บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คนที่ยังแสวงหาผลประโยชน์

1
คนที่ยังแสวงหาผลประโยชน์ หากเขาป่าวร้องว่ารักชาติเหนือชีวิต นั้นไม่ใช่สัจธรรม

2
บุคคลคนนี้ยังเป็นคนที่พอจะเชื่อถือได้หากเขาพูดว่า
"สังคมปัจจุบันล้วนอยู่ด้วยการหลอกลวง ผมจะหลอกคุณบ้างแล้วจะเป็นไร"

3
บุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับป่าไม้ แม้ว่าบ้านของเขาสร้างด้วยดินเหนียวทั้งหลัง ก็ไม่แปลกที่ยังมีคนเคลือบแคลงเขาอยู่บ้าง

4.
มนุษย์อย่าคิดว่าต้นไม้พูดไม่ได้ ต้นไม้ไม่มีความรู้สึกนึกคิด
มนุษย์รู้หรือไม่ว่าต้นไม้กำลังสาปแช่งเรา

5
แม้น้ำจะพัดพาต้นไม้จนโค่นล้ม ต้นไม้ก็ไม่เคยโกรธ ไม่เคยผูกพยาบาท ผิดกันไกลระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง นายจ้างมักจะโทษทัณฑ์ลูกจ้างเสมอ

6
คุณตัดต้นไม้ 1 ต้น เท่ากับคุณฆ่าเพื่อนมนุษย์ถึง 1 ล้านคน

7
คุณตั้งโรงงานใกล้บ้านของผมเพียงเพื่อผลประโยชน์ของคุณ คุณรู้สึกเสียใจบ้างไหม ที่คุณกำลังพยายามฆาตกรรมผม เพื่อนเอ๋ยเรารักกันน่ะ

8
คุณอย่าคิดว่าได้รับประทานเนื้ออันแสนอร่อย นั่นคุณรู้ไม่ คุณกำลังรับประทานสารพิษ

9
ผมรับประทานผักจากที่ผมปลูกเอง คุณรับประทานผักที่ชื้อจากตลาด คุณรู้แล้วยังผมโชคดีที่ผมปลอยภัย

10
เพื่อนเ๋อ๋ย ทุกคนรอความตายอยู่เบื้องหน้า ฉะนั้นอย่าลืม  เพื่อนเกิด   เพื่อนแก่   เพื่อนเจ็บ   เพื่อนตายเลย



 

คุณฆ่าธรรมชาติ

11
คุณฆ่าธรรมชาติเพื่อความร่ำรวยของคุณ   คุณอย่าเผลอดีใจ  นั่นคุณกำลังเอามีดอันคมกริบตัดเส้นเลือดใหญ่ของคุณอยู่น่ะ

12
คุณมีความสุขมากรึ  ที่คุณทำนาบนหลังผม

13
คุณเต็มเปี่ยมด้วยความดีล่ะหรือที่คุณร่ำรวย    ผมชั่วช้าสามานย์ล่ะหรือที่ผมยากจนข้นแค้น

14
ตรองดูบ้าง..เราต่างอยู่ใต้ดวงอาทิตย์ดวงเดียวกัน

15
หากคิดถึงค่าของน้ำนมแม่   อย่าลืมคึดถึงค่าของดวงอาทิตย์ด้วย

16
คนจนก็กินไก่มีสารพิษ  คนรวยก็กินไก่มีสารพิษ  ฉะนั้นหยุดความจนความรวยกันเสียที

17
สมองของคนปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นทองคำ   ผมต้องการให้คนรุ่นใหม่มีสมองเป็นต้นไม้

18
คุณเก่งที่สามารถผลิตอาวุธที่ทันสมัย คุณฉลาดแล้วใช่ไม่ที่คุณเอาอาวุธมาประหัตประหารกัน

19
ไก่ กา แก เข้าคอน นอนแล้วแสนสบาย คนเอ๋ย..ยังฝืนร่างกาย ไม่วายกับการงาน

20
มนุษย์มองว่าสัตว์ดำรงชีวิตอย่างต่ำทราม      นั่นเพราะสัตว์ดำรงชีวิตอย่างธรรมดา  ดำรงชีพอย่างธรรมชาติ
สัตว์มองว่ามนุษย์ดำรงชีวิตอย่างต่ำทราม     นั่นเพราะมนุษย์ดำรงชีพเหนือธรรมดา ดำรงชีพเหนือธรรมชาติ
ท่านไม่ถึงกับต้องเอา "ศาสตร์สากล" มาวิจารณญาณหรอก แค่ไตร่ตรองด้วย "หลักสัจธรรมธรรมดา" ท่านก็จะมองเห็นว่า สัตว์หรือมนุษย์กันแน่ที่ต่ำทราม

 

นี่คือเบื้องแรกที่เข้าถึงพุทธศาสนา
21
พุทธศาสนิก ท่านศรัทธาพระพุทธเจ้า หรือศรัทธาต่อพระธรรมคุณ นี้เป็นเบื้องแรกที่จะเข้าถึง พุทธศาสนา

22
หัวใจ เส้นเลือดใหญ่ของหลักศาสนาพุทธอยู่ตรงไหนต่างรู้กันดี แต่ทำไมพุทธศาสนิกยังไต่อยู่ที่เส้นเลือดฝอยแห่งหลักศาสนาพุทธ
อย่างนี้ไม่มีวันเข้าถึงพุทธศาสนาได้เลย และอีกไม่นานโลกจะล่มสลาย

23
มุ่งแต่จะพึ่งพิงพุทธานุภาพ ไม่มุ่งมั่นปฏิิบัติธรรมเพื่อชำระใจของตนเองให้บริสุทธิ์ ก็มิแว่วยิน"สัจธรรม"
แลก็ไม่รู้แห่งธรรมดา แห่งธรรมชาติ
แลไม่เห็นแก่นของหลักศาสนาพุทธ นี่ก็เท่ากับเป็นพุทธศาสนิกเพียงเปลือกเปล่า

24
พุทธศาสนิกส่วนใหญ่ไม่ผิดกับกามนิตซึ่งเป็นตัวละครเอกในเรื่องวาสิฏฐี แล้วเราจะเข้าถึง "พระพุทธ" ได้อย่างไร
แลคงเป็นเด็กดื้อที่ไม่ยอมรับแก่นของพระพุทธศาสนาได้เลย

25
ศาสดาแห่งพระพุทธศาสนาคือผู้ถึงภาวะโลกวิทู ผู้สร้างพุทธปรัชญา
หากท่านยังลังเลคำพูดภายในเครื่องหมายคำพูดนี้ ท่านก็ไม่ลึกซึ้งในแก่นของพุทธศาสนาได้แม้แต่เศษธุลี
"สภาพธรรมชาติ หรือสภาพธรรมดาทั่ว ๆ ไป ของโลกโดยปราศจากมารยา"

26
มุนี,เชกสเปียร์ แล เหลาจื้อ นักปราชญ์ที่เอ่ยอ้างนี้ต่างเจริญรอยตามพระพุทธบาท ในเรื่องการดำเนินชีวิตของมนุษย์ให้เป็นไปตาม
"สภาพอันเป็นไปตามธรรมชาติ"
พุทธศาสนิกจงเข้าถึงนักปราชญ์เหล่านี้เถิด แล้วท่านจะลึกซึ้งถึง "พุทธปรัชญา"

27
เหลาจื้อยึดหลักสมบัติอันประเสริฐ 3 อย่าง
"ความเมตตากรุณา ความสันโดษ แลความอ่อนน้อมถ่อมตน"
พุทธศาสนิกจักไม่ยอมเข้าถึงแก่นแท้ของพุทธศาสนา อย่างเหลาจื้อบ้างหรือไร

28
ศาสนิกชนไม่คิดจะตามรอยนักปราชญ์ของชาวอินเดียที่เรียกรวมว่า "มุนี"  ที่พยายามให้เข้าถึง "วิญาณของธรรมชาติ" บ้างเชียวหรือ

29
เชกสเปียร์เป็นนักปราชญ์ แลกวีเอกชาวอังกฤษซึ้งที่เข้าถึงวิญญาณของธรรมชาติ ถึงได้เขียนเรื่อง   " AS  YOU  LIKE  IT "
นักวัตถุนิยมทั้งหลาย ท่านหยุดพูดคุยกับ เชกสเปียร์ บ้างเป็นไร

30
หยุดก่อนชาว "วัตถุนิยม" ทั้งมวล มาตั้งใจเป็น "สุบงกช" กันเถิด

http://www.naturedharma.com/data-1481.html