลีบดอกเอื้องแม่แต่งสีแบ่งบาน
ชูช่อก้านคลี่พวงยวงระย้า

เรียงลำไผ่แม่สอนให้อ่อนพลิ้ว
ขับเพลงผิวแผ่วกล่อมถนอมป่า
หยาดน้ำค้างพร่างแพรวแนววนา
คือน้ำตาเต็มตื้นแม่ชื่นชม

ขอลูกผองของแม่แผ่ความรัก
ร่วมทอถักแทนแพรให้แม่ห่ม
คุ้มแรงร้อนผ่อนแสงร้อนแรงลม
หยุดเคืองข่มงอแงรังแกกัน ฯ
                         (ข้ามขอบฟ้า :  มะเนาะ  ยูเด็น)

- ลืม -

จากสายตาสบกันวันสุดท้าย
บอกความหมายสิ้นมิตรสิ้นคิดถึง
สิ้นความหวังสิ้นรอยรักร้อยรึง
และสิ่งซึ่งหวังดีมีต่อกัน

แววตาเธอวันนั้นบอกฉันว่า
"ที่ผ่านมาลืมเลือนเหมือนความฝัน
มิอาลัยความจริงสิ่งผูกพัน
เมื่อถึงวันชีพหมองต้องแยกทาง"

เราจากกันนานเนิ่นมากเกินแล้ว
คิดถึงแววตามองยังหมองหมาง
รักเคยชื่นยืนยืดกลับจืดจาง
สวาทร้างชีพคล้อยฝันลอยลม

โอ้รื่นรื่นชื่นกลิ่นประทิ่นโฉม
เคยไล้โลมเลื่อนลูบจูบปอยผม
หอมรินรินกลิ่นนวลชื่นชวนชม
อาบอารมณ์จับใจลืมไม่ลง

งามละม่อมหอมละมุนกรุ่นกลิ่นแก้ม
ราวจะแย้มความงามให้ตามหลง
สวาทเวียนวนรักพะวักพะวง
แต่ก็คงพลัดพรากจากกันไกล

อารมณ์ลอยคล้อยตามสู่ความหลัง
รักเธอยังรางรางอยู่บ้างไหม
ถ้าจูบแรกด่ำดื่มก็ลืมไป
ก็จะไม่ติดตามถามอีกเลย ฯ
                         (สนธิกาญจน์ : สนธิกาญจน์ กาญจนาสน์)

- ความจริงที่น่ารังเกียจ -

ถ้าเธอถามความทุกข์เพื่อปลุกปลอบ
จะเอ่ยตอบข้อความที่ถามไถ่
ถามเพื่อเย้ยเอ่ยคำถามทำไม
เพื่อไยไพถากถางอย่างเลือดเย็น

ถ้าฉันเป็นเช่นฉันในวันก่อน
คงง้องอนทุกทีอย่างที่เห็น
จะมารยาสาไถยทำไม่เป็น
ไม่ซ่อนเร้นอำพรางทุกอย่างไป

เมื่อมีเล่ห์เพทุกบายกันหลายเล่ห์
ความคงมั่นหันเหเป็นเฉได้
โลกจึงมีสีคล้ำด้วยช้ำใจ
ฉันจึงเป็นเช่นใครในวันนี้

เชื่ออะไรในนิยามความเป็นมิตร
เมื่อความคิดซื่อตรงไม่คงที่
มิตรหรือผู้คู่ความก็ตามที
ไม่เห็นมีที่ต่างกันอย่างไร

อยู่กับถ่านพาลเปรอะเลอะลามก
สกปรกล้วนเลวพาลเหลวไหล
ยังเป็นเพลิงเริงแรงโรจน์แสงไฟ
ลุกลามไหม้เผาผลาญรานกมล

หากใจคนทนช้ำได้ซ้ำซาก
คงไม่ยากหากช้ำซ้ำอีกหน
แต่ทุกวันฉันซึ้งค่าคำว่าคน
ไม่อดทนผู้ใดในคราบมิตร ฯ
                         (สนธิกาญจน์ : วันเนาว์ ยูเด็น)

- ขอบฟ้าขลิบทอง -

มิ่งมิตร
เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น
ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน
ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม

ที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว
ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม
ที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม
ที่จะขมขื่นลึกโลกหมึกมน

ที่จะแล่นเริงเล่นเช่นหงษ์ร่อน
ที่จะถอนใจทอดกับยอดสน
ที่จะหว่านสุขไว้กลางใจคน
ที่จะทนทุกข์เข้มเต็มหัวใจ

ที่จะเกลาทางกู้สู่คนยาก
ที่จะจากผมนิ่มปิ้มเส้นไหม
ที่จะหาญผสานท้านัยน์ตาใคร
ที่จะให้สิ่งสิ้นเธอจินต์จง

ที่จะอยู่เพื่อคนที่เธอรัก
ที่จะหักพาลแพรกแหลกเป็นผง
ที่จะมุ่งจุดหมายปรายทะนง
ที่จะคงธรรมเที่ยงเคียงโลกา

เพื่อโค้งเคียวเรียวเดือนและเพื่อนโพ้น
เพื่อไผ่โอนพลิ้วพ้อล้อภูผา
เพื่อเรืองข้าวพราวแพร้วทั่วแนวนา
เพื่อขอบฟ้าขลิบทองรองอรุณ ฯ
                         (ขอบฟ้าขลิบทอง : อุชเชนี)

- ซับทรวงเป็นสรวงสร้อย -

กวีที่ดีซื้งหยั่งถึงโลก
ราวโศลกรินร่วงจากสรวงสวรรค์
ดนตรีที่ดีเพราะเสนาะกรรณ
รินรินหลั่นไหลล่องทำนองเนื้อ

แต่โลกยังคั่งคับผู้หลับใหล
เห็นบอดใบ้สมองเบาโง่เขลาเหลือ
วิถีบาปหยาบสุมพิษคลุมเครือ
ทั้งออกตกใต้เหนือรกเรื้อคาว

สังเวชปราชญ์อนาถเห็นไม่เป็นปราชญ์
ทำเป็นศาสดาสอนกระฉ่อนฉาว
ลูกของตัวชั่วฉลฆ่าชนชาว
ปากปาวปาวปกป้องไม่ร้องปราม

คนเมาให้ไกลเลยอย่าเฉยนิ่ง
คนบ้าวิ่งอย่าใกล้อย่าไต่ถาม
คนชั่วให้ไกลตาสุดฟ้าคราม
คนโลภห้ามคบหาสมาคม

แก้ผลพิษฉีดยารักษาหาย
แก้กรรมร้ายเลวทรามเอาธรรมข่ม
ปัญหาซ้อนซ่อนแง่ต้องแก้ปม
แก้ตัณหาอารมณ์อย่าแก้กาย
............ ฯลฯ ............
                         (ซับทรวงเป็นสรวงสร้อย : คมทวน คันธนู)

บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล
- Black Sword -
 (หมู มยุรธุชบูรพา)
                              (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/AJ.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1468)
                                    • กลับสู่หน้า สารบัญ กลอน คลิก (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=15216.msg55729#msg55729)
                                    • กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14135.msg51426#msg51426)  
                                    • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14132.msg51411#msg51411)
                                    • กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์  คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14138.msg51433#msg51433)
                                    • กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14615.msg53012#msg53012)
                                    • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอนกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6688.msg22950#msg22950)
                                    • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6689.msg22951#msg22951)
                                    • กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=7715.msg27482#msg27482)
                                 (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/AJ.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1468)