บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => นิยาย-เรื่องสั้น-บทความ-ความเรียง-เรื่องเล่าทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, กรกฎาคม, 2561, 06:23:25 PM



หัวข้อ: ฟังคำพระ
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงกลอน ที่ 18, กรกฎาคม, 2561, 06:23:25 PM


ฟังคำพระ

เวลาเข้าวัดทำบุญ  มักจะได้ยินพระหลวงพ่อ หลวงพี่  หลวงตา  ท่านนำมาพูดให้ฟังบ่อยๆ

เรื่องเกี่ยวศีล ๕ (เวลาจะรับศีล)

ท่านว่า ศีล  แปลได้สองอย่าง  แปลว่า ปกติก็ได้   แปลว่า  เย็นก็ได้(เราก็เลยมานึกว่า มิน่า

เวลาเย็น เขาจึงว่า เป็นเวลาจำศีล(นอน) เพราะพวกสัตว์นั้นเวลานอนคือจำศีลของสัตว์ เช่น

กบจำศีล  ศีลแปลว่า เย็น  เวลาเย็น คือเวลาที่คนและสัตว์ส่วนมากจะนอน= เวลาเย็นคือเวลาจำศีล

ศีล แปลว่า ปกติ  คนมีศีล  คือคนปกติ  คนไม่มีศีล  คือ คนไม่ปกติ

เช่น  ปกติของคน  ไม่ฆ่าสัตว์  ถ้าคนไหนฆ่าสัตว์ คือ ผิดปกติ  ไม่มีศีล

ปกติของคน  ไม่ลักทรัพย์   ถ้าคนไหนลักทรัพย์  คือผิดปกติ  เท่ากับไม่มีศีล

ปกติของคน ไม่ปีะพฤติผิดในกาม  ถ้าคนไหนประพฤติในกาม คือผิดปกติ  ไม่มีศีล

ปกติของคนไม่พูดปด   ถ้าคนไหนพูดปด   คือผิดปกติ   ไม่มีศีล

ปกติของคน  ไม่ดื่มสุรา ของมึนเมา  ถ้าคนไหนดื่มสุรา ของมึนเมา  คือผิดปกติ  ไม่มีศีล

ฉะนั้น  คนมีศีล ก็คือ คนปกติ  คนที่ไม่มีศีล  ก็คือ คนผิดปกติ  เพราะปกติของคนต้องมีศีล

เราฟังแล้ว  ก็เลยถามว่า  เอ๊  หลวงตา  อย่างนี้  ถ้าสมมุติว่า เป็นเสือ  ปกติของเสือแล้ว มันต้องฆ่าสัตว์

เพื่อเอามาเป็นเหยื่อ  อย่างนั้น  ถ้าเกิดเสือตัวไหน  ไม่ฆ่า  ไม่ล่าเหยื่อ  แปลว่า เสือตัวนั้นไม่มีศีลอย่างนั้นหรือ ?

หรืออย่างโจร  ปกติของโจรมันต้องปล้น ถ้าเกิดว่า โจรคนไหนไม่ปล้น หรือว่า ปล้นแล้ว เกิดใจดี

เอาของไปคืนเจ้าทรัพย์  แปลว่า โจรคนนั้น  ไม่มีศีล  หรือศีลขาดอย่างนั้นหรือ  ?

ท่านตอบมาว่า  เรื่องนี้ ขออาตมากลับไปเปิดตำราก่อนนะโยม .....


เรื่องทำนองเป็นเรื่องแปลกอยู่อย่างหนึ่ง  ยกตัวอย่าง คนบางคนทำชั่วมาทั้งชีวิต  เช่น เป็นมือปืนรับจ้างฆ่าคน

มาทั้งชีวิต  หรือ เป็นเจ้าพ่อลอบขนยาเสพติดมาทั้งชีวิต  ไม่เคยถูกจับ  แต่พอวันหนึ่งคิดกลับใจจะเลิกทำ

จะขอทำเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็เลิกเลย   แต่ก็ให้มีเหตุเป็นไป ถูกจับได้ หรือถูกฆ่าตายเสีย  ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะเลิก

หรือว่า การทำชั่วที่ทำอยู่นั้น  เมื่อทำจนเป็นปกติ เลยถือเป็นศีล  พอคิดจะกลับตัวกลับใจเลิกทำ

ก็กลายเป็นความผิดปกติ(ผิดศีล)

เป็นเรื่องแปลกอย่างหนึ่ง ของคนที่เรียกว่า"ทำความชั่วขึ้น"  คือทำชั่วโดย ที่ไม่ถูกจับได้ ไม่ถูกนำตัวไปลงโทษ

แต่ครั้นคิดจะเลิกทำ ก็กลับมีเหตุให้ต้องถูกจับได้  อย่างนี้กระมังพระท่านถึงได้บอกว่า ศีล คือความปกติ

เช่น ปกติ เจ้าหนี้ ต้องโหดกับ ลูกหนี้ ต้องหมั่นทวง  หมั่นข่มขู่  เอาเงินจากลูกหนี้ให้ได้

เจ้าหนี้แบบนี้ คือเจ้าหนี้ปกติ(มีศีล)

ส่วนเจ้าหนี้คนไหนกลับใจดีกับลูกหนี้ ให้ยืมเงินไปแล้วก็ไม่ตามทวง  ไม่สนใจ  หนักๆเข้าก็ยกหนี้ให้ไปเลย

เจ้าแบบนี้คือเจ้าหนี้ผิดปกติ(ไม่มีศีล หรือ ผิดศีล)  ไม่นานก็คงหมดตัว

หรือ ปกติของหมอนั้น ต้องรักษาคนไข้(มีศีล)  ถ้าหมอคนไหนไม่รักษาคนไข้ คือผิดปกติ(ไม่มีศีล)

ปกติของตำรวจนั้นต้องจับผู้ร้าย ไม่จับคนดี(มีศีล)  แต่ถ้าตำรวจคนไหน ไม่จับผู้ร้าย  แต่กลับมาจับคนดี

ตำรวจคนนั้นก็ผิดปกติ(ไม่มีศีล)...ฯลฯ

คิดไปก็ปวดหัวนะ  เรื่องนี้มีช่องโหว่ให้คนแย้งเอาได้  ยิ่งคนสมัยนี้ เป็นคนขี้สงสัย  ช่างซักช่างถาม

ถ้าขืนอธิบายศีล  ออกมาในทำนองนี้  รับรองว่า โดน ซัก ต้อนจนมุมแน่