บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

 

                                         :AddEmoticons00918:

สองเก้าแปดแน่นอนตอนเย็นนี้
เลขเด่นดีงามแท้แม้ไม่ฝัน
สองแปดเก้าสามสี่นี้ดีครัน
รีบซื้อพลันรวยร่วมท่วมบ้านกลอน

อาจาย์เด็ด..ประทีป
16 ธันวาคม 2556

                     :AddEmoticons0094:

 


 

ในชีวิตผมเคยถูกหวยมา ๑ ครั้ง ล๊อตเตอรี่ ๒ ครั้ง

ถูกล๊อตเตอรรี่ ครั้งแรกเกิดจากการสุ่มมั่ว ซื้อหลายใบแต่ถูกเลขท้าย 99 สองใบ(ขาดทุน)

ครั้งที่สองผมได้เลขจากพวกที่โฆณาว่าเป็นเลขล๊อค(เราต้องจ่ายเงินให้เขาก่ิอนถึงส่งเลขมาให้)

ให้มาแบบสามตัวตรงกับเลขท้ายสองตัวล่าง  ถูกเลขท้ายสองตัวล่าง 82  ไปสามใบ(ขาดทุนอีก)

ครั้งที่สามถูกหวยใต้ดินสามตัวตรง  อาจเป็นความบังเอิญหรือเรื่องปาฏีหาริย์

เรื่องมีอยู่ว่า  ปกติผมนอกจากสนใจเรื่องบทกลอนแล้วยังสนใจพวกพระเครื่อง เครื่องรางของขลังอีกด้วย

คืนหนึ่งฝันไปว่า ได้เดินไปพบเด็กเล็กอายุไม่เกินหนึ่งขวบ นอนหลับสลบไสลเพราะไม่ได้กินอาหาร

ผมจึงอุ้มเด็กนั้นมากอดแนบไว้กับอก พลางถ่ายทอดพลังชีวิตให้เด็กนั้นจนกระทั่งฟื้นขึนมาอีกครั้ง

หลังจากฝันแล้วผมก็ไม่ได้คิดออะไรมาก คิดว่าคงเป็นแค่ฝัน  วันรุ่งขึ้นผมเดินไปเที่ยวดูแผงพระตามปกติที่เคยชอบ

แล้วบังเอิญไปเห็นกุมารทองตัวหนึ่งเกิดชอบ จึงถามคนขายว่ากุมารทองวัดไหน....

คนขายตอบว่ากุมารทองหลวงพ่อ.......(วัดดังแห่งหนึ่ง) ผมนึกถึงความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วก้เลยตัดสินใจ

เช่ากุมารทองตัวนั้น............

เหตุการณ์หลังจากนั้น...ที่ห้องผมก็เกิดเรื่องที่ผิดปกติขึ้น(ผมอยู่คนเดียว ห้องผมไม่มีใครเข้าไปยุ่มย่าม)

คือข้าวของต่างๆมักเกิดการเคลื่อนย้ายจากที่เดิมทั้งๆผมไม่ได้ย้าย   บางทีธนบัตรก็หายไปจากกระเป๋าเฉยๆ

มาพบอีกที ก็พบว่าย้ายไปอยู่อื่นได้เองในที่ๆปกติเราไม่เคยเอาไปไว้ตรงนั้น  ไม่รู้ว่าไปอยู่ได้อย่างไร

ของเล็กจำพวกธนบัตรมักเพิ่มหรือลดจำนวน และย้ายที่โดยไม่ทราบสาเหตุ  พอเกิดหลายๆครั้งเข้าผมก็เลย

เข้าใจว่ามันน่าจะเป็นฝีมือของกุมารทองนี้แน่ๆ  แต่ตามปกติที่เคยฟังเขาเขาเล่ามา กุมารทองมันควรจะซน

แบบเด็กหรือมาปรากฏตัวหรือมาเข้าฝันให้เราเห็น  แต่นี่ไม่มี  ที่มีก็เพียงข้าวของบางอย่างเกิดย้ายที่ได้เองทั้งๆ

ที่เราไม่ได้ย้ายเท่านั้น  จนกระทั่งวันหนึ่ง

...ผมได้ไปซื้อเมล็ดทานตะวันที่บรรจุซอง ซองๆ 6 บาท(ราคาในตอนนั้น) ดังที่บอกแล้วว่าในช่วงนั้นมักมีเหตุ

การณ์แปลกๆคือข้าวเล็กๆหรือพวกธนบัตร มักเคลื่อนย้ายหรือลดเพิ่มได้เองโดยไม่ทราบสาเหตุ....

ดังนั้นตอนที่ซื้อเมล็ดทานตะวันผมจึงนับดูอย่างดี นับหลายเที่ยวเพราะกลัวว่าอยู่ดีๆของมันจะเพิ่มเกินมา

ผมตั้งใจจะซื้อแค่ 7 ซอง(42บาท) เพราะตอนนั้นมีเงินไม่มาก อุตส่าห์นับสามสี่เที่ยวแล้วว่า 7 ซองแน่

แต่พอไปชำระเงินไม่รู้มันเพิ่มากลายเป็น 8 ซอง(48 บาท) ได้ยังไงก็ไม่ทราบ

เงินก็น้อยแล้วผมยังต้องไปซื้ออย่างอื่นด้วย  สุดท้ายก็จำเป็นซื้อพร้อมกับคิดว่านี่มันต้องเป็นฝีมือของเจ้ากุมารทอง

แน่ๆ  บางทีกุมารทองอาจต้องการบอกหวยเราก็ได้  หลังจากกลับมาที่ห้องผมจึงตัดสินใจซื้อหวย

โดยแทงสองตัวบน-ล่าง เลข 48  ตัวละ 50 บาท(อย่างที่บอกว่าตอนนั้นเงินไม่ค่อยมี)

หลังจากนั้นก็กลับมาที่ห้อง  มารู้อีกทีตอนที่คนขายมาบอกว่า ผมถูกเลขท้ายสองตัว  ได้เงินมาสามพัน

นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ  แต่จะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือปาฎีหาริย์ผมก็ไม่อาจจะทราบได้......

แต่รวมจากที่เราเล่นหวยใต้ดินกับหวยรัฐบาลแล้ว เงินที่ได้มีน้อยกว่าเงินที่เสีย(ขาดทุน)

ปัจจุบันนี้ผมเลิกเล่นหวยอย่างเด็ดขาดแล้ว...เสียดายเงิน  เก็บเอาไว้ซื้ออย่างอื่นดีกว่า....


อีกเรื่องหนึ่งคือ ประสบการณ์เกือบถูกหวย

ดังที่กล่าวแล้วว่าเมื่อก่อนผมเคยเป็นคนที่บ้าหวย(แต่ไม่ถึงกับเดินทางไปขอหวยกับวัดหรือสถานที่ต่างๆ)

มักเล่นหวยโดยใช้วิธีคำนวน  ซื้อหวยซอง  หนังสือหวย จากนั้นก็นำตัวเลขมาชนกันแล้วตัดทิ้ง

จนกระทั่งครั้งหนึ่ง(ช่วงประมาณเดือน กุมภา-มีนคม ปี๓๙ จำไม่ได้แล้ว)  ผมไปซื้อหนังสือหวยชื่อ

ล๊อตเตอรี่นำโชค  งวดนั้นเป็นฉบับพิเศษ เขาแถมเหรียญนั่งพาน หลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นปี 36 ด้วย ราคา 55

บาทผมก็ซื้อมา ได้เหรียญหลวงพ่อเกษมมา ๑ เหรียญ  ตกกลางคืน ฝันไปว่า กำลังยืนอยู่ดีๆ  อยู่ๆก็มีพระรูปร่าง

ผอมๆ  ผิวคล้ำๆ เดินมาจากทางไหนไม่ทราบมาตอบที่บ่าซ้ายสองครั้ง แล้วพูดว่า ไงล่ะ..ถูกหวยไปเท่าไหร่...

พูดแค่นี้แล้วผมก็ตื่น  หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้นึกถึงความฝันนั้นอีก คงซื้อหวยโดยเอาเลขจากหนังสือนั้นมาแทง

(แต่ลืมเอาราคาหนังสือนั้นมาตีเป็นเลข)  พอหวยออกงวดนั้สองตัวบนออก 55 (ตรงกับราคาหนังสือ)

แค่นั้นยังไม่พอ งวดต่อมาสองตัวบนมันก็ออก 55 อีกผมก็นึกว่าสงสัยหลวงพ่อเกษมมาเข้าฝันให้เลข

(ตบบ่าสองครั้ง) แต่พระในฝันนั่นมันใคร(ยังหนุ่มอยู่อายุไม่เกินสามสิบ ไม่เคยเห็นหน้า...)   ....แต่นั่นยังไม่จบ

ยังมีเหตุการณ์ต่อมาอีก.......

หลังจากนั้นอีกหลายปี(พศ.๒๕๔๖) ดังที่เคยบอกไปแล้วว่าผมนั้นชอบสะสมพระเครื่อง ดังนั้นก็ชอบอ่านหนังสือ

พระเครื่องด้วย  จนกระทั่งวันหนึ่งผมอ่านหนังสือพระ  ได้เห็นรูปล๊อกเก๊ตที่เขาเอามาลงให้เช่า บอกว่าเป็นล๊อกเก๊ต

หลวงพ่อเกษม เขมโก   แต่เป็นรูปสมัยที่ท่านยังหนุ่มอยู่(ปกติเราเคยเห็นแต่รูปท่านตอนที่อายุมากแล้ว)

พอเห็นปั๊บ ร้องเฮ้ย.....นี่มันพระองค์ที่มตบบ่าเราแล้วถามว่าถูกหวยไปเท่าไหร่ในฝันนี่หว่า...(จำได้แม่น)

เราก็เลยถึงบางอ้อว่า...ที่แท้พระที่มาเข้าฝันก็คือหลวงพ่อเกษมนั่นเอง  แต่ท่านมาในสภาพที่ยังหนุ่มๆอยู่

เราไม่เคยเห็นก็เลยไม่รู้จัก....แต่สรูปแล้วผมก็ไม่ได้ถูกหวยสองงวดนั้นหรอก..แค่เกือบถูกเท่านั้นเอง

เพราะไม่ได้เฉลียวใจว่า ออกไปงวดหนึ่งแล้วยังจะออกงวดที่สองอีก

(ผู้ที่สงสัยสามารถย้อนไปดูสถิติสลากกินแบ่งปี๒๕๓๙ ได้ จะเห็นว่าปีนั้นหวยสองตัวบนช่วงราวกุมภามีนาหรือเมษา

ไม่แน่ใจ  จะมีหวยสองตัวบนทีีออก 55 ซ้ำกันถึงสองงวดติดๆ ) นั่นแหละครับคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง

แต่สรูปแล้ว  การซื้อหวย  ถูกกินมากกว่าถูกหวย  ดังนั้นผมเล่นอยู่สองปีก็เลิกเด็ดขาด 

ไม่กลับไปสนใจอีกจนกระทั่งบัดนี้


                                                          มือขวา

                                                       ๑๖ ธค ๒๕๕๖

เรื่องกุมาทองยังไม่จบครับ

เหตุการณ์ต่อจากนั้น  

ภายหลังจากที่ผมถูกหวยผ่านไปแล้วหลายวัน(ไม่แน่ใจว่ากีวัน)

ในค่ำคืนวันหนึ่ง  ขณะที่หลับก็ได้เกิดฝันไปว่า มีพระแก่ๆรูปหนึ่ง  รูปร่างผอม ผิวคล้ำ ศรีษะล้าน

ได้มาพูดกับผมในฝันว่า"กุมารทองได้ใช้พลังจนหมดสิ้นแล้ว นับจากนี้ต้องหลับไปอีก ๑ ปีถึงจะฟื้นคืนมาได้"

วันต่อมา ผมได้นึกถึงความฝันเมื่อคืนจึงได้หยิบกุมารทองนั้นมาถือพร้อมกับเพ่งจิตแผ่พลังเข้าไปที่กุมารนั้น

(ทำเหมือนกับที่ทำในความฝัน) โดยหวังว่าถ้าความฝันที่พระรูปนั้นมาบอกเป็นเรื่องจริงเราก็น่าจะถ่ายทอดพลัง

เพื่อให้กุมารทองนี้ฟื้นเร็วขึ้น................

แล้วในคืนนั้นเองผมก็ได้ฝัน(อีก) ว่าตัวเองได้เดินเข้าไปในสุสานแห่งหนึ่ง  ภายในสุสานนั้นมีโลงศพหินขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนแท่น

ภายในโลงศพมีร่างของผู้ชายคนหนึ่งนอนอยู่...(ไม่รู้เห็นได้ยังไง...แต่ในความฝันทุกอย่างเป็นไปได้หมด)

ผมเดินเข้าไปแล้วเอื้อมมือไปแตะฝาโลงเพื่อจะเปิดออก.....ทันใดนั้นก็เกิดเสียงระเบิดขึ้น.....ฝาโลงเปิดออก  พร้อมกับร่างที่นอน

อยู่ในโลงนั้นระเบิดกระจัดกระจายกลายเป็นเถ้าธุลีไปหมด....ภายในเหลือแต่โลงที่ว่างเปล่า......

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา....กุมารทองที่เคยมีอภินิหารมีเหตุการณ์แปลกๆ...ของเพิ่มของลด  ของบางอย่างย้ายที่ได้เอง

เหตุการณ์เหล่านั้นก็ไม่เกิดขึ้นอีกเลย....แม้จะรอจนเวลาผ่านไป ๑ ปีตามที่พระรูปนั้บอกในฝันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....

ผมจึงรู้ตัวว่าการที่เราคิดจะถ่ายพลังเพื่อจะปลุกกุมารทองให้ฟื้นเหมือนที่ทำกับเด็กในฝันนั้นเราคงจะทำเกินงามสียแล้ว..

บางทีการกระทำของเราอาจเป็นการไปทำลายหรือไปปลดปล่อยจนกระทั่งวิญญาณที่มีอยู่ในรูปนั้น

เป็นอิสระหรือไปเกิดใหม่

ดังนั้นแม้จะรอจนครบ ๑ ปีตามที่พระในฝันบอกกุมารทองก็ไม่ได้กลับมามีปาฏีหาริย์ใดๆอีกเลย

ทุกวันนี้กุมารทองก็ยังอยู่กับผม....แต่ก็มีแค่รูป...ไม่มีเหตุการณ์แปลกๆ...ไม่มีอภินิหารใดๆอีกต่อไป.....

เหตุการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติอย่างที่เคยเป็น....ของไม่หายหรือย้ายที่เอง...

เงินไม่เพิ่มหรือลดจากกระเป๋า

หรือไม่ย้ายไปในที่ๆเราไม่ได้นำไปไว้....ทุกอย่างกลับเป็นปกติ...กุมารทองมีแค่รูป.......

ถามว่าเสียดายไหม.....ก็เสียดายอยู่....นึกแล้วก็ได้แต่ตำหนิตัวเองที่ไม่น่าจะทำจนเกินงาม.....

ถึงจะซื้อหรือเช่าตัวใหม่

แต่ก็ไม่ได้แบบเดิม....กุมารตัวอื่นๆที่มีให้เช่าไม่ได้มีอภินิหารแบบที่เคยได้.......

(เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริง เกิดขึ้นเมื่อพศ.๒๕๔๖)

แต่ที่ไม่เอ่ยชื่อวัดหรือบอกชื่อหลวงพ่อก็เนื่องจากไม่ได้ประสงค์จะให้เป็นการโฆษณาขายสินค้า....

แล้วก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะตัว

บอกไปเกิดใครไปเช่าแล้วไม่เป็นเหมือนกันก็จะด่าได้ว่าเราโกหก ดังนั้นขอแค่เป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังเท่านั้นครับ


                                                                                                                                                                                             มือขวา


                                                               :a020: