หัวข้อ: ใครเขียนฟ้าคืนนี้ด้วยสีหม่น เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28, พฤษภาคม, 2558, 05:33:20 PM (http://www.ahlulbait.org/images/activity/ramadan55-2.jpg) พู่กันจุ่มสีเทากวาดเบาว่อง ลิ่วละล่องจุดจัดสะบัดจ่อ ป้ายดาวมิดปิดเดือนเลือนลางมอ ไร้แสงทอเคยเด่นดังเพ็ญดวง ถีบทะยานขวาซ้ายปีนป่ายเมฆ ปากเป่าเสกหน้าแหงนจ้องแถนสรวง จับถังสีคลี่พู่ฟูยาวยวง จุ่มทะลวงยกย้อยแต้มพร้อยดาว ห่างแค่เอื้อมเชื่อมได้ไกลสลัด สีเกาะกัดสนิทติดเคลือบขาว ทาละเลงแปดเปื้อนเดือนสกาว คลุมทั้งราวเวหนมืดหม่นดำ เหล่ามนุษย์เทวาพาแตกตื่น ย่างเข้าคืนขึ้นสุดสิบเอ็ดค่ำ จุดธูปหยิบสิบหกดอกบอกพึมพำ วอนยมนำร้ายภัยไหลลงรู เกิดอาเพศเหตุใดไยประหลาด ใครบังอาจเคืองแค้นแล่นมาสู่ จากกองกูณฑ์อสูรชั่วร้ายริปู ฤาราหูปรปักษ์รักของเรา รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ใครเขียนฟ้าคืนนี้ด้วยสีหม่น เริ่มหัวข้อโดย: Sasi Aksarasrom ที่ 28, พฤษภาคม, 2558, 09:08:21 PM (https://public-sn3301.files.1drv.com/y2p7FnrKlB0rOU_tfJc-DcwDyDAe58i7-L1t9xOyfN33z_S8oif0QtegjaHAVchtGx7UWScJiqfuupaYb88taiuyb2TZnhmMh7m8drAobglvvc/ramadan-2009-north-america.jpg?psid=1&rdrts=107443819) รัตติกาลทิวายังคลาเคลื่อน ผ่านผันวันปีเดือนมิเหมือนเก่า จันทร์มิลับไปไหนแม้ไร้เงา ยังคอยเฝ้า กรอแสงแฝงโพยม ฟ้ามืดหม่นปนไปเมฆใหญ่น้อย ระย้าย้อยเบียดเคลื่อนเลื่อนบังโสม แม้คราลับอับแสงแห่งดวงโคม ยังหมายโลมพะเน้าให้เหงาคลาย ถึงอยู่ในฟ้ามืดมิชืดเฉย ใช่ลาเลยเลือนลับดับสลาย เฝ้าถักทอรอฝันวันรำบาย เฉิดฉาดฉายเยี่ยมเยือนเป็นเพื่อนใจ ผันรพีสีแสงแรงเจิดจ้า มอบนภาอร่ามงามไสว เธอคงพบสุขล้นท้นหทัย ลืมบางใคร ที่คอยลอยดายเดียว จวบวาระฉะฉานเปิดลานหล้า รัตติยาพร่างพราวดาวเฉิดเฉี่ยว ประดับเด่นเล่นรุ้งคุ้งโค้งเรียว ศศิเสี้ยว เกี่ยวอกซ้ายอ้ายทุกยาม Sasi (http://chambres-hotes-cherbourg.wifeo.com/images/j0365305.gif) หัวข้อ: Re: ใครเขียนฟ้าคืนนี้ด้วยสีหม่น เริ่มหัวข้อโดย: พรายม่าน ที่ 29, พฤษภาคม, 2558, 11:45:31 PM (http://www.uppic.org/thumb-4DBD_556897A3.jpg) ก็ใครเล่าเขาใคร ใครบนฟ้า สู้ทนทาสีหม่นจนยามสาม แต้มดำเสกเมฆทะมื่นแทนพื้นคราม ละเลงลามเรื่อยลบจนกลบเดือน ไหนดาวน้อยลอยลิบจะพริบพร่าง ริบหรี่ลางร้าววิโยคโศกเสมือน ทะเลคล้ำร่ำนิมิตที่บิดเบือน สาดเสียงเตือนตากสะอื้นกับผืนทราย เอาอีกไหมให้สีช้ำเติมน้ำหนัก เพื่อพอเพิ่มเสริมหัก ซ้ำใจหาย จะกรีดเลือดเชือดเนื้อยอมเถือกาย เจือน้ำตาที่พร่าพราย ให้พอพรม หรือแค่ย้ำคร่ำขามถึงยามสี่ เพียงทึบเงาเทาสี ก็สาสม เว้นระยะอโณทัยให้ชื่นชม พอคลายตรมตราบพรุ่งจึงมุ่งราญ แต่ให้ตายวายนั้นแต่วันนี้ ไหนจะมีใจเหลือไว้เผื่อผลาญ ไม่มีตาฝ่าพยับอับประมาณ เมื่อชีวิตปลิดปราณ ก่อนเดือนปลง ฯ พรายม่าน ๒๙.๐๕.๕๘ |