บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => ห้องนั่งเล่นพักผ่อน => ข้อความที่เริ่มโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 16, กุมภาพันธ์, 2557, 11:55:52 AM



หัวข้อ: ฟันฟันฟัน(ภาษาภิรมย์ 2)
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 16, กุมภาพันธ์, 2557, 11:55:52 AM
:AddEmoticons00941: :AddEmoticons00916:      
 
ฟัน ฟัน ฟัน  
     

   ผมต้องถอนฟันหลายซี่    ถอนไปแล้วสามซี่   คุณหมอแจ้งให้ทราบว่าควรถอนอีกห้าซี่   แค่สามซี่ก็ทำเอาตกใจแทบหัวโกร๋น  พอพวกเพื่อนเจอหน้าผม   เขาทำตาลุกวาว และแถมทำตาโต  โตขนาดเหมือนจะหลุดจากเป้าตา    ผมจะไม่ขวัญเสียได้ไง   ที่เขาทำประหลาดเช่นนั้นก็ผมนึกว่าเขาเห็นฟันเรา   เราต้องตกอกตกใจเป็นธรรมดา   มันมิใช่ขวัญอ่อนน่ะแต่บางครั้งบางคราวหัวสมองมันคิดไม่ทัน   เจ้าใจจึงปรับตัวไม่ทัน  ปรับตัวยาก  ดีที่เขาทักเราว่า "นี่ฟันหักรึนี่" ทุกอย่างก็ไปด้วยดี

          "นี่ฟันหักหรือนี่"   ทำเอาเรางงไปอีก   ทำเราครั้งแรกแทบจะหลับกลางอากาศ     มาครั้งนี้ยังพูดอะไรผิด ๆ อีก    มันไม่ได้พูดความจริง    เราก็เสียหายซี   จึงต้องแก้ตัวให้  "ฟันผมไม่ได้หักหรอก   มันหลุดต่างหาก  ถ้าหักจริง ๆ  คุณต้องเห็นตอมันบ้าง"  หลังพูดจบเห็นเพื่อนยิ้มให้แต่ไม่ใช่จะสบายใจนัก    ไม่รู้ว่ายิ้มด้วยความไม่พอใจ  หรือเพราะนึกขำ   ผมทายใจยากจริง ๆ เพื่อนคนนี้ ......ผับแผ่  

           ฟันผมไม่ได้ผุหรอก   มันโยกมันคลอนเพราะกินหมากมากไปหน่อย  เคี้ยวหมากแข็งราวกับว่าฟันตัวเองเป็นเพชร  ซ้ำร้ายเจ้าหินปูนตัวดีก็มาชุมนุม  มาเดินขบวนอะไรมันก็ไม่รู้  เห็นมันทำกันเป็นประเพณี  เลยต้องสลายการชุมนุมตามหลักสากลคือจากเบาขึ้นเป็นหนัก  พอปราบจราจลแบบหนักมันก็ตายเรียบ   อาวุธคุณหมอหลายชนิด  มันดังสนั่นหวั่นไหว  เราถึงสะดุ้งไปบ้างในบางเวลา   มันรุนแรงถึงเลือดสาดถึงเพดาน  ใต้พระลานชิวหาไม่ต้องพูดถึงเลือดกลบไปหมด

           นี่น่าจะเป็นสองประการที่ทำให้ "ทนต์" แต่ไม่ทนต้องโยกต้องคลอนถึงหลาย ๆ ซี่พร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย   คือเคี้ยวหมากแข็ง และขูดหินปูนมากเกินไป  ฟันโยก..คุณหมอแนะนำให้ถอนอย่างเดียว  คงจะรักษารากฟันไม่ได้แล้ว  ต้องล้มมันทั้งต้น  ทั้งคิดเอง และร่วมปรึกษาคุณหมอ  ผลสรุปต้องกวาดล้างคุณโยกคุณคลอนให้เรียบ เหลือไว้เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กับคุณเหงือก ชั้นบนสี่ซี่   ชั้นล่างอีกสี่ซี่  แล้วคอยใส่ฟันชุดที่สาม  คุณหมอรายงานเพิ่มเติมว่าหลังจากถอนเสร็จแล้วต้องรออย่างน้อยประมาณ 1 เดือน เพื่อให้คุณเหงือกเข้าที่  เราก็ไม่รู้ว่ามันออกจากสถานที่ตั้งมันเมื่อไร  มันซุกซนเป็นบ้ายิ่งกว่าเด็กสมัยนี้  พูดอะไรไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย  เอ..แต่ว่าเราไม่ได้พูดกับเหงือกสักนิดเลย  จะเทียบความซุกซนกับเด็กสมัยนี้ได้ไง   นี่ถ้าเราสอนมัน  ตักเตือนมัน และถ้าหากไม่รู้ฟัง   ไม่รู้เรื่องจะได้เคี้ยวให้มันแหลกเพราะมันอยู่ใกล้เรา  มันจะได้หลาบจำ   เด็กเดียวนี้มันไม่หลาบจำเพราะมันไม่โดนเคี้ยว โดนตียังไง  จะบอกให้..ผับเผื่อย

         โม้ใหญ่ไปแล้วเข้าเรื่องดีกว่า   ที่คุณหมอบอกว่าให้เหงือกเข้าที่ก็คือให้เหงือกมันหายปกติ  การที่ต้องใช้เวลามากอย่างน้อยเป็นแรมเดือนทำให้เกิดทุกข์ทันที   ก็ทุกข์เรื่องต้องดื่มเพิ่มขึ้น ไม่ใช่ดื่มเหล้านะ  อย่าเอาใจไปคิดทางอกุศล  ที่ว่าดื่มเพิ่มขึ้นก็คือ  ดื่มอย่างแรกคือน้ำซึ่งเป็นปกติอยู่แล้ว  และหากทำตามแพทย์แนะนำการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ คือดื่มวันละหลาย ๆ ครั้ง โดยการจิบเรื่อย ๆ ไป  มากกว่าสองลิตรต่อวันก็ไม่อันตราย   ยิ่งดีมีประโยชน์  นั่นคือภาระการดื่มอย่างที่หนึ่ง  อย่างที่สองคือต้องดื่มข้าว และกับข้าว  มันเหลือแต่ฟันตัดจะไม่ให้เราดื่มอาหารอย่างไรได้  ฮะฮาดื่มหมูต้มชนิดขนมเปียกปูนไม่เท่าไรพอดื่มกันได้  แต่ดื่มลูกพะเนียงหมาน (พะเนียงเพาะ) นี่ซิทำยากกว่าเข็ญภูเขาขึ้นครกเอามาก ๆ  นี่เล่นเอาเราอดอาหารถูกใจไปโดยปริยาย

          วันนี้มาถอนอีกซี่   ผมนั่งรอคุณหมอหน้าห้องอยู่เงียบ ๆ  คนเรามันมีนิสัยสัปดนจึงอดคิดเรื่องขำ ๆ มิได้  ก็อารมณ์ขันเรื่องฟันของคนเรา  มันเป็นความคิดออกจากใจที่แคบ ๆ ของเราหรือเปล่า  คิดโทษธรรมชาติ  โทษที่ออกแบบฟันไม่ตรงกับความคิดเรา  ความจริงฟันน่าจะเชื่อมเป็นแผ่นเดียวกับขากรรไกรทั้งบนล่างหมดเรื่อง หมดเรื่องที่ไม่ต้องถอนฟัน  ถ้ามันจะพังก็พังไปทั้งขากรรไกร  และก็ควรร้อยน๊อตไว้ที่โคนขากรรไกรกับกะโหลก  อีตอนพังจะได้เปลี่ยนใหม่สะดวกขึ้น  ดีที่เรายังใจกว้างอยู่บ้าง  คือที่โทษธรรมชาติไปแล้วจะขอให้อภัยโดยนึกว่าคิดว่า  ธรรมชาติต้องการให้ความสวยงามกับมนุษย์  คือถ้าฟันเป็นกระดูกแผ่นเดียวจะไม่ดูเสมือนกำแพงรึ ?  ยิ่งถ้าของใครเป็นอย่างกำแพงเมืองจีนแล้วน่าเกลียดน่ากลัวมาก  อย่างนี้เองที่ธรรมชาติออกแบบมาเป็นซี่ ๆ   ดูสวยดีแต่ก็ไม่วายตำหนิอีก   ออกแบบให้ติดกับขากรรไกรเป็นแผ่นเดียวกันนั่นแหละ  แล้วค่อยแกะสลักเป็นรูปซี่ฟัน  น่าจะไม่ยาก  ความคิดของเราน่าจะได้ประสบการณ์จากเห็นฟันปลอมก็เป็นได้   ตรงนี้ยังหักล้างหรือแก้ตัวให้ธรรมชาติได้อีก  ถ้าเป็นมวยก็เปิดหน้าให้เพื่อนชก  แก้ตัวให้ธรรมชาติอย่างไร  ก็ธรรมชาติไม่เคยเห็นฟันปลอมนี่ จะนึกออกเหมือนเราได้ไง

          คิดอย่างนี้แล้วก็น่าให้อภัยธรรมชาติได้อย่างบริสุทธิ์ใจ   แต่ไม่วายไม่ให้อภัยอีท่าเดียว  รู้สึกว่าตัวเองใจแคบขึ้นมาอีก  แคบยิ่งกว่ารูก้นเข็มเย็บผ้า   แคบไม่แคบก็ลองมาดูเหตุผลเราบ้าง   ก็ทีอวัยวะอื่น ๆ สร้างมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น จมูก ปาก คาง คอ อก ท้อง สะดือ ฯลฯ  เออแล้วเราการันตีได้ไหมว่าธรรมชาติออกแบบฟันมาไม่ดี  นี่มันบรรทัดฐานของเรา  ไม่ใช่บรรทัดฐานของธรรมชาติ  ก็รวมแล้วเป็นสองบรรทัดฐาน  สองบรรทัดฐานยังมีปัญหา  แล้วสองมาตรฐานล่ะ  ขออย่ามีสองมาตรฐานก็แล้วกัน ฮะ ฮา

http://www.naturedharma.com/data-1504.html

ประทีป  วัฒนสิทธิ์
16 กุมภาพันธ์ 2557

 :AddEmoticons00918: