บ้านกลอนน้อย - กลอนสบายๆ สไตล์ลิตเติลเกิร์ล

คำประพันธ์ แยกตามประเภท => กลอน ร้อยกรองหลากลีลา => ข้อความที่เริ่มโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 06, เมษายน, 2557, 12:31:11 AM



หัวข้อ: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 06, เมษายน, 2557, 12:31:11 AM
:AddEmoticons00949:

สวัสดี ทุกท่าน

 ผมได้ประพันธ์ "รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด"  ลองติดตาม "สัจธรรม" จาก "รำลึกหัวตะพานบ้านเก่า"
ผมจะทะยอยลงติดต่อกันไป และจะนำแต่ละตอนครั้งละ 5 บท  ตอนละ 50 บท  

     รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด ..1  ได้นำเสนอไปแล้วจำนวน  100    บท
     รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด ..2  ได้นำเสนอไปแล้วจำนวน  100    บท
     รำลึกหัวตะพานบ้านเกิด ..3  ได้นำเสนอไปแล้วจำนวน  100    บท

                                  ด้วยความจริงใจ                                                   
                                                         จาก
                                                      ธรรมชาติธรรม
                                           http://www.naturedharma.com
                                                      ประทีป  วัฒนสิทธิ์


 :AddEmoticons00918:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html

................................................
    อิ่มเอมใจในอักษรป้อนคำถ้อย
จัดเรียงร้อยบทกวีที่คิดสรรค์
มอบกวีแด่พี่น้องของกำนัล
คอยแบ่งปันสรรค์คิดจากจิตใจ

     ดุจดั่งเป็นเช่นกระจกส่องมองเห็นโลก
มุมเศร้าโศกสันติสุขแห่งยุคสมัย
มองด้วยจิตคิดคู่ธรรมนำซึ่งไท
อาจต่างไปต่างมุมมองของแต่ละฅน

     แต่อย่างน้อยแนวคิดถึงผิดถูก
คงช่วยปลูกวิจารณญาณผ่านสับสน
อาจตัดสินขอกังขาพากังวล
เพื่ออยู่บนถูกต้องครรลองธรรม

     ประทีปขอปณิธานงานอักษร
ร้อยกานท์กลอนกลั่นกรองมองเช้าค่ำ
เพื่อชี้เทาชี้ขาวกล่าวสีดำ
ผลน้อมนำสัจธรรมค้ำสังคม


ประทีป  วัฒนสิทธิ์
ธรรมชาติธรรม
www.naturedharma.com
 


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 06, เมษายน, 2557, 12:35:12 AM
           
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
จีนรัสเซียเร่งแทรกแซงแย่งพื้นที่ 
   
    ๓๐๑ จีนรัสเซียเร่งแทรกแซงแย่งพื้นที่
กลัวเสียทีฝ่ายขวามาปักฐาน
แย่งประชาชนมากมีวิธีการ
ทำเอาบ้านเมืองไทยให้วุ่นวาย

   ๓๐๒  ด้วยรัฐบาลต้านลัทธิคอมมิวนิสต์
เชื่อผิดผิดตามอเมริกามาขยาย
เลยคล้อยตามขวานิยมอย่างงมงาย
แท้ฝ่ายซ้ายมีดีนี้ค่าควร

   ๓๐๓  แท้ลัทธิคอมมิวนิสต์คิดสร้างโลก
แนวดับโศกมนุษยชาติสะอาดล้วน
คือระบบเศรษฐกิจพอเพียงตามกระบวน
จึงเดินสวนแนวเสรีวัตถุนิยม

   ๓๐๔  มาเจาะลึกหัวตะพานบ้านคอมมิวนิสต์
เกิดวิกฤตแก้แค้นฆ่ากันสาสม
ยุคล้มตายการเมืองเรื่องสังคม
เกิดจากปมเงื่อนไขในต่างกัน

   ๓๐๕  คอมมิวนิสต์ใช้ช่องว่าทางกฎหมาย
เป็นอุบายแย่งแระชาใช่ล่าฝัน
ด้วยสำเร็จตามยุทธวิธีดีคืนวัน
สงครามจิตสำคัญกว่าใดใด
                                                                                                                                
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 07, เมษายน, 2557, 10:06:21 AM
           
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ตรงนี้เองที่ฆ่ากันว่าเล่น
 

   
       ๓๐๖  กรณีตัวอย่างยกให้เห็น
ชี้ประเด็นช่องว่านำทางให้
เดิดกรณีพิพาทกันเมื่อไร
มาเร็วไวแก้กรณีนี้ทันควัน

   ๓๐๗  ยกกรณีพิพาทเรื่องแดนเขต
รวบรวมเหตุรวมผลจนเป็นมั่น
แล้วปักเขตกันใหม่ให้รู้กัน
ยึดตามปันตามแบ่งที่แจ้งมา

   ๓๐๘  หากได้ข่าวฝ่ายใดไม่ปฏิบัติ
ยังขืนขัดเปิดประเด็นป็นปัญหา
นัดพบใหม่ให้ปฏิบัติตามสัญญา
ผิดวาจาฆ่าทิ้งยิงทันใด

   ๓๐๙   ตรงนี้เองที่ฆ่ากันว่าเล่น
เลยกลายเป็นกฎหมายที่โปร่งใส
ทำตรงไปตรงมาว่ากันไป
ดูเชื่อได้กว่ากฎหมายรัฐบาล

   ๓๑๐ บางกรณีขึ้นศาลพานเพี้ยนผิด
ความศักดิ์สิทธ์ลดลงไม่ตรงมาตรฐาน
ต้องจ่ายทนายนายหน้าค่าบริการ
ต้องขึ้ศาลเสียสินสิ้นเงินทอง
                                                                                                                                
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925: :AddEmoticons00942: :AddEmoticons00936:  :AddEmoticons0094:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 08, เมษายน, 2557, 09:02:57 PM
             
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
คอมมิวนิสต์จัดการขึ้นศาลเตี้ย
 

   
          ๓๑๑ คอมมิวนิสต์จัดการขึ้นศาลเตี้ย
ไม่ต้องเสียทรัพย์สินสิ้นข้าวของ
โจรลักวัวลักควายตายเป็นกอง
จะถูกต้องหรือผิดคิดดูที

   ๓๑๒ พวกทำผิดชั่วร้ายตายกันหมด
ไปตามกฎคอมมิวนิสต์ปิดบัญชีผี
หัวตะพานนานพบสงบดี
ตั้งหลายปีโจรไกลให้ร่มเย็น

    ๓๑๓  วกมาสู่พอเพียงเลี้ยงชีวิต         
ผลสัมฤทธิ์สันติสุขมิทุกข์เข็ญ
มิมีรวยมีจนพ้นลำเค็ญ         
ผมได้เห็นซาบซึ้งถึงทุกวัน

    ๓๑๔ พวกผักทุ่งผักป่านานาชนิด
ไร้สารพิษคุณค่ามีมหันต์
พ่อแม่เก็บให้เห็นเป็นประจำวัน
ลูกรู้กันถ้วนครบจบป่าไพร

   ๓๑๕ เหล่าโปรตีนกินได้ในคำสอน
คนเก่าก่อนรู้ทันสอนกันไว้
หากกินมาก “เป็นเดือน” เตือนกันไป
ยังจำได้ก้องหูอยู่เรื่อยมา
                                                                                                                               
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 11, เมษายน, 2557, 08:06:57 AM
             
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
“เดือน” นั่นหรือคือพยาธิลำไส้

 

  
             ๓๑๖  “เดือน” นั่นหรือคือพยาธิลำไส้
ภาษาใต้เรียกสั้นกันดอกหนา
“พยาธิไส้เดือน”คำกลางต่างวาจา
เรื่องภาษารู้ไว้ใช้สื่อกัน

   ๓๑๗  แต่ละมื้อโปรตีนกินนิดหน่อย
เพียงแต่น้อยก็พอต่อกายนั่น
จะ “เป็นเดือน” เตือนไว้ให้สำคัญ
ให้ใจหวั่นปฏิบัติอย่างรัดกุม

   ๓๑๘  หันมากินผักมากจากลดเนื้อ
เกลือแร่วิตะมินกินเกินคุ้ม
สารอาหารครบครันขั้นควบคุม
นี่คือขุมวิชาการหัวตะพานเรา

   ๓๑๙  ผลไม้สมสูกปลูกทุกบ้าน
ได้รับทานประจำทุกค่ำเช้า
พืชล้มลุกยืนต้นผลหนักเบา
อีกพืชเถาปลูกกันนั้นนานนม

  ๓๒๐ ปลูกแบบนี้ปัจจุบันนั้นมีชื่อ
นั้นก็คือไร่นาสวนผสม
เข้าหลักการคู่เคียงพอเพียงนิยม
แถมเป็นร่มบังบ้านสราญใจ
                                                                                                             
                                                                                             
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 14, เมษายน, 2557, 01:29:17 PM
             
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
เถา”อีคุย”เลื้อยผงาดพาดต้นเหรียง
 

  
                ๓๒๑ มะละกอหลายพันธุ์สรรหารักษ์
ดิบเป็นผักสุกเป็นเช่นผลไม้
กล้วยหลายพันธุ์สรรหาปลูกคละไป
ประโยชน์ใบและผลต้นก็ดี

   ๓๒๒ ละมุดมะมุดลางสาดมิขาดสวน
เงาะ “ลูกลวน” ปะปนแซมต้นหยี
ฝั่งทุเรียนเคียงมังคุดสุดเปรมปรีดิ์
ขนุนเคียงจำปาสง่างาม

   ๓๒๓ เถา”อีคุย”เลื้อยผงาดพาดต้นเหรียง
ต้นพะเนียงเคียงสะท้อนคล้ายอ้อนถาม
“สบายไหม” ใกล้ฉันกันทุกยาม
เหลืองอร่ามปริงปรางวางช่อพวง

   ๓๒๔ มะเฟืองไฟชมพู่อยู่แนบชิด
ปลูกต่อติดระคนต้นมะม่วง
หมากมะพร้าวส้มโอโอ้ชะมวง
ดังแมนสรวงสวนสวรรค์สรรจัดมา

   ๓๒๕ แม้มีสวนผลไม้ใกล้เขตบ้าน
เหล่าลูกหลานยังค้นผงไม้ป่า
ได้รู้จักจากพ่อแม่แลปูตา
ได้เสาะหารับประทานตามกาลฤดู
                                                                                                             
                                                                                             
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 22, เมษายน, 2557, 09:47:42 PM
               
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ลูก”กำซำ” คำกลางข้าง”มะหวด”

 

   
   ๓๒๖ ลูก”กำซำ” คำกลางข้าง”มะหวด”
ออกผลอวดสีดำซ้ำสวยหรู
ลูก “สังเกียด” คล้ายจังลูก “สังยู”
นั้น “ชมพู่บ้าหวัน” สีสันทา

   ๓๒๗  ลูกนมแมวมากมีนี่หาง่าย
อีกลูกหวายลูกจันทน์นั่นลูกหว้า
ลูกยับเยี่ยวเปรี้ยวหวานซ่านอุรา
คล้ายพุทราแต่เล็กเด็กชอบทาน

   ๓๒๘  เข้าหน้าฝนลูกไม้ได้ลิ้มรส
ดูสวยสด “เม้าน้ำนอง” พองแล้วหวาน
ลูก “แม็ดชุน” สีขาวร้าวดวงมาน
ซาวน้ำตาลนิดนิดหวานติดใจ

   ๓๒๙  นั่นลูกวาละม้ายคล้ายมังคุด
บ้างเปรี้ยวสุดบ้างหวานพอทานไหว
ลูกนมควายสีแดงนั่น “แมงไพร”
ลูกกำไหลเปรี้ยวบนหวานทานชื่นอก

    ๓๓๐ ลูกขี้แรดมากมีต้นมีหนาม
พยายามเก็บผลจนเลือดตก
นั่นต้นข่อยยืนอยู่คู่ “ลุ่มนก”
พูดตลกลุ่มนกข่อยพลอยสัปดน
                                                                                                                             
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 05, พฤษภาคม, 2557, 09:44:10 PM
               
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ลูก”มังเร” หรือ ”แหมร” ชื่อเท่แปลก

   
     ๓๓๑ หากใครกินลูกข่อนหมอยจะดก
ใครกินลูกลุ่มนกหมอยจะหล่น
เป็นคำกลอนวอนว่าต่อหน้าคน
ใช่ซุกซนหยาบคายจากกายใจ
 
  ๓๓๒ ต้น “ลูกโท่” ต่ำเตี้ยเรี่ยเรียหัว
ลูกดำทั่วเต็มต้นค้นหาได้
แม้เมล็ดมากหอมหวานซ่านฤทัย
ชวนเพื่อนไปเก็บกันสุขสันต์ดี
 
  ๓๓๓ ลูก”มังเร” หรือ ”แหมร” ชื่อเท่แปลก
พอฝนตกลูกแตกแยกเห็นสี
ม่วงแกมดำดกเด่นเห็นมากมี
สิ้นดำปี๋ยามทานรสหวานมัน
  
 ๓๓๔ ลูก “แม่พรอ” อีกชนิดติดใจจด
คล้ายเสาวรสเมืองเหนือขอเชี่อฉัน
ยามสุกแดงกินได้ให้รู้กัน
เว้นสามวันลุกต่ออ๋อไม่นาน
 
  ๓๓๕  “พร้าวนกขุ้ม” รสหวานพานติดสิ้น
ดื่มน้ำกินสิ้นขันนั้นยังหวาน
กินของเปรี้ยวเปรี้ยวเพี้ยนเปลี่ยนน้ำตาล
เด็กชอบทานชวนพาค้นหากิน
                                                                                                                             
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 08, พฤษภาคม, 2557, 04:52:06 PM
                 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
เขาเรียกกัน“หมูขี้พร้า”เข้าท่าดี
   
     ๓๓๖ หยุดผลไม้ป่าวกมาเข้าหาบ้าน
สิ่งพบพานขานไขให้รู้สิ้น
การเล่าขานเดี๋ยวนี้มิยลยิน
เรื่องท้องถิ่นก่อนเก่าเหงาไปครัน

    ๓๓๗  แต่ละบ้านคล้ายไร่นาสวนผสม      
สมัยผมชื่อไม่เห็นเป็นเช่นนั้น
ไม่มีนามมีชื่อถือเรียกกัน         
แต่ยึดมั่นเหนียวแน่นมิแคลนคลอน

     ๓๓๘  ผักสวนครัวยึดหลักปักคงมั่น      
ทำตามกันมิพ้นชนรุ่นก่อน
ดั่งวางไว้เป็นกฎบทแน่นอน         
เป็นการสอนสืบทอดยอดวิชา

    ๓๓๙  เลี้ยงเป็ดไก่ไข่เนื้อเพื่ออาหาร         
ทุกทุกบ้านเลี้ยงไว้ให้ทั่วหน้า
ไก่ให้ไข่ให้เนื้อเหลือคณา         
เป็ดนั่นหนาให้ไข่ไม่เว้นวัน

    ๓๔๐ หมูอีกอย่างเลี้ยงกันนั้นทุกบ้าน      
เศษอาหารให้หมูรู้จักสรร
พันธุ์พื้นเมืองเลี้ยงแค่แต่หนึ่งพันธุ์      
เขาเรียกกัน“หมูขี้พร้า”เข้าท่าดี
                                                                                                               
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 10, พฤษภาคม, 2557, 12:29:51 PM
                 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ประเพณี “ตั้งกอง” ของบ้านผม
   
      ๓๔๑  ประเพณี “ตั้งกอง” ของบ้านผม      
เขานิยมชมชอบระบอบนี้
พอหมูโตเห็นควรติดอ้วนพี         
เพื่อนน้องพี่ชวนพามา “ตั้งกอง”

    ๓๔๒  การตั้งกองของดีเป็นที่สุด         
ของมนุษย์ทั้งมวลถ้วนทั้งผอง   
สังคมคนควรสรรเป็นครรลอง         
จักถูกต้องคลองธรรมนำจิตวิญญาณ

    ๓๔๓  ก็เพื่อมนุษย์สุดฉลาดปราชญ์ของโลก      
ได้ดับโศกพ้นทุกข์เห็นสุขศานต์
สว่างจ้าเช้าค่ำธรรมาภิบาล         
ส่งนิพพานเมืองมนุษย์สุดแห่งธรรม์

    ๓๔๔  ขอย้ำเรื่อง”ตั้งกอง” ของคำใต้         
เป็นคำใช้แบ่งของต้องจัดสรร
จัดเป็นกองเป็นกองของเท่ากัน      
แล้วแบ่งปันกันครบจบทุกคน

     ๓๔๕ ชำแหละหมูเสร็จสิ้นแบ่งชิ้นหั่น      
นี่เนื้อสันนั่นเนื้อขามาเนื้อก้น
ทุกทุกส่วนมิลดละคละปะปน      
สรุปผลเท่าเท่ากันนั้นประมาณ
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 12, พฤษภาคม, 2557, 02:32:52 PM
                 
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
มีบ้านพี่บ้านน้องร่วมท้องไส้   
   
    ๓๔๖  แบ่งกันไปไม่คิดสตางค์ให้หมางจิต      
ดั่งอุทิศแก่กันฉันท์ลูกหลาน
นั่งรอวันผันไปอีกไม่นาน         
มีอีกบ้านตั้งกองจองกันไป

    ๓๔๗  เป็นที่รู้แก่กันฉันท์น้องพี่         
เป็นอย่างนี้หมุนเวียนเปลี่ยนกันให้
สิ่งเหล่านี้มีได้ก็ด้วยใจ         
กว่ามีได้ต้องสร้างอย่างยาวนาน

     ๓๔๘  มีอย่างหนึ่งพึงใจใคร่ขอตอบ         
ผมนึกชอบครอบครัวใหญ่ในหมู่บ้าน
ยังจดจำตำตามาหลายกาล         
หัวตะพานบ้านเราเขาเคยมี

    ๓๔๙  มีบ้านพี่บ้านน้องร่วมท้องไส้         
ปลูกบ้านใกล้รั้วเดียวกันฉันท์น้องพี่
อยู่ร่วมกันสวรรค์สร้างสามัคคี      
วันคืนดีนำอาหารร่วมทานกัน

    ๓๕๐  กิจกรรมลูกหลานประสานรัก         
ให้รู้จักญาติมิตรคิดสร้างสรรค์
เชื่อมหัวใจใฝ่รักภักดิ์สัมพันธ์         
นับเป็นขั้นเริ่มต้นสร้างชนดี
                                                                                                               
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 14, พฤษภาคม, 2557, 03:04:06 PM
                   
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
ความผูกพันมั่นหมายในสายเลือด   
   
    ๓๕๑  ความผูกพันมั่นหมายในสายเลือด      
มิแห้งเหือดรู้กันฉันท์น้องพี่
เกิดรู้รักเมตตาเอื้ออารี         
ติดตัวมีเป็นสันดานกาลสืบไป

    ๓๕๒  ปู่ย่ายายคล้ายเช่นเป็นของขลัง      
คอยปลูกฝังอบรมบ่มนิสัย
ลูกหลานเหลนเชื่อฟังอย่างตั้งใจ      
ยึดผู้ใหญ่เป็นหลักรักษ์นิยม

    ๓๕๓  จึงรู้ผิดรู้ถูกปลูกนิสัย         
สร้างวินัยคุณธรรมล้ำเลิศสม
จริยธรรมแข็งแกร่งแฝงอารมณ์      
สิ่งสังคมต้องการขานรับรอง

    ๓๕๔ ครอบครัวใหญ่แบบอย่างทางสร้างสรรค์   
คอยประกันลูกหลานในเกี่ยวข้อง
ป้อนสังคมงดงามตามหวังปอง      
ตามครรลองต้องการหัวตะพานเรา

    ๓๕๕  ครัวเข้มแข็งแกร่งเช่นเป็นหินผา      
ช่วยนำพาชุมชนใช่ไม่เล่า
ทุกครอบครัวอย่างนี้มิซาเพลา      
ต่างเป็นเสาคุณธรรมค้ำชุมชน
                                                                                                               
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 18, พฤษภาคม, 2557, 01:05:29 AM
                     
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  นำเมล็ดมาเพาะเป็น”หน่อเหรียง”   
   
     ๓๕๖  อันสังคมเข้มแข็งเกิดอย่างนี้         
ต้องเริ่มที่ครอบครัวตัวเริ่มต้น
ก็ครอบครัวตัวฐานการสร้างคน      
ให้ส่งผลเข้มแข็งแห่งคุณธรรม

    ๓๕๗  มารู้จักฝักเหรียงแห่งเวียงใต้         
เป็นพันธุ์ไม้คล้ายสะตอขอตอกย้ำ
ฝักของมันเหมือนสะตอขอแนะนำ      
ฝักสีดำสุกแก่แน่นักเทียว

    ๓๕๘  นำเมล็ดมาเพาะเป็น”หน่อเหรียง”      
ผิวลื่นเกลี้ยงสีตองอ่อนค่อนข้างเขียว
รสชาติดีหอมหวานน่าทานเชียว      
ยามคบเคี้ยวกรุบกรอบชื่นชอบกัน

   ๓๕๙  จิ้มน้ำพริกแมงดาจะหาไหน         
หรือเอาใส่แกงกะทิเนื้อขอเชื่อฉัน
ใส่แกงพริกหมูเนื้อเหลือรำพัน      
รสเข้าขั้นนำดองมิรองใคร

    ๓๖๐  จำมิเลือนลืมเลยเคยเฝ้าเหรียง      
เช้าสายเที่ยงสุรีย์ดับลับไศล
มิเหนื่อยล้าอ่อนแอแต่อย่างใด      
เพลิดเพลินใจกับเพื่อนเตือนใจจินต์
                                                                                                                
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 22, พฤษภาคม, 2557, 05:57:34 PM
                     
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  เหรียงต้นใหญ่สูงยิ่งกิ่งแผ่กว้าง   
   
           ๓๖๑  เหรียงต้นใหญ่สูงยิ่งกิ่งแผ่กว้าง      
ดุจยูงยางครึ่งไร่ร่มไปสิ้น
ยามลมพัดฝักหล่นเกลื่อนบนดิน         
ลมพัดบินปลิวว่อนเวียนว่อนวน

    ๓๖๒ ความสนุกเฝ้าเหรียงเพียงตรงนี้      
ต่างวิ่งรี่คว้ารับกันสับสน
ยิ่งผู้เฝ้ามากมายมีหลายคน         
ต่างลุกลนเกมกีฬาสนุกดี

    ๓๖๓  ปลายเดือนห้าหน้าฝนต้นเดือนหก      
เหรียงเริ่มตกเริ่มหล่นจนเต็มที่
ต้นหนึ่งหนึ่งหมื่นฝักจักพึงมี         
แต่ละปีเก็บได้ใกล้เคียงพัน

    ๓๖๔  วิธีเพาะทำง่ายได้ไม่ยาก         
มิลำบากแต่ไต่ไปตามขั้น
อันดับแรกตากฝักจักสำคัญ         
สามสี่วันแห่งสนิทปิดขั้นไป

    ๓๖๕  ขั้นที่สองแกะเมล็ดเสร็จจากฝัก      
มิรอพักตากแดดอีกที่ไซร้
นำไปเก็บเป็นปีมิเป็นไร         
ขั้นสามใช้คีมหนีบคีบปลายเมล็ด
                                                                                                            
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 25, พฤษภาคม, 2557, 09:04:20 AM
                     
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  จิ้มน้ำพริกหน่อยาวช่างเข้าขั้น  
 
              ๓๖๖  ขั้นต่อมาพาเมล็ดไปแช่น้ำ         
ขอตอกย้ำครึ่งวันนั้นก็เสร็จ
หรือหนึ่งคืนแค่นี้ยังดีเด็ด         
มิมีเคล็ดอย่างใดดูง่ายดาย

    ๓๖๗  จัดกระบะทรายไว้รอเพาะเมล็ด      
ทรายดีเด็ดย่อมดีมีความหมาย
อุ้มน้ำน้อยน้ำมากฝากเม็ดทราย      
สมควรใช้ขนาดกลางถืออย่างดี

    ๓๖๘  หกเจ็ดวันหน่อสั้นนั้นใช้ได้         
ถ้าจะให้หน่อยาวราวสิบสี่
เอาอย่างใดแต่ชอบตอบมาที         
แล้วแต่มีจุดประสงค์ตรงใช้งาน

    ๓๖๙  จิ้มน้ำพริกหน่อยาวช่างเข้าขั้น      
หน่อของมันนั้นดีที่รสหวาน
ได้น้ำพริกแมงดาน่ารับทาน         
ทั่วหมู่บ้านรู้ดีนี้ธรรมดา

    ๓๗๐  ยังจำได้หลายอย่างค้างในจิต      
นำครวญคิดใคร่ครวญล้วนเสน่หา
ฤดูกาลยังมั่นคงตรงเวลา         
เตรียมรอท่าได้เห็นดูเช่นเดิม
                                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
25 พฤษภาคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 26, พฤษภาคม, 2557, 09:40:49 PM
                       
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
    มีปลาหนึ่งเรียกว่าปลา “เลียหิน”     
          ๓๗๑  ปลายสิบเอ็ดน้ำเพิ่มเริ่มล้นหนอง      
เดือนสิบสองฝนหนักจักมาเสริม
รินเจิ่งนองไร่นามาต่อเติม         
แม้จะเพิ่มบางปีมิมากนัก

     ๓๗๒  ก่อนน้ำหลากเตรียมตัวทั่วทุกบ้าน      
มีข้าวสารอาหารแห้งของดองหมัก
ผลไม้เต้าแตงลูกแฝงฟัก         
พวกพืชผักเก็บไว้ได้รับทาน

     ๓๗๓  พวกวัวควายผูกไว้ในที่สูง         
อาจแยกฝูงผูกไว้ให้อาหาร
หมูเป็ดไก่ไม่ลดละภาระงาน         
จัดเตรียมการไว้ก่อนมิร้อนใจ

    ๓๗๔  ตอนน้ำนองใหม่ใหม่น้ำไม่มาก      
เจิ่งสองฟากห้วยคลองเริ่มนองไหล
ปลาภูเขาตามน้ำข้ามแดนไพร      
จากเมืองไกลมากมายหลายพันธุ์ปลา

    ๓๗๕  มีปลาหนึ่งเรียกว่าปลา “เลียหิน”      
ที่อยู่กินหุบเหวห้วยหินผา
ฤดูน้ำว่ายล่องน้ำนองมา         
สู่ทุ่งนาวางไข่ให้ทุกปี
                                                                          
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
26 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 28, พฤษภาคม, 2557, 08:22:50 AM
                       
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
การ”โหละปลา”ที่ทำยังจำได้     
         ๓๗๖  จับสัตว์น้ำยามนี้หลายวิธีหา         
ยอคอยท่าปลาเลียหินแถบถิ่นนี้
จะโพงพางซ่อนไซไม่เห็นมี         
ทั่วท้องที่ใช้ยออย่างพอใจ

    ๓๗๗  การ”โหละปลา”ที่ทำยังจำได้         
แสงจากไต้ส่องปลาหาตัวใหญ่
ปลาดุกช่อนเริงชลวนว่ายไป         
สุมก็ได้พร้าก็ดีที่ใช้กัน

   ๓๗๘  น้ำแค่ศอกแค่เข่าเราโหละได้         
ปลาเวียนว่ายเล่นน้ำกันสุขสันต์
บ้างหากินมดแมลงแย่งประจัน      
แย่งพัลวันอาหารดีขี้กระบือ

   ๓๗๙ การปักเบ็ดเรียก”ธงเบ็ด”ก็เด็ดด้วย      
ใกล้คลองห้วยบักไว้ได้รอดมื้อ
ตามหลังพ่อพี่ไว้ได้ฝึกปรือ         
นี่ก็คือเรียนรู้ครูครอบครัว

   ๓๘๐ ปักเบ็ดอีกอย่างทางบ้านผม
เขานิยมทำกันนั้นถ้วนทั่ว
เบ็ดตาใหญ่เมื่อเห็นเป็นน่ากลัว
แต่ติดตัวช่อนใหญ่ไม่ธรรมดา
                                                                               
                                                                                             
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
28 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 31, พฤษภาคม, 2557, 12:58:11 AM
                         
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  นั่นก็คือ “ทงลูกเหยื่อ” เมื่อเขาว่า
     
     ๓๘๑ เรียกบักเบ็ดแบบนี้มีสองชื่อ
นั่นก็คือ “ทงลูกเหยื่อ” เมื่อเขาว่า
“ลอยลูกเหยื่อ” ชื่อสองต้องตำรา
เป็นภาษาเข้าใจในถ้อยคำ

   ๓๘๒ “ลูกเหยื่อ” คือลูกปลามาเกี่ยวเบ็ด
เป็นดีเด็ดมิตายเวียนว่ายน้ำ
ลูกปลาดุกปลาช่อนค่อนประจำ
เอามาทำเด็ดนักจักสำคัญ

   ๓๘๓ ปลากระดี่ปลาหมอก็พอได้
เขียดนี้ไซร้ก็ดีที่ใช้นั่น
ลูกปูน้อยยังได้เห็นใช้กัน
เหยื่อที่สรรแข็งกล้ายืดเวลาตาย

   ๓๘๔ ลอยลูกเหยื่อมุ่งหาแต่ปลาช่อน
ติดแน่นอนช่อนใหญ่ดั่งใจหมาย
ชิ่นทุกชุมเหลือดีมีมากมาย
กินเบ็ดง่ายรับรองต้องได้ตัว

    ๓๘๕ ขอวกมาปลาเลียหินมิสิ้นเรื่อง      
คอยประเทืองปัญญาซาปวดหัว
รู้ละเอียดทุกขั้นที่พันพัว         
เปรียบดอกบัวพ้นน้ำความรู้มี
                                                                                   
                                                                                             
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
28 มกราคม 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 01, มิถุนายน, 2557, 10:18:10 PM
                         
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 ลูกเลียหินยินเรียกว่า “ลูกหลวน”   

         ๓๘๖ ธรรมชาติปลาเลียหินถิ่นเขาป่า      
มันลงมาวางไข่แล้วไปหนี
จะขึ้นกลับเขาไพรในทันที         
ทิ้งลูกนี้อยู่นาลาคืนไพร

    ๓๘๗ ปลายเดือนยี่เลยพ้นต้นเดือนสาม      
ลูกจะตามหาแม่พ่อรอที่ไศล
ขนาดก้อยเข้มแข็งแกร่งเหลือใจ      
ทวนน้ำไปขึ้นเขาเอาเดิมพัน

    ๓๘๘ ลูกเลียหินยินเรียกว่า “ลูกหลวน”      
เป็นขบวนแหวกว่ายให้สุขสันต์
ยอตาถี่มีบ้างล้างชีวัน         
เหลือพวกมันมากมีที่รอดไป

   ๓๘๙ ปลายเดือนสามอีกทีที่ตื่นเต้น
ตกตอนเย็นเตรียมการถืองานใหญ่
ก็ “เคาะเวียด” ฤดูแล้งเรียงแมลงไพร
ก่อฟืนไฟสนุกสนานชาวบ้านมา

   ๓๙๐ พวกบ้านใกล้เรือนเคียงกู่เสียงนัด
ก็มิขัดยินดีนี้ถ้วนหน้า
ใกล้พลบค่ำอุปกรณ์เต็มอัตรา
ต่างช่วยหาช่วยจัดเร่งรัดงาน
                                                                                    
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
1 มิถุนายน 2557

 :AddEmoticons00948:



หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 03, มิถุนายน, 2557, 06:53:39 AM
                           
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
 เคาะเวียดวาดสุขจริงได้ผิงไฟ
   

        ๓๙๑ หาไม้ฟืนปักตรงคงกองใหญ่
ตระเตรียมไว้ครบครันเป็นอันผ่าน
กิ่งไม้สดมีใบใคร่ต้องการ
ปักทุกด้านรอบกองไฟให้หลายกอ

   ๓๙๒ กะลามะพร้าวเตรียมไว้อย่าให้ขาด
ไว้เคาะวาดดังลั่นกันละหนอ
กะลาใหญ่ให้เสียงไกลเพียงพอ
เพื่อได้ล่อตัววาดอาจอยู่ไกล

   ๓๙๓  อากาศหนาวช่วงนี้ยังมีบ้าง
ก่อฟืนฟางแก้หนาวเข้าสมัย
เคาะเวียดวาดสุขจริงได้ผิงไฟ
เหมือนจงใจในกิจกรรมที่ทำกัน

   ๓๙๔  พอพลบค่ำก่อไฟไม่ชักช้า
เพื่อนบ้านมาร่วมสนุกช่างสุขสันต์
ตอนเคาะกะลาว่ากลอนร่อนไปพลัน
บทกลอนนั้นอย่างนี้ที่ร้องคลอ

   ๓๙๕  “เวียดวาด เวียดไส้ขาด
กินลูกนมวัว  เล็บมืองอ
เกี่ยวคอน้ำเต้า
ไม่รู้จักเจ้า มานี่เวียดเหอ”
                                                                                           
                                                                                             
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
1 มิถุนายน 2557

 :AddEmoticons00948:


หัวข้อ: Re: ระลึกหัวตะพานบ้านเกิด . ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: นายประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 05, มิถุนายน, 2557, 08:46:14 AM
                           
:AddEmoticons00949:
สวัสดี ทุกท่าน
  แต่ทางใต้ “ดินแตกเหมรียง”สำเนียงเรา
   

     ๓๙๖ เจ้าเวียดวาดดาษดื่นชื่นสีแสง
ไฟลุกแดงแสงจ้าอยู่เสมอ
เสียงกะลาดนตรีมีบำเรอ
เจ้าเวียดเจอแสงสีดั่งมีชัย

   ๓๙๗  ออกจากป่าไกลใกล้ได้ยินเสียง
จากวังเวียงพนาเขตป่าใหญ่
เสียงกะลายวนเย้าเคล้าแสงไฟ
ด้วยเหตุใดน่าศึกษาคว้าวิจัย

    ๓๙๘  ถึงเดือนห้าหน้าแล้งแดดแรงจ้า      
น้ำในนาหนองบึงถึงหมดใช้
ดินแตกระแหงรู้กันนั้นทั่วไป         
แต่ทางใต้ “ดินแตกเหมรียง”สำเนียงเรา

    ๓๙๙  ดินแตกเหมรียงเสี่ยงหาขุดปลาไหล      
บึงหนองใดโคลนลึกนึกเป็นเป้า
ทิ้งแตกเหมรียงไว้นานงานขุดเบา      
ด้วยแดดเผาโคลนแห้งดีนี้สบาย

    ๔๐๐ ชวนเพื่อบ้านหนุ่มหนุ่มรุมกันขุด      
มันเร็วรุดมินานผ่านจุดหมาย
จะพบไหลใหญ่น้อยนั้นมากมาย      
ตกตอนบ่ายแก่งต้มกันสมใจ
                                                                                              
                                                                                           
 :AddEmoticons00918: :AddEmoticons00925:

http://www.naturedharma.com/data-1558.html
ประทีป  วัฒนสิทธิ์
1 มิถุนายน 2557

 :AddEmoticons00948: