หัวข้อ: - กลอนบทละคร - เริ่มหัวข้อโดย: Black Sword ที่ 20, กุมภาพันธ์, 2568, 10:54:09 PM (https://img5.pic.in.th/file/secure-sv1/--ok-cov-1dcc9097bc14c1ac6.png) - กลอนบทละคร - "กลอนบทละคร" เป็นกลอนที่ผู้ประพันธ์แต่งขึ้นโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะใช้ในการแสดงละครรำ หรือใช้ขับร้องประกอบการแสดงเพื่อความบันเทิง มีรูปแบบฉันทลักษณ์ทั้งคณะและสัมผัสเหมือนกับกลอนสุภาพ (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=15216.msg55729#msg55729) แต่มีข้อแตกต่างบางประการดังนี้คือ ๑) จำนวนคำ (ดูผังด้านบนประกอบ) - ในวรรคหนึ่งมีได้ตั้งแต่ ๖ ถึง ๙ คำ แต่ที่นิยมกันมักเป็น ๖ หรือ ๗ คำ (ในผังแสดงไว้แบบ ๗ คำ) ๒) ลักษณะการส่งสัมผัส (ดูผังด้านบนประกอบ) - การส่งสัมผัสของกลอนบทละครนั้น เฉพาะระหว่างวรรคหน้ากับวรรคหลัง (วรรคที่ ๑ กับ ๒ / วรรคที่ ๓ กับ ๔) สามารถส่งและรับสัมผัสได้ตั้งแต่คำที่ ๑-๕ ตามความเหมาะสม ในส่วนอื่นเหมือนกลอนสุภาพทั่วไป ๓) การขึ้นต้น การขึ้นต้นวรรคแรกของกลอนบทละครนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งจะช่วยบ่งชี้ให้ผู้อ่านเข้าใจว่าเนื้อความในตอนนี้ กำลังกล่าวถึงตัวละครใด หรือสถานการณ์ใด เมื่อจะขึ้นความใหม่หรือเปลี่ยนทำนองร้องใหม่ ซึ่งจะจำแนกดังต่อไปนี้ ๓.๑) ขึ้นต้นว่าด้วยคำว่า "เมื่อนั้น" ใช้ขึ้นต้นเมื่อกล่าวถึงตัวละครที่มีศักดิ์สูง หรือหากไม่มีศักดิ์สูงแต่เป็นตัวละครเอกของเรื่อง เช่น ไกรทอง ไม่ได้มียศศักดิ์สูง เป็นชาวบ้าน แต่ว่าเป็นตัวเอก ก็ใช้ เมื่อนั้น เช่นกัน ๓.๒) ขึ้นต้นด้วยคำว่า "บัดนั้น" ใช้ขึ้นต้นเมื่อกล่าวถึงตัวละครทั่ว ๆ ไป ๓.๓) ขึ้นต้นด้วยคำว่า "มาจะกล่าวบทไป" ใช้ขึ้นต้นเมื่อจะเริ่มต้นตอนใหม่หรือเนื้อความใหม่ ๓.๔) ขึ้นต้นแบบกลอนดอกสร้อย เช่น รถเอ๋ยรถทรง, ลมเอ๋ยลมลิ้น ฯลฯ ใช้เมื่อต้องการบรรยายต่าง ๆ เช่น เกี้ยวพาราสี ชมกระบวนทัพ ตัดพ้อต่อว่า เป็นต้น ๓.๕) ขึ้นต้นแบบเต็มวรรคธรรมดา ๆ เหมือนกลอนสุภาพทั่วไป ทั้งนี้ คำขึ้นต้น "เมื่อนั้น", "บัดนั้น" และ "มาจะกล่าวบทไป" ทั้ง ๓ อย่างนี้ไม่จำเป็นต้องส่งสัมผัสไปยังวรรคที่ ๒ ก็ได้ แต่คำขึ้นต้นแบบดอกสร้อย และแบบเต็มวรรคนั้น จะต้องส่งสัมผัสไปยังวรรคที่ ๒ เสมอ เนื่องจากกลอนบทละครใช้ประกอบการแสดง บางแห่งจึงมักมีการบอกทำนองของเพลงที่ใช้ร้องกลอนบทละครตอนนั้นกำกับไว้เมื่อเริ่มต้นตอนหรือเริ่มเนื้อความใหม่ เช่น “ช้า” “โอด” “โทน” หมายถึง เพลงช้า เพลงโอด และเพลงโทน นอกจากนี้ เมื่อจบเนื้อความแต่ละตอน มักมีการระบุจำนวนคำกลอน (บาท) ไว้ตอนท้าย และอาจจะมีชื่อเพลงหน้าพาทย์ที่จะบรรเลงรับต่อจากนั้นด้วย เช่น "ฯ ๔ คำ ฯ เชิด" หมายถึง กลอนตอนนี้มี ๔ คำกลอน หรือ ๔ บาท (เท่ากับ ๒ บท) และกำกับเพลงหน้าพาทย์ "เชิด" ให้วงปี่พาทย์เล่นรับ 00000000000000000000000000000000000000000 - ตัวอย่างคำประพันธ์ "กลอนบทละคร" บางส่วน - - กลอนบทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ - ๐ มาจะกล่าวบทไป ถึงรามสูรยักษา อาศัยในกลีบเมฆา เป็นที่ผาสุกสำราญ มีศรขวานเพชรเป็นอาวุธ ฤทธิรุทรหยาบช้ากล้าหาญ ทั้งหกสวรรค์ชั้นบาดาล เกรงเดชขุนมารไม่ทานกร เพื่อนยิ่งอิ่มเอิบกําเริบหนัก ทรงศักดิ์ดั่งหนี่งไกรสร อ่าองค์ทรงเครื่องอาภรณ์ จับขวานฤทธิรอนแล้วเหาะมา ฯ ฯ ๖ คํา ฯ เชิด ๐ รวดเร็วดั่งหนึ่งลมพัด เฉวียนฉวัดไปในเวหา เยี่ยมออกจากกลีบเมฆา อสุราเห็นแก้วแววไว ซึ่งนางเมขลาโยนเล่น ยิ่งเห็นยิ่งชอบอัชฌาสัย ยิ่งพิศยิ่งติดต้องใจ จะใคร่ได้ซึ่งดวงจินดา หมายเขม้นเข่นเขี้ยวจะราญรอน กรกุมขวานเพชรเงื้อง่า เผ่นโผนโจนไปในเมฆา ไล่นางเมขลาด้วยฤทธี ฯ ฯ ๖ คํา ฯ เชิด ๐ เมื่อนั้น เทวานางฟ้าทุกราศี แลเห็นรามสูรอสุรี มาไล่ราวีก็ตกใจ หน้าซีดตัวสั่นขวัญหาย วุ่นวายไม่สมประดีได้ เสียงมี่อื้ออึงคะนึงไป สุราลัยวิ่งพะปะกัน ฯ ฯ ๔ คํา ฯ เชิด ๐ นางฟ้าอุ้มจูงเทวบุตร อุตลุดไปทั้งสรวงสวรรค์ อันฉิ่งกรับทับโทนทั้งนั้น สารพันแตกสิ้นไม่สมประดี ฯ ฯ ๒ คํา ฯ เชิด ๐ อันเทพบุตรกับนางฟ้า ไม่อาจดูหน้ายักษี ความกลัวดั่งจะสิ้นชีวี หนีไปยังทิพวิมาน ฯ ฯ ๒ คำ ฯ เชิด ๐ บัดนั้น รามสูรฤทธิไกรใจหาญ เห็นเทวัญนางฟ้ายุพาน วิ่งหนีลนลานวุ่นไป ยังแต่โฉมนางเมขลา เข้าแอบเมฆากลีบใหญ่ อสุราสำแดงฤทธิไกร โลดโผนโจนไล่ราวี ฯ ฯ ๔ คํา ฯ เชิด ............... ฯลฯ ............... โอ้โลม ๐ สุดเอยสุดสวาท นุชนาฏเลิศล้ำสาวสวรรค์ รักเจ้าเท่าดวงชีวัน ควรฤๅรําพันเจรจา ก็ย่อมแจ้งใจอยู่ในอก อย่ายกโทษพี่เลยกนิษฐา ว่าพลางอิงแอบแนบกายา กรลอดสอดคว้ายุพาพาล ชมเนตรเกศแก้มแล้วรับขวัญ เชยมณฑาสวรรค์หอมหวาน พยับคลุ้มชอุ่มอนธการ ฟ้าลั่นบันดาลคำรน เมขลาล่อแก้วแววไว รามสูรเลี้ยวไล่ในเวหน เปรี้ยงเปรี้ยงเสียงสนั่นอึงอล ฝนสวรรค์พรอยพรมมาลี ฯ ฯ ๘ คำ ฯ กล่อม ช้า ๐ เมื่อนั้น โฉมนางมณโฑมารศรี ได้ร่วมรสทศพักตร์อสุรี เทวีพิศวาสจะขาดใจ ลืมองค์พญาพานรินทร์ ลืมพิชัยขีดขินกรุงใหญ่ ลืมทั้งโอรสยศไกร ลืมฝูงนางในกำนัล เพลิดเพลินด้วยสมบัติพัสถาน แสนสำราญเป็นสุขเกษมสันต์ เฟี้ยมเฝ้าประดิพัทธ์ผูกพัน กับองค์ทศกัณฐ์สามี ฯ ฯ ๖ คำ ฯ ๐ มาจะกล่าวบทไป ถึงพระอังคตฤาษี แต่แหวะครรภ์มณโฑเทวี พระมุนีใส่ท้องแพะไว้ ตั้งพิธีรักษากุมาร จะมีเหตุเภทพาลก็หาไม่ ครบกำหนดทศมาสยามชัย ก็เข้าไปขีดขินพระนคร ฯ ฯ ๔ คำ ฯ เชิด ๐ ครั้นถึงจึ่งตรงขึ้นปราสาท นั่งอาสน์เนาวรัตน์ประภัสสร แล้วมีวาจาอันสุนทร ดูก่อนพญาพาลี กุมารซึ่งใส่ท้องแพะไว้ คิดได้โดยเดือนดิถี ถ้วนกำหนดทศมาสฤกษ์ดี วันนี้กูจะแหวะออกจากครรภ์ ฯ ฯ ๔ คำ ฯ ๐ เมื่อนั้น ลูกท้าวหัสนัยน์รังสรรค์ ได้ฟังพระมหานักธรรม์ อภิวันท์แล้วตอบวาจา อันคุณพระมหาอาจารย์ ขอประทานใส่ไว้เหนือเกศา ซึ่งจะแหวะเอาองค์กุมารา ตัวข้ามีความยินดี ฯ ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา ๐ ตรัสแล้วมีราชโองการ สั่งนางพนักงานสาวศรี จงนำนางแพะมาบัดนี้ ให้ทันนาทียามชัย ฯ ฯ ๒ คำ ฯ ๐ บัดนั้น ฝ่ายนางพนักงานน้อยใหญ่ รับสั่งพระองค์ทรงภพไตร บังคมไหวแล้วรีบไปพร้อมกัน ฯ ฯ ๒ คำ ฯ ๐ ครั้นถึงที่นางแพะอยู่ จึ่งหมู่อนงค์สาวสรรค์ บ้างจูงบ้างล้อมถนอมครรภ์ พานางแพะนั้นเข้ามา ฯ ฯ ๒ คำ ฯ ............... ฯลฯ ............... - กลอนบทละคร เรื่อง อิเหนา - ชมดง ๐ เดินเอยเดินทาง สองข้างพ่างพื้นรื่นร่ม พี่เลี้ยงเคียงคอยบังคม พระชี้ชมรุกขชาติดาษเดียร บ้างผลิดอกออกผลพวงดก ดั่งไม้ฉากกระจกจีนเขียน ป่าระหงดงยางนางตะเคียน ใต้ต้นแลเตียนสะอาดตา มะลิวัลย์พันพุ่มคัดค้าว ฤดูดอกออกขาวทั้งราวป่า บ้างเลื้อยเลี้ยวเกี้ยวกิ่งเหมือนชิงช้า ลมพาพัดแกว่งดั่งแกล้งไกว ร่มรังบังแสงทินกร ที่หาบคอนเลื่อยล้าเข้าอาศัย สารวัดรัดเร่งพลไกร คลาไคลไปตามมรคา ฯ ฯ ๘ คำ ฯ เชิด ร่าย ๐ แต่แรมร้อนนอนในพนาเวศ มาถึงเขตนครหมันยา หยุดประทับยับยั้งโยธา เสด็จขึ้นพลับพลาพนาลี ฯ ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ เจรจา ๐ บัดนั้น ขุนด่านแจ้งความถ้วนถี่ จึงเหยียบโกลนโผนเผ่นขึ้นพาชี ขับขี่ตีควบเข้าเวียงชัย ฯ ฯ ๒ คำ ฯ เชิด ๐ ครั้นถึงจึงตรงไปหา ทั้งสี่เสนาผู้ใหญ่ เรียนคดีชี้แจงให้แจ้งใจ โดยในอนุสนธิ์แต่ต้นมา ฯ ฯ ๒ คำ ฯ ๐ บัดนั้น เสนีได้ฟังไม่กังขา ก็เข้าไปในพระโรงรัตนา กราบทูลกิจจาทุกประการ บัดนี้อิเหนากุเรปัน ยกพวกพลขันธ์มาถึงด่าน จะเข้ามาประณตบทมาลย์ ภูบาลจงทราบพระบาทา ฯ ฯ ๔ คำ ฯ ๐ เมื่อนั้น ระตูผู้ผ่านหมันหยา ได้ฟังจึงสั่งเสนา จงไปรับนัดดามาธานี ฯ ฯ ๒ คำ ฯ ............... ฯลฯ ............... (อิเหนา : พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ ๒) บ้านกลอนน้อยลิตเติลเกิร์ล - Black Sword - (หมู มยุรธุชบูรพา) • กลับสู่หน้า สารบัญ กลอน คลิก (https://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=15216.msg55729#msg55729) • กระโดดสู่ห้องเรียน กาพย์ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14135.msg51426#msg51426) • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลง คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14132.msg51411#msg51411) • กระโดดสู่ห้องเรียน ฉันท์ คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14138.msg51433#msg51433) • กระโดดสู่ห้องเรียน ร่าย คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=14615.msg53012#msg53012) • กระโดดสู่ห้องเรียน กลอนกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6688.msg22950#msg22950) • กระโดดสู่ห้องเรียน โคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=6689.msg22951#msg22951) • กระโดดสู่ห้องศึกษา ภาพโคลงกลบท คลิก (http://www.homelittlegirl.com/index.php?topic=7715.msg27482#msg27482) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/i/AJ.png) (http://www.homelittlegirl.com/uppic/index.php?mod=show&id=1468) |