หัวข้อ: วันอาสาฬหบูชา ชวนมาค้นหาธรรม เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 30, กรกฎาคม, 2558, 12:32:36 PM (http://upic.me/i/q6/poem3.jpg) (http://upic.me/show/56330228) #๕๐๒ -๐ สัมมาวายามะ ๐- ความเพียรมีสี่ข้อ พึงจำ มรรคหนึ่งในแปดนำ ท่านชี้ หมายถึงกุศลธรรม ทางหนึ่ง กับอกุศลธรรมนี้ ต่างล้วนควรเพียร -๐ ระวัง ๐- เพียรประคองจิตตั้ง สติทราบ ความไม่บังเกิดบาป แยกไว้ อันอกุศลใดหยาบ อย่าริ เริ่มนา ครองจิตมิยอมให้ เกิดขึ้นมาเลย -๐ ละเสีย ๐- หากเคยมีเกิดแล้ว อกุศล ธรรมใด เพียรละเสียจากตน เร่งรู้ ยอมบาปครอบครองกมล ตกต่ำ ควรเร่งขจัดออกสู้ เพื่อพ้นกงกำ -๐ ริเริ่ม ๐- เพียรนำบังเกิดขึ้น ธรรมดี อันมิบังเกิดมี เริ่มสร้าง พอใจในวิถี ทางกุ -ศลธรรม ภพสว่างจักเปิดกว้าง แก่ผู้ครองธรรม -๐ รักษา ๐- ธรรมดีใดท่านรู้ เคยทำ เพียรรักษาจดจำ หมั่นไว้ งอกงามยั่งยืนสำ -เร็จประโยชน์ ควรนา พระพุทธองค์สอนให้ สี่ข้อความเพียร -๐ ความเพียรชอบ ๐- เพียรระวังอย่าข้อง สติคง เพียรละเสียบาปจง ปล่อยร้าง เพียรริเริ่มประสงค์ ทางถูก เพียรรักษาเคียงข้าง ชอบแล้วธรรมดี -๐ _/|\_ ๐- :a013: หัวข้อ: Re: วันอาสาฬหบูชา ชวนมาค้นหาธรรม เริ่มหัวข้อโดย: กรกช ที่ 31, กรกฎาคม, 2558, 07:11:03 PM (http://upic.me/i/q6/poem3.jpg) (http://upic.me/show/56330228) #๕๐๓ กาพย์ยานี ๑๑ สัมมาวายามะ -๐ _/|\_ ๐- สัมมาวายามะ องค์พุทธะทรงตรัสไว้ จำแนกแยกออกไป เป็นสี่ข้อแสดงผล ฝ่ายหนึ่งกุศลธรรม ที่ควรนำมีในตน อีกฝ่ายอกุศล เป็นฝ่ายบาปควรหลีกลี้ เพียรหนึ่งพึงระวัง บาปที่ยังไม่เคยมี ประคองจิตให้ดี อย่าปล่อยให้บาปเหล่านั้น บังเกิดขึ้นมาได้ รีบตัดไปเสียให้ทัน รู้ตัวและป้องกัน อกุศลก่อนจะเริ่ม เพียรสองให้พึงละ เสียซึ่งอกุศลเดิม ไม่ก่อไม่สร้างเพิ่ม รู้เท่าทันที่มันครอง ขจัดออกจากจิต รู้สิ่งผิดสิ่งเศร้าหมอง บาปใดเคยจับจอง เพียรละไว้อย่าให้มี เพียรสามพึงตั้งใจ ริเริ่มใหม่ล้วนกรรมดี กุศลธรรมใดที่ ยังมิเกิดย่อมเกิดได้ ย่อมเพียรพยายาม ปรารภความตั้งมั่นไว้ ประคองจิตภายใน มุ่งวิถีฝ่ายกุศล เพียรสี่พึงรักษา บุญทำมาแล้วในตน ไม่เลอะเลือนกมล หมั่นเข้าไว้ไม่แปรผัน เพื่อความงอกงามพูน เต็มไพบูลย์แห่งธรรมอัน กุศลยามถึงวัน ทำกาละผละสังขาร จิตย่อมกระจ่างรู้ ปรารถนาสู่แดนนิพพาน เร่งเพียรให้ทันกาล ก่อนจะสายกายดับลง ทุกวันเพียรหมั่นดู จิตเราอยู่หรือใฝ่หลง หากอกุศลคง ให้รีบละเสียเร็วพลัน คำถามดูอย่างไร ว่าสิ่งไหนเป็นบาปกัน ขณะจิตแรกตอบนั้น ย่อมชัดแจ้งในจิตตน ดีชั่วรู้ข้างใน ตอบด้วยใจชัดเจนจน เลี่ยงละก็ไม่พ้น ผิดถูกนั้นรู้ทันที -๐ _/|\_ ๐- กะตะโม จะ ภิกขะเว สัมมาวายาโม ภิกษุทั้งหลาย ความเพียรชอบเป็นอย่างไร อิธะ ภิกขะเว ภิกขุ อะนุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง อะนุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความไม่บังเกิดแห่งอกุศลธรรม อันเป็นบาปทั้งหลายที่ยังไม่ได้บังเกิด อุปปันนานัง ปาปะกานัง อะกุสะลานัง ธัมมานัง ปะหานายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการละเสียซึ่งอกุศลธรรม อันเป็นบาปทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นแล้ว อะนุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง อุปปาทายะ ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อการบังเกิดขึ้น แห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่ยังไม่ได้บังเกิด อุปปันนานัง กุสะลานัง ธัมมานัง ฐิติยา อะสัมโมสายะ ภิยโยภาวายะ เวปุลลายะ ภาวะนายะ ปาริปูริยา ฉันทัง ชะเนติ วายะมะติ วิริยัง อาระภะติ จิตตัง ปัคคัณหาติ ปะทะหะติ ย่อมปลูกความพอใจ ย่อมพยายาม ย่อมปรารภความเพียร ย่อมประคองจิต ย่อมตั้งจิตไว้ เพื่อความยั่งยืน ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมทั้งหลายที่บังเกิดขึ้นแล้ว อะยัง วุจจะติ ภิกขะเว สัมมาวายาโม ภิกษุทั้งหลาย นี้เราเรียกว่า ความเพียรชอบ -๐ _/|\_ ๐- :a013: |