หัวข้อ: ..นิราศเมืองจันทร์.. เริ่มหัวข้อโดย: ธนเดช ที่ 20, กรกฎาคม, 2559, 02:09:36 AM (https://upic.me/i/2d/9s4qkuervzy.gif) (http://upic.me/show/49203598) (http://upic.me/i/qo/20140823_145602b.jpg) (http://upic.me/show/58952259) ( คุ้งวิมาน ) (https://upic.me/i/1d/74722.gif) (http://upic.me/show/46235721) ..นิราศเมืองจันทร์.. **โอ้เมืองเพริศ กำเหนิดพลอย ร้อยแสงสาร เลื่องลือล้ำ ตามปรากฎ พจมาน จากโบราณ ตำนานร่าย ชาติไทยเรา **อรุณรุ่ง มุ่งสู่จันทร์ วันแดดใส เลาะเรื่อยไป ไล่ตามทาง ข้างภูเขา ไพรชะอุ่ม ชุ่มชื้น พื้นลำเนา เขียวสดพราว เคล้าเมฆคราม อร่ามตา **ล่วงถึงสาย ได้พักผ่อน ตอนถึงโบสถ์ ความงามงด โจษจัน กันนักหนา ชื่อว่าโบสถ์ พระแม่มารีอา มีอาภา เป็นพลอยเพชร สะเก็ดนิล **ทรงปูนปั้น ห่มแร่ แพรวิจิตร เนรมิตร คริสต์สร้าง สว่างศิลป์ อยู่กึ่งกลาง เมืองจันทร์ สุวรรณจินต์ ชื่อระบิล ถิ่นเพชรพร้อย ร้อยพลอยงาม (http://upic.me/i/1i/s__14934023a.jpg) (http://upic.me/show/58952265) ( รูปปั้นพระแม่มารีอา ) (http://upic.me/i/c9/20140823_185106a.jpg) (http://upic.me/show/58952283) ( โบสถ์พระแม่มารีอา ) (https://upic.me/i/1d/74722.gif) (http://upic.me/show/46235721) **สมัยกู้ เอกราช ประกาศชัด ตามประวัติ เชิงอรรถไว้ ไทยสยาม พระเจ้าตาก ผู้เลื่องลือ ระบือนาม ทำสงคราม มิคร้ามขลาด ชาติศัตรู **รบเสร็จสรรพ ทัพจอง เมืองจันทร์ได้ จึงกลับไป ตีกรุงศรีฯ ที่เคยอยู่ มิช้านาน ผ่านศึก ระลึกดู จึงได้รู้ กู้ไทยไว้ มิไช่ลวง **สาธุชน แซ่ซร้อง สรรเสริญ จึงอัญเชิญ สร้างศาล บูชาสรวง อยู่กลางใจ เมืองจันทร์ ลานบำบวง ให้ลูกหลวง ปวงชนใซร้ ได้กราบกราน (http://upic.me/i/5t/20150725_122705a.jpg) (http://upic.me/show/58952285) ( ศาลพระเจ้าตากสิน ) (https://upic.me/i/1d/74722.gif) (http://upic.me/show/46235721) **ออกจากจันทร์ มั่นหมาย สายน้ำตก ที่เป็นโตรก ชะโงกง้ำ น้ำฉาดฉาน ไหลสะทก ตกสะท้อน ย้อนลงธาร ยืนตระหง่าน สะท้านซ่า พนาไพร **ผีเสื้อกรู ภู่ผึ้ง ทึ้งเกสร อยู่ทุกตอน ร่อนผิน บินไหวไหว ธรรมชาติ สะอาดตา น่าชื่นใจ ชวนหลงไหล ในอารมณ์ ชมสุขเพลิน ** คำขานนาม ตามโฉลก น้ำตกพลิ้ว สายน้ำลิ่ว ปลิวไศล ใส่โขดเขิน ถาโถมส่ง สูงสาด ผงาดเนิน ทกสะเทิ้น เหินอู้ สู่ผิวดิน **แล้วทอดหยด สะกดหยาด สะอาดใส เป็นน้ำไส่ แอ่งธาร ผสานสินธุ์ ฝูงวิหค นกกา มาดื่มกิน โดดจากหิน บินข้ามพง ลงลอยคอ **แอ่งกระฉอก ระลอกแล้ว ระลอกเล่า จากขุนเขา เข้ากรุงไกล ไม่ต้องขอ ช่วยน้ำจันทร์ ปันน้ำใชั ได้เพียงพอ เลื้ยงสุขก่อ ต่อคนเมือง เรื่องอยู่กิน **นอนฟังเพียง เสียงซู่ซ่า คราน้ำหล่น ไหลถั่งท้น กระแทกทั้น ชั้นผาหิน สะท้านส่ำ สำเนียงน้ำ ย่ำแผ่นดิน สะเทือนสิ้น สะทกท้า ข่มตาฟัง (http://upic.me/i/uk/s__14934035.jpg) (http://upic.me/show/58952287) ( น้ำตกพลิ้ว ) (https://upic.me/i/1d/74722.gif) (http://upic.me/show/46235721) **ค่ำคืนนี้ จะมีใคร ให้เคียงคู่ เฝ้ามองดู คู่นกเขา เจ้าฝากฝัง จู้ฮุกกรู จู้ฮุกก้อง ร้องเสียงดัง เหมือนจะสั่ง ให้ป่าหลับ กับราตรี **แม้ดึกดื่น คืนค่อน นอนไม่หลับ ส่ายกระสับ จับดูใจ ไม่สุขี เต้นตุ๊บอ่อน ซ่อนช้ำ คำกวี ข่มฤดี นาทีลด เกือบหมดคืน **อยู่ในหลับ กลับนิทรา พร่าภาพฝัน คิดถึงวัน ผ่านมา ตาคอยขืน เคยก่ายกอด สอดกายสั่น แม่ขวัญยืน ชมเชยชื่น รื่นรมณ์ โน้มกายยอม **บรรจงจูบ ลูบไล้ ไรเส้นผม ประคองดม ชมกลิ่น ประทินหอม สองพวงแก้ม ที่แย้มอิ่ม พิมพยอม เจ้าถนอม ออมไว้ ให้พี่ชม **แล้วสวมกอด สอดจมูก ลงซุกไซ้ ผิวยองใย ใสสว่าง ข้างเรือนผม สูดกลิ่นอาย ระบายอุ่น ละมุนพรม ปล่อยให้ห่ม อารมณ์ซ่าน สะท้านกาย **ถอนตัวถอย คล้อยต่ำ ดื่มด่ำจิต ฝังสนิท จุมพิตปรก กลางอกผาย ส่งระทึก สะอึกอ้อน ต้อนความอาย ให้ละลาย สลายดับ ไปกับมือ **สะดุ้งตื่น คืนหมด สลดจิต คนึงคิด ติดอยู่ ดูสิหรือ ภาพเลือนหาย สลายหยุด หลุดปลายมือ ไม่อาจยื้อ ถือยุด สุดอาวรณ์ **อาทิตย์พร่าง จางสาย ละลายหมอก หมดทุกซอก ตรอกโตน โชนแสงสอน ทุกทิศทาง สว่างยิน ทินกร ล้อสลอน ไม้กิ่ง ระวิงไกว **ขึ้นไปชื่น ชมวิว เหนือทิวเขา เย็นลมพราว หนาวพริ้ว ลิ่วไสว สรรพสัตว์ ปาดเขียด เจียดเสียงคลาย ฟังแล้วคล้าย ร่ายดนตรี กวีชม ** มองลงไป ไกลสุดตา ฟ้าระยิบ เห็นฝั่งลิบ ทะเลไทย ไล่คลื่นขรม เป็นระลอก ตอกฝั่ง คลั่งตามลม พล่านระงม คมแทรก แยกหาดทราย **ดูอ้างว้าง คว้างเคว้ง ละเลงร่ำ ทะเลนำ กุ้งปูปลา มาหลากหลาย เป็นอาหาร จานเจือ เพื่อหญิงชาย ได้อาศัย ใชัยังชีพ สิบชั่วคน (http://upic.me/i/5k/s__14934052.jpg) (http://upic.me/show/58952288) ( จุดชมวิวน้ำตกพลิ้ว ) (https://upic.me/i/1d/74722.gif) (http://upic.me/show/46235721) **หลังจากผ่อน หย่อนอารมณ์ จนสมจิต คลายความคิด ขุ่นมัว มั่วสับสน อัน ค.คน หัวหยักหยัก สักว่าคน วุ่นวายชนม์ วนเปลี่ยน หมุนเวียนไป **บ้างหลอกล่อ ทอฝัน อันเปรื่องปราชญ์ ให้เป็นทาษ ทุรนทั่ว ชั่วดับขัย ลาแล้วหนอ คำป้อยอ พะนอใจ คืนป่าใช้ ธรรมชาติ บำบัดปลง **เลิกเกลือกกลั้ว มัวในลาภ ยศสรรเสริญ ทอดกายเดิน เชิญธรรมมะ อานิสงฆ์ เป็นเลิศซึ่ง สรณะ ละลดลง บุญจงส่ง เกื้อค้ำ นำสุขเอย. ................*-*.................. Nadej ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๙ (https://upic.me/i/dw/tb6qg6qoiyb.gif) (http://upic.me/show/46233133) |