หัวข้อ: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า"(สำนวนที่ ๗) เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 13, ธันวาคม, 2559, 10:09:12 PM (http://www.uppic.org/image-63AD_58500D78.jpg) "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (กลอนชนะเลิศ) ................ ๐”ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า” เป็นวันเศร้าชาวไทยครั้งใหญ่หลวง เมื่อกษัตริย์มิ่งขวัญคนทั้งปวง ทรงลับล่วงอำลาสู่ฟ้าไกล สวรรคตปลดบ่วงปวงเทวษ สู่วิเศษเมืองแมนแดนไสว ทวยราษฎร์ทั้งแผ่นดินแทบสิ้นใจ ทั่วถิ่นไทยครอบงำด้วยน้ำตา มิต่างลูกเสียพ่อบังเกิดเกล้า จึงโศกเศร้าเฝ้าเพ้อละเมอหา เกินจะเอ่ยเผยพจน์รจนา เป็นภาษาอาดูรอันคุ้นเคย เจ็ดสิบปีผุดผ่องที่ครองราชย์ ทรงประกาศสัจจะสง่าเผย “ครองแผ่นดินโดยธรรม”ทรงย้ำเปรย นิจจาเอ๋ยต่อไปมิได้ยิน ธรรมดากษัตริย์ขัตติยะ มีมานะสูงส่งคงถวิล แต่กษัตริย์สยามนามภูมินทร์ ดำเนินดินทรงงานปานสามัญ แม้นเสด็จสู่สรวงล่วงลับแล้ว ประทีปแก้วยังส่องครองมิ่งขวัญ ด้วยพระคุณโชติช่วงล่วงอนันต์ ไม่มีวันดับแสงแรงภักดี ๚๛ ..พรานไพร.. :057: ปล.สำนวนนี้ส่งประกวดชนะเลิศที่เว็บไซต์"อารมณ์กลอน" เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา จากผู้ส่งทั้งหมด 29 สำนวน (เฉพาะพรานไพร ส่ง 7 สำนวน..ติดรางวัล 1-2-3 ทั้งหมด) จะทยอยลงให้ครบ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนและน้อมรำลึกถึงในหลวงครับ... หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" เริ่มหัวข้อโดย: Sasi Aksarasrom ที่ 14, ธันวาคม, 2559, 11:07:49 AM (http://upic.me/i/aw/15391044_1077973742311411_1454944582857137998_n.jpg) ตามเอาโบว์ กับปากกามามอบให้จ้ะ :d09:.....ไปละ.... :d04: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 14, ธันวาคม, 2559, 11:37:19 AM โห..แม่บ้านน่ารักอะไรเยี่ยงนี้ น่าขึ้นเงินเดือนให้จริงๆ ขอบใจไม่น้อยๆ(มากๆ).....พรานไพร :AddEmoticons00935: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 15, ธันวาคม, 2559, 11:51:42 AM "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (กลอนรองชนะเลิศอันดับ ๑) ............... ๐”ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า” พ่อหลวงเราอำลาสู่ฟ้าใส เหลือพระคุณเหนือเกล้าฯต่อชาวไทย จารึกไว้ในวันอันกล้ำกลืน ยามฝืดเคืองเศรษฐกิจชีวิตแย่ หาทางแก้ลำบากยากจะฝืน ก่อวิกฤติสังคมแทบล้มครืน พระองค์ยื่นหัตถ์เอื้อเพื่อแบ่งปัน ”เศรษฐกิจพอเพียง”เลี้ยงชีพได้ ประทานให้ราษฎรช่วยผ่อนผัน เมฆหมอกมืดยืดย่างบนทางตัน ก็ฉับพลันสว่างเห็นทางเดิน ทุกถิ่นหนคนไทยจึงได้รัก น้อมใจภักดิ์ภูมินทร์ยินสรรเสริญ ราโชวาทแบบอย่างทางจำเริญ ยามเผชิญปัญหาปัญญาตรอง เช่นรู้รักสามัคคีเป็นที่ตั้ง อย่าหันหลังแปลกแยกแตกเป็นสอง เสริมคนดีมีธรรมนำครรลอง มาปกครองบ้านเมืองจึงเฟื่องฟู พร้อมหลายพันโครงการทรงสานต่อ เพื่อสุขก่อถิ่นไทยไม่อดสู และยึดธรรมนำทางเป็นอย่างครู จึงทรงอยู่กลางใจไทยนิรันดร์ ๚๛ ..พรานไพร.. :a013: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 16, ธันวาคม, 2559, 05:46:28 PM "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (กลอนรองชนะเลิศอันดับ ๒) ................... ๐ “ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า” สิ่งที่เฝ้ากลัวไว้ได้มาถึง วันที่ไม่อยากเจอเผลอรำพึง แม้เสี้ยวหนึ่งเศษฝันที่บันดาล โทรทัศน์ประกาศชาติไทยเศร้า ในหลวงเราสิ้นแล้วแว่วสื่อสาร เหมือนชาเหน็บเจ็บจุกเข้ารุกราน ในดวงมานรำพัน..ฝันหรือจริง เมื่อเห็นข่าวร้าวรานสะท้านอก ไร้แรงยกแขนขาหลับตานิ่ง แทบสลบซบตักพนักพิง เหมือนทุกสิ่งแตกดับลงฉับพลัน ในสมองวุ่นวนสับสนหนัก ดังศรปักกระหม่อมพร้อมอาสัญ อานุภาพภักดีศรีราชัน เมื่อจาบัลย์มาถึงจึงเข้าใจ ชั่วชีวิตเกิดมาบนหล้าโลก มิเคยโศกเพียงนี้..นี่ไฉน สิ้นสามารถอาจองปลงหทัย กลั้นน้ำตาเอาไว้ในเคยชิน “ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า” วันแสนเศร้าชาวไทยใคร่ถวิล น้อมรำลึกพระคุณอุ่นดวงจินต์ รักษ์แผ่นดินพ่อไว้ให้ตราบนาน ๚๛ ..พรานไพร.. :a013: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 18, ธันวาคม, 2559, 04:13:37 PM "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (สำนวนที่ ๔) ”ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า” คนไทยเศร้าทั้งชาติอนาถหนอ เมื่อกษัตริย์องเลิศประเสริฐทอ ผู้เปรียบพ่อแผ่นดินสิ้นพระทัย สวรรคตสู่แคว้นดินแดนสรวง ทิ้งเหล่าปวงพสกอกหวั่นไหว ขาดพ่อหลวงปวงราษฎร์เหมือนขาดใจ ด้วยอาลัยมิ่งขวัญอันเทิดทูน มหาราชทรงธรรมอำลาแล้ว ดั่งดวงแก้วแวววับมาดับสูญ ยากสรรหาคำเปรียบเทียบอาดูร ที่พอกพูนหัวใจไทยทุกดวง แม้นทวยราษฎร์ทุกเหล่าเฝ้าประสงค์ รักพระองค์ยิ่งกว่าแก้วตาหวง มิเทียบน้ำพระทัยจากในทรวง ทรงรักปวงประชาด้วยอารี ”ครองแผ่นดินโดยธรรม”พระดำรัส ประจักษ์ชัดให้เห็นเป็นสักขี ต่างชาติยังสาธุสดุดี เจ็ดสิบปีลือไกลในพระนาม ขอคุณแห่งพระพุทธวิสุทธิ์ล้ำ พร้อมพระธรรมพระสงฆ์ครบองค์สาม พิทักษ์ราชันข้าฯบนฟ้างาม มิลืมความของพ่อ..ให้พอเพียง ๚๛ ..พรานไพร.. :a013: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า"(๕) เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 21, ธันวาคม, 2559, 12:20:58 PM "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (สำนวนที่ ๕) ๐"ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" ถิ่นไทยเศร้าอาลัยในพ่อหลวง สวรรคตจากโลกโศกทั้งปวง สู่แดนสรวงโสภณบนอัมพร "ภูมิพล"ล้นเกล้าฯเจ้าชีวิต สมลิขิตพระนามตามอักษร คือ"พลังแผ่นดิน"ถิ่นบวร แม้จากจรคล้ายสิ้นดินสะเทือน ด้วยพลังภักดีศรีกษัตริย์ ประจักษ์ชัดยิ่งใหญ่หาใดเหมือน เปรียบแผ่นดินลือลั่นมิฟั่นเฟือน เฉกจะเตือนบอกรู้ภูวไนย ห้าธันวาฯรอบปีมีครั้งหนึ่ง เคยซาบซึ้งวันเฉลิมฯเติมสุขใส "ทรงพระเจริญ"แด่องค์พระทรงชัย บัดนี้ไร้ไหนเล่าเงาพระองค์ มองเวียงวังรอบด้านปานใจขาด "ศิริราช"เคยเฝ้าเนาประสงค์ ก็มิพบพระพักตร์ประจักษ์จง ยากปลดปลงอาลัยในราชา แม้นพระวรกายจะหายลับ ขอคำนับรอยบาทปรารถนา น้อมบังคมก้มกราบตราบชีวา ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติเทอญ ๚๛ ..พรานไพร.. :a013: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 23, ธันวาคม, 2559, 09:26:33 PM "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (สำนวนที่ ๖) ๐ ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า ความทึมเทาเข้าซุกทุกแห่งหน ทั่วแผ่นดินตราบฟ้านภาบน ครอบกมลคนไทยให้มืดมัว ใช่เกินจริงสิ่งนี้ที่กล่าวอ้าง ทุกทิศทางเงียบเหงาเนาสลัว เฉกราหูอมไทยให้ต้องกลัว มองรอบตัวมัวหม่นคนโศกา กษัตริย์เหนือกษัตริย์นิวัติแล้ว กลับเมืองแก้วสวรรค์วันนี้หนา จากมนุษย์ผ่องเพ็ญเป็นเทวา ท่ามน้ำตาราษฎรค่อนแผ่นดิน เหลือแต่องค์บรรทม..บรมโกศ ไม่อยากโทษลิขิตฟ้าว่าติฉิน แม้รู้กฎไตรลักษณ์ประจักษ์จินต์ แต่ยากผินอาลัยหทัยปลง ตลอดช่วงพระชนม์ทนบากบั่น ทุกทุกวันคืองานท่านประสงค์ เพื่อพสกทั้งปวงมิห่วงองค์ ด้วยมั่นคงยิ่งนักหลักภูมี พ่อเหนื่อยล้ามานานสังขารทรุด ถึงคราวหยุดพักผ่อนนอนสุขี จะขอเอาจินต์วางต่างภักดี ตราบชีวีเอาอย่างทางดำเนิน ๚๛ ..พรานไพร.. :a013: หัวข้อ: Re: "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า"(สำนวนที่ ๖) เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 27, ธันวาคม, 2559, 01:12:18 PM "ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า" (สำนวนที่ ๗) ๐ ลุสิบสามตุลาฯปีห้าเก้า ตำนานเล่ากล่าวขานจะเวียนถึง ตราบลูกหลานสืบไปได้รำพึง เป็นหน้าหนึ่งประวัติศาสตร์ของชาติไทย ว่าพระเจ้าแผ่นดินถิ่นสยาม องค์ลือนามราชาลาตักษัย ปวงราษฎร์หลั่งน้ำตาด้วยอาลัย ความสูญเสียครั้งใหญ่ไร้ประมาณ มีหลากหลายประเทศต่างเขตขัณฑ์ ร่วมจาบัลย์นอบน้อมพร้อมส่งสาส์น เป็นข่าวดังทั่วโลกวิโยคนาน หลายถิ่นฐานยกย่องซ้องภูมินทร์ เพียงสังขารพระองค์ที่ทรงจาก พระทัยหากยังอยู่คู่ไทยถิ่น ผ่านเสโททุกครั้งทรงหลั่งริน และพื้นดินรอยพระบาทยังยาตรา เมื่อจงรักภักดีเป็นศรีมั่น ด้านหนึ่งนั้นควรตรึกและศึกษา น้อมคำสอนแบบอย่างทางปัญญา เพื่อนำพาชีวิตลิขิตตน แม้ลาลับดับแล้วแก้วบพิตร ยังสถิตกลางใจไทยทุกหน ดังฉัตรทองป้องภัยในเบื้องบน ปกเกล้าลูกทุกคนบนผืนไทย ๚๛ ..พรานไพร.. :a013: |